ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1533 พ่อบุญธรรมของโม่ซวน
โม่ซวนกล่าว “กองกำลังของข้าไม่ใช่เพียงแค่อาณาเขตหนานหลิงเท่านั้น ทางแดนตะวันออกเฉียงใต้ของราชวงศ์ตกหวงก็มี เพียงแต่ว่ากองกำลังนั้นยังค่อนข้างอ่อนแอก็เท่านั้น”
“พ่อบุญธรรมให้เวลาข้าสามปี สามปีนี้ข้าจะต้องสร้างกองกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดในแดนตะวันออกเฉียงใต้ของราชวงศ์ตงหวงให้ได้ และจะต้องเอาชนะกองกำลังและสำนักอื่น ๆ ด้วย”
มู่เฉียนซีได้ยินเช่นนี้ก็ตกตะลึงขึ้น “เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ นึกไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะเอามาเล่าให้ข้าฟัง”
“คบหากันมาก็นานแล้ว ข้าเชื่อใจเจ้า! ในฐานะที่เป็นคู่หูผู้ร่วมมือกัน ข้าบอกเรื่องนี้กับเจ้าก็สามารถพัฒนาหอหมอปีศาจให้ก้าวหน้าขึ้นได้ไม่ใช่หรอกเหรอ”
มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าวว่า “วางใจเถอะ เวลาสามปี เพียงพออยู่แล้ว”
โม่ซวนกล่าว “แต่ก่อนที่ข้าจะได้เจอกับเจ้า ข้าคิดว่าข้าเป็นคนไร้ความสามารถ ไม่อาจทำภารกิจนี้ได้สำเร็จ และทำให้เขาต้องผิดหวัง”
“สำนักในอาณาเขตหนานหลิง แม้ว่าสำนักลั่วเยว่จะเป็นกองกำลังที่อ่อนแอ แต่กลับเป็นสำนักที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี การที่ข้าเชิญศิษย์ของสำนักต่าง ๆ เข้าร่วมภารกิจในครั้งที่แล้วก็เพื่อเป็นการสังเกตศิษย์ของสำนักเหล่านั้น นอกจากสำนักลั่วเยว่กับสำนักเพลิงเมฆาแล้ว สำนักอื่นล้วนแต่ถูกคัดออกทั้งหมด” โม่ซวนกล่าว
มู่เฉียนซีมองโม่ซวนอย่างพิจารณาและกล่าวว่า “ข้ารู้สึกว่าคนที่อยู่เบื้องหลังเจ้ากำลังวางหมากเกมใหญ่อยู่ แต่หากไม่คุกคามถึงหอหมอปีศาจของข้า ข้าก็จะไม่สนใจ! แต่ข้าแปลกใจในตัวเขาอยู่นิดหน่อย เมื่อไหร่จะแนะนำให้ข้าได้รู้จัก”
โม่ซวนกล่าว “หากมีโอกาสเหมาะสม ข้าจะคิดหาวิธีแนะนำเจ้าให้ได้รู้จัก เพียงแต่ว่า พ่อบุญธรรมของข้าไม่ค่อยชอบพบปะคนแปลกหน้าเท่าไรนัก”
มู่เฉียนซีรู้ว่าคนผู้นั้นต้องมีเส้นสาย มีกองกำลัง และมีสายข่าวที่แข็งแกร่งมากแน่นอน การขอให้เขาช่วยตามหาคนนั้นเป็นเรื่องที่เหมาะสมที่สุดแล้ว
บังเอิญได้เจอกัน โม่ซวนลากมู่เฉียนซีคุยเรื่องงานหลายเรื่องมาก จนกระทั่งการประมูลแห่งเมืองเฟิงหุยกำลังจะเริ่มขึ้น
โม่ซวนกล่าวถามว่า “เฉียนซี เจ้ามาเข้างานร่วมประมูลครั้งนี้ มีสิ่งใดที่ต้องการเป็นพิเศษหรือไม่?”
“ข้ารู้แค่ว่าข้าขาดของบางอย่าง และของสิ่งนั้นก็คือหยกซวน ข้าก็เลยมาที่นี่” มู่เฉียนซีกล่าว
“เจ้าไม่มีหยกซวนเหรอ!” โม่ซวนกล่าวด้วยสีหน้าไม่อยากเชื่อ
“ก็ใช่นะสิ! แปลกมากนักรึไง ก็ใครใช้ให้เจ้าไม่มอบเงินเดือนให้ข้าล่ะ” มู่เฉียนซีกล่าวด้วยความทอดถอนใจ
มุมปากของโม่ซวนกระตุกขึ้นเล็กน้อย เขาคิดไม่ถึงเลยว่านักปรุงยาขั้นศักดิ์สิทธิ์ผู้นี้จะไม่มีเงินแม้แต่หยกซวนแดงเดียว
หลิ่วซู่ในฐานะที่เป็นนายน้อยแห่งเมืองเฟิงหุย เขาสามารถใช้ห้องส่วนตัวของท่านพ่อของเขาได้
มู่เฉียนซีกล่าว “พวกเจ้าไปกันก่อนเถอะ ข้ามีเรื่องต้องทำนิดหน่อย”
ครั้นแล้วมู่เฉียนซีและโม่ซวนจึงเตรียมเอาของไปส่งในการวางประมูล
ผู้ดูแลโรงประมูลเห็นโม่ซวนก็ดีอกดีใจขึ้น เขากล่าว “คุณชายโม่ ท่านจะเอายาลูกกลอนมาวางประมูลเหรอ?”
คุณชายโม่กล่าว “ยาลูกกลอนที่จะเอามาประมูลไม่ใช่ของข้า แต่เป็นของสหายข้าต่างหาก”
ผู้ดูแลมองไปที่มู่เฉียนซี หญิงสาวนางนี้รูปร่างหน้าตางดงามกว่าคุณชายโม่มาก
ผู้ดูแลกล่าว “ไม่ทราบว่าแม่นางผู้นี้จะประมูลยาลูกกลอนระดับใด”
มู่เฉียนซีกล่าว “ยาลูกกลอนขั้นศักดิ์สิทธิ์ระดับหนึ่ง”
“อะไรนะ?” ผู้ดูแลคิดว่าตัวเองหูฝาดไป
โม่ซวนกล่าว “ขั้นศักดิ์สิทธิ์ระดับหนึ่ง”
“เป็นไปได้ยังไง?”
ยาลูกกลอนขั้นสวรรค์เป็นยาที่ล้ำค่าที่สุด ต่อให้เอาออกไปประมูล แต่คนอื่นก็ดูถูกโรงประมูลเล็ก ๆ นี้อยู่ดี
“แม่นาง มียาลูกกลอนขั้นศักดิ์สิทธิ์กี่เม็ด?”
“ข้าเตรียมมาสิบขวด! ” มู่เฉียนซีกล่าว
นางเอายาลูกกลอนออกมาด้วยท่วงท่าที่สบาย ๆ ก่อนจะยื่นออกไปให้ผู้ดูแล และกล่าวว่า “หากท่านผู้ดูแลไม่เชื่อก็เอาไปตรวจสอบได้”
ผลลัพธ์ที่ออกมานั้นไม่ต้องสงสัยเลย!
เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นยาขั้นศักดิ์สิทธิ์จริง ๆ ผู้ตรวจสอบก็ตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง
มู่เฉียนซีกล่าว “ยาลูกกลอนนี้เอาไปประมูลวันนี้ เป็นเช่นไร?”
“ไม่มีปัญหา”
เดิมทีครั้งนี้พวกเขามีของดีที่จะเอาลงมาประมูลไม่มากนัก การปรากฏขึ้นของยาลูกกลอนขั้นศักดิ์สิทธิ์นี้ต้องเป็นที่น่าตื่นตะลึงมากเป็นแน่
“นายท่าน การประมูลกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว ข้าจะพาท่านไปห้องส่วนตัวหมายเลขสวรรค์”
มู่เฉียนซีกล่าว “ตกลง! สหายของข้าอยู่อีกห้องหนึ่ง เจ้าให้คนไปบอกพวกเขาสักหน่อยก็แล้วกัน”
“ขอรับ!”
ฮวาเจี้ยนตกตะลึงนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “ศิษย์น้องมู่เห็นประโยชน์ส่วนตัวจนลืมคุณธรรมไปแล้วเหรอ นึกไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่าจะทิ้งพวกเรา”
“นึกไม่ถึงเลยว่าศิษย์น้องมู่จะชอบคนป่วยอย่างเจ้านั่น”
เฟิงซู่ที่นิ่งเงียบมาโดยตลอด ในตอนนี้ก็กล่าวขึ้นแล้วว่า “ฮวาเจี้ยนเจ้าพูดมากเกินไปแล้ว”
หลิ่วซู่กล่าว “หากข้าเอาเรื่องนี้ไปบอกศิษย์น้องมู่ เจ้าลองเดาดูสิว่าจะเป็นเช่นไร”
“เจ้าอย่าเชียวนะ! มิเช่นนั้นข้าจะจัดการเจ้าแน่”
ในขณะที่มู่เฉียนซีกับโม่ซวนกำลังนั่งรอการประมูลอยู่นั้น โม่ซวนก็เอาบัญชีจำนวนมากออกมาตรวจสอบ มู่เฉียนซีกล่าว “เจ้าไม่รู้จักการผ่อนคลายบ้างเลยหรือไง”
โม่ซวนกล่าว “ก่อนที่ข้ายังไม่เจอกับเฉียนซี ข้ารู้ว่าตัวข้าคงจะไม่มีชีวิตอยู่ต่อได้อีกไม่นาน ข้าก็เลยแข่งขันกับเวลาพยายามทำทุกอย่างออกมาให้ดีที่สุด”
“แต่หลังจากที่เจอกับเฉียนซี มันทำให้ข้ามีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง ข้าอยากทำทุกอย่างให้ดีที่สุด และอยากจะทำให้ดีกว่าเดิมในทุก ๆ ครั้ง”
มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าวว่า “คนที่สามารถปลูกฝังเจ้าให้เป็นเช่นนี้ได้ คาดว่าคนที่อยู่เบื้องหลังเจ้าคงจะมีนิสัยใช้ได้เลยทีเดียว ข้าไม่จำเป็นต้องระแวงเลย”
“พ่อบุญธรรม เป็นคนที่เก่งกาจที่สุดเท่าที่ข้าเคยพบเจอมา และยังเป็นคนที่ข้าชื่นชมมากที่สุดด้วย” ในขณะที่กล่าวถึงคนผู้นั้น อุณหภูมิในแววตาของเขาก็ร้อนระอุขึ้นเรื่อย ๆ
มุมปากของมู่เฉียนซีโค้งขึ้นเล็กน้อย นับวันเขายิ่งจะเริ่มแปลกมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว!
ในตอนนี้ การประมูลได้เริ่มขึ้นแล้ว
หญิงสาวรูปร่างหน้างดงามผู้หนึ่งปรากฏขึ้นบนเวทีการประมูล รูปร่างอันเย้ายวนนั้นทำให้เหล่าผู้ร่วมประมูลชายไม่อาจละสายตาไปจากนางได้
“วันนี้เมืองเฟิงหุยได้จัดการประมูลขึ้น เราจะไม่พูดจาไร้สาระมาก ทุกคนคงไม่อยากเสียเวลา และคงจะอดใจรอไม่ไหวแล้ว” ร่างอันมีเสน่ห์นั้นช่างยั่วยวนใจยิ่งนัก
“ของประมูลชิ้นแรก ทักษะวิญญาณพลังธาตุอัคคีขั้นสวรรค์ระดับสูง ราคาประมูลเริ่มที่หนึ่งแสนหยกซวนขึ้นไป”
แม้ว่าทักษะวิญญาณนี้จะหาได้ยาก แต่ก็ยังพอหาซื้อได้ ของชิ้นนี้ราคาจึงไม่ได้สูงมากนัก
แต่ภายใต้การยั่วยวนอันมีเสน่ห์ของพิธีกรประมูลนี้ ราคาก็เพิ่มขึ้นสูงลิ่ว สุดท้ายของชิ้นนี้ก็จบการประมูลอยู่ที่สี่แสนหยกซวน
ของประมูลชิ้นถัดมาหลายชิ้นเป็นของที่มู่เฉียนซีกับโม่ซวนไม่ได้สนใจ โม่ซวนจึงตรวจดูบัญชีต่อ
และเมื่อการประมูลสมุนไพรวิญญาณมาถึง มู่เฉียนซีก็เริ่มกวาดประมูลเรียบ
เขารู้ว่าคู่หูของเขาผู้นี้เป็นคนที่ร่ำรวยและมีอำนาจมาก แต่ก็เป็นคนที่บ้าคลั่งมากเช่นกัน
เมื่อได้ยินมู่เฉียนซีประมูลสมุนไพรวิญญาณอย่างบ้าคลั่งเช่นนั้น ฮวาเจี้ยนก็พึมพำขึ้นว่า “ศิษย์น้องมู่บอกว่าไม่มีหยกซวนไม่ใช่เหรอ แล้วนี่เหมือนคนอับจนตรงไหนกัน ช่างเกินไปแล้วจริง ๆ”
มู่เฉียนซีมีชื่อเสียงในการลงสนามแรก เพียงแต่ว่าตอนนี้นางกลับล่วงเกินนักปรุงยาที่มาแย่งชิงนางประมูลสมุนไพรเหล่านั้นเข้าแล้ว
“สาวน้อยผู้นั้นโผล่มาจากที่ใดกัน ช่างเย่อหยิ่งเกินไปแล้ว”
“มีเงินแล้วจะทำอะไรก็ได้อย่างนั้นเหรอ! ช่างไม่รู้จักเด็กรู้จักผู้ใหญ่เอาเสียเลย”
“……”
หลังจากที่การประมูลสมุนไพรวิญญาณจบลง ต่อมาการประมูลหลักก็เริ่มขึ้นแล้ว
พิธีกรประมูลกล่าวว่า “ต่อไปจะเป็นการประมูลยาลูกกลอนขั้นศักดิ์สิทธิ์ระดับหนึ่งหนึ่งขวด ยาลูกกลอนซวนตี้ ยาลูกกลอนนี้ก็ไม่ได้มีประโยชน์อื่นใด นอกจากทำให้เพิ่มพลังขั้นมหาจักรพรรดิระดับหนึ่งได้”
“ยาขั้นสวรรค์นี้ก็ทำได้ แล้วนี่ยาขั้นศักดิ์สิทธิ์อันใดกัน พวกเจ้ากำลังล้อเล่นกระมัง!” ชายชราผู้หนึ่งกล่าว
พิธีกรประมูลยิ้มกล่าว “ทุกท่านฟังข้าให้จบก่อน! สิ่งที่ควรค่าในการกล่าวถึงมากที่สุดก็คือยาลูกกลอนเพิ่มพลังวิญญาณนี้ไม่ส่งผลกระทบใดต่อร่างกาย!”
“เพิ่มพลังวิญญาณโดยที่ไม่ส่งผลกระทบต่อร่างกายอย่างนั้นเหรอ!”
“ยาลูกกลอนนี้ข้าจะเอาให้บุตรชายข้าใช้ เพิ่มพลังหนึ่งขั้นก็เพียงพอที่จะได้เป็นศิษย์สายตรงแล้ว”
“ยาลูกกลอนนี้จะต้องประมูลให้ได้!”
ทันใดนั้นการประมูลก็ดุเดือดขึ้น
ยาลูกกลอนเพิ่มพลังวิญญาณในแดนซวนเทียนมีไม่น้อย แต่ยาลูกกลอนส่วนมากก็ส่งผลกระทบต่อร่างกาย โดยเฉพาะยาลูกกลอนเพิ่มพลังวิญญาณขั้นมหาจักรพรรดิ
ตอนนี้มาพบกับยาลูกกลอนขั้นศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่ส่งผลกระทบต่อร่างกายเช่นนี้ ไม่มีใครอยากปล่อยมันให้หลุดมือไปแน่นอน
พวกเขาปรารถนาจะเอายาลูกกลอนขั้นศักดิ์สิทธิ์ให้ได้! มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าว “ข้าที่ไม่มีเงินทอง ในที่สุดก็มีคลังสมบัติแล้ว”
.