ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1546 ศิษย์พี่ผู้วิปริต
เมื่อฉู่หลีได้ยินคำพูดของมู่เฉียนซี เขาก็ไม่เกิดความสงสัยแต่อย่างใด
อู๋ตี้กล่าว “นายท่าน กำจัดแมลงน่ารังเกียจเหล่านี้เลย”
เสี่ยวหงกล่าว “แมลงพวกนี้สำหรับนายท่านแล้วไม่ได้ต่างอะไรกับพวกมดปลวกเลย”
ผู้อาวุโสเจ็ดและพวกไม่รู้ว่ามู่เฉียนซีคิดจะทำสิ่งใด สถานการณ์เช่นนี้แล้วยังไม่หนีอีก พวกเขาต้องตายเป็นแน่
สุดท้ายแล้วพวกเขาเห็นมู่เฉียนซีเอาหม้อยาออกมา บริเวณรอบ ๆ ล้วนแต่เป็นแมลงทั้งสิ้น นี่นางจะปรุงยาตอนนี้อย่างนั้นเหรอ?
บ้าไปแล้ว!
“ฉู่หลี!” ผู้อาวุโสเจ็ดตะโกนขึ้นด้วยความร้อนใจ
สุดท้ายฉู่หลีกลับกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “ศิษย์น้องหญิงมีแผนการอยู่ในใจแล้ว”
ผู้อาวุโสเจ็ดยิ่งร้อนอกร้อนใจเข้าไปใหญ่ “ปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไปไม่ได้นะ!”
มู่เฉียนซีจับแมลงมาได้ตัวหนึ่งแล้ว การรีบปรุงยาฆ่าแมลงออกมาให้ได้นั้น ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับนาง
นางจุดไฟขึ้น และเริ่มทำการปรุงยา
หลังจากที่ปรุงยาเสร็จ ก็เป็นเวลาเดียวกับที่แมลงตัวหนึ่งได้กัดเข้าที่คอของผู้อาวุโสเจ็ด
พรวด! ผู้อาวุโสเจ็ดกระอักเลือดคำโตออกมา
“แย่แล้ว! ท่านผู้อาวุโสเจ็ดถูกพิษเข้าแล้ว!”
และตอนนี้มู่เฉียนซีก็บรรจุยาใส่ขวดเรียบร้อยแล้ว จากนั้นนางก็โยนขวดยาออกไปพลางตะโกนว่า “มังกรวารีทำลาย!”
แกร๊ง!
เมื่อขวดยาแตกกระจาย แมลงเหล่านั้นก็เผ่นบินหนีไม่กล้าเข้าใกล้พวกเขาแล้ว
ความรู้สึกของแมลงเหล่านี้บอกกับพวกมันว่าอันตรายมาก ต้องหนี แต่มู่เฉียนซีกลับกล่าวเสียงขรึมว่า “คิดจะหนีเหรอ ฝันไปเถอะ!”
มู่เฉียนซีโยนขวดยาฆ่าแมลงออกไปหลายขวด ฉู่หลีรับขวดยาไปเป็นคนแรก
ส่วนอีกสามคนยังอยู่ในความตื่นตระหนก พวกเขากล่าวว่า “ศิษย์น้องมู่ ท่านผู้อาวุโสเจ็ดโดนพิษแล้ว จะทำเช่นไรดี ยาลูกกลอนแก้พิษก็ใช้ไม่ได้ผล”
ฟึ่บ! เข็มยาเข็มหนึ่งพุ่งปักเข้าที่คอของผู้อาวุโสเจ็ด มู่เฉียนซีกล่าว “ก็แค่พิษเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น จัดการปัญหานี่ก่อน”
“ตกลง!”
ในที่สุดพวกเขาก็เข้าใจในฤทธิ์ของยาฆ่าแมลงนี้แล้วว่ายอดเยี่ยมเพียงใด แมลงที่บินไล่ตามพวกเขาเหล่านี้ ตอนนี้ถูกพวกเขาไล่จนบินว่อนหนีเตลิดไปแล้ว
บางตัวก็ตายจนไม่รู้ว่าจะต้องตายเช่นไรแล้ว
สุดท้าย มู่เฉียนซีก็เหลือแมลงเอาไว้เพียงแค่ตัวเดียว
และแล้วก็จัดการไปได้เช่นนี้ ช่างน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว
“ไปดูอาการผู้อาวุโสเจ็ด”
แมลงเหล่านี้เป็นแมลงพิษ หลังจากที่ตรวจดูอาการของผู้อาวุโสเจ็ดเสร็จแล้ว มู่เฉียนซีก็เริ่มเอายาให้เขากิน
ไม่นานนักผู้อาวุโสเจ็ดก็ฟื้นขึ้นมา
ส่วนแมลงที่ไล่ตามพวกเขานั้นได้อันตรธานหายไปหมดแล้ว
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”
ศิษย์พี่คนหนึ่งกล่าวขึ้นด้วยความตื่นเต้นว่า “ท่านผู้อาวุโสเจ็ด คืออย่างนี้ขอรับ ศิษย์น้องมู่นาง…”
ผู้อาวุโสเจ็ดกล่าวด้วยความไม่อยากจะเชื่อว่า “นี่มัน นี่มัน…”
เขามองไปที่มู่เฉียนซีและกล่าวว่า “สาวน้อย เจ้าเป็นนักปรุงยา เจ้า…นึกไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะเป็นนักปรุงยา”
มู่เฉียนซีกล่าว “ใช่!”
ต่อให้เป็นนักปรุงยาก็ไม่มีทางกำจัดแมลงของจอมภูตแมลงวิญญาณไปได้อย่างง่ายดายเช่นนี้ ผู้อาวุโสเจ็ดคิดในใจ ผู้วิปริตผู้นี้โผล่มาจากไหนกันแน่
มู่เฉียนซีกล่าว “ในเมื่อผู้อาวุโสเจ็ดไม่เป็นอะไรแล้ว เช่นนั้นเราก็ไปจับจอมภูตแมลงวิญญาณนั่นกันเถอะ!”
“ดี!”
มู่เฉียนซีปล่อยแมลงตัวนั้นออกมา เหล่าสหายของมันตายหมดแล้ว มันต้องเกรงกลัวและต้องกลับไปหาเจ้านายของมันแน่นอน
และด้วยวิธีนี้เอง มู่เฉียนซีก็จะหาจอมภูตแมลงวิญญาณนั้นเจอ
“ตามไป!”
พวกเขาตามไปอย่างระมัดระวัง ชายคนหนึ่งสวมชุดคลุมยาวสีดำยื่นมือไปจับแมลงตัวนั้น
ในเงามืด เขาเผยสีหน้าประหลาดใจออกมา “เป็นไปได้ยังไง มีเพียงเจ้าตัวเดียวเหรอที่รอดมาได้? นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”
แม้ว่าแมลงนี้จะบอกข้อมูลบางอย่างกับเขาได้ แต่เรื่องราวที่ซับซ้อนนั้นมันไม่อาจแสดงออกมาให้เขาเข้าใจได้
น้ำเสียงอันเย็นชาเสียงหนึ่งดังขึ้น “ง่ายมาก ก็ถูกกำจัดไปจนสิ้นแล้วอย่างไรล่ะ!”
ผู้อาวุโสเจ็ดกล่าวเสียงเย็นชาว่า “สำนักลั่วเยว่กับจอมภูตแมลงวิญญาณไม่เคยมีปัญหาบาดหมางใจอันใดกันมาก่อน เหตุใดเจ้าถึงได้ลอบโจมตีพวกข้าเช่นนี้”
พวกเขาได้ห้อมล้อมจอมภูตแมลงวิญญาณผู้นี้เอาไว้แล้ว จอมภูตแมลงวิญญาณตกใจผงะไปเล็กน้อย ก่อนจะกล่าวด้วยความตกใจว่า “นึกไม่ถึงเลยว่าจะเป็นพวกเจ้า”
ฉู่หลีกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “กลับไปรับโทษที่สำนักลั่วเยว่เถอะ!”
“ฝันไปเถอะ!” จอมภูตแมลงวิญญาณกล่าว
เขาคิดจะหนี ทว่า ความเร็วของมู่เฉียนซีนั้นเร็วยิ่งนัก
“ทักษะโยวจั๋ว!”
มู่เฉียนซีลงมืออย่างรุนแรง จอมภูตแมลงวิญญาณผู้นี้นึกไม่ถึงเลยว่ามู่เฉียนซีจะโจมตีด้วยพลังที่แข็งแกร่งเช่นนี้ออกมาได้
ปัง! ร่างของเขากระแทกลงบนพื้นดินทันที
พรวด! จอมภูตแมลงวิญญาณกระอักเลือดคำโตออกมา
“หากข้าถูกพวกเจ้าจับตัวไป ก็ไม่ได้ส่งผลดีกับพวกเจ้า”
“นึกไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่าจอมภูตแมลงวิญญาณจะมีฝีมือเพียงเท่านี้” ร่างหลายร่างปรากฏออกมา
คนเหล่านี้ล้วนแต่เป็นสหายเก่ากันทั้งสิ้น
ผู้อาวุโสเจ็ดกล่าว “กัวเถา ไม่นึกเลยว่าจะเป็นเจ้า”
กัวเถาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดแห่งสำนักวารีเมฆา เป็นคนที่แข็งแกร่งรองลงมาจากเจ้าสำนักวารีเมฆา
กัวเถากล่าว “วันนี้ พวกเจ้าต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย!”
“คิดจะฆ่าพวกข้า เจ้าไม่กลัวว่าสำนักลั่วเยว่ของพวกข้าจะเล่นงานเจ้าอย่างนั้นเหรอ”
“สำนักลั่วเยว่ก็เป็นเพียงแค่สำนักกระจอก ๆ สำนักหนึ่ง เจ้าสำนักของพวกเจ้าบาดเจ็บสาหัสเอาแต่เก็บตัว ยังไม่รู้เลยว่าจะเป็นหรือตาย ฆ่าพวกเจ้า สำนักลั่วเยว่ก็ไม่มีหลักฐานพอที่จะเอาผิดพวกข้าได้”
“หากจะโทษก็ต้องโทษพวกเจ้าเองที่มีอัจฉริยะสองคนนั้นโผล่มาและทำลายแผนการของสำนักวารีเมฆา แถมยังทำให้สำนักวารีเมฆาของพวกข้าต้องอับอายขายหน้า แล้วพวกเจ้าคิดว่าพวกข้าจะยอมปล่อยพวกเจ้าไปอย่างนั้นเหรอ”
ผู้อาวุโสเจ็ดกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ต่อให้วันนี้ข้าต้องตาย ข้าก็จะไม่ยอมให้พวกเจ้ามาแตะต้องศิษย์ของข้าได้เป็นอันขาด”
“อาศัยเพียงแค่เจ้าคนเดียวอย่างนั้นเหรอ?” พวกเขากล่าวดูถูกเหยียดหยาม
ฝ่ายตรงข้ามก็มาอีกห้าคน พลังของพวกเขาแต่ละคนล้วนแต่เป็นขั้นปราชญ์แห่งภูตทั้งสิ้น
ส่วนในกลุ่มของพวกเขานั้นมีเพียงผู้อาวุโสเจ็ดคนเดียวเท่านั้นที่มีพลังขั้นปราชญ์แห่งภูต จัดการกับพวกเขามีกำลังเหลือเฟือ กัวเถาเอากล่องผลึกใสใบหนึ่งออกมา ในกล่องนั้นมีแมลงอยู่หลายตัว เขากล่าว “แมลงนี้ ข้าให้จอมภูตแมลงวิญญาณเตรียมมาให้ข้าเป็นพิเศษ! มู่เฉียนซี ฉู่หลี ขอเพียงพวกเจ้ากินแมลงนี้เข้าไป ทำประโยชน์ให้กับสำนักวารีเมฆา แล้วข้าจะไว้ชีวิตพวกเจ้าไม่ให้พวกเจ้าตายเด็ดขาด”
ศิษย์อีกสามคนที่เหลือ ล้วนถูกพวกเขาดูถูกในฝีมือความสามารถ! เป้าหมายของพวกเขาก็คือมู่เฉียนซีกับฉู่หลี
มู่เฉียนซีกล่าวเย้ยหยันว่า “เจ้าตัวน่ารังเกียจขยะแขยงนี้ เหตุใดเจ้าไม่กินเองล่ะ”
“สาวน้อย ข้าว่าเจ้าไม่ชอบไม้อ่อนนะ ชอบไม้แข็งนี่เอง ลงมือ!”
กัวเถาลงมือทันที เขาพุ่งเข้าหาผู้อาวุโสเจ็ดเป็นคนแรก ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดก็คือเขา ส่วนคนอื่นล้วนแต่เป็นศิษย์ของเขา ฝีมือไม่ได้เก่งกาจมาก
มู่เฉียนซีกล่าว “อู๋ตี้ เสี่ยวหง!”
“ศิษย์พี่ทั้งสามถอยไปก่อน!”
ตูม!
อู๋ตี้กับเสี่ยวหงขวางศิษย์สองคนเอาไว้ แม้ว่าพลังจะอ่อนแอแล้ว แต่พวกมันก็เป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ กำลังภายในของพวกมันแข็งแกร่งมาก
“ห้ะ! มู่เฉียนซีมีสัตว์ศักดิ์สิทธิ์สองตัว”
นางช่างเก่งกาจเกินไปแล้ว และสิ่งนี้ยิ่งทำให้พวกเขาอยากจะควบคุมมู่เฉียนซีมากขึ้น
ปราชญ์แห่งภูตระดับสองผู้หนึ่งพุ่งออกไปหมายจะไปจับตัวมู่เฉียนซี แต่มู่เฉียนซีหลบหลีกได้อย่างรวดเร็ว และกระบี่มังกรเพลิงพิฆาตวิญญาณก็ถูกชักออกมาแล้ว
“บัวแดงพิฆาต!”
ฉู่หลีตอนนี้รับมืออยู่กับปราชญ์แห่งภูตระดับสูงผู้หนึ่ง
ไม่เพียงเท่านี้ เขายังแย่งชิงคู่ต่อสู้ของเสี่ยวหงอีกด้วย เนื่องจากคู่ต่อสู้ของเสี่ยวหงเกือบจะทำให้เสี่ยวหงได้รับบาดเจ็บแล้ว
ฉู่หลีกล่าว “เจ้าเป็นสัตว์พันธสัญญาของศิษย์น้องหญิง ห้ามบาดเจ็บเป็นอันขาด”
ตูม! สองรุมหนึ่ง แต่ฉู่หลีกลับเป็นฝ่ายควบคุมเกม
“นี่ข้า ข้าไม่ได้ตาฝาดไปกระมัง! ศิษย์พี่ฉู่หลี…ศิษย์พี่ฉู่หลีเขา…พลังของเขา…พลังของเขาถึงขั้นปราชญ์แห่งภูตระดับเก้าขั้นสูงสุดแล้ว” ศิษย์พี่สามคนนั้นที่มีพลังไม่เพียงพอไม่สามารถเข้าร่วมการต่อสู้ได้ ตอนนี้ได้เห็นถึงพลังความแข็งแกร่งของฉู่หลีแล้ว พวกเขาตกตะลึงพรึงเพริดเป็นอย่างมาก
.