ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1524 บดบังพลังความแข็งแกร่ง
ร่างในชุดม่วงเคลื่อนไหวออกไป และไม่ปล่อยให้บุปผากินคนดอกนี้ทำสำเร็จ
เหยื่อย่างกรายมาถึงปาก แต่กลับกินไม่สำเร็จ บุปผากินคนโกรธเกรี้ยวขึ้นมาแล้ว มันจึงพ่นรากนับไม่ถ้วนพุ่งไปโจมตีมู่เฉียนซี
ความเร็วของมู่เฉียนซีนั้นรวดเร็วมาก ต่อให้รากของมันมีมากกว่านี้ก็ไร้ประโยชน์
นางกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ไล่ตามข้ามันสนุกมากนักเหรอ เช่นนั้นเรามาสนุกกันเถอะ!”
“ทักษะโยวจั๋ว!”
ตูม เปรี้ยง เปรี้ยง!
ทักษะโยวจั๋วโจมตีรากพวกนั้นขาดสะบั้นไปเป็นจำนวนมาก จากนั้นก็มีรากจำนวนอีกมากพุ่งเข้ามาโจมตีอีกครั้ง
“ทักษะโยวจั๋ว!”
คุณชายโม่ดูออกว่าทุกอย่างกำลังอยู่ในความควบคุมของมู่เฉียนซี
ต่อไป สิ่งที่เขาต้องทำก็คือหารากแก้วของมันให้เจอ
หากหารากแก้วของมันไม่เจอ การกำจัดสมุนไพรขั้นสวรรค์นี้ก็เป็นเรื่องที่ยากมาก
ตูม เปรี้ยง เปรี้ยง!
คุณชายโม่หารากแก้วของมันเจอช้าหน่อยก็ไม่เป็นไร เนื่องจากเจ้าบุปผากินคนจิ่วโยวไป่ซวนนี้เหมาะที่จะเป็นคู่มือในการฝึกทักษะโยวจั๋วของนางมาก
มู่เฉียนซีกล่าว “คุณชายโม่ ไม่ต้องรีบ! ค่อย ๆ หา ข้ารับมือได้”
กำลังในการต่อสู้ที่ยาวนานของมู่เฉียนซีทำให้คุณชายโม่รู้สึกประหลาดใจยิ่งนัก แต่เขาพบว่ามู่เฉียนซีใช้ทักษะวิญญาณเพียงทักษะเดียวในการโจมตี ไม่ได้ใช้ทักษะวิญญาณพลังธาตุวารีที่เคยใช้ก่อนหน้านี้เลย
เห็นได้ชัดว่าทักษะวิญญาณนี้สิ้นเปลืองพลังวิญญาณมากกว่าทักษะวิญญาณพลังธาตุวารีเสียอีก แต่มู่เฉียนซีกลับชอบที่จะใช้มัน
เพียงแต่ว่า เขาสังเกตดูแล้วก็รู้สึกว่ามันผิดปกติ แต่เมื่อได้ยินที่มู่เฉียนซีบอก เขาก็ยิ่งมั่นใจแล้วว่าแม่นางมู่กำลังใช้ประโยชน์จากบุปผากินคนนี้เพื่อฝึกฝนทักษะวิญญาณ
ทักษะวิญญาณนี้ คาดว่านางเพิ่งจะฝึกฝนได้ไม่นาน!
พลังจิตของคุณชายโม่แผ่ซ่านออกมาเพื่อหารากแก้วของมัน โดยปกติแล้วรากแก้วของมันจะอยู่ไม่ไกลจากตัวมันนัก
ต่อสู้อย่างไรพลังวิญญาณก็ใช้ไม่หมดเสียที นี่เป็นครั้งแรกที่ดอกจิ่วโยวไป่ซวนประสบพบเจอกับคู่ต่อสู้ที่รับมือได้ยากเช่นนี้
ถูกไล่ล่า จากนั้นก็ตอบโต้กลับ แต่ละกระบวนท่าที่โจมตีออกไป ทำให้มู่เฉียนซีใช้ทักษะโยวจั๋วได้ชำนาญมากขึ้น
รากนับพันพุ่งจับไปที่มู่เฉียนซี มู่เฉียนซีกระโจนตัวหลบหลีก ก่อนจะพุ่งลงมาพร้อมกับการโจมตีอันแข็งแกร่ง
ทันใดนั้นการโจมตีอันไร้สุ้มไร้เสียงก็พุ่งไป และเป้าหมายก็คือเกสรของดอกจิ่วโยวไป่ซวน
“ทักษะโยวจั๋ว!”
เสียง ตูม! ดังสนั่นขึ้น ดอกไม้ดอกนี้กลิ้งลงไปกระแทกบนพื้นดิน และหักลง
บุปผากินคนที่โหดร้ายถึงเพียงนี้ กำจัดได้ง่ายดายเช่นนี้เลยอย่างนั้นเหรอ
เป็นอย่างที่คิดเอาไว้ไม่มีผิด ส่วนที่ขาดสะบั้นนั้นถูกยางของดอกเชื่อมต่อกัน ไม่นานนักก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกครั้ง และในตอนนี้เอง คุณชายโม่ก็หารากแก้วของมันเจอแล้ว!
ฟึ่บ! ลำแสงมีดเล่มหนึ่งสว่างวาบขึ้น คุณชายโม่ตัดรากแก้วนั้นขาดสะบั้น ดอกจิ่วโยวไป่ซวนจึงหยุดการฟื้นตัวลง
มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าว “กำจัดสำเร็จแล้ว”
คุณชายโม่กล่าว “พลังของแม่นางมู่แข็งแกร่งมาก หากข้ามาคนเดียว เกรงว่าจะฆ่าดอกจิ่วโยวไป่ซวนนี้ไม่ได้แน่นอน”
หลังจากที่จัดการได้เรียบร้อย มู่เฉียนซีก็เริ่มแบ่งประโยชน์กัน นางตัดส่วนที่มีประโยชน์ของดอกจิ่วโยวไป่ซวนมา และแบ่งให้กับคุณชายโม่
“คุณชายกลับมาแล้ว!”
“เฉียนซี ในที่สุดเจ้าก็กลับมาแล้ว”
มู่เฉียนซีกับคุณชายโม่กลับมาอย่างปลอดภัย พวกเขาก็โล่งอกไปเปลาะหนึ่ง
คุณชายโม่กล่าวว่า “ฟ้าใกล้จะมืดแล้ว เรารีบออกไปจากที่นี่เถอะ! หากฟ้ามืดลงจะยิ่งอันตราย”
ทันทีที่พวกเขาออกมาจากหุบเขา กลุ่มคนชุดดำกลุ่มหนึ่งก็เข้ามาขวางหน้าพวกเขา
ดวงตาของคนเหล่านี้เป็นประกายมาก พวกเขากล่าวว่า “ส่งของมีค่าของพวกเจ้าออกมาให้หมด…”
หนึ่งคนในนั้นเหลือบมองมู่เฉียนซี “โอ้! มอบหญิงสาวผู้นี้มาให้พวกข้าด้วย แล้วพวกข้าจะไว้ชีวิตพวกเจ้า”
คุณชายโม่ในฐานะที่เป็นผู้นำกลุ่ม กล่าวปฏิเสธคนกลุ่มนี้ด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ไม่มีทาง พวกเจ้าหลีกทางไปเถอะ”
“เจ้าหน้าขาวผู้นี้ แม้ว่าจะซูบผอมไปหน่อย แต่หน้าตาก็ไม่เลวเลยนะ เช่นนั้นก็มาด้วยกันเลยก็แล้วกัน!”
นึกไม่ถึงเลยว่าคนเหล่านี้จะกล้าดูถูกเหยียดหยามคุณชายโม่เช่นนี้ องครักษ์เหล่านั้นก็โกรธเกรี้ยวขึ้นแล้ว “พวกเจ้าบังอาจ!”
“ในเมื่อพวกเจ้ารนหาที่ตาย เช่นนั้นก็ฆ่าพวกเจ้าก่อนก็แล้วกัน นอกจากหญิงสาวผู้นี้กับเจ้าหน้าขาวแล้ว คนอื่นฆ่าให้หมดอย่าให้เหลือแม้แต่คนเดียว” หนึ่งในคนชุดดำออกคำสั่ง
ปัง! มู่เฉียนซีและพวกหลบหลีก ทุกคนเผยสีหน้าเคร่งขรึมขึ้น
“มหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับสูง!”
นึกไม่ถึงเลยว่ายอดฝีมือแข็งแกร่งระดับนี้จะมาที่นี่ พวกเขาเคราะห์ร้ายแล้ว
ความแข็งแกร่งของพวกเขากับศัตรนั้นห่างชั้นกันมาก ฝ่ายของพวกเขา ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดก็คือพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับสามเท่านั้น
องครักษ์เหล่านี้พรวดออกไปและกล่าวว่า “คุณชายหนีไปขอรับ! พวกเราจะขวางพวกมันเอาไว้เอง!”
“คิดจะหนีอย่างนั้นเหรอ ฝันไปเถอะ!” หนึ่งในคนชุดดำชักกระบี่เล่มหนึ่งออกมาและแทงองครักษ์ผู้นั้นจนสิ้นชีพทันที
มองดูคนที่จมอยู่ในกองเลือดนั้นแล้ว ศิษย์ของสำนักเหล่านี้ก็ตกตะลึงพรึงเพริดขึ้น และพวกเขาก็รีบส่งสัญญาณลับให้สำนักตนเอง
“หากไม่อยากตายก็รีบไสหัวไปซะ! ข้าจดจำใบหน้าของพวกเจ้าทุกคนเอาไว้ได้แล้ว หากพวกเจ้าคิดจะเรียกกำลังเสริมมาช่วยแล้วละก็ รอความตายได้เลย!”
“พวกข้าไม่กล้า พวกข้าไม่กล้า!”
ศิษย์เจ็ดสำนัก หนีไปแล้วห้าสำนัก เหลือเพียงแค่มู่เฉียนซีกับหั่วห้าวหยู่เท่านั้น
“หญิงสาวผู้นี้ แม้ว่าจะเป็นศิษย์สำนักลั่วเยว่ แต่ก็ปล่อยไปไม่ได้เด็ดขาด แต่เจ้าหนุ่มศิษย์สำนักเพลิงเมฆาผู้นี้ นึกไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะไม่หนี เจ้าคงจะเบื่อไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วละสิ!”
หั่วห้าวหยู่กล่าว “พวกสารเลว ในเมื่อข้าออกมารับภารกิจแล้ว ข้าไม่ยอมแพ้กลางคันเด็ดขาด ข้าเป็นศิษย์แห่งสำนักเพลิงเมฆา ไม่ใช่คนที่รักตัวกลัวตาย ข้าขอสู้กับพวกเจ้าสุดชีวิต!”
ร่างของหั่วห้าวหยู่ปกคลุมไปด้วยเปลวไฟ ในฐานะที่เป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังธาตุอัคคีผู้มีพรสวรรค์สูงส่ง เขาย่อมมีความสามารถแน่นอน!
ฟึ่บ! คุณชายโม่ชักมีดออกมา ในตอนนี้เองเขาก็ไม่ได้บดบังพลังความแข็งแกร่งแล้ว
เขาจะเป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิระดับต่ำได้อย่างไรกันเล่า เห็นได้ชัดว่าความแข็งแกร่งของเขาเหมือนกับคนชุดดำเหล่านี้ มหาจักรพรรดิระดับสูง
สีหน้าของคนชุดดำเหล่านี้พลันเปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก “นึกไม่ถึงเลยว่าเจ้าหมอนี่จะบดบังพลังเอาไว้ บัดซบยิ่งนัก!”
“จะไปกลัวอะไร! ก็แค่คนขี้โรคคนหนึ่ง มีอะไรให้กลัว! เจ้าไปจับตัวหญิงสาวผู้นั้นก่อน!”
“ข้าก็คิดเหมือนเจ้า!”
คนชุดดำผู้หนึ่งพุ่งตัวไปตรงหน้ามู่เฉียนซี “แม่นาง เจ้ายอมจำนนเสียเถอะ หากข้าไม่ระวังทำใบหน้าสวย ๆ ของเจ้าเสียหาย เจ้าจะโทษข้าไม่ได้นะ”
“มหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับเจ็ดคนเดียว คิดจะทำร้ายข้า ฝันไปเถอะ!” มู่เฉียนซีกล่าวดูถูก
ร่างชุดม่วงพลันกลายเป็นเงาลวงตานับไม่ถ้วน จากนั้นมู่เฉียนซีก็ลงมือแล้ว นางโจมตีจนเขาตั้งรับมือไม่ทัน
“ทักษะโยวจั๋ว!”
ปัง! คนชุดดำผู้นี้ถูกมู่เฉียนซีโจมตีจนร่างกระเด็นลอยออกไป
พรวด! เขากระอักเลือดคำโตออกมา และกล่าวด้วยความตกใจว่า “มหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับหนึ่ง เป็นไปได้ยังไง?”
มู่เฉียนซีไม่ให้โอกาสเขาได้ตอบโต้เลย จากนั้นก็โจมตีเขาอีกครั้ง “ทักษะโยวจั๋ว!”
ตูม เปรี้ยง เปรี้ยง!
การโจมตีนี้ได้คร่าชีวิตเขาแล้ว!
เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าตนเองจะต้องมาตายในเงื้อมมือของมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับหนึ่งคนเดียว
องครักษ์ของตระกูลโม่กำลังห้อมล้อมโจมตีคนผู้หนึ่งอยู่ ยอมแพ้ไปมันก็ไร้ประโยชน์ พวกเขาสู้จนตอนนี้ได้รับบาดเจ็บสาหัสแล้ว
มู่เฉียนซีพุ่งไป และกล่าวว่า “พวกเจ้าทั้งหมดถอยไป ปล่อยให้เป็นหน้าที่ข้าเอง”
“แม่นางมู่!” องครักษ์เหล่านี้ตกตะลึงพรึงเพริดขึ้น
ส่วนศัตรูที่อยู่ตรงหน้านางในตอนนี้ก็จ้องมองมู่เฉียนซีด้วยความตกใจและโกรธเกรี้ยว “เจ้า…นึกไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะฆ่าเจ้าสี่!”
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “คนต่อไปก็คือเจ้า!”
เขาพุ่งเข้าหามู่เฉียนซีด้วยท่าทีดุร้าย “หญิงสารเลว ข้าจะทำให้เจ้าต้องตายทั้งเป็น”
“จักรพรรดิมืดทำลาย!” หมัดหนึ่งที่เต็มไปด้วยพลังอันแข็งแกร่งพุ่งไปที่มู่เฉียนซีอย่างโหดร้าย
.