ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1633 เปลวเพลงอัสนี
ฉึก! เพียงเข็มเดียวก็เห็นเลือด เฮยเฉิงรู้สึกได้ว่าไม่สามารถควบคุมพลังของตัวเองได้แล้ว
ปัง! โม่ชิงอู่โจมตีเฮยอวิ๋นจนร่างกระเด็นลอยออกไป สถานการณ์ของเผ่าหงส์ดำในตอนนี้ไม่สามารถต้านทานเผ่าหงส์นิลได้เลย
เฮยหลิวกล่าว “ถอย! เปลี่ยนไปใช้ประตูอื่น รีบฟื้นฟูร่างกายเร็วเข้า!”
เฮยหลิวแผดเผาเลือดหงส์ในตัว จนในที่สุดก็สามารถยับยั้งพิษของมู่เฉียนซีได้ พวกเขาพุ่งตัวเข้าหากลุ่มที่ไม่มีสายเลือดราชันย์
คนในกลุ่มนั้นกล่าวด้วยความโกรธเกรี้ยวว่า “เผ่าหงส์ดำสู้เผ่าหงส์นิลไม่ได้ก็มาหาเรื่องพวกเรา พวกเราจะสู้จนตัวตาย”
ไม่มีใครกล้าขัดแย้งกับพวกเขาแล้ว มู่เฉียนซีจึงกล่าว “พวกเราเข้าไปกันเถอะ!”
“อืม!”
หลังจากที่พวกเขาเดินเข้าประตูไป ก็ถูกลำแสงลำแสงหนึ่งห่อหุ้มเอาไว้
ในที่สุดเผ่าหงส์ดำก็ได้ตำแหน่งสุดท้ายไปในเสี้ยวเวลาสุดท้าย
ตูม เปรี้ยง เปรี้ยง!
ทันทีที่เข้าไปในหอหลอมอัสนี ตาข่ายอัสนีนับไม่ถ้วนก็ฟาดฟันลงมา
สัตว์เทพหงส์เหล่านี้ล้วนแต่มีความสามารถพิเศษเฉพาะตัวทั้งสิ้น
ขวับ ขวับ ขวับ! แม้พวกเขาจะหลบหลีกการโจมตีของสายฟ้านี้ได้อย่างรวดเร็ว แต่พลังอำนาจอันน่าสะพรึงกลัวเช่นนั้นก็ยังคงทำให้ผู้คนสั่นสะท้านอยู่ดี
โม่ชิงอู่กล่าว “ที่นี่คือหอหลอมอัสนีชั้นที่หนึ่ง นี่เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น! ต่อไปเราต้องเคลื่อนไหวด้วยตัวเอง และพยายามขึ้นไปในชั้นที่สูงที่สุดให้ได้”
ไป๋ฉางกล่าว “ชิงอู่ พวกเราไปกันก่อนเถอะ! เจ้าก็ค่อย ๆ พาเจ้านั่นเดินอยู่ข้างล่างก็แล้วกัน!”
โม่ชิงอู่แปลงร่างเป็นกายแท้และพาไป๋ฉางทะลุออกไปอย่างรวดเร็ว ส่วนคนอื่น ๆ ที่มีพันธสัญญากับเผ่าหงส์เทพก็ล้วนแต่ใช้ความเร็วเช่นนี้ออกไปอย่างรวดเร็ว
ถ้าหากไม่มีพันธสัญญาเป็นมนุษย์ก็จะยิ่งสะดวกกว่า เปลี่ยนร่างเป็นกายแท้และบินไปได้เลย
มีเพียงแค่มู่เฉียนซีคนเดียวเท่านั้นที่เป็นมนุษย์ผิดแปลกไปจากคนอื่น ทำพันธสัญญากับหงส์ตัวน้อย
แม้จะเป็นเพียงแค่หงส์ตัวน้อยแต่ก็สามารถพานายท่านบินได้ แต่สถานที่ที่อันตรายเช่นนี้ หากความเร็วของเจ้าหงส์น้อยตัวนี้เชื่องช้า และถูกชนเข้า ผลลัพธ์ที่ตามมาไม่อาจคาดคิดได้เลย
มู่เฉียนซีเองก็ใช้ความเร็วอย่างรวดเร็วที่สุดพุ่งออกไป และในตอนนี้เอง จู่ ๆ กลางอากาศก็ปรากฏเปลวไฟขึ้น
มู่เฉียนซีรู้สึกหนาวเหน็บขึ้น หอหลอมอัสนีนี้ไม่ได้มีเพียงแค่อัสนีหรอกหรือ? เหตุใดถึงมีพลังธาตุอัคคีที่แข็งแกร่งเช่นนี้อยู่ด้วย
ในสายอัสนีที่ฟาดฟันลงมาจากกลางอากาศนั้นมีมังกรสีเงินที่ร่างห่อหุ้มไปด้วยเปลวไฟกำลังเริงระบำอยู่
ในสายอัสนีนี้มีเปลวไฟ เปลวไฟอัสนี!
เป็นอย่างที่คิดเอาไว้ไม่มีผิด มีคนกล่าวว่า “เปลวไฟอัสนีที่อันตรายที่สุดในชั้นที่หนึ่งมาแล้ว ระวังตัวด้วย!”
“รีบหลบ!”
“……”
ตูม เปรี้ยง เปรี้ยง!
ความเร็วของเปลวไฟอัสนีนั้นรวดเร็วเป็นอย่างยิ่ง ต่อให้หงส์เทพแปลงร่างเป็นกายแท้ก็ยากที่จะหลบหลีกได้
ตูม เปรี้ยง เปรี้ยง!
หลังจากที่อัสนีฟาดฟันลงมาแล้ว เปลวไฟก็ห่อหุ้มร่างของหงส์ตัวหนึ่งขึ้น
กลิ่นอายของหงส์ตัวนี้ค่อย ๆ อ่อนแอลง จนในที่สุดก็ถูกส่งตัวออกไป
หงส์เทพมีร่างกายที่แข็งแกร่งมาก แม้จะได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงเพียงนี้แต่ก็ไม่ถึงกับคร่าชีวิตของมันได้ แต่หากจะฟื้นฟูร่างกายให้กลับมาหายเป็นปกตินั้น คงต้องใช้เวลานานพอสมควร
“รีบไปเร็วเข้า! เปลวไฟอัสนีมาอีกแล้ว”
เปลวไฟอัสนีที่ทำให้พวกเขาหวั่นพรึงฟาดฟันลงมาอีกครั้ง ในขณะที่คนอื่น ๆ ต่างรีบหลบหนีอย่างสุดชีวิต แต่มู่เฉียนซีกลับอยากลองดูว่าเปลวไฟอัสนีนี้มีพลังอำนาจมากมายเพียงใด
เสียง ตูม! ดังสะเทือนฟ้าสะเทือนดินขึ้น มู่เฉียนซีก็ยังไม่หลบหลีก
“มนุษย์ของเผ่าหงส์นิลผู้นั้นบ้าไปแล้วที่ไม่หลบหนี!”
“พวกเราเผ่าสัตว์เทพแทบจะเอาชีวิตไม่รอด แล้วมนุษย์ผู้นี้ คาดว่า…”
“……”
โม่ชิงอู่กับพวกอยู่ด้านหน้าก็เห็นมู่เฉียนซีถูกอัสนีฟาด เปลวไฟสีแดงฉานห่อหุ้มร่างกายของนางเอาไว้ คาดว่าภายในชั่วพริบตาเดียวนางต้องถูกแผดเผาเป็นแน่
“มู่เฉียนซี!” โม่ชิงอู่ตะโกนขึ้น
หากมู่เฉียนซีตายไป หงส์สายเลือดราชาตัวนั้นของเผ่าหงส์นิลของพวกเขาก็จะต้องตายไปพร้อมกับนางเป็นแน่
ไป๋ฉางกล่าว “ชิงอู่ ไม่ต้องสนใจมู่เฉียนซีหรอก พวกเราขึ้นไปชั้นสองก่อนเถอะ!”
“หงส์ที่มีสายเลือดราชาไม่ได้หายากถึงเพียงนั้นสักหน่อย ไปกันเถอะ!” ไป๋ฉางกล่าว
โม่ชิงอู่ไม่มีทางเลือกอื่น สถานการณ์เช่นนี้นางก็ไม่สามารถช่วยมู่เฉียนซีได้ ทำได้เพียงแค่รีบหนีไปเท่านั้น
นางต้องขึ้นไปชั้นที่สูงที่สุดของหอหลอมอัสนีให้ได้ และปรับปรุงการฝึกฝนของตนเองให้สูงขึ้นให้ได้
ท่านพ่อบุญธรรมยังได้กำชับเป็นพิเศษด้วยว่า ต้องพยายามอย่างเต็มที่เพื่อไปให้ถึงสมบัติเผ่าหงส์ของพวกเขา
หลังจากที่มู่เฉียนซีถูกเปลวไฟอัสนีฟาดผ่าลงมาแล้ว ระยะห่างของนางกับคนอื่น ๆ ก็ห่างไกลกันมากเลยทีเดียว
เจ็บ! ไม่ใช่ความเจ็บปวดที่ธรรมดาเลย!
หากไม่ได้เป็นเพราะว่านางหมุนเวียนพลังวิญญาณธาตุอัคคีได้ทันเวลา คาดว่านางคงจะถูกเผาไหม้จนกลายเป็นเถ้าถ่านไปเสียแล้ว
เปลวไฟนี้มีคุณลักษณะที่พิเศษ และไม่ใช่สิ่งที่สายฟ้าธรรมดาจะสามารถเปรียบเทียบได้จริง ๆ
แต่กระนั้น อุณหภูมิที่น่าสะพรึงกลัวนี้ก็ทรมานเป็นอย่างยิ่ง ราวกับว่าทั่วทั้งร่างของมู่เฉียนซีกลายเป็นหินหลอมเหลวอย่างไรอย่างนั้น
นางกัดฟันแน่น อดทนไว้! จะต้องทนต่อไปให้ได้
เมื่อรอให้เปลวไฟนี้หายไปแล้ว มู่เฉียนซีก็เปลี่ยนไปอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบากเป็นอย่างยิ่ง
นางหยิบยาน้ำออกมาดื่มเข้าไปสองสามขวด จากนั้นก็เดินหน้าต่อไป ขณะนี้ อัสนีที่มีเปลวไฟนั้นก็ได้ย่างกรายเข้ามาอีกครั้ง
แต่ในครั้งนี้ มันไม่ได้ฟาดผ่าลงมาทางนาง มู่เฉียนซีกล่าวว่า “นี่เจ้าต้องการให้ข้าตรงไปต่อเลยใช่หรือไม่?”
“เอาล่ะ! เช่นนั้นข้าจะขึ้นไปต่อก็แล้วกัน”
มู่เฉียนซีเริ่มปฏิบัติการขึ้นไปต่อกับอัสนีที่น่าสะพรึงกลัวนั่น หากผู้อื่นได้มาเห็นสิ่งนี้ คาดว่าคงยากที่จะเชื่ออย่างแน่นอน
คนผู้นี้ ไม่อยากจะมีชีวิตอยู่หรืออยากทรมานตนเองกันแน่
มู่เฉียนซีไม่ได้กำลังทรมานตนเอง แต่กำลังยกระดับความแข็งแกร่งและฝึกฝนร่างกายต่างหาก
ความแข็งแกร่งของร่างกายก้าวขึ้นไปอีกขั้น สำหรับนางแล้วมันมีประโยชน์เป็นอย่างมาก เช่นนั้นไม่ว่าจะยากลำบากสักเพียงใด นางก็จะต้องยืนหยัดต่อไปให้ได้
“ตูม เปรี้ยง เปรี้ยง!” ถูกอัสนีพลังธาตุอัคคีปกคลุมและฟาดผ่าครั้งลงมาแล้วครั้งเล่า และแต่ละครั้งก็รอดชีวิตมาได้อย่างทรมาน
ในขณะเดียวกันนั้นเอง ระยะห่างของจุดสิ้นสุดชั้นที่หนึ่งกับพวกของโม่ชิงอู่ในตอนนี้ก็ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ แล้ว
และมู่เฉียนซีก็ยังคงไม่ได้ไล่ตามขึ้นมา!
ไป๋ฉางกล่าวว่า “ชิงอู่ เจ้ากำลังคิดถึงมู่เฉียนซีอยู่หรือ ตายก็คือตายสิ!”
พวกของโม่อี้เฟยชะงักงันไปครู่หนึ่ง ตายแล้วจริง ๆ อย่างนั้นหรือ?
ทันทีที่คิดถึงความวิปริตเช่นนั้นของมู่เฉียนซีก่อนหน้านี้ นางดูเหมือนกับว่าจะไม่ใช่คนที่ตายได้อย่างง่ายดายเช่นนั้นโดยสิ้นเชิง!
ในเวลานี้เฮยหลิวก็ได้ไล่ตามขึ้นมาแล้ว เขากล่าวอย่างเยาะเย้ยว่า “ดูเหมือนว่าเผ่าหงส์นิลของพวกเจ้าจะไม่เท่าไรเลยนี่ นี่ยังไม่ทันที่จะได้เข้าไปในชั้นที่สองเลยนะ! ก็ตายไปคนหนึ่งเสียแล้ว แม้แต่เผ่าหงส์เพลิงก็สู้ไม่ได้”
โม่ชิงอู่กล่าวว่า “เจ้าไปดูแลตนเองเสียก่อนเถอะ! จะมาพูดจาไร้สาระมากมายไปทำไม”
“เดิมทีแล้วข้าคิดอยากจะมาจัดการหญิงสาวผู้นั้นด้วยตนเอง ไม่นึกเลยว่านางจะมาถูกอัสนีฟาดจนกลายเป็นเถ้าถ่านอย่างรวดเร็วเช่นนี้จริง ๆ ช่างน่าเสียดายเหลือเกิน!” เฮยหลิวกล่าวด้วยความเสียดายเล็กน้อย
โม่ชิงอู่ไม่ได้พูดจาไร้สาระกับเขาต่อ และพุ่งเข้าไปที่ทางเข้าชั้นที่สองอย่างรวดเร็ว
แน่นอนว่าเมื่อพวกเขามาถึงสถานที่แห่งนี้ อัสนีก็ยิ่งมากขึ้นเรื่อย ๆ และเพื่อที่จะหลบหลีกอัสนีเหล่านี้ ทำให้ความเร็วของพวกเขาช้าลงมากขึ้นเช่นกัน
“ถึงแล้ว!” โม่ชิงอู่มองไปที่ม่านแสงที่อยู่ข้างหน้า
ม่านแสงอัสนีนั้น หากว่ามันจะมีเพียงแค่ธาตุอัสนีอย่างเดียวแล้วละก็ เช่นนั้นมันก็ไม่ได้น่ากลัวสักเท่าไร แต่สิ่งที่น่ากลัวคือ หากมันมีพลังธาตุอัคคีด้วย และไม่ได้ระมัดระวังเพียงแค่เล็กน้อย ก็อาจจะถูกเผาจนเกือบตายได้อย่างง่ายดายเลยทีเดียว
เช่นนั้นทุกคนจึงต้องระมัดระวังกันเป็นอย่างมาก และต่างก็พากันงัดท่าไม้ตายออกมาไม่น้อยเลย หลังจากที่เข้าไปอยู่ท่ามกลางม่านแสงแล้ว ก็ค่อย ๆ เดินผ่านไปอย่างช้า ๆ
ตูม เปรี้ยง เปรี้ยง!
มู่เฉียนซีก็ยังคงตามหลังอยู่ในสถานที่ที่ไกลมาก และถูกเปลวไฟอัสนีฟาดผ่า!
อัสนีพลังฟาดผ่าลงมาครั้งแล้วครั้งเล่า และผ่าลงมาติด ๆ กันนับครั้งไม่ถ้วน แต่มู่เฉียนซีกลับรู้สึกว่าร่างกายของตนเองนั้นกำลังเปลี่ยนเป็นแข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังปรับตัวให้เหมาะสมอย่างช้า ๆ