ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1558 ช่วยได้
บรรยากาศบริเวณรอบเริ่มตึงเครียดมากขึ้น เห็นได้ชัดว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองฝ่ายไม่ได้ดีเลย ต่างฝ่ายต่างรู้จักนิสัยใจคอกันและกัน
จีหว่านเหนียงทำหน้าที่เป็นผู้ไกล่เกลี่ย นางกล่าว “ทุกท่าน ข้าว่าเข้าไปข้างในก่อนเถอะแล้วค่อยว่ากัน ขืนยังมัวแต่เสียเวลาอยู่ตรงนี้ ประเดี๋ยวเกรงว่าทางเข้าจะปิดลงเสียก่อน”
สุดท้ายพวกเขาทั้งสองฝ่ายต่างก็ยังคงชักสีหน้าใส่กันอยู่ดี
หั่วห้าวหยู่กล่าว “เฉียนซี ระวังตัวด้วย ข้าได้ยินมาว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังของทั้งสองสำนักไม่ใช่คนธรรมดา แต่ละคนรับมือได้ยากยิ่งนัก”
มู่เฉียนซีพยักหน้าพลางกล่าวว่า “อืม! ข้าเข้าใจแล้ว”
“ศิษย์พี่ ไปกันเถอะ!”
ร่างในชุดม่วงและร่างในชุดดำเดินผ่านม่านแสงนั้นโดยที่ไม่ได้สนใจทั้งสองกองกำลังเลยว่าจะมีปากเสียงกันเช่นไร
พวกเขาเองก็คิดไม่ถึงเช่นกันว่าการมีปากเสียงเพียงเล็กน้อยนี้จะทำให้คนของสำนักเล็ก ๆ สำนักหนึ่งชิงเดินเข้าพระราชวังหนานหลิงไปก่อนเช่นนี้ ดังนั้นสีหน้าของพวกเขาจึงไม่พอใจเป็นอย่างมาก
“สองคนนั้น ช่างไม่รู้ความเกินไปแล้วกระมัง!”
“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน ไม่ได้รับอนุญาตจากพวกข้า นึกไม่ถึงเลยว่าจะกล้าชิงเข้าไปก่อน!”
แม้ว่าพวกเขาจะเป็นเหมือนดั่งน้ำกับไฟ แต่นิสัยของพวกเขานั้นไม่ได้แตกต่างกันเลยสักนิด
สุ่ยโหรวจุดฉนวนความขัดแย้งขึ้นอีกครั้ง “ศิษย์พี่หวัง ท่านไม่รู้อะไรเสียแล้ว มู่เฉียนซีผู้นั้นคิดว่าตัวเองแข็งแกร่งมาก นางถึงได้เย่อหยิ่งถึงเพียงนั้น”
“ต่อให้แข็งแกร่งเช่นไร พลังก็แค่ขั้นมหาจักรพรรดิอยู่ดี ไม่ได้น่าพิศวงอะไร…”
ศิษย์พี่หวังกำลังพูดอยู่! นึกไม่ถึงเลยว่าชายหน้าไม่อายกลุ่มนั้นของสำนักหลางซิงจะชิงพรวดเข้าไปแล้ว
ศิษย์พี่หวังกล่าว “อย่ามัวแต่พูดจาไร้สาระอยู่เลย รีบไปเร็วเข้า! จะให้พวกนั้นนำไปไม่ได้เด็ดขาด”
ขวับ ขวับ ขวับ!
กลุ่มชายหญิงแห่งสำนักหลินเยว่และสำนักหลางซิงเหล่านี้ รีบแก่งแย่งชิงกันพุ่งเข้าไปด้านใน
จีซานเหนียงกล่าวด้วยความตื่นเต้นว่า “พี่ใหญ่ เรารีบไปเถอะ!”
จีหว่านเหนียงกล่าว “น้องสาม พวกเรารอให้พวกเขาแย่งชิงกันให้ตายกันไปข้างนึงก่อน แล้วเรารอโอกาสก็พอแล้ว เจ้าอย่าได้ผลีผลามเป็นอันขาด ตามพวกเขาไปก่อน ไม่ต้องรีบร้อน!”
“ส่วนมู่เฉียนซีผู้นั้น พวกมันเย่อหยิ่งไม่เห็นใครอยู่ในสายตาเช่นนั้น ล่วงเกินคนของสำนักหลินเยว่กับคนของสำนักหลางซิง ตราบใดที่พวกนั้นเจอกัน มู่เฉียนซีไม่มีทางได้อยู่เป็นสุขแน่ เจ้าเองก็อย่าได้รีบร้อนแก้แค้นล่ะ”
จีซานเหนียงกล่าว “ข้าฟังพี่ใหญ่อยู่แล้ว ตราบใดที่พวกเราได้กระดูกศักดิ์สิทธิ์มา และทำให้ท่านพ่อทะลวงพลังวิญญาณได้ สำนักของพวกเราก็จะเป็นสำนักที่แข็งแกร่งที่สุดในอาณาเขตหนานหลิง ข้ารู้ว่าสิ่งใดสำคัญกว่า”
“คิดได้เช่นนี้พี่ใหญ่อย่างข้าก็สบายใจ เราไปกันเถอะ!”
ทั้งสองคนเข้าเป็นคนสุดท้าย จำนวนคนที่เข้าไปด้านในมีทั้งหมดยี่สิบสองคน!
เมื่อเดินผ่านม่านแสงนั้นมา มู่เฉียนซีกับฉู่หลีก็เข้ามาอยู่ท่ามกลางป่าไม้ที่มืดมิดแห่งหนึ่ง ต้นไม้ใบหญ้าที่แน่นทึบทำให้ในป่าแห่งนี้ไม่มีแสงสว่างเล็ดลอดสาดส่องเข้ามาได้
ฉู่หลีรับรู้ได้ถึงอันตรายจากที่แห่งหนึ่ง จึงกล่าวเตือนมู่เฉียนซีว่า “ศิษย์น้อง ที่นี่อันตรายมาก เจ้าเดินตามหลังข้า”
เขาเพิ่งจะกล่าวจบ เสียงพุ่งตัดผ่านอากาศนับไม่ถ้วนก็พุ่งมาจากรอบบริเวณ ต้นไม้ใบหญ้าในที่แห่งนี้เคลื่อนไหวราวกับอสรพิษนับไม่ถ้วนที่แยกเขี้ยวพุ่งเข้าหาพวกเขา
มองอะไรไม่เห็นเลย ทำได้แค่ใช้พลังจิตในการรับรู้เท่านั้น!
ปัง ปัง ปัง!
กิ่งก้านเหล่านี้รวดเร็วมาก หากไม่ใช่เพราะปลุกพลังแห่งมิติขึ้นมาได้แล้ว คาดว่าความเร็วของนางก็คงไม่อาจหลบหลีกทันเป็นแน่
“ศิษย์พี่!”
“ข้าไม่เป็นอะไร! คิดหาทางออกจากที่นี่เร็วเข้า เราจะอยู่ที่นี่นานไม่ได้”
รับมือกับต้นไม้เหล่านี้ มู่เฉียนซีเอากระบี่มังกรเพลิงพิฆาตวิญญาณออกมาแล้ว!
เปลวไฟสีแดงฉานทำให้มิติแห่งนี้สว่างเจิดจ้าขึ้น นึกไม่ถึงเลยว่าบริเวณรอบ ๆ ที่นางคิดว่าเป็นป่าไม้นั้น แท้ที่จริงแล้วมีเพียงแค่ต้นไม้เพียงต้นเดียวเท่านั้น ต้นไม้ต้นนี้เหมือนต้นไทรยิ่งนัก รากของมันแผ่ขยายสาขาได้อย่างหนาแน่นมาก
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเย็นชาว่า “เพลิงสังหารซิวหลัว!”
ตูม เปรี้ยง เปรี้ยง!
เปลวไฟสีแดงฉานปะทุออกมาอีกครั้ง แต่ต้นไม้ต้นนี้ฉลาดมาก มันทิ้งส่วนที่ไหม้เปลวไฟนั้นและทำลายลง
“บัวแดงพิฆาต!”
มู่เฉียนซีโจมตีด้วยกระบี่อีกครั้ง บัวอัคคีอันน่าสะพรึงกลัวพุ่งขึ้นสู่กลางอากาศ นางหวังว่าจะทะลวงออกไปได้ทางอากาศ
ตูม!
บัวอัคคีสีแดงฉานดอกหนึ่งปรากฏอยู่กลางอากาศราวกับดวงอาทิตย์ก็มิปาน แต่ยังคงทำลายออกไปไม่ได้อยู่ดี
ต้นไม้ปีศาจต้นนี้รับมือได้ยากกว่าที่จินตนาการเอาไว้มาก
ตูม เปรี้ยง เปรี้ยง!
สองคนร่วมมือกัน แต่แม้แต่ช่องว่างเล็ก ๆ ก็ยังเปิดไม่ได้ ต้นไม้ปีศาจนี้อยากจะกักขังพวกเขาให้ตายอยู่ที่นี่เป็นแน่
ในขณะที่มู่เฉียนซีกำลังประสบกับอันตรายรอบด้านอยู่ในที่แห่งนี้ คนอื่น ๆ ต่างก็ไม่ได้อยู่อย่างสงบเช่นกัน
นับตั้งแต่เริ่มเข้ามาสู่พระราชวังโบราณแห่งนี้ อันตรายก็ย่างกรายเข้ามาแล้ว
มู่เฉียนซีกล่าว “ศิษย์พี่ เราจะต้องหาจุดสำคัญของมันให้เจอ ศิษย์พี่จะต้านทานมันไว้ได้นานเพียงใด?”
ฉู่หลีกล่าว “ข้าจะพยายามอย่างสุดความสามารถ ศิษย์น้องหญิง ระวังตัวด้วย”
มู่เฉียนซีพยักหน้าพลางกล่าว “อืม!”
ซู่ ซู่!
เผชิญหน้ากับการโจมตีของต้นไม้ปีศาจเช่นนี้ มู่เฉียนซีทำได้เพียงแค่ใช้การเคลื่อนย้ายภายในชั่วพริบตาเท่านั้น ไม่ได้ตอบโต้!
พลังจิตแผ่ซ่านออกมาอย่างสมบูรณ์ จากนั้นพลังจิตของนางก็ได้สำรวจไปทั่วทุกซอกทุกมุมของกิ่งก้านต้นไม้ปีศาจนี้
และในขณะที่มู่เฉียนซีแผ่ซ่านพลังจิตออกมานั้น ฉู่หลีก็ตกใจผงะไปครู่หนึ่ง!
ช่างเป็นพลังจิตที่แข็งแกร่งอย่างไม่อาจเทียบได้จริง ๆ!
แต่ศิษย์น้องหญิงใช้พลังจิตเช่นนี้จะต้องเจ็บปวดมากแน่ หากรู้ว่าศิษย์น้องหญิงจะใช้วิธีเช่นนี้ เขาไม่มีทางยอมให้นางทำเป็นอันขาด
ฉู่หลีรู้สึกกลัดกลุ้มใจมาก เขาลงมืออย่างรวดเร็ว เงากระบี่ที่กวัดแกว่งออกไปนั้นรวดเร็วจนแทบจะมองไม่ชัด
ต้นไม้ปีศาจต้นนี้ช่างน่ากลัวเกินไปจริง ๆ แต่ในที่สุดมู่เฉียนซีก็หาจุดรวมพลังของมันเจอจนได้ ตรงนั้นมีแสงสว่างสีเขียวอ่อนอยู่ และมันก็เต็มไปด้วยพลัง
ทว่า จะทำเช่นไรถึงจะเข้าไปทำลายของที่อยู่ในส่วนลึกนั้นได้กันเล่า!
“นายท่าน ข้าทำได้ ให้ข้าจัดการเถอะ! ในที่สุดก็ถึงเวลาที่ข้าจะได้แสดงฝีมือสักที” น้ำเสียงอันแสนตื่นเต้นเสียงหนึ่งดังขึ้น
และเสียงนี้ก็ดังออกมาจากกระบี่มังกรเพลิงพิฆาตวิญญาณนั่นเอง
น้ำเสียงและวาจาเช่นนี้ไม่ใช่พิฆาตวิญญาณแน่นอน แต่เป็นมังกรเพลิง
หลังจากที่กระบี่มังกรเพลิงพิฆาตวิญญาณได้หลอมรวมกันอย่างสมบูรณ์ มังกรเพลิงกับพิฆาตวิญญาณก็เงียบงันมาตลอด หลังจากที่เงียบมานาน ในที่สุดวันนี้ก็เคลื่อนไหวแล้ว
“นายท่าน หลังจากที่ข้าได้หลอมรวมกันกับพิฆาตวิญญาณ พลังข้าก็ฟื้นฟูได้รวดเร็วยิ่งนัก! ตอนนี้ข้าแข็งแกร่งมาก!”
“เจ้าฟื้นแล้ว แล้วพิฆาตวิญญาณล่ะ?”
แม้ว่าจะทำพันธสัญญาเป็นทาส แต่เจ้าพิฆาตวิญญาณก็ไม่ใช่คนที่จะสงบจิตสงบใจยอมรับเรื่องเช่นนี้ได้ง่าย ๆ
“พิฆาตวิญญาณยังไม่ฟื้น! นายท่านวางใจได้ เขากำลังบาดเจ็บสาหัสอยู่”
“เช่นนั้นเจ้าก็ลงมือเถอะ”
มู่เฉียนซีพบว่ามีกิ่งก้านใบจำนวนมากเริ่มจะพัวพันนางกับศิษย์พี่แล้ว จำเป็นต้องรีบกำจัดให้เร็วที่สุด
“ขอรับ!”
กระบี่มังกรเพลิงพิฆาตวิญญาณสีแดงฉานพลันกลายเป็นมังกรขนาดใหญ่ตัวหนึ่ง มังกรเพลิงพุ่งไปยังจุดที่มู่เฉียนซีค้นพบนั้นอย่างรวดเร็ว!
ความเร็วเช่นนี้ ทำให้ต้นไม้ปีศาจไม่สามารถตั้งตัวตั้งรับได้ทัน!
มู่เฉียนซีเห็นเพียงแค่มังกรเพลิงพุ่งตัวออกไปไกลโดยไม่หยุดชะงักเลย จนสุดท้ายมันก็ได้หยุดลง
มังกรเพลิงกล่าวขึ้นด้วยความตื่นเต้นว่า “นายท่าน ข้าเอามาได้แล้ว”
ทันใดนั้นเอง มู่เฉียนซีรู้สึกได้ว่ามีแสงสว่างสาดส่องเข้ามา และยิ่งสว่างมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งต้นไม้ที่เหมือนป่าทึบนั้นได้อันตรธานและกลายเป็นความว่างเปล่าไป
พื้นที่โดยรอบว่างเปล่าโดยพลัน มังกรเพลิงพุ่งตัวกลับมาพร้อมกับแสงสีเขียว
เมื่อใช้พลังจิตตรวจสอบดู มู่เฉียนซีกลับไม่รู้ว่ามันคือสิ่งใด
แต่เมื่อมองดูใกล้ ๆ นางก็กล่าวขึ้นด้วยความตกใจว่า “พฤกษาวิญญาณหมื่นปี!”
นางได้รับมรดกมาจากนิรันดร์ รู้ว่าส่วนประกอบของยาลูกกลอนที่แข็งแกร่งต้านสวรรค์ชนิดหนึ่งก็คือพฤกษาวิญญาณหมื่นปีนั่นเอง
พฤกษาวิญญาณหมื่นปียากนักที่จะพบเจอได้ ต้องใช้เวลาหลายหมื่นปีกว่าจะก่อตัวขึ้นมาได้ และกว่าจะพบเจอนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แม้ว่านางจะไม่ต้องการยาลูกกลอนระดับนั้น แต่ได้รับของล้ำค่าเช่นนี้มาก็เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
และในตอนนี้เอง ฉู่หลีที่ยืนอยู่ด้านหลังมู่เฉียนซีก็เหลือบมองไปที่มังกรเพลิงและกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “กระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์”