ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1573 หนีต่อสิ
มู่เฉียนซีหมดคำจะพูดแล้วจริง ๆ นี่หมาป่าจริง ๆ เหรอ เหตุใดถึงได้ใจเสาะเพียงนี้!
หมาป่าวายุคลั่งหนี มู่เฉียนซีก็ไล่ตาม
มู่เฉียนซีเคลื่อนไหวตัวไปอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้า ไล่ตามมันไปอย่างไร้ท่าทีจะเลิกรา
หมาป่าวายุคลั่งแทบจะกระอักเลือดออกมาแล้ว เจ้ามนุษย์ผู้นี้ไล่ตามมันไม่เลิกจริง ๆ!
ไล่ตามมาเถอะ! ไล่ตามมา! แววตาของหมาป่าวายุคลั่งเผยความเจ้าเล่ห์ออกมาราวกับมีแผนอยู่ในใจ
โฮ่ก ๆ ๆ!
หมาป่าวายุคลั่งส่งเสียงคำรามขึ้นอีกครั้ง เพื่อสื่อสารด้วยวิธีการของเผ่าหมาป่า
มู่เฉียนซีกล่าว “อู๋ตี้ เจ้าหมาป่านี่พูดอะไร?”
“มันกำลังเสนอเงื่อนไขให้แก่สัตว์ตัวอื่นขอรับ มันบอกว่าให้สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับหกตัวนั้นรับมือกับนายท่าน แล้วมันจะมอบผลสวรรค์ สมุนไพรวิญญาณระดับสวรรค์ชั้นยอดให้เจ้านั่น นึกไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่าหมาป่าตัวนี้จะขี้ขลาดตาเดียวถึงเพียงนี้ ยังไม่พอแถมยังเจ้าเล่ห์อีกด้วย! มันต้องเกิดมาผิดเผ่าแน่ ๆ”
แม้ว่าจะเป็นการสื่อสารของเผ่าหมาป่า แต่อู๋ตี้ก็สามารถเข้าใจได้
มุมปากของมู่เฉียนซีกระตุกขึ้น “หาตัวช่วยอย่างนั้นเหรอ! ข้ากลัวว่าเจ้านี่จะไม่มีตัวช่วยจริง ๆ”
พลันนั้นก็มีร่างหนึ่งพุ่งทะยานเข้ามา เป็นเผ่าหมาป่าเช่นเดียวกัน แต่แท้จริงแล้วมันเป็นหมาป่าสีดำที่ตัวใหญ่กว่าหมาป่าวายุคลั่งมาก
มันไม่ได้มีความเชี่ยวชาญชำนาญในความเร็ว แต่พลังการกดขี่ข่มเหงอันน่าสะพรึงกลัวนั้นกลับทำให้ผู้คนสั่นสะท้านเลยได้
หมาป่าวายุทมิฬ!
มันโฉบไปข้างหน้ามู่เฉียนซี เหลือบมองนางราวกับมองสิ่งของที่ไร้ซึ่งชีวิต ก่อนจะเปิดฉากโจมตี เผชิญหน้ากับเจ้าร่างใหญ่นี่ แม้ว่านางสามารถต่อสู้ข้ามขั้นปราชญ์แห่งภูตได้ แต่ก็ไม่อาจประมาทได้
กระบี่มังกรเพลิงถูกชักออกมา มู่เฉียนซีเผชิญหน้ากับหมาป่าวายุทมิฬนี้ซึ่ง ๆ หน้า
“บัวแดงพิฆาต!”
ตูม เปรี้ยง เปรี้ยง!
โฮ่กกก! มันส่งเสียงคำรามขึ้น แยกเขี้ยวยิงฟันพุ่งโจมตีไปทางมู่เฉียนซี
มู่เฉียนซีเคลื่อนไหวทักษะร่างหลบหลีก และตอบโต้กลับ
“ทักษะโยวจั๋ว!”
ปัง ปัง ปัง!
หนึ่งมนุษย์กับหนึ่งหมาป่าต่อสู้กันอย่างไม่อาจแยกตัวออกจากกันได้ ส่วนหมาป่าวายุคลั่งก็ซ่อนตัวแอบมองอยู่
มันทุ่มเทไปไม่น้อยกว่าจะให้หมาป่าวายุทมิฬตัวนี้ออกมารับมือต่อสู้กับมนุษย์ผู้นี้ได้ มันต้องรอดูให้แน่ใจว่ามนุษย์ผู้นี้ถูกฆ่าตายแล้วจริง ๆ มิเช่นนั้นอาจจะเกิดเรื่องผิดพลาดขึ้นได้
แต่ยิ่งดูมันก็ยิ่งหวาดผวา! นี่มันพลังขั้นมหาจักรพรรดิแน่หรือ นี่ยังใช่มนุษย์อยู่อีกหรือไม่?
นี่มันสัตว์ร้ายในร่างมนุษย์ชัด ๆ!
“มังกรน้ำแข็งท้าสวรรค์!”
ปัง ปัง ปัง!
หมาป่าวายุทมิฬทำอะไรมู่เฉียนซีไม่ได้ ชั่วพริบตาเดียวร่างของมันก็เต็มไปด้วยบาดแผล
แต่มันไม่ได้กลัวความตายเหมือนดั่งหมาป่าวายุคลั่งนั่น หากจะสู้แล้วก็ต้องสู้ให้ถึงที่สุด แม้จะสู้จนตัวตายก็ไม่กลัว!
“เพลิงสังหารซิวหลัว!”
เปลวไฟสีแดงฉานอันน่าสะพรึงกลัวพัดกระโชกเข้ามา!
ด้วยพลังทำลายล้างของเพลิงสังหารซิวหลัว แม้ว่ามันจะเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับหก แต่มันก็ต้องตายในที่สุด
หมาป่าวายุคลั่งเห็นมู่เฉียนซีกำจัดหมาป่าวายุทมิฬได้เช่นนี้แล้ว สิ่งที่มันคิดไม่ใช่การลอบโจมตี แต่เป็นการวิ่งหนีให้เร็วที่สุด!
หนีตอนนี้ยังทัน! น่าจะยังทัน!
“ยังจะหนีอีกเหรอ! เจ้าคิดว่าเจ้าจะหนีพ้นเหรอ?”
หลังจากที่มู่เฉียนซีจัดการกับสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับหกและเก็บแกนวิญญาณเอาไว้เป็นเสบียงให้อู๋ตี้เสร็จแล้ว นางก็ไล่ตามหมาป่าวายุคลั่งไปอีกครั้ง
เดิมที นางเองก็ไม่อยากจะเสียเวลาเปลืองแรงไปกับการไล่ตามสัตว์ศักดิ์สิทธิ์พลังธรรมดาตัวนี้หรอก แต่มันมีสมุนไพรวิญญาณอยู่ และนั่นเป็นสิ่งที่ไม่อาจปล่อยไปได้
นางสนใจในผลสัตว์สวรรค์นั้นมาก
หมาป่าวายุคลั่งแทบอยากจะร้องไห้แล้ว มนุษย์ผู้นี้ช่างน่าเบื่อยิ่งนัก เหตุใดถึงได้ไล่ตามมันไม่ยอมหยุดสักที มันก็แค่มีตาแต่หามีแววไม่ เผลอไปล่วงเกินเล็กน้อยก็เท่านั้น
ต้องถึงขั้นนี้เลยเหรอ มันมีค่ามากถึงเพียงนั้นเลยเหรอ
“พระเจ้า! พลังแค่ขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับสอง นึกไม่ถึงเลยว่าจะตามไล่ล่าสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับหกตัวหนึ่งอย่างบ้าคลั่งเช่นนี้”
“ไล่ตามไม่ว่า แต่หมาป่าวายุคลั่งตัวนี้กลับขี้ขลาดเผ่นหนีมนุษย์คนหนึ่ง นี่ข้าไม่ได้ตาฝาดไปใช่หรือไม่!”
“……”
ภาพอันแปลกประหลาดเหล่านี้ เหล่าผู้มาฝึกหาประสบการณ์ในป่าฉางเฟิงแห่งนี้ได้เห็นอย่างประจักษ์แล้ว พวกเขาจึงกล่าวแสดงความคิดเห็นด้วยความประหลาดใจ
พวกเขาอยากเห็นหน้าผู้ที่น่าทึ่งผู้นั้นมาก แต่น่าเสียดายที่ความเร็วของคนผู้นั้นช่างรวดเร็วจนเกินไป พวกเขาจึงมองเห็นไม่ชัดเจน
หรือว่าคนผู้นี้จะประลองความเร็วกับหมาป่าวายุคลั่งกันแน่!
หมาป่าวายุคลั่งถูกมู่เฉียนซีไล่ตามอย่างบ้าคลั่ง สัตว์วิญญาณอย่างพวกมันมีความแข็งแกร่งทางกายภาพมาก แต่มนุษย์ผู้นี้เป็นอะไรกันแน่?
นางไม่มีท่าทีว่าจะเหนื่อยและไม่มีท่าทีที่พลังวิญญาณจะหมดไปเลย นางยังคงไล่ตามมันอยู่เช่นนี้อย่างต่อเนื่อง!
โฮ่ก ๆ ๆ! มันที่ถูกไล่ล่าจนกำลังจะเสียสติในตอนนี้ ก็ได้คำรามร้องขอความช่วยเหลืออีกครั้ง
นี่เป็นการสื่อสารแบบพิเศษของหมาป่า อู๋ตี๋ก็ยังคงพยายามแปลอย่างเต็มที่
“นายท่าน ครั้งนี้มันเรียกสัตว์วิญญาณระดับหกขั้นสูงสุดมาจัดการท่าน อีกทั้งยังนำของดีจำนวนไม่น้อยออกมาด้วย นอกจากผลสัตว์สวรรค์แล้ว ก็ยังมี…”
อย่างไรเสียนอกจากสมุนไพรวิญญาณแล้ว ก็ยังมีหินแร่อีกด้วย!
ส่วนมากแล้วอู๋ตี๋ก็แทบจะไม่รู้จักเลย ทว่ามันรู้สึกได้ว่าเจ้านายของมันเริ่มมีความสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว แสดงให้เห็นว่าสิ่งของเหล่านี้มีแรงดึงดูดต่อเจ้านายเป็นอย่างยิ่ง
โฮ่ก โฮ่ก โฮ่ก!
เปลวไฟลูกหนึ่งพุ่งไปที่มู่เฉียนซี มู่เฉียนซีจึงกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “โล่วิญญาณน้ำแข็ง!”
มู่เฉียนซีสกัดกั้นการโจมตีนั้นได้ แต่ก็ร่นตัวถอยหลังไปหลายก้าว
น้ำเสียงอันร้อนรนใจเสียงหนึ่งดังขึ้น “เจ้าวายุคลั่ง เจ้ามีชีวิตอยู่โดยเปล่าประโยชน์จริง ๆ ข้านึกไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะถูกผู้บำเพ็ญภูตระดับต่ำตามไล่ล่า”
หมาป่าวายุคลั่งแอบสบถอยู่ในใจว่า ที่เจ้าพูดเช่นนี้ก็เพราะเจ้าไม่รู้นะสิว่ามนุษย์ผู้นี้วิปริตเพียงใด!
หมาป่าเพลิงหัวเราะพลางกล่าวด้วยความลำพองใจว่า “ฮี่ๆ ๆ! จะว่าไปเป็นเช่นนี้ก็ดีเหมือนกัน ของล้ำค่าเหล่านั้นของเจ้า จะได้ตกเป็นของข้า มิเช่นนั้นก็ไม่รู้ต้องรออีกเมื่อไหร่เจ้าถึงจะเอามันออกมา”
ครั้นแล้วหมาป่าเพลิงก็ลงมือกับมือกับมู่เฉียนซีอย่างโหดร้าย แต่มู่เฉียนซีหลบหลีกได้ทัน
กระบี่มังกรเพลิงพิฆาตวิญญาณสีแดงฉานกวัดแกว่งตัดผ่านอากาศ “มังกรเพลิงสังหาร!”
มังกรเพลิงสีแดงฉานพุ่งทะยานออกไป ชั่วพริบตาเดียวก็พัวพันอยู่กับหมาป่าเพลิง
รูม่านตาของหมาป่าเพลิงหดตัวลง มันเป็นถึงสัตว์วิญญาณธาตุอัคคี มันไวต่อความรู้สึกต่อพลังธาตุอัคคีมาก
ตูม เปรี้ยง เปรี้ยง!
ดูเหมือนว่ามันจะพยายามอย่างสุดกำลังที่จะต่อสู้กับมู่เฉียนซี เปลวไฟทั้งสองปะทะกันนับครั้งไม่ถ้วน แต่เมื่อดู ๆ ไปแล้วก็รู้สึกได้ถึงความผิดปกติ และสิ่งที่ทำให้หมาป่าเพลิงอยากจะกระอักเลือดไปยิ่งกว่านั้นก็คือ มนุษย์ผู้นี้เป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังธาตุคู่!
พลังธาตุอีกประเภทหนึ่งก็คือพลังธาตุวารีที่ควบคุมอัคคีโดยเฉพาะ
เดิมทีหมาป่าวายุคลั่งอยากจะเห็นมนุษย์ผู้นี้ถูกหมาป่าเพลิงเผาจนตายเช่นกัน แต่เมื่อยิ่งดูนานไปก็ยิ่งเห็นความผิดปกติมากยิ่งขึ้น!
ตอนแรกหมาป่าเพลิงกำลังได้เปรียบ แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือมันถูกมนุษย์ผู้นี้ยับยั้งเอาไว้!
ครั้งนี้ในหัวสมองของมันว่างเปล่าไปแล้วจริง ๆ ทันทีที่พบความผิดปกตินี้ มันก็เริ่มวิ่งหนีทันที!
มันคิดว่ามันวิ่งเร็วมากถึงเพียงนี้แล้ว เจ้ามนุษย์ผู้นั้นไม่มีทางตามทันแน่ ไม่มีทางตามทันเด็ดขาด…
หลังจากที่วิ่งออกไปไกลมากแล้ว หมาป่าเพลิงก็คิดว่าตนเองน่าจะหยุดพักได้สักหน่อยแล้ว ในที่สุดก็หนีพ้นมนุษย์ผู้นั้นได้แล้ว
พระเจ้า!
นึกไม่ถึงเลยว่านาง…นางจะตามมาทัน ช่วยด้วย!
มู่เฉียนซีตามมาทันแล้วจริง ๆ นางกล่าวขึ้นว่า “หนีสิ! หนีต่อสิ! หากคิดว่าหนีไม่พ้นก็ยอมเสียโดยดีเถอะ!”
จะไม่หนีได้อย่างไรเล่า ใช่ว่ามันจะอยากตายสักหน่อย
จะให้ยอมแพ้ มันไม่ใช่หมาทั่ว ๆ ไปสักหน่อย!
เมื่อวิ่งหนีมาถึงสถานที่ที่คุ้นเคยแล้ว มันจึงขอให้เผ่าหมาป่าที่มันรู้จักช่วยมัน โดยหมาป่าเพลิงจะจ่ายค่าตอบแทนสำหรับความช่วยเหลือให้อย่างงาม ผลที่ได้คือ…หมาป่าเหล่านี้ก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมนุษย์ผู้นี้อยู่ดี
หมาป่าวายุคลั่งแอบกัดฟันกรอดด้วยความโมโห สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับหกก็สู้ไม่ได้เลย!
จำเป็นต้องให้สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับเจ็ดมาช่วยจัดการกับมนุษย์ผู้วิปริตผู้นี้เสียแล้ว แต่การขอความช่วยเหลือจากสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับเจ็ดก็ใช่ว่าจะง่าย ไม่แน่มันอาจจะถูกจับกินไปด้วยก็เป็นได้
แต่หากถูกมนุษย์ผู้นี้ฆ่าก็ตาย หากถูกสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับเจ็ดกินก็ตายอยู่ดี แต่มันก็เลือกอย่างหลัง เพราะอย่างน้อยก็จะได้ลากมนุษย์ผู้นี้ให้ตายตกไปพร้อมกันด้วย การไล่ล่าอย่างไม่ยอมเลิกราของมู่เฉียนซีทำให้หมาป่าขี้ขลาดตัวนี้ตัดสินใจได้อย่างกล้าหาญและเด็ดเดี่ยวเป็นอย่างยิ่ง
.