ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1549 ทำให้คนอื่นอิจฉาตาร้อน
หญิงสาวผู้นี้คือมู่เฉียนซี สุ่ยโหรวมองใบหน้างามสะคราญอันสมบูรณ์และดูสูงศักดิ์นั้น ราวกับเคยเห็นจากที่ไหนมาก่อนก็มิปาน
“นี่คือแม่นางมู่หรือ ช่างงดงามยิ่งนัก” สุ่ยโหรวกล่าว
มู่เฉียนซีไม่ชอบคนของสำนักวารีเมฆา ดังนั้นนางจึงไม่ได้ตอบรับใด ๆ และเพียงกล่าวว่า “ในเมื่อมากันพร้อมแล้วก็ออกเดินทางกันเถอะ!”
“ตกลง!”
สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ท่องนภาพร้อมออกเดินทางได้ทุกเมื่อ
และมู่เฉียนซีก็เพิกเฉยต่อสุ่ยโหรวไปเช่นนี้ สีหน้าของสุ่ยโหรวพลันเปลี่ยนไปทันที
สำนักใหญ่ ๆ สำนักอื่นต่างก็ออกเดินทางกันแล้ว มีเพียงแค่สำนักวารีเมฆาที่ไปช้ามาก
สถานที่ที่ซากปรักหักพังหนานหลิงเปิดอยู่บนภูเขาหนานหลิงที่อยู่ใกล้กับเมืองโบราณหนานหลิงนั่นเอง ในตอนนี้กองกำลังต่าง ๆ ในอาณาเขตหนานหลิงต่างทยอยพากันมารวมตัวที่นี่แล้ว
เมืองโบราณอันโดดเดี่ยวแห่งนี้มีความครึกครื้นเป็นบางครั้งเท่านั้น อัจฉริยะของสำนักต่าง ๆ ในอาณาเขตหนานหลิงต่างมุ่งหน้ามาที่นี่
ส่วนโม่ซวนก็ฉวยโอกาสนี้สร้างความสัมพันธ์กับอาณาเขตหนานหลิง ในวันนี้หอหมอปีศาจในเมืองหนานหลิงได้มีอัจฉริยะจากกองกำลังต่าง ๆ มากมายมาอุดหนุน ขายดิบขายดีราวเทน้ำเทท่า
คุณภาพยาลูกกลอนของหอหมอปีศาจนั้นไม่ต้องกล่าวถึงเลย อีกอย่างยังลดราคาลงอีกด้วย การค้าครั้งนี้จึงได้กำไรมาไม่น้อย
วันนี้เป็นวันที่ครึกครื้นที่สุด การค้าของเมืองหนานหลิงล้วนแต่ขายดิบขายดีทุกร้าน และมีพื้นที่การค้าพิเศษที่ขายสินค้าโบราณและหายาก
ในซากปรักหักพังหนานหลิงมีอันตรายซ่อนอยู่ไม่น้อย บางทีการเลือกซื้อของล้ำค่าบางอย่างก็อาจสามารถปกป้องชีวิตของตัวเองเอาไว้ได้ก็ได้ ดังนั้นคนจำนวนมากจึงต่างพากันไปจับจ่ายเลือกซื้อ
และคนที่สนุกที่สุดนั่นก็คือหั่วห้าวหยู่นั่นเอง เขากล่าว “เฉียนซี เราไปเดินดูกันเถอะ! บางทีเราอาจจะได้ของล้ำค่ามาบ้างก็ไม่แน่นะ”
มู่เฉียนซีพยักหน้าพลางกล่าว “ก็ได้! ข้าเองก็อยากไปหาดูสมุนไพรวิญญาณเหมือนกัน”
และแน่นอนว่าฉู่หลีไม่มีทางยอมให้ศิษย์น้องหญิงของตัวเองไปกับเจ้าหั่วห้าวหยู่นั่นเพียงลำพังแน่นอน ดังนั้นด้านหลังของมู่เฉียนซีและหั่วห้าวหยู่จึงมีคนเย็นชาราวกับหุบเขาน้ำแข็งผู้หนึ่งเดินตามมาไม่ห่าง
การค้าที่นี่คึกคักมาก!
“รีบ ๆ มาดูกันเร็วเข้า นี่เป็นอาวุธวิญญาณโบราณที่ได้มาจากซากปรักฟักพังหนานหลิงในครั้งก่อนเลยนะ”
“นี่คือแร่โบราณที่ได้มาจากซากปรักหักพังเมื่อร้อยปีก่อน แวะมาดูกันเร็วเข้า”
“……”
พ่อค้าแม่ขายส่วนใหญ่ใช้คำพูดอ้างว่าสินค้าของตนเป็นของล้ำค่าที่ได้มาจากซากปรักหักพังหนานหลิงทั้งสิ้น และไม่รู้ว่ามีความจริงกี่ส่วน
สมุนไพรวิญญาณต่าง ๆ มู่เฉียนซีดูออกว่าไหนของจริงไหนของปลอม
ต่อมามู่เฉียนซีก็เริ่มจับจ่ายอย่างบ้าคลั่ง
“สมุนไพรวิญญาณต้นนี้ กำนี้ด้วย ห่อนี้ด้วย ข้าเหมาหมดเลย”
เถ้าแก่ยังไม่ทันคิดเงิน ฉู่หลีก็กล่าวว่า “ศิษย์น้องหญิงของข้าเหมาหมด ข้าจ่ายเอง”
“ศิษย์พี่ใหญ่ คิดว่าข้ายากจนมากนักหรือไร” มู่เฉียนซีกล่าว
หอหมอปีศาจที่ทำเงินมหาศาลอยู่ตรงหน้านั้นก็เป็นของนาง!
ฉู่หลีกล่าว “ข้าเป็นศิษย์พี่ของเจ้า!”
ศิษย์พี่ซื้อของให้ศิษย์น้องหญิง ฉู่หลีคิดว่าเป็นเรื่องปกติ
มู่เฉียนซีกล่าว “ช่างเถอะ ข้าจะดูต่อ!”
เมื่อถึงตอนนั้นก็ค่อยหลอมยาขั้นศักดิ์สิทธิ์ให้ศิษย์พี่สักหน่อยก็ได้แล้ว ถกเถียงกับศิษย์พี่ที่พูดน้อยผู้นี้ ถกเถียงไปก็ไร้ประโยชน์
“ทั้งหมดนี้ข้าเหมาหมด”
“เหล่านี้ด้วย…”
มู่เฉียนซีมีหน้าที่เลือก ฉู่หลีมีหน้าที่จ่าย
หั่วห้าวหยู่เองก็คิดไม่ถึงเช่นกัน มู่เฉียนซีไม่สนใจของอย่างอื่น แต่สมุนไพรวิญญาณนางเลือกซื้ออย่างบ้าคลั่ง
และสิ่งที่ทำให้คนอื่นอิจฉาริษยามู่เฉียนซีมากยิ่งกว่านั้นก็คือมีศิษย์พี่คอยจ่ายเงินให้นางนั่นเอง
หั่วห้าวหยู่พรวดไปข้างกายมู่เฉียนซี พลางกระซิบกับนางว่า “เฉียนซี ศิษย์พี่เช่นนี้ เจ้ามอบเขาให้ข้าได้หรือไม่?”
มู่เฉียนซีกล่าว “เจ้าอยากได้เหรอ?”
หั่วห้าวหยู่ยังไม่ทันได้พยักหน้าตอบรับ ฉู่หลีก็กล่าวแทรกออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า
“ศิษย์น้องหญิง ไม่ได้เด็ดขาด!”
มู่เฉียนซีเหลือบมองฉู่หลีด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะกล่าวว่า “ศิษย์พี่ ท่านคงไม่คิดว่าข้าจะส่งท่านให้เขาจริง ๆ หรอกกระมัง”
“เจ้าไม่ใช่ศิษย์ของสำนักลั่วเยว่ หากอยากได้เขาเป็นศิษย์พี่ เจ้าก็คงต้องย้ายสำนักแล้วล่ะ”
หั่วห้าวหยู่กล่าว “เจ้าพูดเช่นนี้ ข้าก็ไม่รู้จะพูดเช่นไรแล้ว”
ผู้อาวุโสของสำนักพวกเขายังคิดจะเอาคนของสำนักลั่วเยว่อยู่เลย! นึกไม่ถึงเลยว่าเขาจะโดนคนของสำนักลั่วเยว่ทาบทามเช่นนี้
ฉู่หลีแอบดีใจเล็กน้อย แต่สีหน้านั้นไร้อารมณ์และความรู้สึก “ข้ารู้อยู่แล้วว่าศิษย์น้องหญิงไม่ทำเช่นนั้นแน่นอน”
เขาหันหน้าหลบ และอยู่ห่างจากมู่เฉียนซีเล็กน้อย เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้มู่เฉียนซีพบถึงความผิดปกติของเขาได้
มู่เฉียนซีเพ่งเล็งความสนใจไปที่สมุนไพรวิญญาณตลอดเวลา แน่นอนว่านางไม่ได้สนถึงสีหน้าท่าทางของฉู่หลีเลยแม้แต่น้อย
ในตอนนี้เอง หญิงสาวรูปร่างเย้ายวนผู้หนึ่งก็เดินเข้ามา นางมองฉู่หลีพลางขยิบตาเล็กน้อยและกล่าวว่า “พี่ชายท่านนี้ไม่ทราบว่าเป็นศิษย์สำนักใดหรือเจ้าคะ ลงมือได้อย่างฟุ่มเฟือยเช่นนี้ จะใจดีซื้อให้ข้าสักหน่อยได้บ้างหรือไม่?”
“คันธนูนั้น ข้าชอบมันยิ่งนัก แต่เถ้าแก่ร้านนั้นใจดำ ขายราคาแพงมาก ท่านพี่อ่อนโยนกับสตรีเช่นนี้ จะช่วยข้าสักหน่อยได้หรือไม่?”
ฉู่หลีสนับสนุนมู่เฉียนซีอย่างไร้ขอบเขต จ่ายเงินไปภายในชั่วพริบตาเดียว และแน่นอนว่าสิ่งนี้ย่อมทำให้คนอื่นอิจฉาริษยานางมาก
หญิงสาวผู้นี้มีรูปร่างที่เย้ายวน น้ำเสียงของนางก็มีเสน่ห์ชวนให้หลงยิ่งนัก หากเป็นชายหนุ่มธรรมดาทั่วไปมีหวังต้องใจอ่อนแล้วเป็นแน่
แต่ฉู่หลีเป็นคนเย็นชา ไม่หลงกลนางอย่างแน่นอน
เผชิญหน้ากับคนเช่นนี้ ฉู่หลีไม่ได้สนใจนางเลยสักนิด จากนั้นก็ไปจ่ายให้มู่เฉียนต่อ
จีซานเหนียงโกรธเกรี้ยวจนแทบบ้าแล้ว ชายผู้นี้ไม่ไว้หน้านางเลยแม้แต่น้อย นึกไม่ถึงเลยว่าจะเมินเฉยต่อนางเช่นนี้
จีซานเหนียงกล่าวเย้ยหยันว่า “น้องสาวผู้นั้นรูปร่างหน้าตาก็ธรรมดา ท่านพี่ทุ่มให้นางเช่นนี้ไม่กลัวนางจะหลอกท่านหรือไร”
ชั่วพริบตาเดียวนั้นเอง กลิ่นอายอันเย็นยะเยือกก็แผ่ซ่านออกมา
ฟึ่บ!
จีซานเหนียงรู้สึกเจ็บปวดที่ใบหน้า ทันทีที่ยกมือลูบสัมผัสใบหน้าก็พบว่ามีรอยเลือดบนใบหน้าเสียแล้ว
ฉู่หลีมองนางด้วยสีหน้าเย็นชาก่อนจะกล่าวว่า “ศิษย์น้องหญิงของข้าหน้าตาดีที่สุดแล้ว อย่าให้ข้าได้ยินเจ้ากล่าววาจาเช่นนี้อีก มิเช่นนั้นข้าจะฆ่าเจ้า!”
มู่เฉียนซีมองไปที่ฉู่หลีด้วยรอยยิ้ม พลางกล่าวว่า “นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าได้ยินศิษย์พี่ชมข้าเช่นนี้”
ฉู่หลีรีบแหงนหน้ามองท้องฟ้า ยกมือขึ้นลูบหน้าผากตัวเอง และรู้สึกใบหน้าร้อนผ่าวขึ้น
ศิษย์น้องดีใจที่เขาชม! ศิษย์น้องยิ้มกับเขา ศิษย์น้อง…
มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าวว่า “ศิษย์พี่ก็รูปงาม รูปงามที่สุด นี่แค่ออกจากสำนักมาก็มีสตรีไม่เจียมตัวหมายปองเข้าแล้ว”
ถูกมู่เฉียนซีชื่นชมเช่นนี้ ใบหูของฉู่หลีก็ทั้งร้อนผ่าวแถมยังแดงระเรื่อ
จีซานเหนียงกล่าว “เจ้า นี่เจ้าว่าใครไม่เจียมตัว”
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างคนไร้ความผิด “ท่านป้า ไม่ใช่ท่านหรอกเหรอ หากไม่ใช่ท่านแล้วท่านจะร้อนตัวไปด้วยเหตุใดเล่า”
“เจ้า…นี่เจ้าเรียกข้าป้าเหรอ เจ้ามันรนหาที่ตาย!”
เล็บของจีซานเหนียงยาวขึ้น นางอยากจะข่วนใบหน้ารูปไข่อันงดงามนั้นของหญิงผู้นี้ให้เสียโฉมไปซะ
หากนางเสียโฉม ศิษย์พี่ผู้นี้ยังจะแสนดีกับนางอีกหรือไม่?
มู่เฉียนซีกล่าวเสียงเย็นชาว่า “โล่มังกรวารี!”
การโจมตีของจีซานเหนียงคือใบหน้า และการโจมตีของมู่เฉียนซีก็เฉกเช่นเดียวกัน นั่นก็คือใบหน้าของนาง
ปัง!
มู่เฉียนซีหลบหลีกได้อย่างง่ายดาย ทว่า จีซานเหนียงกลับหลบไม่ได้ ผม ใบหน้า และเนื้อตัวของนางเปียกโชกไปทั้งหมด
และสิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือ แป้งบนใบหน้าของนางหลุดออกจนหมด
เดิมทีจีซานเหนียงเป็นสตรีที่มีเสน่ห์ ใบหน้าที่แต่งเสริมเติมแต่งนั้นพลันเปลี่ยนไปมาก
“ข้าบอกว่าเจ้าคือท่านป้า ไม่เชื่อก็ไปส่องกระจกดูเอาเองสิ แล้วจะรู้ว่าข้าพูดจริงหรือไม่?”
“เจ้า…เจ้า ข้าจะสั่งสอนเจ้า!” และในขณะที่จีซานเหนียงจะลงมือนั้นเอง มู่เฉียนซีตะโกนว่า “มีคนลงมือทำร้ายร่างกายคนอื่นในเมืองหนานหลิง เมืองหนานหลิงไม่มีกฎเกณฑ์เลยหรือ?”