ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1576 พายุหมอกพิษ
พวกเขาและมู่เฉียนซีอยู่ห่างไกลกันพอสมควร น้ำเสียงที่พวกเขาเปล่งออกมาเพื่อพูดคุยกันนั้นก็บางเบามาก ว่ากันตามหลักแล้วมู่เฉียนซีไม่มีทางได้ยินอย่างแน่นอน
ทว่าพลังวิญญาณของมู่เฉียนซีแข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง จึงทำให้นางสามารถได้ยินเสียงที่บางเบาได้ ดังนั้นนางจึงได้ยินวาจาที่คนเหล่านั้นกล่าวมาทั้งหมด
เมื่อทราบว่าพวกเขากำลังจะต้อนสัตว์ร้ายเหล่านั้นให้มายังทิศทางของนาง นางก็ไม่เพียงแต่จะไม่รีบหนีห่างเท่านั้น แต่ยังเข้าไปใกล้พวกเขาอีกด้วย
เมื่อหญิงสาวอาภรณ์ชมพูพบว่ามู่เฉียนซีได้ปรากฏตัวอยู่เบื้องหน้าพวกเขาราวกับภูตผีปีศาจ นางก็รู้สึกตกใจเป็นอย่างยิ่ง!
มู่เฉียนซีจัดการหญิงสาวอาภรณ์สีชมพูในทันที “หากเจ้าอยากเห็นผู้อื่นถูกสัตว์ร้ายเหล่านั้นขย้ำกินมากนักละก็ เจ้าก็ลองถูกขย้ำกินเองเป็นเช่นไร!”
“ศิษย์น้อง ระวัง!”
ในขณะที่สตรีอาภรณ์ชมพูกำลังจะเพลี่ยงพล้ำถูกมู่เฉียนซีโจมตีนั้น บุรุษที่คอยปกป้องนางก็ได้พุ่งตัวเข้ามา และขวางการโจมตีของมู่เฉียนซีไว้!
ปัง!
อ้า!
ร่างของบุรุษผู้นั้นลอยคว้างออกไปไกล แล้วถูกสัตว์ร้ายเหล่านั้นขย้ำกินในที่สุด เสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดดังระงมไปทั่ว
หญิงสาวอาภรณ์ชมพูใบหน้าซีดเผือดเป็นอย่างยิ่ง “หะ…เหตุใดเจ้าจึงได้โหดร้ายเช่นนี้!”
“พวกเจ้าหาเรื่องเอง!” มู่เฉียนซีกล่าวด้วยความเย็นชา ก่อนจะโจมตีหญิงสาวอาภรณ์ชมพูอีกครา
“ศิษย์น้อง!”
โครม!
ศิษย์พี่อีกคนของนางรีบเข้ามาต่อสู้กับมู่เฉียนซีในทันที ทว่านอกจากจะต้องรับมือกับการโจมตีของมู่เฉียนซีแล้ว พวกเขายังต้องเผชิญหน้ากับการจู่โจมของสัตว์ร้ายเหล่านั้นอีกด้วย จึงทำให้พวกเขาต้องใช้กำลังมากขึ้นเป็นอย่างยิ่ง!
ไม่นานนักก็มีคนถูกสัตว์ร้ายขย้ำกินไปอีกราย!
และสิ่งที่ทำให้พวกเขาไม่อยากจะเชื่อก็คือ สัตว์ร้ายไม่ได้โจมตีมู่เฉียนซี!
ที่สุดแล้วนางมีของดีของล้ำค่าอะไรอยู่กับตัวกันแน่ ถึงทำให้พวกสัตว์ร้ายเหล่านั้นหวาดกลัวได้เช่นนี้!
แท้จริงแล้วสัตว์ร้ายเหล่านั้นไม่ได้หวาดกลัวมู่เฉียนซีแต่อย่างใด เพียงแต่ยาที่มู่เฉียนซีกลั่นออกมานั้น ทำให้มู่เฉียนซีมีกลิ่นของป่าหมอกพิษอยู่ด้วยก็นั้นเอง
ดังนั้นสัตว์ร้ายเหล่านี้จึงคิดว่านางเป็นพวกเดียวกับมัน แล้วพวกมันจะทำร้ายนางได้อย่างไร!
หญิงสาวอาภรณ์ชมพูกล่าวในใจ ‘นางต้องมีของดีอะไรบางอย่างอยู่กับตัวเป็นแน่ ต้องเอามาให้ได้ หากมีของสิ่งนั้นแล้ว พวกเราก็ไม่ต้องกลัวป่าหมอกพิษนี่อีกต่อไป แล้วพวกเราก็จะต้องหาของล้ำค่าได้จำนวนมากอย่างแน่นอน!’
ยังจะมาฝันลมแล้ง ๆ ตรงนี้อีก หารู้ไม่ว่าตนเองแทบจะรักษาชีวิตไว้ไม่ได้แล้ว!
“อ้า! ช่วยด้วย!”
เมื่อศิษย์พี่ของหญิงสาวอาภรณ์ชมพูถูกสัตว์ร้ายกลืนกินไปจำนวนหนึ่งแล้ว พวกเขาจึงจะสัมผัสได้ถึงความอันตราย!
“ศิษย์น้อง รีบหนีกันเถอะ! เดี๋ยวข้าจะคุ้มกันด้านหลังให้!”
“ศิษย์น้อง วิ่ง!”
“……”
“บัดซบ!” สวี่ฝูก่นด่าออกมาด้วยเสียงต่ำ
“ศิษย์พี่ พวกเราหนีไปด้วยกัน!”
นางจ้องมองมู่เฉียนซีด้วยสายตาเคียดแค้นเป็นอย่างยิ่ง หากไม่มีสัตว์ร้ายเหล่านี้มาคอยก่อกวน พวกเขาก็จะต้องแย่งชิงสิ่งของจากหญิงสาวผู้นั้นมาได้สำเร็จอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้พวกเขาได้อยู่ในป่าหมอกพิษแห่งนี้แล้ว นั่นก็นับว่ายังมีโอกาส!
นางบิดขยี้จี้หยกเคลื่อนย้ายจนแตก แล้วรีบพาศิษย์พี่ของนางหลบออกจากที่แห่งนี้ไปอย่างรวดเร็ว
นางเป็นถึงคุณหนูใหญ่ของสำนักกองกำลังระดับสี่ การที่นางกล้ามาฝึกฝนยังสถานที่อันตรายเช่นนี้ ก็ย่อมต้องพกพาสิ่งของที่ช่วยรักษาชีวิตมาด้วยอยู่แล้ว
เมื่อพวกเขาหายลับไป สัตว์ร้ายเหล่านั้นก็ได้แยกย้ายออกไปเช่นกัน
มู่เฉียนซีเดินอยู่ท่ามกลางป่าหมอกพิษแห่งนี้เป็นเวลานาน ทว่าก็ไม่พบเจอของล้ำค่าเลยแม้แต่ชิ้นเดียว เห็นทีข่าวลือเกี่ยวกับป่าหมอกพิษเหล่านั้นจะต้องมีอะไรผิดพลาดเป็นแน่!
รอบกายล้วนเป็นพื้นที่ว่างเปล่า ทว่ามู่เฉียนซีกลับพบว่าเบื้องหน้ามีป่าลึกผืนหนึ่ง
หากมีเรื่องอันใดผิดปกติ นั่นย่อมเกิดจากสิ่งไม่ดีอย่างไม่ต้องสงสัย บัดนี้ในมือของนางยังว่างเปล่า จึงทำได้เพียงลองบุกเข้าไปในป่าผืนนั้นดูเท่านั้น
จากนั้นนางก็พบว่า ป่าผืนแห่งนี้แลดูไม่ชอบมาพากล มันสามารถขยับเขยื้อนได้
ยิ่งเป็นสถานที่แปลกประหลาดมากเท่าไร ก็ยิ่งอยากจะครอบครองเป็นเจ้าของมากยิ่งขึ้นเท่านั้น
มู่เฉียนซีรีบพุ่งตัวเข้าไปในทันที ขณะนั้นเองก็มีผู้คนรีบวิ่งหนีออกมาอย่างบ้าคลั่ง
เมื่อพบว่ามู่เฉียนซีได้พุ่งตัวเข้าไปในป่าอย่างไม่เกรงกลัว บุรุษหนุ่มผู้หนึ่งจึงกล่าว “แม่นาง นั่นเป็นป่าไม่หวนคืน เป็นสถานที่ที่อันตรายที่สุดในป่าหมอกพิษนะ หากเข้าไปแล้วจะไม่มีทางกลับออกมาได้อีก มันอันตรายเกินไป! เจ้าอย่าได้เข้าไปในนั้นเลย!”
มู่เฉียนซีกล่าว “ขอบใจในความหวังดีของเจ้า! แต่ข้าก็ยังอยากจะลองเข้าไปดูในนั้นสักหน่อย”
พลันนั้นร่างของมู่เฉียนซีก็หายวับเข้าไปในป่าผืนนั้นอย่างรวดเร็ว!
คนเหล่านั้นกล่าว “แม่นางผู้นั้นอายุยังน้อยกว่าพวกเรานัก เหตุใดถึงได้บุ่มบ่ามเช่นนี้!”
“น่าเสียดายจริง! ออกจะงดงามถึงเพียงนั้น เห้อ ตัวเลือกภรรยาของข้าได้น้อยลงไปอีกคนแล้วสินะ”
“……”
คนในกลุ่มนี้ล้วนอายุยังน้อย และอีกอย่างก็คือพวกเขาล้วนเป็นบุรุษด้วยกันทั้งสิ้น
“รีบไปกันเถอะ! ตอนนี้พวกเราจะมัวมาสนใจคนอื่นไม่ได้ ที่นี่มันอันตรายเกินไป!”
เมื่อมู่เฉียนซีได้เข้าไปในป่าไม่หวนคืนแล้ว นางก็ได้พบเจอกับพายุหมอกพิษสีดำทมิฬอยู่เบื้องหน้า!
พายุคลั่งลูกนั้นเปรียบดั่งตาข่ายที่กวาดทุกอย่างให้ราบเป็นหน้ากลอง ไม่ว่าจะเป็นผู้บำเพ็ญภูตที่แข็งแกร่งมากเพียงใด ก็เกรงว่าจะหลบหนีได้ยาก
มู่เฉียนซีกล่าว “ไม่น่าแปลกใจเลยว่า ถ้าหากหลุดเข้ามาแล้วต้องตายสถานเดียว สถานที่แห่งนี้มีสิ่งที่น่ากลัวเช่นนี้อยู่นี่เอง”
มู่เฉียนซีรีบนำพลังวิญญาณแห่งมิติออกมาใช้ในทันที บัดนี้นางมีพลังวิญญาณของธาตุทั้งสามอยู่ หนึ่งในนั้นคือพลังวิญญาณแห่งมิติ ซึ่งเพียงพอที่จะปกป้องให้นางปลอดภัยในสถานที่อันตรายแห่งนี้ได้
ซู่ ซู่! เสียงเล็กแหลมบาดแก้วหูดังระงมไปทั่ว มู่เฉียนซีใช้การเคลื่อนย้ายภายในชั่วพริบตาหลบหลีกการโจมตีของพายุหมอกพิษครั้งแล้วครั้งเล่า
ฟึ่บ ฟึ่บ!
ยิ่งการจู่โจมถี่มากขึ้นเท่าไหร่ การหลบหลีกของมู่เฉียนซีก็ยิ่งรวดเร็วขึ้นเท่านั้น
ทว่าหากยังหลบหลีกเช่นนี้ต่อไป มันไม่ใช่วิธีที่ดีแน่!
เมื่อพลังวิญญาณแผ่ซ่านออกไป ไม่ว่าป่าไม่หวนคืนแห่งนี้จะกว้างใหญ่มากเพียงใด ทว่าพลังวิญญาณของนางก็ยังคงแผ่ซ่านไปได้ทั่วทุกสารทิศ และทำให้นางสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงในทุก ๆ ซอกมุมได้อย่างชัดเจน
เมื่อดึงเชิงกันอยู่นานสองนาน มู่เฉียนซีก็ได้พบกับจุดกำเนิดของพายุหมอกพิษเข้าแล้ว
ยิ่งเข้าใกล้จุดกำเนิดมากขึ้นเท่าไร ความหนาแน่นของพายุหมอกพิษก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น และมันก็เป็นสถานที่ที่อันตรายที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย
มู่เฉียนซีก็คิดอยากเข้าไปยึดครองในบริเวณนั้น ซึ่งมันจะต้องเป็นบริเวณที่เป็นจุดสำคัญอย่างแน่นอน
มู่เฉียนซีพุ่งปราดเข้าไป ยิ่งพายุมีความหนาแน่นเท่าใด การหลบหลีกพายุของนางก็ยิ่งอันตรายมากขึ้นเท่านั้น เมื่อนางใกล้จะต้านทานความหนาแน่นนั้นไว้ไม่ไหว มู่เฉียนซีจึงตะโกนออกมา “สุ่ยจิงอิ๋ง!”
แสงสีฟ้าอ่อนได้เข้าปกคลุมไปทั่วร่างของมู่เฉียนซี และพายุหมอกพิษก็ไม่อาจเข้าใกล้นางได้แม้แต่น้อย จากนั้นมู่เฉียนซีก็สามารถเดินเข้าไปยังแหล่งต้นกำเนิดของพายุได้อย่างสบาย ๆ
ที่แห่งนี้ราวกับหลุมดำหลุมหนึ่งก็มิปาน!
ฟุ่บ!
กว่ามู่เฉียนซีจะหล่นลงพื้น ก็ใช้เวลาในการตกลงมานานเป็นอย่างยิ่ง
ภายในสถานที่อันมืดมิด มู่เฉียนซีได้ยกมือขึ้น แล้วใช้พลังวิญญาณปล่อยลูกไฟให้ลอยขึ้นสู่กลางอากาศ ทำให้มีแสงส่องสว่างไสวไปทั่วทุกพื้นที่
มู่เฉียนซีตกตะลึงไปเล็กน้อย นี่นางตกลงมาในกองขยะหรืออย่างไร?
ใช่แล้ว เบื้องหน้าของนางมีสิ่งของกองระเกะระกะอยู่กองพะเนินเทินทึก ราวกับเป็นกองขยะไม่มีผิด ทว่ากองขยะเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งของธรรมดาอย่างแน่นอน ทุก ๆ ชิ้นล้วนสามารถนำไปประมูลในราคาที่สูงลิบลิ่วได้ทั้งนั้น!
มู่เฉียนซีพึมพำออกมาว่า “เห็นที่สิ่งของล้ำค่าเหล่านี้คงจะเป็นของผู้คนที่พกติดตัวมา แล้วพลัดหลงเข้ามาในเขตป่าหมอกพิษก่อนจะถูกดูดกลืนเข้ามาในเขตป่าไม่หวนคืนเป็นแน่”
หากนางจัดเก็บกองขยะเหล่านี้ไปจนหมด นางก็จะต้องกลายเป็นมหาเศรษฐี ทำให้บรรดาสำนักกองกำลังระดับสี่อิจฉาจนกระอักเลือดตายได้เป็นแน่
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ฝ่าอันตรายมาเสียเที่ยวแล้ว!”
มิติของแหวนมังกรเทพวารีกว้างขวางมากพอที่จะเก็บสิ่งของเหล่านี้ไปได้จนหมด
อู๋ตี้กล่าวด้วยความตื่นเต้นเต็มประดา “สวรรค์! นายท่านมีแกนวิญญาณสัตว์เทพเยอะแยะเลย ฮ่า ฮ่า ฮ่า! เสร็จข้าล่ะ!”
แม้กระทั่งหอฉงโหลวบนเมฆาก็ยังกล่าวด้วยความดีใจ “นายท่าน มีหินมิติด้วย! หินมิติ ข้าสามารถฝึกตนไปได้อีกขั้นแล้ว”
ของเหล่านี้วางระเกะระกะไปหมด ไม่ว่าสิ่งใดก็ล้วนรวมอยู่ในกองสิ่งของนี้ทั้งนั้น
ทว่ามู่เฉียนซีทราบดีว่า กองสิ่งของเหล่านี้คงจะเป็นเพียงส่วนหนึ่งของของล้ำค่าเท่านั้น เกรงว่าของล้ำค่าชิ้นใหญ่ที่แท้จริง น่าจะอยู่…
มู่เฉียนซีเหลือบมองไปยังปากหลุมดำอันแสนมืดมิด จากนั้นนางก็ตัดสินใจเดินเข้าไปข้างใน เมื่อเดินผ่านทางเดินอันแสนมืดมิดมา นางก็ได้เดินเข้าไปในห้องไม้ห้องหนึ่ง ภายในมีโบราณวัตถุมากมาย ทั้งยังมีโครงกระดูกอยู่อีกหนึ่งโครงด้วย