ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1622 กลุ่มที่แข็งแกร่ง
เมื่อเห็นมู่เฉียนซีใช้ทักษะโยวจั๋วนี้ โม่เฟิงเชียนก็รู้สึกเจ็บปวดในกระดูกไปทั้งตัว
นางรู้ดีว่ากระบวนท่านี้น่ากลัวมากเพียงใด!
โม่ฝูเฉี่ยตกตะลึงขึ้น!
บัวอัคคีในเมื่อครู่นั้นเป็นเพียงกระบวนท่าหลอกล่อก็เท่านั้นเอง
การโจมตีนี้ต่างหากเล่าที่เป็นการโจมตีหลัก
เพียงแต่ว่าเขาไม่อาจรับรู้ได้ว่าการโจมตีหลักนี้แข็งแกร่งมากเพียงใด
หรือว่านี่จะเป็นกับดักในกับดักอีกที
เขารีบหลบหลีกอย่างรวดเร็ว แต่ด้วยความลังเลหลายครั้งของเขา ในที่สุดเขาก็โดนโจมตีอย่างรุนแรง และไม่อาจหลบหลีกการโจมตีครั้งที่สามได้
ตูม!
ทักษะโยวจั๋วนี้ดูคล้ายกับว่าจะไม่มีพลังอำนาจใด แต่ในขณะที่โจมตีไปโดนปีกของโม่ฝูเฉี่ยแล้วนั้น มันกลับระเบิดพลังที่แท้จริงออกมา
แกร่ก! โม่ฝูเฉี่ยได้ยินเสียงปีกที่หักลงของตนเอง
ทุกคนต่างตกอยู่ในความโกลาหล “เมื่อครู่มันกระบวนท่าใดกันแน่ นึกไม่ถึงเลยว่าจะทำให้ปีกของโม่ฝูเฉี่ยหักลงได้”
“ทักษะวิญญาณนั้นอัดพลังเอาไว้แน่น หากการโจมตีไม่โดนเป้า พลังก็จะไม่ระเบิดถึงเพียงนั้น ดังนั้นจึงทำให้คนอื่นประเมินมันต่ำไป”
“……”
ปีกหักแล้ว โม่ฝูเฉี่ยจึงเสียการทรงตัวและร่วงลงมาจากกลางอากาศ
เขาเป็นคนที่ชอบคิดมากและประเมินฝีมือของคู่ต่อสู้ต่ำไป ผลลัพธ์ที่ตามมาจึงหนักเป็นอย่างมาก
ตูม!
ในขณะที่ร่างของเขาร่วงหล่นลงมาจากกลางอากาศนั้น มู่เฉียนซีจึงฉวยโอกาสนี้เพื่อที่จะเอาชนะเขา
“มังกรน้ำแข็งท้าสวรรค์!”
“เพลิงสังหารซิวหลัว!”
เปลวไฟอันทำลายล้างและมังกรน้ำแข็งอันเย็นยะเยือกได้พุ่งไปที่เขา
ตูม เปรี้ยง เปรี้ยง! ร่างของโม่ฝูเฉี่ยตกลงมากระแทกกับพื้นลานประลอง
ขนสีดำถูกเปลวไฟสีแดงฉานเผาไปไม่น้อย
ในตอนนี้โม่ฝูเฉี่ยตกอยู่ในสภาพที่จนตรอกเป็นอย่างยิ่ง และร่างของมู่เฉียนซีก็พุ่งไปขี่หลังเขา พร้อมกับเอากระบี่มังกรเพลิงพิฆาตวิญญาณจี้ไปที่หัวของเขา
โม่ฝูเฉี่ยกล่าวด้วยความสิ้นหวังว่า “ข้าแพ้แล้ว!”
ในตอนนี้เอง ผู้ตัดสินจึงประกาศออกมาว่า “มู่เฉียนซี เสี่ยวโม่โม่ ชนะ!”
หลังจากได้รับชัยชนะ มู่เฉียนซีก็กระโดดลงมาจากหงส์ตัวใหญ่มหึมาตัวนั้น และในตอนนี้เอง เสี่ยวโม่โม่ก็บินออกมาด้วยความตื่นเต้น
“ชนะแล้ว! ชนะแล้ว! นายท่านชนะแล้ว ช่างยอดเยี่ยมยิ่งนัก!”
“นายท่านช่างเก่งกาจยิ่งนัก!”
“……”
มันบินวนไปรอบตัวมู่เฉียนซีด้วยความดีอกดีใจ เจ้าตัวน้อยผู้นี้ช่างน่ารักเกินไปแล้วจริง ๆ ทุกคนแอบพึมพำอยู่ในใจ
ทว่า ในฐานะที่เป็นเผ่าสัตว์เทพโบราณ ความน่ารักเพียงอย่างเดียวมันยังไม่พอ!
มันเพิ่งจะกำเนิดออกมาได้ไม่นานก็มีมนุษย์ที่มีอนาคตก้าวไกลอย่างไร้ขีดจำกัดผู้นี้เป็นเจ้านายแล้ว อันที่จริงแล้วมีหงส์นิลจำนวนไม่น้อยที่อิจฉาเสี่ยวโม่โม่ผู้นี้
มู่เฉียนซีจับมือมันเอาไว้และกล่าวว่า “ไม่ใช่ข้าชนะ แต่เราต่างหากล่ะที่ชนะ!”
หากไม่ใช่เพราะเสี่ยวโม่โม่แล้วละก็ นางก็คงจะไม่มีสิทธิ์ได้เข้ามาร่วมการประลองนี้ ดังนั้นเสี่ยวโม่โม่จึงได้รับความดีความชอบอันใหญ่หลวงไป
และในตอนนี้โม่ฝูเฉี่ยก็กลายร่างเป็นร่างมนุษย์แล้ว เขาเดินมาตรงหน้ามู่เฉียนซีด้วยสภาพที่น่าสังเวช พลางกล่าว “ข้าต้องขอโทษเจ้าด้วย เจ้ามีความแข็งแกร่ง ไม่ได้มาแย่งชิงสิทธิ์แต่อย่างใด”
มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าวว่า “ข้ารับคำขอโทษจากเจ้า!”
โม่ฝูเฉี่ยกล่าวอีกว่า “พลังความแข็งแกร่งของเจ้า หากสู้กันหนึ่งต่อหนึ่ง คาดว่าคงจะหาคู่ต่อสู้ได้ยาก! แต่ต่อไปก็มีโอกาสที่เจ้าจะได้เจอคู่ต่อสู้แบบสองรุมหนึ่ง เจ้าต้องระวังตัวด้วย”
“อืม! ข้ารู้แล้ว” มู่เฉียนซีพยักหน้าพลางกล่าว
คู่ต่อสู้ในสนามถัดไป มีโอกาสมากที่จะพบกับการต่อสู้แบบรวมกลุ่ม
มู่เฉียนซีมองเขาอย่างพิจารณาและกล่าวว่า “แม้ว่าข้าจะยังลงมือไม่หนัก แต่เจ้าก็คงจะเจ็บมากเป็นแน่!”
มุมปากของโม่ฝูเฉี่ยกระตุกขึ้น นี่ยังไม่เรียกว่าหนักอีกหรือ?
มู่เฉียนซีหยิบยาลูกกลอนออกมาขวดหนึ่งยื่นให้เขา “เห็นแก่ที่เจ้าขอโทษข้าด้วยความจริงใจ ยาลูกกลอนรักษาอาการบาดเจ็บนี้ข้าให้เจ้า”
การบาดเจ็บภายนอกของสัตว์วิญญาณนั้นฟื้นฟูให้หายได้ง่าย แต่อาการบาดเจ็บภายในจำเป็นต้องใช้ยาลูกกลอนในการรักษา
“ยาลูกกลอน!”
โม่ฝูเฉี่ยตกตะลึงขึ้น
“มนุษย์อย่างเจ้าร่ำรวยยิ่งนัก แต่ข้าไม่รับของของมนุษย์”
มู่เฉียนซีตอบ “ไม่ใช่ข้าสักหน่อย เสี่ยวโม่โม่ต่างหากล่ะที่ให้เจ้า”
“ใช่ ๆ ๆ! ข้าให้เจ้า หากเจ้าไม่เอา เช่นนั้นข้าจะกินเองนะ”
เสี่ยวโม่โม่นึกถึงรสชาติของลูกกวาดนั้นก็อยากจะกินขึ้นมาอีก
“เจ้าโง่ ยาลูกกลอนรักษาอาการบาดเจ็บจะกินตามใจปากได้อย่างไรกันเล่า!”
มู่เฉียนซีอุ้มเสี่ยวโม่โม่กลับไป โม่ฝูเฉี่ยผู้นี้มีความสนใจในหงส์ที่เป็นสัตว์พันธสัญญาของมนุษย์ผู้นี้มาก ซึ่งนิสัยก็ไม่เลว พลังความแข็งแกร่งก็ไม่เลว ศักยภาพของนางยังยอดเยี่ยมมาก
มู่เฉียนซีเดินทอดน่องไป โม่ฝูเฉี่ยก็ไม่มีทางทิ้งยาลูกกลอนแน่นอน หลังจากที่เดินลงมาจากลานประลองแล้ว เขาก็กินยาลูกกลอนนั้นเข้าไปหนึ่งเม็ด เมื่อถึงเวลาเขาจะหาเงินซื้อเอาไปคืนให้นาง
ผลลัพธ์ที่ได้คือ…
ผลของยาลูกกลอนนี้ช่างดียิ่งนัก เขาไม่เคยพบเจอที่ไหนมาก่อนเลย
เขาเผยสีหน้าประหลาดใจออกมา จากนั้นก็เผยสีหน้าโกรธแค้ยออกมา
มนุษย์ใจร้าย!
หลังจากที่มู่เฉียนซีกับโม่ฝูเฉี่ยประลองจบ การประลองสองสามสนามสุดท้ายก็ได้เริ่มขึ้นและไม่นานก็ได้ตัดสินผลแพ้ชนะออกมา
ผลของการประลองในครั้งนี้ทำให้ทุกคนผิดหวังมาก
ผู้ชนะสิบคนที่เข้าสู่รอบต่อไปแบบรวมกลุ่มทั้งหมด!
และเป็นเช่นนั้นจริง ๆ สองรุมหนึ่งเอาชนะได้ยากมาก นี่เป็นสิ่งที่ไม่ยุติธรรมต่อเผ่าหงส์นิลของพวกเขาเลย แต่แล้วเช่นไรกันเล่า
พวกเขามองไปที่ขวงจวิ้นอ๋อง นี่เป็นการตัดสินใจของเขา
ผลลัพธ์นี้ไม่ดีนัก แต่การประลองต่อไปจะต้องน่าตื่นตาตื่นใจยิ่งขึ้นแน่นอน
เนื่องจากหงส์นิลกับมนุษย์ได้สนับสนุนการต่อสู้กันและกัน การต่อสู้จึงดุเดือดมากยิ่งขึ้น
การประลองในวันนี้ได้สิ้นสุดลงแล้ว ทุกคนจึงกลับไปพักผ่อนกันหนึ่งคืน วันพรุ่งถึงจะเริ่มการประลองในรอบต่อไป
และหลังจากที่การประลองสนามนี้จบลง คนจำนวนมากก็มาสอบถามท่านเจ้าเมืองโม่เชวี่ยเกี่ยวกับข้อมูลของอัจฉริยะเหนือมนุษย์ที่ได้ทำพันธสัญญากับหงส์นิลผู้นั้น
น้ำเสียงของโม่เชวี่ยนั้นหนักแน่นมาก ทว่า ไม่ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์จากเขาเลย คนเหล่านั้นจึงรู้สึกผิดหวังที่มาหา
ท่านเจ้าเมืองโม่เชวี่ยเองก็ลำบากใจเช่นกัน! ก็เขาไม่ได้ตั้งใจนี่
เนื่องจากเขาเองก็ไม่รู้ถึงความเป็นมาของแม่นางมู่ผู้ลึกลับผู้นี้เช่นกัน
โม่เชวี่ยเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้มู่เฉียนซีฟัง โม่เชวี่ยกล่าว “ยังมีคนจำนวนมากแนะนำหงส์นิลให้แม่นางมู่ด้วยนะ! แต่ข้าปฏิเสธไปแล้ว ข้ารู้ว่าแม่นางมู่ไม่มีทางรับแน่นอน”
พวกเขาเผ่าหงส์นิลมีสายเลือดของสัตว์เทพ มนุษย์คนหนึ่งทำพันธสัญญากับมันตัวหนึ่งก็นับว่าถึงขีดจำกัดแล้ว
เว้นแต่จะเป็นอัจฉริยะผู้ต้านสวรรค์ ถึงจะทำพันธสัญญากับหงส์สองตัวได้ ทว่า คนที่มีความสามารถและพรสวรรค์เช่นนี้ ยากนักที่จะมี!
การปฏิบัติต่อสัตว์พันธสัญญาของมู่เฉียนซีนั้นไม่เหมือนกับคนอื่น นางปฏิบัติต่อพวกมันราวกับเป็นญาติสนิทมิตรสหาย ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เป็นแม่ของมันก็ได้มอบความไว้วางใจแก่นาง มู่เฉียนซีไม่มีทางยกเลิกพันธสัญญาแน่นอน
มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าวว่า “ท่านปฏิเสธไปได้ดีมาก”
แม้ว่านางจะทำพันธสัญญามากกว่าหนึ่งตัวได้ แต่นางก็ไม่มีทางพันธสัญญากับสัตว์มั่วซั่ว
“ท่านขวงจวิ้นอ๋องผู้นั้นไม่ได้ส่งคนมาสืบข่าวเหรอ?” มู่เฉียนซีกล่าวถาม
อยู่ต่อหน้าผู้คนมากมาย ขวงจวิ้นอ๋องผู้มีระดับเป็นสัตว์เทพผู้นั้นช่างทำให้คนอื่นรู้สึกหวาดกลัวมากจริง ๆ
ท่านเจ้าเมืองโม่เชวี่ยกล่าว “ไม่ได้ส่งมาเลย!”
“สมกับที่เป็นเผ่าหงส์นิลจริง ๆ สงบได้ดียิ่งนัก!” มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
คนที่เกะกะน่ารำคาญถูกท่านเจ้าเมืองโม่เชวี่ยขวางไปทั้งหมดแล้ว ดังนั้นจึงไม่มีใครสามารถมารบกวนนางได้ มู่เฉียนซีพักผ่อนได้อย่างสบาย ๆ วันต่อมาก็ไปเข้าร่วมการประลองรอบสอง
เมื่อถึงเวลาประลอง ขวงจวิ้นอ๋องก็มาถึง และเริ่มสุ่มจับคู่ต่อสู้
มู่เฉียนซีมองไปที่ป้ายที่อยู่กลางอากาศนั้น ก่อนจะกล่าวว่า “โม่ชิงอู่ ไป๋ฉาง”
ไป๋ฉางยิ้มอย่างอ่อนโยนพลางกล่าว “เสี่ยวโม่โม่ ช่างเป็นชื่อที่น่ารักยิ่งนัก ช่างเหมาะสมกับตัวเจ้าจริง ๆ”
“มู่เฉียนซี…” สายตาอันอ่อนโยนคู่นั้นมองไปที่มู่เฉียนซี
“น้องเฉียนซีมีพรสวรรค์เช่นนี้ ไม่รู้ว่าน้องเฉียนซีเป็นคนของตระกูลใด? มีตระกูลมากเกินไปภายใต้อำนาจของท่านเทพราชา แต่ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่ามีตระกูลมู่อยู่ด้วย”