ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1606 ชิงอิ่งโกรธ
มีคนจำนวนนับไม่ถ้วนที่วาบมาปรากฏอยู่เบื้องหน้ามู่เฉียนซี เจ้าสำนักจีกล่าว “เจ้าเป็นผู้มากความสามารถแล้วมันอย่างไร?สำนักของเจ้าและศิษย์พี่ของเจ้าก็ล้วนปกป้องเจ้าไม่ได้ วันนี้เจ้าจะต้องตายเท่านั้น”
ไม่ว่ามู่เฉียนซีจะแกร่งกล้าเช่นไร ทว่านางก็ยังไม่ได้โตเป็นผู้ใหญ่
ไม่ว่าผู้ก่อความวุ่นวายจะเป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นปราชญ์แห่งภูต หรือผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิวิญญาณ เขาก็ล้วนไม่สนใจทั้งสิ้น
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาเป็นอย่างยิ่ง “คิดอยากได้ชีวิตข้า เจ้าก็ต้องดูด้วยว่าเจ้ามีคุณสมบัติเพียงพอหรือไม่?”
“เจ้าก็น่าจะรู้ว่าการกำจัดเจ้า สำหรับข้าแล้วมันก็เป็นอะไรที่ง่ายดายเสียยิ่งกว่าปลอกกล้วยเข้าปาก!”
เจ้าสำนักจีพุ่งปรี่เข้าหามู่เฉียนซี ผลปรากฏว่ามีร่างร่างหนึ่งวาบผ่านไปรวดเร็วยิ่งกว่าเขาเสียอีก
ปัง!
“เป็นเจ้าอีกแล้ว!” เจ้าสำนักจีจ้องเขม็งไปยังร่างสีเขียวผอมเพรียวที่อยู่ตรงหน้า
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “อู๋ตี๋ เสี่ยวหง จัดการ!”
“คราก่อนสำนักฉางฮวนก็ได้สูญเสียกำลังคนและมีคนได้รับบาดเจ็บไปมากมาย ครั้งนี้เจ้าสำนักจีแน่ใจหรือว่าจะสามารถรั้งข้าไว้ได้?”
“คิดว่าพวกมันสามารถปกป้องเจ้าได้อย่างนั้นรึ?”
ภายในชั่วพริบตา ทั้งสองฝ่ายก็ได้เข้าห้ำหั่นกันในทันที
ปัง ปัง!
ชิงอิ่งได้ขวางบรรดาผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์กลุ่มหนึ่งไว้ได้ อู๋ตี๋และเสี่ยวหงก็สามารถขวางบรรดาผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นปราชญ์แห่งภูตระดับสูงได้เช่นกัน ส่วนคนที่เหลือจึงเข้าไปรายล้อมมู่เฉียนซีไว้
ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ!
เข็มยาจำนวนนับไม่ถ้วนได้พุ่งตรงออกไปอย่างรวดเร็ว
ปัง ปัง ปัง!
“เพลิงสังหารซิวหลัว!”
“บัวแดงพิฆาต!”
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่มีระดับขั้นที่สูงกว่าเป็นจำนวนมาก มู่เฉียนซีเองก็ได้ทุ่มสุดตัวสุดกำลังแล้วเช่นกัน
“อ่อนหัดจริง ๆ!”
“นี่น่ะหรือผู้มากความสามารถที่หนึ่งในหนานหลิง ก็ไม่เห็นจแข็งแกร่งตรงที่ใดเลย!”
เมื่อผู้อาวุโสของสำนักฉางฮวนเหล่านี้ได้หลบหลีกการโจมตีของมู่เฉียนซีแล้ว พวกเขาก็ได้โจมตีกลับไปในทันที
มู่เฉียนซีไม่ได้หลบหลีกแต่อย่างใด ในทางกลับกันนางยังพุ่งเข้าไปปะทะอีกด้วย!
ปัง ปัง ปัง!
เมื่อมู่เฉียนซีถูกโจมตี มันก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อนางเลยแม้แต่น้อย
สายฟ้าพิฆาตทั้งเก้าของฉู่หลีทำให้การฝึกฝนของมู่เฉียนซีพัฒนาขึ้นไปอีกขั้น
บัดนี้หากไม่ใช่ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นปราชญ์แห่งภูตแล้ว ก็ไม่มีผู้ใดสามารถทลายเกราะป้องกันของนางได้อย่างแน่นอน
พวกเขากล่าวด้วยดวงตาที่เบิกโพลง “จะเป็นไปได้อย่างไร?”
ในขณะนั้นเองมู่เฉียนซีก็ได้ปรากฏตัวขึ้นเบื้องหน้าคนผู้หนึ่ง ด้วยความเร็วของนางก็ทำให้นางเหมือนกับภูตผีปีศาจก็มิปาน จากนั้นแขนเล็กเรียวของนางก็ได้โบกสะบัดไปเล็กน้อย
“ทักษะโยวจั๋ว!”
พรึ่บ! เข็มยาเล่มหนึ่งได้พุ่งเข้าไปอย่างรวดเร็ว
ครืน ครืน!
เพียงมู่เฉียนซีโบกสะบัดมือ ลูกควันพิษจำนวนนับไม่ถ้วนก็ได้พุ่งออกไปในทันที นี่เป็นสิ่งของที่นางเตรียมมาสมนาคุณพวกเขาโดยเฉพาะ
ผู้บำเพ็ญภูตที่พลังขั้นต่ำกว่าขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ ล้วนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับเจ็ดอย่างอู๋ตี๋แต่อย่างใด
“อ้า!” การโจมตีอันแสนดุดันของอู๋ตี๋และเสี่ยวหง ทำให้คนของสำนักฉางฮวนเหล่านั้นพากันร้องครวญครางอย่างน่าเวทนา
สำนักฉางฮวนนับว่าเป็นสำนักระดับต่ำของกองกำลังระดับสี่ ผู้ที่มีพลังแกร่งกล้ามากที่สุดในสำนักก็เป็นเพียงผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับสามเท่านั้น กลุ่มคนที่กำลังรายล้อมชิงอิ่งอยู่ ก็ไม่มีทางทำอะไรชิงอิ่งได้อย่างแน่นอน
“แม่สาวน้อย ไปตายซะ!”
ผู้อาวุโสสำนักฉางฮวนจำนวนหนึ่งได้พุ่งเข้าหามู่เฉียนซี
ถึงแม้เกราะป้องกันของแม่สาวน้อยผู้นี้จะแข็งแกร่งมากเพียงใด ทว่าหากพวกเขาร่วมมือกันโจมตีเกราะป้องกันของนางอย่างพร้อมเพรียงกันละก็ จุดจบของนางก็อยู่อีกไม่ไกล
“มังกรน้ำแข็งท้าสวรรค์!”
“เพลิงสังหารซิวหลัว!”
เมื่อพลังธาตุวารีและธาตุอัคคีผสานเข้าด้วยกันแล้ว นางก็ได้โจมตีพวกเขาในทันที
ตูม ตูม!
พลังทั้งสองได้เข้าปะทะกัน ทำให้อีกฝ่ายต้องล่าถอยออกไปด้วยความหวาดกลัว
ด้วยความเร็วที่น่าประหลาดใจ และพลังของเกราะป้องกัน ถึงแม้จะเป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นปราชญ์แห่งภูตระดับสูง ก็ต้องยอมพ่ายแพ้ต่อมู่เฉียนซี
แต่วันนี้ต้องสังหารมู่เฉียนซีให้ได้
เมื่อเจ้าสำนักจีพบว่ามู่เฉียนซีจัดการคนของตนด้วยความชำนาญเป็นอย่างยิ่ง ดวงตาทั้งสองของเจ้าสำนักจีก็แดงก่ำไปในทันที
“บัดซบ! ช่างน่าบัดซบยิ่งนัก แม่สาวน้อย ข้าไม่อาจไว้ชีวิตเจ้าได้”
ครืน! พลังวิญญาณรอบกายของเขาปั่นป่วนไปมา จากนั้นเขาก็นำทักษะวิญญาณขั้นพิเศษออกมาใช้
เนื่องจากพลังที่เพิ่มพูนและแข็งแกร่งขึ้น ทำให้เขาผ่าทะลวงการพัวพันของชิงอิ่งออกไปได้
“ท่านเจ้าสำนัก! ท่าน…”
“ฆ่ามัน!” เจ้าสำนักจีตะคอกออกไปด้วยดวงตาที่แดงก่ำเป็นอย่างยิ่ง
เขาพุ่งปราดเข้าไปหามู่เฉียนซีราวกับสายฟ้าฟาด ทว่ามู่เฉียนซีก็ได้ใช้พลังวิญญาณมิติ หลบหลีกมาได้ภายในชั่วพริบตา
“ข้าจะคอยดูสิว่าเจ้าจะหลบไปไหนได้?” เจ้าสำนักจีได้ไล่ล่ามู่เฉียนซีไปอีกครา ผู้อาวุโสสำนักฉางฮวนเองก็รีบไล่ตามไปด้วยความรวดเร็วเช่นกัน
เนื่องจากเจ้าสำนักจีได้ควบคุมตัวชิงอิ่งไว้ ทำให้มู่เฉียนซีตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายเป็นอย่างยิ่ง
“นายท่าน!” อู๋ตี๋และเสี่ยวหงได้ฉีกร่างของคู่ต่อสู้ออกเป็นชิ้น ๆ และคิดจะเข้าไปช่วยผู้เป็นนาย
ทว่าเจ้าสำนักจีได้ปล่อยพลังโจมตีไปยังกลางกระหม่อมของมู่เฉียนซีไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“สายฟ้าทำลาย!”
สายฟ้าส่องแสงสว่างไปทั่ว พายุอันบ้าคลั่งก็เริ่มโหมกระหน่ำ นี่เป็นการโจมตีที่รุนแรงที่สุดของสำนักเขาแล้ว เมื่อต้องมาเผชิญหน้ากันเช่นนี้ ถึงแม้เกราะป้องกันของมู่เฉียนซีจะแข็งแกร่งมากเพียงใด ทว่านางก็จะต้องจบชีวิตลงตรงนี้อย่างแน่นอน
ครืน! พลังอันแสนน่ากลัวได้เข้าโอบล้อมรอบตัวมู่เฉียนซีไว้
“ในที่สุดก็จัดการ…”
เจ้าสำนักจียังกล่าวไม่ทันจบ ทันใดนั้นก็มีพลังอันน่าเกรงขามพุ่งเข้ามาโจมตีเขาจากเบื้องหลัง
“จะยกโทษให้ไม่ได้!” สุ้มเสียงอันแสนเย็นชาแฝงไปด้วยไอสังหารอันน่าหวาดกลัว
ครืน!
ปัง! ทั้ง ๆ ที่พลังของเจ้าสำนักจีก็ได้เลื่อนขึ้นมาหนึ่งขั้นแล้วแท้ ๆ ทว่าเขาก็ยังถูกชิงอิ่งโจมตีจนลอยคว้างออกไปไกล
อวัยวะภายในและภายนอกบอบช้ำเป็นอย่างยิ่ง พรวด! โลหิตสีแดงฉานพุ่งกระฉูดออกมา อาการสาหัสเป็นยิ่งนัก!
“ท่านเจ้าสำนัก!”
“ท่านเจ้าสำนัก ท่านเป็นอะไรหรือไม่!”
พวกเขารู้สึกตกใจเป็นอย่างยิ่ง จากนั้นก็มีน้ำเสียงเย็นชาที่คุ้นเคยแว่วดังขึ้นมา
“ชิงอิ่ง ฆ่ามัน!”
ชิงอิ่งทอดมองไปยังร่างสีม่วง พลางขบเม้มริมฝีปากไว้แน่น แล้วเข้าโจมตีอีกครา
“มู่เฉียนซีไม่เป็นอะไรเลย! จะเป็นไปได้อย่างไร?”
“นะ…นางไม่เป็นอะไรจริง ๆ ด้วย!”
มู่เฉียนซีใช้ตัวเองเป็นเหยื่อล่อ นางสามารถหลอกล่อเจ้าสำนักจีให้มาติดกับได้สำเร็จ จากนั้นจึงจะให้โอกาสชิงอิ่งได้โจมตีอีกครา
หากคนธรรมดาทั่วไปทำเช่นนี้ ก็เกรงว่าไม่ว่าจะมีอีกกี่ชีวิตก็คงไม่พอ
และเนื่องจากมีผู้พิทักษ์นิรันดร์คอยปกป้องนางอยู่ ดังนั้นจึงไม่ต้องเป็นกังวลอันใดมากนัก
ทว่านางสัมผัสได้ว่าชิงอิ่งเริ่มมีโทสะขึ้นมาแล้ว
ชิงอิ่งรู้สึกโกรธจริง ๆ ดังนั้นการโจมตีจึงรุนแรงมากขึ้นเป็นเท่าทวี
มู่เฉียนซีกล่าว “ชิงอิ่งเพิ่มพลังด้วย”
มู่เฉียนซีขว้างยาลูกกลอนจำนวนนับไม่ถ้วนออกไป เมื่อชิงอิ่งได้กลืนยาลูกกลอนขั้นศักดิ์สิทธิ์เข้าไปแล้ว เขาก็ยิ่งรู้สึกฮึกเหิมมากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ
“ยาลูกกลอนขั้นศักดิ์สิทธิ์! นั่นมันอะไรกัน?”
“แค่กินยาลูกกลอนเข้าไป พลังก็ดูแกร่งกล้าขึ้นมาในทันที”
เมื่อต้องสูญเสียเจ้าสำนักจีที่มีพลังแกร่งกล้าที่สุดไปแล้วนั้น การที่พวกเขาจะรับมือชิงอิ่งได้ก็เป็นเรื่องยาก
มู่เฉียนซีที่มั่นใจในความแข็งแกร่งของเกราะป้องกันของตนเองแล้ว นางก็ได้กล่าวกับเสี่ยวหงและอู๋ตี้ “เสี่ยวหง อู๋ตี้ ไปจัดการคนที่ชิงอิ่งควบคุมตัวไว้ ส่วนคนที่เป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นปราชญ์แห่งภูตเหล่านั้น ข้าจะลงไปเล่นกับพวกเขาสักหน่อย”
“เข้าใจแล้วขอรับ!”
เมื่อเทียบกันเรื่องความสิ้นเปลือง พวกเขาก็สิ้นเปลืองไม่ได้จริง ๆ!
ทางฝั่งของมู่เฉียนซี ชิงอิ่งเป็นหุ่นเชิด เสี่ยวหงและอู๋ตี้เป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ และเมื่อรวมกับการฝึกฝนด้วยวิธีเย้ยสวรรค์ และยาลูกกลอนเพิ่มพลังที่มีอยู่นั้น ศึกในครานี้พวกเขาก็สิ้นเปลืองทั้งคนและพลังไปเป็นอย่างยิ่ง
โจมตีก็ไม่โดน ทำร้ายนางก็ไม่สามารถ นี่เป็นการไล่ล่าอันแสนน่าเวทนาและน่าอึดอัดที่สุดเท่าที่เคยเจอมา
ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ! เข็มจำนวนนับไม่ถ้วนได้พุ่งออกไป ทิศที่เข็มพุ่งไปแม่นยำเป็นอย่างยิ่ง
“เพลิงสังหารซิวหลัว!”
“ทักษะโยวจั๋ว!”
“มังกรน้ำแข็งท้าสวรรค์”
ศึกในครานี้ดำเนินไปนานแสนนาน ทว่าฝีมือและพลังของมู่เฉียนซีก็ไม่เคยลดน้อยลงแต่อย่างใด ทว่าคนของสำนักฉางฮวนเหล่านั้นก็เหนื่อยล้าและอ่อนแรงไปเป็นอย่างยิ่ง พลังวิญญาณของพวกเขาใกล้จะหมดเต็มที สมุนไพรต่าง ๆ ก็ร่อยหรอเต็มทีเช่นกัน
พวกเขาคาดไม่ถึงแม้แต่น้อย ว่าเด็กสาวที่เป็นเพียงผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตคนหนึ่ง จะต่อกรด้วยยากเช่นนี้
บัดนี้เจ้าสำนักจีได้อยู่ภายใต้การปกป้องและจัดการบาดแผลของบรรดาผู้อาวุโส เมื่อพบว่าผู้อาวุโสระดับขั้นผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นปราชญ์แห่งภูตของสำนักตน ต่อสู้อยู่กับมู่เฉียนซีมานานสองนานแล้ว ทว่าก็ยังทำอะไรมู่เฉียนซีไม่ได้ ดวงตาของเขาก็ราวกับจะมีเปลวไฟพุ่งออกมาก็มิปาน
พรวด! เขากระอักเลือดออกมาหนึ่งกอง สีหน้าซีดเผือด พลังวิญญาณของเขาก็เพิ่มพูนขึ้นอีกครา
เขากล่าวด้วยความโกรธแค้น “ทุกคนหลีกไป! ข้าจะจัดการเอง เด็กน้อยนั่นต้องย่อยยับไปใต้มือข้า!”
ไม่ว่าจะต้องแลกมากับอะไรก็ตาม เขาก็จะต้องกำจัดมู่เฉียนซีไปให้ได้!
พลังอันแสนบ้าคลั่งได้แผ่ซ่านออกไปทุกทิศทาง จากนั้นเขาก็พุ่งตัวเข้าหามู่เฉียนซีไปในทันที
“สายฟ้าทำลาย!” ไปตายซะ!
.
.