ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1522 อันตรายรอบด้าน
“แม่นางมู่มีความมั่นใจต่อความแข็งแกร่งของตัวเองมาก แต่ข้าก็ไม่ได้อ่อนแอนะ! ข้าชื่อหั่วห้าวหยู่ ไม่รู้ว่าข้าจะต้องเรียกเจ้าว่าอันใด” เขายิ้มอย่างกล้าหาญ
มู่เฉียนซีตอบ “ข้าชื่อมู่เฉียนซี”
คุณชายโม่กล่าว “เอาล่ะ ได้คนเข้าร่วมภารกิจครบแล้ว วันนี้ทุกคนพักผ่อนเก็บแรงกันสักคืน วันพรุ่งออกเดินทาง”
“ตกลง!”
ไม่นานนักคุณชายโม่ก็จากไป มู่เฉียนซีมองตามแผ่นหลังของเขาไป ร่างกายของเขาอ่อนแอมาก มู่เฉียนซีขมวดคิ้วขึ้นด้วยความสงสัยเล็กน้อย
หั่วห้าวหยู่กล่าวด้วยความหยอกล้อว่า “แม่นางมู่คงจะไม่ใช่ชอบคุณชายโม่เข้าแล้วกระมัง! รูปร่างหน้าตารูปงาม อีกอย่างยังได้ยินชื่อเสียงของเขามาไม่น้อย ว่าเขาเป็นยอดปรมาจารย์นักปรุงยาที่อายุน้อยมากคนหนึ่ง”
“หากไม่ใช่เพราะเขา ตระกูลโม่ก็คงเป็นกองกำลังที่ลดลงหนึ่งระดับ เป็นกองกำลังระดับหนึ่งครึ่งก็คงจะเพียงพอแล้ว! แต่นี่เขาใช้เวลาเพียงแค่สามปีเท่านั้น ทำให้ตระกูลโม่เพิ่มระดับกองกำลังขึ้นมาหนึ่งระดับ เขาเก่งกาจมาก”
“เพียงแต่ว่า…”
มู่เฉียนซีกล่าวต่อคำพูดของเขา “เพียงแต่ว่าเขาอายุสั้นไปสักหน่อย”
หั่วห้าวหยู่กล่าวด้วยความประหลาดใจว่า “เจ้าเก่งกาจยิ่งนัก นึกไม่ถึงเลยว่าเจ้าก็ดูออกเหมือนกัน ข้าได้ยินมาว่าคุณชายโม่ผู้นี้จะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน”
นางเป็นถึงนักปรุงยา จะดูไม่ออกได้อย่างไรเล่า
มู่เฉียนซีกล่าว “เจ้าพูดมากเสียจริง รอให้กลับไปถึงที่พักก่อนเจ้าค่อยพูดต่อเถอะ ข้าจะเป็นคนชงชาเอง!”
“แม่นางมู่ นึกไม่ถึงเลยว่าเจ้าก็เป็นคนที่ชอบพูดคุยเหมือนกัน ดีเลย! ข้าจะอยู่พูดคุยกับเจ้าเอง”
หั่วห้าวหยู่เป็นคนที่พูดมากคนหนึ่ง ในฐานะที่เป็นศิษย์สำนักในแห่งสำนักเพลิงเมฆา เขาจึงรู้เรื่องราวไม่น้อยเลย ดังนั้นมู่เฉียนซีจึงได้รู้เรื่องราวมากมายมาจากเขา
เนื่องจากทั้งสองพูดคุยกันนานมาก หลังจากที่หั่วห้าวหยู่กลับไปได้ไม่นาน ความหึงหวงก็ได้บังเกิดขึ้นแล้ว
จิ่วเยี่ยกอดมู่เฉียนซีพลางกล่าว “ซี! หากอยากพูดคุยกับใคร ข้าจะอยู่เป็นเพื่อน”
มุมปากของมู่เฉียนซีกระตุกขึ้นเล็กน้อย โดยปกติแล้วจิ่วเยี่ยจะเป็นคนที่ไม่ค่อยพูดคุยกับใคร เขาจะนั่งคุยกับใครได้อย่างไรล่ะ
มู่เฉียนซีกล่าว “ตอนนี้ข้าอยากให้องค์ชายจิ่วเยี่ยนอนเป็นเพื่อนข้ามากกว่า จะเข้าห้องได้หรือยัง?”
“เข้าสิ!” จิ่วเยี่ยอุ้มมู่เฉียนซีเดินเข้าห้องไป
เช้าตรู่วันต่อมา มู่เฉียนซีตื่นเช้ามาก เนื่องจากนางต้องออกเดินทางตั้งแต่เช้าตรู่
คุณชายโม่ผู้ที่ป่วยร่างกายอ่อนแอผู้นั้นเป็นคนนำกลุ่ม รวมไปถึงกลุ่มองครักษ์ตระกูลโม่ด้วย จากนั้นก็ตามด้วยศิษย์จากสำนักต่าง ๆ
เพียงแต่ว่ามีเรื่องบางอย่างที่มู่เฉียนซีรู้สึกแปลกใจมากมาโดยตลอด ภารกิจในครั้งนี้มีศิษย์จากสำนักใหญ่ ๆ เข้าร่วมด้วย นี่นับว่าไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ แล้ว
แต่ผู้นำตระกูลโม่ ดูเหมือนว่าจะไม่ปรากฏตัวออกมาเลย!
หรือว่าจะเป็นเหมือนที่หั่วห้าวหยู่กล่าวเอาไว้ คุณชายโม่กับท่านพ่อของเขาจะไม่ค่อยลงรอยกัน
กลุ่มของพวกเขาเดินทางไปถึงป่าชานอวิ๋นอย่างรวดเร็วที่สุด เมื่อย่างกรายเข้าไปในป่าแห่งนี้ ทุกคนก็ระมัดระวังตัวมากขึ้น
ในป่าแห่งนี้มีโอกาสที่จะพบเจอกับสัตว์วิญญาณอันตรายได้ตลอดเวลา
คุณชายโม่เป็นผู้นำกลุ่ม มู่เฉียนซีตามไปอย่างระมัดระวัง
ยิ่งเดินเข้าไปในป่าลึกมากเท่าไร ต้นไม้ก็ยิ่งแน่นหนามากขึ้น แสงที่ส่องสว่างก็ยิ่งมืดสลัวลงเรื่อย ๆ
มู่เฉียนซีสูดดมกลิ่นเล็กน้อย นางรู้สึกได้ถึงความผิดปกติ นางจึงกล่าวเตือนทุกคนว่า “ระวัง! มีอันตรายซ่อนอยู่”
“อันตราย ล่าถอย!” ในขณะเดียวกันคุณชายโม่ผู้นั้นก็กล่าวขึ้นเช่นกัน
ทั้งสองกล่าวเตือนพร้อมกัน ทำให้คนอื่นตกตะลึงไปเล็กน้อย จากนั้นก็รีบล่าถอยไปในพื้นที่ที่กว้าง
พรวด! บริเวณโดยรอบไม่ได้มีอันตรายใด แต่จู่ ๆ คนผู้หนึ่งก็กระอักเลือดออกมาแล้ว
เงาสีขาวพุ่งมาอย่างรวดเร็ว คุณชายโม่ผู้นั้นโบกมือขึ้นและจับแมงมุมสีครามตัวหนึ่งเอาไว้ได้
“แมงมุมคราม!” คุณชายโม่ขมวดคิ้วพลางกล่าว
เขาเพิ่งจะกล่าวจบ แมงมุมครามตัวนั้นก็ปล่อยพลังอันแข็งแกร่งออกมาจะหนีออกจากเงื้อมมือของคุณชายโม่ไปได้
องครักษ์เหล่านั้นของเขาอุทานขึ้นว่า “คุณชาย ระวัง!”
คุณชายโม่ผู้นี้จึงแผ่ซ่านพลังวิญญาณออกมา เปลวไฟพุ่งออกมาจากปลายนิ้วของเขา แผดเผาแมงมุมครามตัวนั้นไปจนสิ้น
ทุกคนตกใจผงะไปครู่หนึ่ง “นึกไม่ถึงเลยว่าคุณชายโม่จะเป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังธาตุอัคคี”
หั่วห้าวหยู่กล่าว “พวกเจ้าโง่เขลาไปแล้วหรือไร คุณชายโม่เป็นถึงยอดปรมาจารย์นักปรุงยา หากไม่ใช่เป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังธาตุอัคคีเขาจะแข็งแกร่งถึงขั้นนี้ได้อย่างไรล่ะ”
พิษของแมงมุมครามนั้นแก้ได้ยากนัก แต่คุณชายโม่ผู้นี้เพียงเอายาลูกกลอนขวดหนึ่งออกมา และกล่าวว่า “กินยาลูกกลอนนี่เดี๋ยวก็หายแล้ว!”
“ขอบคุณคุณชายโม่ขอรับ แรกเริ่มข้าก็สร้างความลำบากให้คุณชายโม่แล้ว”
กล่าวจบ เขาก็กินยาลูกกลอนเข้าไปอย่างไม่ลังเล ไม่นานนักสีหน้าของเขาก็ดีขึ้นมาก
มู่เฉียนซีหรี่ตาลงเล็กน้อย นางมองแผ่นหลังของคุณชายโม่ผู้นี้ ฝีมือการหลอมยาของคนผู้นี้เก่งกาจกว่าที่หั่วห้าวหยู่บอกเอาไว้มาก
มิเช่นนั้น ยาลูกกลอนของเขาคงไม่ได้ผลเร็วถึงเพียงนี้แน่นอน
คุณชายโม่กล่าว “หนทางข้างหน้าคือที่สิงสถิตอยู่ของแมงมุมคราม หากไม่มีคนรุกรานก่อน แมงมุมครามก็จะไม่โจมตีก่อน โชคดีที่เราถอยออกมาเร็ว มิเช่นนั้นหากถูกแมงมุมครามล้อมโจมตีคงยุ่งยากน่าดู”
สาเหตุที่ป่าชานอวิ๋นแห่งนี้อันตรายก็เป็นเพราะว่ามีสัตว์วิญญาณเหล่านี้ค่อนข้างมาก
“เราต้องใช้เส้นทางอ้อมแล้วล่ะ”
“ตกลง!” ไม่มีผู้ใดอยากต่อสู้กับแมงมุมครามเหล่านั้น จึงทำได้เพียงต้องยอมใช้เส้นทางอ้อม
ก่อนที่คุณชายโม่จะนำทาง เขาหันไปมองมู่เฉียนซีแวบหนึ่ง สามารถรับรู้ถึงอันตรายได้เร็วพร้อม ๆ กับเขาเช่นนี้ ศิษย์สำนักลั่วเยว่ผู้นี้ไม่ธรรมดาจริง ๆ
มู่เฉียนซีก็รับรู้ได้ว่าคุณชายโม่กำลังมองนางและพิจารณานางอยู่ แต่สายตาของนางยังคงเรียบนิ่ง
ต่อมา พวกเขาก็พบกับการโจมตีของสัตว์วิญญาณในป่าชานอวิ๋นอยู่หลายครั้ง และทุกครั้งพวกเขาก็ต้านทานได้
มู่เฉียนซีต่อสู้กับสัตว์วิญญาณเหล่านี้โดยที่ไม่ทำตัวให้เป็นจุดน่าสนใจแต่อย่างใด เพียงแต่ทำหน้าที่ของนางให้ดีที่สุด
องครักษ์ของตระกูลโม่เหล่านั้นรู้ดีว่าคุณชายของพวกเขาเก่งกาจเพียงใด แต่สิ่งใดที่พวกเขาต้านทานได้ พวกเขาก็จะต้านทานอย่างสุดความสามารถเพื่อไม่ให้คุณชายของพวกเขาต้องลงมือออกแรงเอง
อย่างไรเสียร่างกายของคุณชายของพวกเขาก็ยังอ่อนแอมาก
เสียง ซู่ว ซู่ว! ดังขึ้น
สีหน้าของคุณชายโม่พลันเปลี่ยนไปมาก เขากล่าวว่า “รีบถอย!”
แต่เตือนตอนนี้มันก็สายไปเสียแล้ว
รอบ ๆ บริเวณที่พวกเขายืนอยู่ปรากฏแสงสีเงินขึ้น
แต่นั่นไม่ใช่แสงสีเงินที่ระนาบไปกับพื้น ทว่า เป็นอสรพิษอย่างงูที่เลื้อยคดเคี้ยวไปมา
ภุชงค์สีเงิน หรืองูสีเงินนั่นเอง พวกมันมีขนาดตัวเล็กเท่านิ้วก้อย ทว่า แต่ละตัวนั้นอย่างน้อยก็เป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสาม
ถูกสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสามห้อมล้อมอย่างหนาแน่นเช่นนี้ ต่อให้พวกเขามีพลังขั้นมหาจักรพรรดิก็รู้สึกขนลุกขนพองได้เช่นกัน
หั่วห้าวหยู่กล่าวว่า “บัดซบยิ่งนัก! สัตว์นักฆ่าแห่งป่าชานอวิ๋นข้าก็ประสบพบเจอมาแล้วไม่น้อย แต่ครั้งนี้ดูท่าโชคจะไม่เข้าข้างแล้วกระมัง!”
ในตอนนี้เองคุณชายโม่เดินมาและกล่าวว่า “ผู้บำเพ็ญภูตพลังธาตุอัคคีมารับมือโจมตีด้านหน้า ใช้ทักษะวิญญาณโจมตี สิ่งที่งูสีเงินนี้กลัวมากที่สุดก็คือไฟ พวกเราจำเป็นต้องใช้เปลวไฟเปิดทาง มิเช่นนั้นต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัยเป็นแน่!”
หั่วห้าวหยู่กล่าว “ตกลง!”
นอกจากหั่วห้าวหยู่แล้ว มีคนอื่นอีกสองคนเท่านั้นที่เป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังธาตุอัคคี!
พรึ่บ! พวกเขาเริ่มใช้ทักษะพลังธาตุอัคคีโจมตีเปิดทาง แต่ยังคงผ่านออกไปไม่ได้
งูสีเงินเหล่านี้มีมากกว่าที่พวกเขาจินตนาการเอาไว้มาก ช่างน่ากลัวยิ่งนัก!
และตอนนี้เองมู่เฉียนซีก็แสดงพลังออกมาแล้ว “มังกรน้ำแข็งท้าสวรรค์!”
“ทักษะโยวหลัว!”
“ทักษะโยวจั๋ว!”
ตูม เปรี้ยง เปรี้ยง!
แม้จะไม่ใช่ทักษะพลังธาตุอัคคี แต่ก็ฆ่าไปได้ไม่น้อย!
จากนั้นก็มีคนตะโกนขึ้นว่า “ข้าจะสู้สุดใจ”
จำนวนของงูสีเงินเหล่านี้มีมากนัก มู่เฉียนซีไม่อยากเสียเวลาอยู่ตรงนี้อีกแล้ว นางจึงกล่าวว่า “ทุกคนหลบไป!”
.