ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1635 รอข้าสักครู่
ฉื้อลั่วอวี่กล่าวว่า “ไปกันเถอะ!”
คนของเผ่าหงส์เพลิงเหล่านี้ เคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วเป็นอย่างยิ่ง เพียงไม่นานก็มาถึงจุดสิ้นสุดของชั้นที่สองแล้ว
และมันก็เป็นม่านแสงสายฟ้าอีกแล้ว ท่ามกลางม่านแสงมีพลังธาตุวารีอยู่ด้วย ซึ่งนับว่าเป็นวิกฤติที่แอบซ่อนอยู่
ฉื้อลั่วอวี่กล่าวว่า “ระมัดระวังกันหน่อย พวกเราจะบุกเข้าไปภายในครั้งเดียว”
ในขณะที่มู่เฉียนซีต้องต่อสู้กับอัสนีธาตุวารีซ้ำแล้วซ้ำเล่า และมันได้ทำให้พลังธาตุวารีของนางรวมตัวกันและแข็งแกร่งมากขึ้นแล้ว
คนรั้งท้ายที่อยู่ด้านหลังอย่างนาง ได้ตามทั้งหมดขึ้นมาจนทันแล้ว
มู่เฉียนซีที่ไม่ได้รีบร้อนเลยใช้ประโยชน์จากสายฟ้าในการฝึกฝนร่างกาย คนเหล่านี้ต่างก็พุ่งตรงผ่านไปเช่นนี้ ช่างเป็นการเสียทรัพยากรในการฝึกตนที่ดีของหอหลอมอัสนีนี้ไปอย่างเปล่าประโยชน์จริง ๆ
ครืน!
อัสนีเส้นหนึ่งฟาดลงมา ในตอนที่ลำแสงของมันมืดลงไปชั่วขณะ ลำแสงสีฟ้าของธาตุวารีเส้นหนึ่งก็ปะทุออกมา
ความแข็งแกร่งของร่างกายยกระดับขึ้น พลังวิญญาณของธาตุวารีก็ยิ่งหนาแน่นมากยิ่งขึ้น สิ่งที่เก็บเกี่ยวได้จากชั้นที่สอง สูงกว่าของชั้นแรกมาก
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเรียบเฉยว่า “ไม่รู้ว่าพวกเขาตรงขึ้นไปชั้นที่สามแล้วหรือไม่? พวกเราไปดูกันก่อนเถอะ”
ในขณะที่พวกของโม่ชิงอู่กำลังจะเข้าไปในม่านแสงสายฟ้า นางก็กล่าวขึ้นมาว่า “ระวังด้วย ม่านแสงอันนี้ แข็งแกร่งยิ่งกว่าม่านแสงที่ผ่านมาก่อนหน้านี้มาก”
ในตอนที่พวกเขากำลังจะเข้าไปข้างใน ก็มีเงาร่างสีม่วงร่างหนึ่งพุ่งเข้าไปทันที
นางที่เดินอย่างผ่อนคลายมากที่สุด เมื่อเห็น โม่ซูจึงกล่าวว่า “นั่นไม่ใช่มู่เฉียนซีหรอกหรือ?”
“ไม่คาดคิดเลยว่านางจะอยู่ข้างหลังของพวกเรา?”
เดิมคิดว่านางต้องการที่จะอยู่ข้างหน้า หรือไม่อย่างนั้นก็ถูกกำจัดออกไปแล้ว
ไม่คิดเลยว่าคนที่อยู่ข้างหลังมาตลอด ในตอนนี้จะไล่ตามขึ้นมาได้แล้ว
ไป๋ฉางกล่าวว่า “ไปกันเถอะ! ไล่ตามมู่เฉียนซีไป”
พวกของโม่ซูผงะไปครู่หนึ่ง ไล่ตามมู่เฉียนซี? เริ่มล้อเล่นหรืออย่างไร!
ทันทีที่พวกเขาเดินเข้าไปในม่านแสงนี้นั่น มันก็ราวกับกำลังเหยียบย่ำอยู่บนแผ่นน้ำแข็งบาง ๆ!
แต่มู่เฉียนซี กลับเสมือนปลากระดี่ได้น้ำอย่างไรอย่างนั้น
ไป๋ฉางกระตุ้นให้พวกเขารีบรุดหน้าไปอย่างเต็มกำลัง
ซึ่งเป็นผลให้โม่ซูและโม่อี้เฟย ถูกพลังของม่านแสนทำให้บาดเจ็บสาหัสโดยไม่คาดคิด
“อ๊าก!” มีเสียงโหยหวนร้องดังออกมา พวกเขาที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสได้ถูกนำส่งออกไป
เมื่อพวกเขาถูกนำออกไป ทำให้ผู้ผูกพันธสัญญาของพวกเขาไม่อาจอยู่ที่นี่ได้อีก
คนของเผ่าหงส์นิลมาทั้งหมดสี่คู่ ไม่คาดคิดว่าในตอนนี้ใกล้จะถูกคัดออกไปครึ่งหนึ่งเสียแล้ว
สีหน้าของโม่ชิงอู่ดูแย่เป็นอย่างมาก นี่พึ่งจะแค่ชั้นที่สองเองนะ!
ไป๋ฉางร้องคำรามใส่ร่างเงาสีม่วงร่างหนึ่งที่กำลังจะหายไปจากเบื้องหน้าของเขาในตอนนี้ “มู่เฉียนซี เจ้าหยุดเดี๋ยวนี้!”
“เจ้ามีวิธีที่จะควบคุมม่านแสงนี้ได้ ไม่คิดเลยว่าจะไม่ยอมบอกพวกเรา แล้วใช้ประโยชน์เพียงคนเดียว และทำให้คนจากเผ่าหงส์นิลถึงสองคนได้รับบาดเจ็บจนต้องถูกคัดออกโดยไม่คาดคิดเช่นนี้”
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเรียบเฉย “ไป๋ฉาง ข้ารู้สึกว่าเจ้าไม่ควรที่จะถูกเรียกว่าไป๋ฉางถึงจะถูก!”
ใบหน้าของไป๋ฉางแข็งทื่อ คำพูดของมู่เฉียนซีนี้หมายความว่าอย่างไร?
“ข้ารู้สึกว่าเจ้าควรจะถูกเรียกว่าพระแม่มารีดอกบัวขาวที่แสร้งทำเป็นไร้เดียงสาเสียมากกว่า! วิธีการที่เหมาะกับข้า ไม่แน่ว่าจะเหมาะสมกับเจ้าด้วย เจ้าจะมาตะโกนเอะอะโวยวายไปทำไมกัน?”
หลังจากนั้น ร่างของมู่เฉียนซี ก็หายไปจากเบื้องหน้าของพวกเขาในทันที
ใบหน้าของไป๋ฉางถูกมู่เฉียนซีทำให้โกรธจนเดี๋ยวดำเดี๋ยวแดงไปหมดแล้ว “มู่เฉียนซี!”
โม่ชิงอู่กล่าวว่า “ไป๋ฉาง มาพยายามผ่านไปให้ได้อย่างสุดความสามารถเถอะ! อย่าคิดมากนักเลย”
ทางออกของชั้นที่สาม อยู่ห่างจากตนเองเองใกล้มากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว
ในที่สุดก็เหลือระยะห่างเพียงน้อยนิด ฉื้อลั่วอวี่ไม่กล้าที่จะชะล่าใจ เช่นนั้นจึงชะลอความเร็วลงเล็กน้อย
นางไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่า ตอนที่ตนเองลดความเร็วเต็มที่ลงเพียงครู่หนึ่ง ก็มีร่างเงาสีม่วงร่างหนึ่งผ่านนางไปอย่างรวดเร็ว
หลังจากนั้น ก็ไปถึงปลายทางในที่สุด
ที่จริงแล้วทั้งหมดนี้เกิดขึ้นค่อนข้างที่จะรวดเร็วเป็นอย่างมาก จนทำให้ฉื้อลั่วอวี่ไม่มีการตอบสนองกลับมาได้ทัน
ที่จริงแล้วร่างที่อยู่เบื้องหน้านั้นค่อนข้างที่จะดูคุ้นเคยมากเลยทีเดียว ฉื้อลั่วอวี่กล่าวว่า “เจ้าอีกแล้วหรือ?”
“โอ้! ที่แท้ก็อัจฉริยะของเผ่าหงส์เพลิงนั่นเอง ข้าเร็วกว่าเจ้าก้าวหนึ่งนะ!” มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเรียบเฉย
“นี่เจ้าจงใจที่จะต่อต้านเผ่าหงส์เพลิงของข้าอย่างนั้นหรือ!”
“ข้าก็ไม่ได้จงใจที่จะต่อต้าน ข้ามาด้วยความเร็วปกติของข้า ความเร็วของเจ้าช้ากว่าข้าเลยมาถึงชั้นสามล่าช้ากว่าข้าเล็กน้อย เหตุใดถึงบอกว่าข้าจงใจที่จะต่อต้านเผ่าหงส์เพลิงของเจ้ากันล่ะ?”
“เจ้ากำลังเถียงข้าง ๆ คู ๆ!”
“แน่นอน ที่จะบอกว่าพวกเจ้าก็มีเรื่องที่ทำให้ไม่พอใจอยู่บ้าง! ถึงอย่างไรก็เป็นตอนอยู่ข้างนอกก่อนหน้านี้ และเป็นพวกเจ้าที่ยั่วยุข้าก่อน” มู่เฉียนซีกล่าวพลางโบกมือไปมา
“ไม่เสียเวลากับพวกเจ้าอีกแล้ว ข้าขอไปก่อนแล้วกัน!”
ฉื้อลั่วอวี่พุ่งไปถึงชั้นที่สาม เปลวเพลิงทั่วทั้งร่างต่างก็ควบคุมเอาไว้ไม่อยู่แล้ว
“บ้าเอ้ย! เจ้านั่นสมควรตายเสียจริง!”
ฉื้อเมิ่งก็พุ่งเข้ามาแล้วกล่าวขึ้นว่า “ท่านพี่หญิงลั่วอวี่ ท่านพูดว่าอะไรหรือ? ใครสมควรตาย!”
จนกระทั่งบัดนี้ ฉื้อลั่วอวี่ก็มีท่าทางที่สงบนิ่งมาโดยตลอด
“ความเร็วของพวกเจ้าช้าเกินไปแล้ว ยังไม่รีบไปอีก!”
“ค่ะ!”
หลังจากนั้น กลุ่มอื่นอีกหลายกลุ่ม ก็ได้ค่อย ๆ ทยอยเข้าสู่ชั้นที่สามทีละกลุ่ม
แต่ทว่าคนที่ถูกคัดออกกลับมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ และจำนวนคนที่เหลืออยู่ก็เริ่มลดน้อยลงเรื่อย ๆ เช่นกัน
ครืน!
ชั้นสามก็เป็นเช่นเดียวกัน ภายในชั้นนี้ล้วนเต็มไปด้วยสายฟ้เช่นกัน
ท่ามกลางอัสนีสีเงินก็มีสีขาวอยู่อย่างเจือจาง พลังนี้ ไม่ใช่พลังของธาตุอัสนีและธาตุวารีที่เขาคุ้นเคยอย่างแน่นอน ดังนั้นนางจึงไม่กล้าที่จะประมาท!
ตูม! สายฟ้าต่างก็ปกคลุมล้อมรอบตัวของมู่เฉียนซี พลังนั้น นางไม่อาจควบคุมได้อย่างสมบูรณ์
พลังวิญญาณธาตุวารีสามารถช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้มากขึ้นได้ แต่พลังธาตุอัคคีในสถานการณ์เช่นนี้ไม่อาจที่จะควบคุมมันเอาไว้ได้
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ภายในสายฟ้ามีไม้อยู่ ไม่คิดว่าอัสนีธาตุพฤกษาจะร้ายกาจถึงเพียงนี้!”
“เจ็บ!” มู่เฉียนซีส่งเสียงครวญครางอู้อี้ขึ้นมา เนื่องจากพลังธาตุพฤกษาทำการผสมผสานเข้าด้วยกัน ทำให้เกิดความพลุ่งพล่านอยู่ภายในเส้นเลือดของนางอย่างบ้าคลั่ง!
ความเจ็บปวดพุ่งไปถึงจุดขีดสุด เซลล์ทั่วทั้งร่างกายดูเหมือนว่าจะต้านทานต่อพลังของกาฝากนี้ไม่ไหว และไม่มีทางที่จะควบคุมได้!
ร่างกายของนางสั่นเทา และเหงื่อเม็ดใหญ่ไหลลงมาจากหน้าผาก
แต่ทว่าในช่วงเวลานี้ ก็มีสายฟ้าฟาดลงมาอีกระลอกหนึ่ง และมันก็ทำให้แย่ยิ่งขึ้นอย่างสมบูรณ์!
บางทีหอหลอมอัสนีอาจจะรู้สึกว่าสองชั้นก่อนหน้านี้ของนางถึงแม้ว่าจะเกิดปัญหาขึ้นบ้างเล็กน้อยแต่ก็ยังผ่านมาได้อย่างราบรื่น เช่นนั้นตอนนี้จึงให้นางเริ่มที่จะไม่มีความสุขบ้างแล้ว
มู่เฉียนซีกำหมัดแน่น การโจมตีครั้งนี้ ที่จริงแล้วไม่อาจหลบหนีหรือเริ่มตั้งรับได้!
ในตอนที่จะเกิดสายฟ้าระลอกที่สองขึ้นนั้น ก็มีพลังสีฟ้าอ่อนมาห่อหุ้มมู่เฉียนซีเอาไว้
ชิงอิ่งที่ฝึกฝนอยู่ภายในห้วงมิติก็ได้ปรากฏตัวขึ้น และเขาก็ได้รับสายฟ้าระลอกที่สองนี้ไป
ครืน! ธาตุอัสนีทั้งหมดไม่มีทางที่จะส่งผลกระทบใด ๆ ต่อชิงอิ่งได้ ไม่คาดคิดเลยว่าพลังของธาตุพฤกษาจะถูกชิงอิ่งดูดซับเอาไว้ได้ แล้วแปรเปลี่ยนสภาพเพื่อมาบำรุงตนเองได้
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ชิงอิ่ง ยอดเยี่ยมมากเลย!”
สายฟ้ารอบตัวของนางก็ได้สลายไป และร่างกายที่ถูกทำให้ได้รับบาดเจ็บ ไม่คาดคิดเลยว่าจะกลับมากระปรี้กระเปร่าเหมือนเกิดใหม่อีกครั้ง เส้นเอ็นและเส้นเลือดก็มีความยืดหยุ่นยิ่งกว่าเดิม
ชิงอิ่งมองไปทางมู่เฉียนซีแล้วกล่าวว่า “เฉียน สายฟ้านี้ มีประโยชน์ต่อข้ามากเลย!”
มู่เฉียนซีกล่าวพร้อมรอยยิ้มว่า “ดีเลย! ในเมื่อมีประโยชน์ เช่นนั้นพวกเราก็มาใช้ประโยชน์จากมันอย่างเต็มที่กันเถอะ”
“ไปด้วยกัน!”
ถึงแม้ว่าจะเจ็บปวด แต่ก็ยังยืนหยัดเอาไว้ได้!
มีชิงอิ่งอยู่ด้วย เมื่อไรที่นางยืนหยัดไว้ไม่ไหว ก็สามารถให้การช่วยเหลือจากภายนอกได้ ดังนั้นมู่เฉียนซีจึงเริ่มฝึกฝนอยู่ที่ชั้นสามอย่างสบายใจโดยไม่ต้องกังวลสิ่งใด
ครืน!
นับตั้งแต่เริ่มต้น จนถึงค่อย ๆ ที่จะปรับให้เข้ากันได้ เมื่อถึงตอนสุดท้าย ในที่สุดก็บรรลุผลลัพธ์ที่สมบูรณ์แบบที่สุดแล้ว
อย่างไรก็ตามนางเกือบที่จะเสร็จเต็มทีแล้ว แต่ชิงอิ่งกลับดูเหมือนว่ายังกินไม่อิ่มอย่างไรอย่างนั้น ไม่ว่าจะฟาดฟันไปมากน้อยเพียงใด พลังธาตุพฤกษาเหล่านั้น ดูเหมือนว่าจะไม่สามารถทำให้เขาพึงพอใจอย่างสมบูรณ์ได้
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ชิงอิ่ง เจ้าค่อย ๆ ฝึกฝนไปเสียเถอะ ข้าจะรอเจ้าเอง!”
ให้คนอื่นได้นำไปก่อน ก็ใช่ว่าจะไล่ตามไปไม่ทัน ร่างของชิงอิ่งแวววาว แล้วร่อนลงมาอยู่เบื้องหน้าของมู่เฉียนซีพลางกล่าวว่า “เฉียนรอข้าอีกหน่อยนะ!”