ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1569 จิตวิญญาณหลอมรวม
เมื่อพวกเขาได้สติจากการตื่นเต้นนั้น พวกเขาต่างก็ตกอยู่ในอาการตกตะลึง
มู่เฉียนซีทำได้จริง ๆ ช่างวิปริตเกินไปแล้ว!
“ค่ายกลใหญ่ป้องกันสำนักพังทลายลงแล้ว นี่มันเป็นไปได้อย่างไรกัน?” เจ้าสำนักวารีเมฆายังคงตกตะลึงอยู่ เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่านี่คือเรื่องจริง
ตูม เปรี้ยง เปรี้ยง!
“ท่านเจ้าสำนักขอรับ ไฟไหม้ลามไปทั่วแล้วขอรับ พวกเรารีบออกไปเร็วเข้า”
“ท่านเจ้าสำนัก เร็วเข้าขอรับ!”
“……”
คนของสำนักวารีเมฆารีบเผ่นหนีออกไปด้านนอก พลันนั้นมู่เฉียนซีก็กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “พวกเราบุกเข้าไปฆ่าพวกมัน!”
ฉู่หลีกับชิงอิ่งตามมู่เฉียนซีไปอย่างเร็ว ส่วนมู่เฉียนซีก็เรียกอู๋ตี้กับเสี่ยวหงออกมาสร้างหายนะให้แก่สำนักวารีเมฆา
ตูม เปรี้ยง เปรี้ยง!
บัดนี้ สำนักวารีเมฆาได้กลายเป็นทะเลเพลิงไปแล้ว มู่เฉียนซีกำกระบี่มังกรเพลิงพิฆาตวิญญาณไว้แน่น นางรู้สึกร่างกายเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง มันเป็นพลังที่ไม่สามารถควบคุมการกระหายเลือดได้
“แมวน้อย ข้าก็คือเจ้า เจ้าอย่าได้ปฏิเสธพลังของข้าเลย รีบกำจัดขยะไร้ประโยชน์พวกนี้เร็วเข้า เจ้าจำต้องใช้ข้า ลองใช้ข้าดูสิ แล้วเจ้าจะรู้ว่าความรู้สึกนี้มันยอดเยี่มมากเพียงใด”
“ไม่มีสิ่งใดต้องกลัว ข้ากับเจ้าเราทำพันธสัญญาทาสกัน ข้าไม่ได้ส่งผลกระทบอันใดให้แก่เจ้า”
ร่างในชุดม่วงพุ่งตัวออกไป มู่เฉียนซีกวัดแกว่งกระบี่มังกรเพลิงพิฆาตวิญญาณ ผู้ใดเข้ามาขวาง มันผู้นั้นจะต้องตาย
พลังวิญญาณทั่วทั้งร่างของมู่เฉียนซีพลันว่างเปล่า ไม่มีผู้ใดรู้ถึงความลึกตื้นหนาบางของนางได้
มีเพียงสิ่งเดียวที่แน่นอนที่สุดนั่นก็คือ ภายใต้คมกระบี่ของมู่เฉียนซี ไม่มีผู้ใดเอาชีวิตรอดได้!
ผู้อาวุโสสูงสุดเห็นเช่นนี้แล้วก็รู้สึกผิดปกติขึ้น เขารีบวิ่งไปตรงหน้าฉู่หลีและกล่าวถามว่า “ฉู่หลี สาวน้อยมู่จะไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่ เหตุใดข้าถึงรู้สึกแปลก ๆ เหมือนมีบางอย่างผิดปกติ”
ฉู่หลีกล่าว “ศิษย์น้องหญิงก็แค่ใช้กระบี่ที่มีพลังแข็งแกร่งมากเกินไปก็เท่านั้นเอง”
เขาเชื่อในศิษย์น้องหญิง พิฆาตวิญญาณแล้วเช่นไร
คนของสำนักวารีเมฆาได้รับบาดเจ็บสาหัสและล้มตายไปอย่างน่าสังเวช ส่วนมากก็เกิดจากคนผู้เดียวที่ทำ เมื่อสุ่ยโหรวกับเจ้าสำนักวารีเมฆาเห็นทั้งหมดนี้ก็ตกตะลึงพรึงเพริดขึ้น
สุ่ยโหรวกล่าวด้วยความไม่อยากเชื่อว่า “มู่เฉียนซี เป็นไปได้ยังไง นี่เจ้า…นี่เจ้าเก่งกาจถึงเพียงนี้เลยเหรอ?”
“ข้าจะฆ่าพวกเจ้า!” เจ้าสำนักวารีเมฆาโกรธเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมาแล้ว จากนั้นเขาก็พุ่งไปที่มู่เฉียนซีทันที
“ศิษย์น้องหญิง!”
“เฉียน!”
อย่างไรเสียเจ้าสำนักวารีเมฆาก็เป็นผู้แข็งแกร่งขั้นศักดิ์สิทธิ์ผู้หนึ่ง ชิงอิ่งและฉู่หลีจึงจะเข้าไปช่วย
มู่เฉียนซีกล่าว “ตอนนี้ข้าไม่ได้ตัวคนเดียว ข้ารับมือกับเขาได้ พวกเจ้าไปรับมือกับคนอื่นเถอะ”
จากนั้นมู่เฉียนซีก็จัดการกับเจ้าสำนักวารีเมฆาอย่างสุดกำลัง!
พลังของพิฆาตวิญญาณนั้นแข็งแกร่งมาก แข็งแกร่งถึงขั้นสุด นางสามารถใช้มันได้อย่างตามใจ
“เพลิงสังหารซิวหลัว!”
ภายใต้การต่อสู้ด้วยกระบี่เล่มนี้ กลิ่นอายแห่งการสังหารทำให้คนอื่นต่างหายใจด้วยความยากลำบาก
แววตาของเจ้าสำนักวารีเมฆาเผยความหวาดกลัวออกมา เขารีบหลบหลีกการโจมตีด้วยกระบี่เล่มนี้ เขาไม่มีความมั่นใจเลยว่าจะหลบหลีกได้หรือไม่
“แมวน้อย นับวันข้ายิ่งชอบเจ้ามากขึ้นเรื่อย ๆ แล้วสิ ความรู้สึกที่เข้าใจกันได้ดีเช่นนี้ มีเพียงเจ้าเท่านั้นที่สามารถให้ข้าได้” พิฆาตวิญญาณยิ้มพลางกล่าวอย่างมีเสน่ห์
สิ่งนี้ทำให้จิตวิญญาณของกระบี่สั่นเทิ้มด้วยความตื่นเต้น วิญญาณลิขิตสวรรค์มันมหัศจรรย์เช่นนี้นี่เอง เมื่อก่อนไม่ว่าเขาจะปฏิเสธเช่นไร แต่ตอนนี้เขากลับรักความรู้สึกเช่นนี้แล้ว
มังกรเพลิงกล่าว “พิฆาตวิญญาณ! ข้าบอกเจ้าตั้งนานแล้วว่านายท่านยอดเยี่ยมมาก เจ้ากลับไม่เชื่อข้า”
“เจ้าไม่พูด ข้าก็ไม่ได้หาว่าเจ้าเป็นใบ้หรอกนะ!”
กระบี่เล่มนี้ของมู่เฉียนซีทำให้เจ้าสำนักวารีเมฆารู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก!
ครั้งนี้เจ้าสำนักวารีเมฆาทุ่มเทพลังทั้งหมดในการต่อสู้ สัญชาตญาณของเขาบอกกับเขาว่า คนที่น่ากลัวที่สุด ณ ที่แห่งนี้นั้น ไม่ใช่ชายชุดเขียวสวมหน้ากากอำพรางใบหน้าผู้นั้น แต่กลับเป็นสาวน้อยมู่เฉียนซีผู้นี้ต่างหาก
“ทะลุอากาศสังหาร!”
มู่เฉียนซีใช้การเคลื่อนตัวภายในชั่วพริบตาหลบหลีก เปลวไฟห่อหุ้มนางเอาไว้ และการโจมตีด้วยกระบี่ก็โจมตีออกไปอีกกระบวนท่า
เปลวไฟท่วมท้นจนมืดฟ้ามัวดินตามมาด้วยจิตสังหารอันแรงกล้าพุ่งไปที่เจ้าสำนักวารีเมฆาทันที
เปลวไฟนี้ไม่สามารถดับได้ เขาทำได้เพียงแค่ตัดแขนของเขาให้ขาดสะบั้น เลือดสีแดงสดพุ่งกระฉูดออกมา
“ท่านพ่อ!” สีหน้าของสุ่ยโหรวซีดเผือดลง
มู่เฉียนซีลงมืออีกครั้ง มังกรเพลิงตัวหนึ่งพุ่งออกมา “มังกรเพลิงสังหาร!”
จิตสังหารนั้นน่ากลัวยิ่งนัก เจ้าสำนักวารีเมฆารู้สึกได้ว่าเขาผู้ที่มีพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์นั้นเป็นเพียงแค่เปลือกนอกเท่านั้น ไม่สามารถรับมือกับสาวน้อยผู้วิปริตผู้นี้ได้เลย
เขาไม่อยากตาย! เขายังไม่อยากตาย!
ในตอนนี้เองเสียงเสียงหนึ่งก็ดังก้องขึ้นในหัวของเจ้าสำนักวารีเมฆา “เจ้ายังไม่อยากตายใช่หรือไม่? ข้าช่วยเจ้าได้ เอาวิญญาณของเจ้าหลอมรวมกับข้า เอาร่างกายของเจ้าหลอมรวมกับข้า ข้าช่วยเจ้าเอาชนะคนตรงหน้าผู้นี้ได้”
เจ้าสำนักวารีเมฆาตกตะลึงขึ้น “ใคร เจ้าเป็นใคร เจ้าอยู่ที่ไหน?”
“ข้าเป็นใคร ข้าอยู่ที่ไหน ข้าก็อยู่ในร่างของเจ้าไม่ใช่นี่หรืออย่างไร เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าของสิ่งใดที่ช่วยให้พลังของเจ้าถึงขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ได้”
“กระดูกศักดิ์สิทธิ์! กระดูกศักดิ์สิทธิ์จะเป็นเช่นนี้ไปได้ยังไง?”
“หากเป็นกระดูกศักดิ์สิทธิ์ทั่วไป เจ้าคิดว่าเจ้าจะทะลวงพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ได้เร็วถึงเพียงนี้เชียวหรือ มันเป็นเพราะว่าข้าช่วยเจ้าต่างหากล่ะ เอาล่ะ เจ้าอยากอยู่หรืออยากตาย บอกข้ามาเถอะ!”
“ข้าอยากอยู่ ข้ายังไม่อยากตาย!”
“ข้าจะทำให้สมดั่งความปรารถนาของเจ้า!”
แกร่ก ๆ!
เสียงแปลกประหลาดดังจากร่างกายของเจ้าสำนักวารีเมฆา!
กลิ่นอายของเจ้าสำนักวารีเมฆาพลันน่ากลัวยิ่งขึ้น พลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงสุด!
ผู้อาวุโสสูงสุดกล่าวว่า “พลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงสุด เป็นไปได้ยังไง! ต่อให้เป็นวิชาลึกลับก็ไม่มีทางทำได้เด็ดขาด”
ฉู่หลีกล่าวเสียงต่ำว่า “ศิษย์น้องหญิง ในร่างของเขามีบางอย่างสิงอยู่ รีบออกไปเร็วเข้า”
พลังการกดขี่ข่มเหงของขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงสุดนั้นไม่ใช่สิ่งที่ร่างกายของมู่เฉียนซีจะรับได้ แม้ว่านางจะมีกระบี่มังกรเพลิงพิฆาตวิญญาณอยู่ในกำมือก็ตาม
คนผู้นั้นละโมบโลภมาก ปรารถนาอยากได้กระบี่ในมือมู่เฉียนซี “สาวน้อย เจ้าตายเสียเถอะ! ส่วนกระบี่เล่มนี้ ข้าจะดูแลมันเอง”
พลังการกดขี่ข่มเหงอันน่าสะพรึงกลัวนั้น แม้แต่พื้นที่โดยรอบก็ไม่สามารถทะลวงไปได้ หลบหลีกไม่ได้!
ลำแสงสีเลือดลำแสงหนึ่งสว่างวาบขึ้น ร่างเพรียวบางร่างหนึ่งจับมือมู่เฉียนซีเอาไว้ กระบี่มังกรเพลิงพิฆาตวิญญาณพุ่งกรีดมือของเขา
เขาหันไปกล่าวว่า “แมวน้อยของข้าจะเป็นหรือจะตาย มีเพียงข้าคนเดียวเท่านั้นที่จะลงมือได้ ส่วนสวะไร้ประโยชน์คนอื่น อย่าได้คิด”
รูม่านตาของมู่เฉียนซีหดลง ดวงตาแดงก่ำ นี่เป็นชายที่มีเสน่ห์มากที่สุดคนหนึ่ง
ใบหน้าอันงดงาม มีไฝเสน่ห์สีแดงใต้ตา ดวงตาอันกระหายเลือดนั้นช่างเย้ายวนใจทำให้ผู้คนหลงใหลยิ่งนัก
นี่เป็นครั้งแรกที่มู่เฉียนซีเห็นพิฆาตวิญญาณอย่างชัดเจน ไม่ใช่ร่างที่เขายืมอินรั่วเฉินมาใช้เหมือนครั้งก่อน แต่นี่คือร่างตัวจริงของเขา
มู่เฉียนซีรู้สึกประหลาดใจกับท่าทางของพิฆาตวิญญาณมาก ดูเหมือนว่าเขาจะพึงพอใจแล้ว
“แมวน้อย เป็นเช่นไรบ้าง ข้าน่าหลงใหลกว่าหวงจิ่วเยี่ยใช่หรือไม่?”
จิตสังหารหนึ่งโจมตีเข้ามา หวงจิ่วเยี่ยอยากจะสับเนื้อเจ้านี่ออกเป็นหมื่น ๆ ชิ้นจริง ๆ
ส่วนคนอื่นต่างตกตะลึงกับรูปร่างอันมีเสน่ห์เย้ายวนนี้ของพิฆาตวิญญาณ รูปร่างมีเสน่ห์ถึงขั้นนี้ ยังใช่มนุษย์อยู่อีกหรือไม่?
พิฆาตวิญญาณมองไปที่เจ้าสำนักวารีเมฆาด้วยความเย็นชาพลางกล่าวว่า “เจ้าสวะไร้ประโยชน์ นึกไม่ถึงเลยว่าจะมาขัดขวางความสุขของข้ากับแมวน้อยเช่นนี้ รนหาที่ตาย!”
ร่างในชุดแดงพลันเปลี่ยนเป็นลำแสงหนึ่ง ก่อนเสียง ตูม! จะดังสนั่นขึ้น
สิ้นเสียงที่ดังสนั่นนั้น สำนักวารีเมฆาที่เดิมทีถูกเผาอยู่แล้ว ตอนนี้พังทลายไปครึ่งสำนักแล้ว
ร่างในชุดดำร่างหนึ่งพุ่งออกมา ผู้อาวุโสสูงสุดและพวกตกตะลึงเป็นอย่างยิ่ง “สาวน้อยมู่ ระวัง!”
เจ้าสำนักวารีเมฆานึกไม่ถึงเลยว่า สาวน้อยผู้นี้จะแอบซ่อนผู้ที่แข็งแกร่งเอาไว้
.
.