ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1551 เฉียนซีถูกกลืนลงไปแล้ว
มู่เฉียนซีกล่าว “ไอน้ำรอบ ๆ บริเวณเริ่มเพิ่มมากขึ้นแล้ว ข้างหน้าคงจะมีแอ่งน้ำอยู่อีกไม่ไกล เราลองไปดูกันสักหน่อยเถอะ”
เมื่อพวกเขาเดินทางมาถึง พวกเขาจึงจะพบว่านั่นไม่ใช่แอ่งน้ำ ทว่าเป็นบึงน้ำขนาดใหญ่บึงหนึ่ง
ถึงแม้บึงน้ำจะอันตราย ทว่าก็มีสิ่งของดี ๆ อยู่ไม่น้อย อย่างเช่นสมุนไพรวิญญาณนานาชนิด
มู่เฉียนซีกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วกล่าว “แยกย้ายกันเก็บ แยกย้ายกันหา ผู้ใดเก็บสมุนไพรวิญญาณได้ก็นับว่าเป็นของคนผู้นั้น ระมัดระวังตัวด้วย”
สมุนไพรวิญญาณแต่ละต้นในสถานที่แห่งนี้มีราคาสูงเสียดฟ้า แน่นอนว่าพวกเขาจะต้องกระตือรือร้นที่จะค้นหาและเก็บสมุนไพรเหล่านั้นอย่างแน่นอน
สวบ สวบ สวบ!
ผู้คนที่ถูกทางกองกำลังระดับสามต่าง ๆ คัดเลือกเข้ามานั้น ล้วนแต่มีความสามารถที่ไม่ธรรมดาทั้งสิ้น และแน่นอนว่าพวกเขาจะต้องฝ่าพันอุปสรรคที่อยู่เบื้องหน้าไปได้อย่างแน่นอน
ในฐานะที่มู่เฉียนซีเป็นนักปรุงยาคนหนึ่ง นางจึงคุ้นเคยกับสมุนไพรวิญญาณของที่นี่เป็นอย่างดี ทันใดนั้นนางก็เหลือบไปเห็นสมุนไพรวิญญาณราคาสูงลิบลิ่วต้นหนึ่งเข้า และเตรียมที่จะเข้าไปเก็บ
ผลปรากฏว่ามีเงาสีดำเงาหนึ่งวาบผ่านไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็เข้าไปเก็บสมุนไพรล้ำค่าต้นนั้นไปต่อหน้าต่อตานาง
“ศิษย์น้อง!” ฉู่หลียื่นหญ้าจิ่วเยว่ซิงเทียนที่เพิ่งเก็บมาได้ให้กับมู่เฉียนซี
เดิมทีสมุนไพรวิญญาณนี้เป็นเป้าหมายของสุ่ยโหรว ผลปรากฎว่าในเวลาเพียงชั่วพริบตาสมุนไพรวิญญาณที่นางหมายปองก็ถูกส่งให้กับมู่เฉียนซีไปแล้ว
สิ่งนี้ทำให้สุ่ยโหรวโกรธเป็นอย่างยิ่ง นางขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน จนแทบจะกัดฟันที่หล่อขึ้นด้วยเงินแตกเป็นสองซีก
มู่เฉียนซีกล่าว “ขอบใจศิษย์พี่”
ทันใดนั้นเงาสีม่วงก็วาบผ่านไปด้วยความรวดเร็ว มู่เฉียนซีรีบพุ่งตัวออกไป แล้วเข้าไปถอนสมุนไพรวิญญาณที่ดูไม่สะดุดตาต้นหนึ่งข้างกายสุ่ยโหรว
เมื่อรากของสมุนไพรวิญญาณสีขาวนวลดุจหยกโผล่พ้นจากพื้นดิน ก็มีศิษย์พี่หูตาไวผู้หนึ่งกล่าวขึ้น “นั่นมันหญ้าอวี่อวี้หลิงนี่!”
มันแทบจะล้ำค่าเสียยิ่งกว่าสมุนไพรวิญญาณที่นางได้รับจากฉู่หลีเสียอีก
ส่วนสุ่ยโหรวที่บัดนี้ในมือยังคงว่างเปล่า ก็อยากจะผลักมู่เฉียนซีออกไปไกล ๆ จากตัวเป็นอย่างยิ่ง
แต่ถึงกระนั้นนางก็ยังสามารถยับยั้งชั่งใจได้
การแยกย้ายกันค้นหาและเก็บสมุนไพรวิญญาณต่าง ๆ ยังคงดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ ฉู่หลีไม่ได้สนใจเรื่องเหล่านี้สักเท่าไร ทว่าเมื่อศิษย์น้องชอบ เขาจึงเก็บสมุนไพรวิญญาณด้วยความแคล่วคล่องว่องไวเป็นอย่างยิ่ง ทำให้ได้สมุนไพรวิญญาณมาจำนวนไม่น้อย
ไม่ได้มีเพียงพวกเขาเท่านั้นที่ค้นพบบึงน้ำแห่งนี้ ยังมีคนอีกสำนักหนึ่งที่ค้นพบแล้วเช่นกัน พวกเขาต่างรีบกระโจนกันเข้ามาราวกับหมาป่าที่จ้องจะตะครุบเหยื่อ
เดิมทีซากปรักหักพังหนานหลิงก็เป็นสถานที่ใช้ฝึกยุทธของบรรดาสำนักต่าง ๆ ทุก ๆ สำนักล้วนมีสิทธิ์ในสถานที่แห่งนี้ ตราบใดที่อีกฝ่ายไม่ได้ริเริ่มโจมตี พวกเขาเองก็คร้านที่จะสนใจ
ทว่าดูเหมือนจะมีคนของสำนักสำนักหนึ่งเกิดไม่ระวัง จากนั้นจึงมีสุ้มเสียงร้องขอความช่วยเหลือแว่วดังขึ้น
“อ้า! ช่วยด้วย!”
“ศิษย์น้อง!”
เมื่อพบว่าศิษย์น้องของตนเองค่อย ๆ จมดิ่งลงไปต่อหน้าต่อตา คนอื่น ๆ จึงรีบเข้าไปช่วยในทันที แต่ไม่ว่าพวกเขาจะใช้พลังวิญญาณอย่างไร พวกเขาก็ไม่อาจดึงศิษย์น้องผู้นั้นขึ้นมาได้ ซ้ำร้ายยังทำให้ผู้อื่นพลอยเป็นอันตรายไปด้วย
สุ่ยโหรวที่ไม่อาจทนดูต่อไปได้จึงกล่าวขึ้นว่า “แม่นางมู่ พวกเราควรเข้าไปช่วยพวกเขาหรือไม่ พวกเขาน่าเวทนามากจริง ๆ”
มู่เฉียนซีกล่าว “ข้าไม่อยากเข้าไปยุ่งเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับข้า”
สุ่ยโหรวกล่าวด้วยความร้อนใจ “นี่แม่นางมู่เรียกว่าเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับแม่นางได้อย่างไร นั่นมันชีวิตหนึ่งชีวิตเชียวนะ! ถึงแม้แม่นางมู่จะเป็นผู้นำกลุ่ม แต่แม่นางก็ไม่อาจทำตัวเย็นชาไร้ความเมตตาเช่นนี้ได้”
“หากเจ้าไม่ช่วย ข้าจะช่วยเอง!”
“ศิษย์พี่สุ่ยโหรว พวกเราจะไปกับท่านด้วย” ศิษย์สำนักวารีเมฆาคนอื่น ๆ ก็กล่าวขึ้นอย่างพร้อมเพรียงกัน
มีศิษย์จากสำนักอื่น ๆ อีกสองสำนักที่ได้เข้าไปช่วยเหลือเช่นกัน มู่เฉียนซีเองก็ไม่ได้ห้ามปรามแต่อย่างใด
“ดีจริงเชียว มีคนมาช่วยพวกเราแล้ว”
“พวกเจ้าเป็นคนของสำนักใด พวกเจ้าช่างมีเมตตาเหลือเกิน!พวกเรารู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก”
“…..”
โฮก!
ขณะที่พวกเขากำลังช่วยคนที่ติดอยู่ในบึงน้ำ ทันใดนั้นเสียงร้องคำรามของสัตว์ประหลาดจากบึงน้ำก็ดังกึกก้องขึ้น
พรวด! โคลนตมพุ่งกระจายไปทุกทิศทาง ภายใต้บึงน้ำแห่งนี้มีสัตว์ประหลาดบึงน้ำตัวหนึ่งอาศัยอยู่ มันอ้าปากกว้าง แล้วใช้แรงดูดอันมหาศาลดูดพวกเขาลงท้องไป
ทุก ๆ คนตกใจจนใบหน้าซีดเผือด “อ้า!”
“ช่วยด้วย!”
“ศิษย์น้องมู่ ช่วยด้วย!”
ในที่สุดคนที่เข้าไปช่วยศิษย์อีกสำนักพร้อมกับสุ่ยโหรวเหล่านั้น ก็เริ่มรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาแล้ว พวกเขาร้องขอความช่วยเหลือด้วยความตื่นตระหนกเต็มประดา
“ศิษย์น้องมู่!”
มู่เฉียนซีคว้าเชือกจากกลางอากาศ จากนั้นก็โยนไปให้ฉู่หลีแล้วกล่าว “ศิษย์พี่ ประเดี๋ยวข้าจะนำเชือกไปรัดตัวพวกเขาไว้ แล้วศิษย์พี่ก็ค่อยดึงทุก ๆ คนขึ้นมานะเจ้าคะ”
ฉู่หลีกล่าว “ศิษย์น้อง ระวังตัวด้วย!”
“อื้ม!”
เมื่อมู่เฉียนซีทะยานตัวออกไป นางก็ได้เหวี่ยงเชือกออกไปรัดตัวทุกคนไว้
“ดึงได้!” มู่เฉียนซีกล่าว
ฉู่หลีออกแรงเพียงเล็กน้อย คนเหล่านั้นก็สามารถหลุดพ้นจากการตกเป็นอาหารของสัตว์ประหลาดบึงน้ำได้ในที่สุด
โฮก! เมื่ออาหารอันโอชะที่อยู่ในปากอันตรธานหายไปต่อหน้าต่อตา สัตว์ประหลาดบึงน้ำก็โกรธเป็นอย่างยิ่ง มันจ้องเขม็งไปยังมู่เฉียนซี ผู้ที่ทำให้มันต้องชวดอาหารอันโอชะไปด้วยสายตาเคียดแค้น
ความน่ากลัวกำลังคืบคลานเข้ามา สัตว์ประหลาดบึงน้ำกระโดดขึ้นมาจากบึง ร่างกายทั้งตัวของมันก็คือบึงน้ำทั้งบึงนั่นเอง
ความเร็วของมันเป็นอะไรที่น่าตกใจเป็นอย่างยิ่ง จอมภูตขั้นจักรพรรดิวิญญาณธรรมดาทั่วไปไม่มีทางหลบหลีกได้ทันอย่างแน่นอน
หั่วห้าวหยู่กล่าวด้วยความตกใจเป็นอย่างยิ่ง “เฉียนซี ระวัง!”
“ผู้นำมู่!”
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีของสัตว์ประหลาดบึงน้ำ มู่เฉียนซีก็หลบหลีกได้อย่างสบาย ๆ ไม่รีบร้อนและไม่เชื่องช้ามากจนเกินไป สิ่งที่สัตว์ประหลาดบึงน้ำโจมตีได้ มีเพียงเงาของมู่เฉียนซีเท่านั้น
และเมื่อมู่เฉียนซีสามารถหลบหลีกการโจมตีได้ สุ่ยโหรวจึงรู้สึกผิดหวังเป็นอย่างยิ่ง
“มังกรน้ำแข็งท้าสวรรค์!”
ขณะที่กำลังหลบหลีก พลังวิญญาณธาตุวารีของมู่เฉียนซีก็ได้ระเบิดออกมาอย่างสมบูรณ์ มังกรน้ำแข็งพุ่งปรี่เข้าชนเบื้องหลังของสัตว์ประหลาดบึงน้ำอย่างรวดเร็ว
ปัง!
เมื่อมังกรน้ำแข็งพุ่งเข้าชนร่างของสัตว์ประหลาดบึงน้ำแล้ว สัตว์ประหลาดบึงน้ำไม่เพียงแต่จะไม่ได้รับบาดเจ็บเท่านั้น ทว่ามันยังระเบิดดินโคลนลักษณะต่าง ๆ ออกมาจากทั่วร่างของมันอีกด้วย
มู่เฉียนซีจึงรีบหลบหลีกอย่างรวดเร็ว นางกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “โล่วิญญาณน้ำแข็ง!”
ปัง ปัง ปัง ปัง!
โล่น้ำแข็งสามารถต้านทานดินโคลนเหล่านั้นได้ มู่เฉียนซีจึงสามารถรอดพ้นจากสัตว์ประหลาดที่ทั่วทั้งตัวเป็นดินโคลนไปได้อย่างหวุดหวิด
ภายใต้สถานการณ์อันแสนวุ่นวาย ทันใดนั้นสัตว์ประหลาดบึงน้ำก็จู่โจมเข้ามาอย่างกะทันหัน
“มังกรวารีสังหาร!”
ปัง ปัง ปัง!
การโจมตีไม่อาจทำอะไรสัตว์ประหลาดบึงน้ำตัวนี้ได้ อย่างมากก็ทำให้มันพ่นดินโคลนออกมาได้ก็เท่านั้น
ทว่าการโจมตีของมันรวดเร็วเกินผู้ใดเทียบ หากไม่ใช่เพราะความเร็วของมู่เฉียนซีมิได้ด้อยไปกว่ามันแล้ว เกรงว่าคงต้องเสียเปรียบมันอย่างแน่นอน
สุ่ยโหรวกล่าว “พวกเรา…พวกเราควรไปช่วยแม่นางมู่ดีหรือไม่ ดูเหมือนว่านางจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของสัตวประหลาดตัวนั้นนะ”
ฉู่หลีกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เจ้ามีแต่จะไปเป็นภาระ!”
เขายังคงเชื่อมั่นในพลังและความสามารถของศิษย์น้องหญิงของเขาอยู่!
ทว่าในเวลาเพียงชั่วพริบตา สัตว์ประหลาดบึงน้ำก็ขยายร่างให้ใหญ่โตมหึมาขึ้น พลางอ้าปากกลืนมู่เฉียนซีที่ไม่อาจหลบหลีกได้ทันลงท้องไปอย่างรวดเร็ว
ทุก ๆ คนต่างตกใจจนดวงตาเบิกโพลง “ศิษย์น้องมู่!”
“แม่นางมู่!”
ถูกกลืนลงไปแล้ว ผู้นำกลุ่มของพวกเขาถูกสัตว์ประหลาดบึงน้ำกลืนลงท้องไปแล้ว
ในที่สุดสตรีผู้นี้ก็ย่ำเข้าประตูผีไปเสียที ช่างน่าชื่นใจเสียจริง!
สุ่ยโหรวรู้สึกครึ้มอกครึ้มใจเป็นอย่างยิ่ง
หั่วห้าวหยู่ตะคอกออกไปด้วยความโกรธแค้น “ชั่วช้า! ต้องโทษเจ้าคนเดียวที่เข้าไปยุ่งเรื่องไม่เป็นเรื่อง เจ้าทำให้เฉียนซีเป็นอันตราย”
และแน่นอนว่าคนของสำนักวารีเมฆา ย่อมต้องเข้าข้างสุ่ยโหรวอย่างไม่ต้องสงสัย พวกเขากล่าว “ศิษย์พี่สุ่ยโหรวมีใจเมตตาและหวังดี เจ้ามีสิทธิ์อันใดมาด่าว่านาง ที่มู่เฉียนซีถูกเจ้าสัตว์ประหลาดบึงน้ำจัดการ ก็เพราะเจ้ามีความสามารถไม่มากพอต่างหาก”
หั่วห้าวหยู่กล่าว “ไอ้พวกลืมบุญคูณ หากเฉียนซีไม่เข้าไปช่วยพวกเจ้า ป่านนี้พวกเจ้าก็เข้าไปอยู่ในท้องของมันแล้ว”
ปัง! หลังจากที่มู่เฉียนซีถูกสัตว์ประหลาดบึงน้ำกลืนลงท้องไป ฉู่หลีก็เริ่มลงมือจัดการสัตว์ประหลาดตัวนั้นในทันที
เสียงอึกทึกครึกโครมดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่ว การโจมตีอันแสนดุเดือดของฉู่หลี ทำให้สัตว์ประหลาดบึงน้ำทำได้เพียงด่ำดิ่งลงไปซ่อนยังก้นบึงเท่านั้น
ฉู่หลีก็ไม่หวั่นใจ เขายังคงตามหามันด้วยสีหน้าเย็นชาราวก้อนน้ำแข็ง
อีกด้านหนึ่ง กลุ่มศิษย์จากสำนักหนึ่งที่สุ่ยโหรวเข้าไปช่วยไว้ เมื่อพบว่าตอนนี้ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดสองคนในกลุ่มไม่ได้อยู่แล้ว และคนอื่น ๆ ก็ล้วนดูไม่ได้มีพลังที่แกร่งกล้าอันใด
พวกเขามาถึงที่นี่ก่อน แน่นอนว่าพวกเขาจะต้องได้รับสิ่งของล้ำค่ากลับไปไม่น้อยเช่นกัน
พวกเขาทอดมองไปยังสุ่ยโหรวแล้วกล่าวว่า “ขอบใจพวกเจ้ามากที่ยื่นมือเข้ามาช่วย ในเมื่อช่วยก็ช่วยแล้ว เช่นนั้นก็จงช่วยให้ถึงที่สุดเถิด นำสมุนไพรวิญญาณที่พวกเจ้าเก็บได้มาให้พวกข้าเสียดี ๆ”
.
.