ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1525 เจ้าตัวประหลาด
มู่เฉียนซีเอากระมังกรเพลิงพิฆาตวิญญาณออกมา ก่อนจะตะโกนออกมาอย่างเย็นชาว่า “บัวแดงพิฆาต!”
การโจมตีทั้งสองปะทะกัน คนชุดดำถูกโจมตีจนโซเซไป
สีหน้าของเขาเคร่งขรึมขึ้น “ดูท่าข้าคงจะประเมินเจ้าต่ำเกินไปแล้ว”
จากนั้น ลมพายุนับไม่ถ้วนก็พุ่งเข้าไปโจมตีมู่เฉียนซีจากทั่วทุกทิศ
“จันทราปีศาจพิฆาต!”
เสียงตัดผ่านอากาศนับไม่ถ้วนดังขึ้น และร่างของมู่เฉียนซีก็ได้อันตราธานหายไปจากตรงที่เดิมแล้ว
พรวด! การต่อสู้อีกสนาม ร่างของหั่วห้าวหยู่เต็มไปด้วยบาดแผลมากมาย และเขาก็กระอักเลือดออกมา
พื้นดินเกิดรอยแยกนับไม่ถ้วน ฝ่ายตรงข้ามลงมืออย่างโหดเหี้ยม
“ศิษย์สำนักเพลิงเมฆา ข้ายอมรับว่าเจ้ามีความสามารถมาก แต่น่าเสียดายที่มันยังไม่พอ”
แม้ว่ามู่เฉียนซีจะกำลังต่อสู้อยู่กับคู่ต่อสู้ของตัวเอง แต่สถานการณ์รอบด้านนางก็กำลังสังเกตอยู่เช่นกัน
ในขณะที่คู่ต่อสู้ของหั่วห้าวหยู่กำลังจะโจมตีกระบวนท่าคร่าชีวิตออกมา นางก็ตะโกนขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า “โล่วิญญาณน้ำแข็ง!”
ตูม!
การโจมตีถูกต้านทานเอาไว้ได้ แต่มู่เฉียนซีกลับยั่วโมโหคู่ต่อสู้ของตัวเองเข้าแล้ว
เขากัดฟันกรอด พลางกล่าว “เจ้ายอดเยี่ยมยิ่งนัก!”
“กรงเล็บสังหาร!”
กรงเล็บนับไม่ถ้วนพุ่งไปที่มู่เฉียนซี มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเย็นชาว่า “เพลิงสังหารซิวหลัว!”
ตูม!
เสียงดังสนั่นหวั่นไหวดังขึ้น เปลวไฟแห่งการทำลายล้างทำให้ทุกคนตกตะลึงพรึงเพริดขึ้น
นี่มันแข็งแกร่งจนไร้เหตุผลเกินไปแล้ว ช่างน่ากลัวยิ่งนัก!
ในเปลวเพลิงนั้น คู่ต่อสู้ของมู่เฉียนซีถูกแผดเผาจนไม่เหลือแม้แต่ซาก
ร่างสีม่วงเคลื่อนไหวไปอย่างรวดเร็ว มู่เฉียนซีปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าหั่วห้าวหยู่ นางกล่าวถาม “ไหวหรือไม่!”
พลังเมื่อครู่ช่างน่าทึ่งเกินไปแล้ว เผชิญหน้ากับหญิงสาวชุดม่วงตรงหน้าผู้นี้ คนชุดดำผู้นี้ไม่กล้าต่อสู้ด้วย!
หนี! เอาชีวิตรอดก่อนสำคัญกว่า
แต่ความเร็วของมู่เฉียนซีนั้นรวดเร็วมาก นางกล่าว “หากไม่ใช่เพราะเจ้าจะฆ่าสหายข้า ข้าก็คงจะไม่กำจัดคนเช่นเจ้าเร็วเกินไป!”
“ตอนนี้ข้าไร้คู่ต่อสู้แล้ว เจ้ามาสิ!”
ไม่นานนักมู่เฉียนซีก็เคลื่อนไหวการโจมตีแล้ว “ทักษะโยวจั๋ว!”
ตูม เปรี้ยง เปรี้ยง!
คนชุดดำที่ไร้หนทางหนี ทำได้เพียงแค่ต้องเผชิญกับการโจมตีนี้!
เขาพบว่ามู่เฉียนซีไม่ได้ใช้กระบี่ยาวที่ระเบิดพลังธาตุอัคคีนั้น เขาก็รู้สึกโล่งใจไปเปลาะหนึ่ง
มหาจักรพรรดิแห่งภูตคนหนึ่งระเบิดพลังอันแข็งแกร่งเช่นนั้นออกมา คงจะมีการจำกัดจำนวนครั้ง หากไม่จำกัดจำนวนครั้งแล้วละก็ สวรรค์ก็ไร้เหตุผลเกินไป
“ทักษะโยวจั๋ว!”
มู่เฉียนซีต่อสู้กับคนชุดดำ และฝึกทักษะโยวจั๋วไปด้วย
ความแข็งแกร่งของคุณชายโม่ไม่อาจดูแคลนได้จริง ๆ เผชิญหน้ากับคนชุดดำเขาไม่ได้อ่อนด้อยเลย เพียงแต่สีหน้าของเขาแย่ลงเรื่อย ๆ
ฉึก! มีดของคุณชายโม่แทงทะลุร่างของชายชุดดำนั้น
ต่อก ๆ ๆ! เลือดกำลังหยดลงบนพื้นดิน
พรวด! และคุณชายโม่ก็กระอักเลือดคำโตออกมา ใบหน้าอันรูปงามนั้นตอนนี้พลันเปลี่ยนเป็นฟกช้ำดำเขียวขึ้นแล้ว
“คุณชาย!” องครักษ์เหล่านั้นรีบเข้าไปพยุงเขา เขากินยาลูกกลอนเข้าไปขวดหนึ่ง และนี่เป็นยาลูกกลอนขวดสุดท้ายแล้ว
“ข้าน้อยไร้ความสามารถ มิเช่นนั้นคุณชายคงไม่ต้องลงมือเองเช่นนี้!” องครักษ์เหล่านี้กล่าวด้วยความรู้สึกผิด
ลมหายใจของคุณชายอ่อนแอมาก มู่เฉียนซีรู้สึกได้ถึงความผิดปกติบางอย่าง
นางโบกมือขึ้น “ให้เจ้าลองลิ้มรสกระบวนท่าสุดท้ายก็แล้วกัน!”
นางรู้สึกว่าใกล้ถึงเวลาแล้ว!
พลังวิญญาณโคจรขึ้น การโจมตีด้วยทักษะวิญญาณนี้พุ่งออกไปอย่างไร้ซึ่งสุ้มเสียง
“ทักษะโยวจั๋ว!”
ดูเหมือนจะไม่แข็งแกร่ง และชายชุดดำก็ไม่รู้สึกถึงความแข็งแกร่งของทักษะวิญญาณนี้ด้วย!
แต่เขากลับหลบหลีกไม่ได้!
ปัง! หลังจากที่คนชุดดำถูกโจมตีไป ร่างของเขาก็แปดเปื้อนไปด้วยเลือด
อ๊า! เขาส่งเสียงร้องโหยหวนออกมา ก่อนจะสิ้นชีพไป
มู่เฉียนซีเดินไป และกล่าวกับองครักษ์ของคุณชายโม่ว่า “ถอยไป!”
“แม่นางมู่!” พวกเขานึกขึ้นได้ว่ามู่เฉียนซีก็เป็นนักปรุงยาท่านหนึ่ง จึงหลีกทางให้นางแต่โดยดี
มู่เฉียนซีมองคุณชายโม่อย่างพิจารณา และกล่าวว่า “แค่นี้ไม่ตายหรอก แต่สภาพนี้ไม่เหมาะกับการเร่งเดินทาง!”
“แม่นางมู่ ได้โปรดช่วยคุณชายด้วย”
“แม่นางมู่ หากแม่นางช่วยคุณชายได้ พวกเราจะยอมบุกน้ำลุยไฟเพื่อแม่นาง”
มู่เฉียนซีกล่าว “เงียบ!”
นางเอาสมุนไพรวิญญาณออกมาจำนวนมากกับโอสถขวดหนึ่ง และหม้อยาออกมา
หั่วห้าวหยู่กล่าว “เฉียนซี นี่เจ้าจะปรุงยาที่นี่อย่างนั้นเหรอ?”
คนอื่น ๆ ต่างป้องกันและระวังความปลอดภัยอยู่รอบบริเวณ เพื่อไม่ให้สิ่งใดเข้ามารบกวนการหลอมยาของมู่เฉียนซี
แต่ไม่นานนัก พวกเขาก็พบว่ามู่เฉียนซีไม่ได้หลอมยา ใครจะใช้พลังธาตุวารีหลอมยากันล่ะ!
มู่เฉียนซีปรุงยาด้วยท่าทางที่มีเสน่ห์มาก รวดเร็วจนพวกเขามองตามไม่ทัน เมื่อการเคลื่อนไหวของมู่เฉียนซีหยุดลง ยาแผนปัจจุบันขวดหนึ่งก็ถูกปรุงออกมาได้สำเร็จ
“นี่คือยาแผนปัจจุบัน แต่เหตุใดข้าถึงรู้สึกว่ามันแปลก ๆ” หั่วห้าวหยู่กล่าวด้วยความประหลาดใจ
มู่เฉียนซีเอายานั้นบรรจุเข้าไปในเข็มยา ฉึก ๆ ๆ! ทุกคนยังไม่ทันตั้งตัว เข็มยาหลายเข็มก็ปักลงบนแขนของคุณชายโม่เรียบร้อยแล้ว ไม่นานนักนางก็ดึงเข็มยาเหล่านั้นออกมา
“คุณชาย!”
พวกเขาพบว่าร่างกายที่ดำช้ำเขียวที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าเหล่านั้นก็ได้จางหายไปแล้ว และลมหายใจของคุณชายก็ไม่ได้อ่อนแอเหมือนเมื่อครู่อีกแล้ว
ทุกคนต่างเบิกตากว้างด้วยความตกใจ นี่มันมหัศจรรย์เกินไปแล้ว
พวกเขาคิดว่าคุณชายของพวกเขาเป็นนักปรุงยาที่เก่งกาจที่สุด แต่นึกไม่ถึงเลยว่าฝีมือการปรุงยาของแม่นางมู่ผู้นี้จะเป็นเลิศถึงเพียงนี้ได้
ครึ่งชั่วยามผ่านไป คุณชายโม่ก็ฟื้นขึ้นมา
เขาคิดว่าจะต้องเจ็บปวดทรมานอยู่ช่วงเวลาหนึ่ง คิดไม่ถึงว่าจะรวดเร็วถึงเพียงนี้
คุณชายโม่รู้สึกได้ถึงตัวยาที่ไม่คุ้นเคยในร่างกายของเขาได้ ยานั้นมันกำลังฟื้นฟูร่างกายของเขาอยู่ เขามองมู่เฉียนซีและกล่าวว่า “ขอบคุณแม่นางมู่มากที่ช่วยชีวิตข้าเอาไว้”
“หากอยากขอบคุณ รอให้กลับไปก่อนแล้วค่อยว่ากัน ประเดี๋ยวฟ้าก็จะมืดแล้ว เรารีบเดินทางกันเถอะ!”
องครักษ์เหล่านั้นกล่าวถามว่า “คุณชาย คุณชายเดินทางไหวหรือไม่ขอรับ?”
คุณชายโม่กล่าว “ไม่มีปัญหา”
เขากวาดสายตามองไปที่ซากศพเหล่านั้น มู่เฉียนซีกล่าวว่า “อ๋อ ข้าลืมไป ก็เลยฆ่าไม่เหลือแม้แต่คนเดียว”
การปรากฏตัวของคนเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่นอน คนพวกนี้ต้องมีจุดประสงค์บางอย่างแน่!
นางเป็นคนคนหนึ่งที่เพิ่งมาแดนซวนเทียนได้ไม่นาน ดังนั้น มีโอกาสเป็นไปได้มากว่าเป้าหมายของคนเหล่านี้ก็คือคุณชายโม่
คุณชายโม่ส่ายหน้าพลางกล่าว “ไม่เป็นไร เราไปกันเถอะ!”
ครั้นแล้ว มู่เฉียนซีและพวกก็เดินทางออกมาจากสถานที่ที่อันตรายที่สุดแห่งป่าอวิ๋นชานได้อย่างปลอดภัย จากนั้นก็เดินทางกลับไปยังตระกูลโม่
คุณชายโม่รั้งให้พวกเขาอยู่ที่ตะกูลโม่ต่อเพื่อพักผ่อน ครั้งนี้ที่ปลอดภัยกลับมาได้ก็ต้องขอบคุณมู่เฉียนซี
หลังจากที่หั่วห้าวหยู่กลับมาถึงตระกูลโม่ เขาก็เอาแต่จ้องมองมู่เฉียนซีอยู่ตลอด มู่เฉียนซีกล่าว “จ้องข้าทำไม?”
“ข้ากำลังดูว่าตกลงแล้วเจ้าคือมนุษย์หรือตัวประหลาดกันแน่ เจ้ารู้หรือไม่ว่าตัวเจ้าวิปริตมากเพียงใด เจ้าบอกความจริงข้ามาเดี๋ยวนี้นะว่าเจ้าเป็นสัตว์ประหลาดที่ตายมาแล้วหนึ่งพันปี แล้วปลอมตัวมาเป็นหญิงงามใช่หรือไม่”
พลังการโจมตีที่มู่เฉียนซีโจมตีออกมานั้นแข็งแกร่งมาก อีกทั้งฝีมือการรักษานั้นของนางอีก!
สีหน้าของมู่เฉียนซีเคร่งขรึมขึ้น นางกล่าว “เจ้าต่างหากตัวประหลาด! เจ้าบอกว่าจะประลองฝีมือกับข้าไม่ใช่เหรอ ข้านอนไม่หลับพอดี เรามาประลองกันสักตั้งดีหรือไม่”
หั่วห้าวหยู่ตกใจจนร่นตัวถอยหลังไปหลายก้าว “เจ้าไม่เป็นอะไร! แต่ข้าบาดเจ็บอยู่ แต่ต่อให้ไม่บาดเจ็บ ข้าก็ไม่อยากถูกคนวิปริตเช่นเจ้าโจมตี”
ถูกทำร้าย เป็นเรื่องที่น่าอับอายยิ่งนัก
ครั้นแล้วหั่วห้าวหยู่จึงรีบกลับไปรักษาอาการบาดเจ็บ ไม่จับตาจ้องมองมู่เฉียนซีอีกต่อไปแล้ว และมู่เฉียนซีก็รอคนที่นางอยากเจออยู่พอดี นางมองไปที่ชายหนุ่มผู้อ่อนแอที่ยืนอยู่หน้าประตูผู้นั้น และกล่าวว่า “คุณชายโม่ สวัสดี”