ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1646 หัวหน้าเผ่าหงส์เพลิง
“ตราบใดที่หาจุดอ่อนของหญิงสาวผู้นี้เจอ จะต้องจัดการกับนางได้แน่นอน!” ฉื้อลั่วอวี่กัดฟันกรอดพลางกล่าว
“ขอรับ!”
พวกเขาได้รับคำสั่งของฉื้อลั่วอวี่ให้หาจุดอ่อนของมู่เฉียนซี ทว่า…
จุดอ่อนของนางอยู่ที่ใดกัน พวกเขาหาจุดอ่อนของนางไม่เจอเลย
“ไม่มีจุดอ่อน นางไม่มีจุดอ่อนเลย”
“ร่างกายของนางช่างแข็งแกร่งยิ่งนัก คนอื่นจะหาจุดอ่อนของนางเจอได้อย่างไรกันเล่า”
“……”
พวกเขาอยู่ท่ามกลางหมอกควัน แต่คนที่ยืนดูอยู่ข้าง ๆ นั้นสามารถมองเห็นได้ชัดเจนยิ่งกว่า
ปัง ปัง ปัง!
พวกเขาจดจ่อกับการหาจุดอ่อนของมู่เฉียนซี ทำให้พวกเขาได้รับความเสียหายอย่างหนัก
หลังจากที่ได้เลื่อนขั้นและฝึกร่างกายมา อัจฉริยะธรรมดา ๆ ทั่วไปเหล่านี้ของเผ่าหงส์เพลิงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมู่เฉียนซีเลย
สายตาของมู่เฉียนซีจับจ้องไปที่ฉื้อลั่วอวี่ ต้องจัดการหญิงสาวผู้นี้ก่อน
ฉื้อลั่วอวี่รู้สึกได้ว่ามีกลิ่นอายอันเย็นยะเยือกพัดกระโชกเข้ามา นางเห็นเพียงแค่ร่างของมู่เฉียนซีเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วราวกับภูตผีปีศาจ และจู่ ๆ ก็ปรากฏตัวอยู่ที่ด้านหลังของนางแล้ว
ช่างรวดเร็วยิ่งนัก!
ทุกคนเห็นเช่นนี้แล้วต่างก็สูดลมหายใจลึกเข้าปอดด้วยความหวาดกลัว
“นี่จะบอกว่านางคือมนุษย์คนหนึ่ง…ใครจะเชื่อ ไม่มีใครเชื่อแน่!” คนคนหนึ่งกล่าวขึ้นด้วยความตื่นตระหนก
ฉื้อลั่วอวี่รู้สึกได้ถึงอันตรายที่ใกล้เข้ามา นางรีบโคจรพลังวิญญาณขึ้นเตรียมที่จะหลบหลีก
“ทักษะโยวจั๋ว!”
ตูม!
การโจมตีของทักษะวิญญาณนี้แฉลบผ่านร่างนางไป
พลังอันทำลายล้างนี้ทำให้ฉื้อลั่วอวี่รู้สึกสั่นสะท้านจนเหงื่อเย็นผุดพรายท่วมตัว จนไม่ได้สนใจเลยว่าขนหงส์ของนางนั้นร่วงหล่นลงมามากมายเท่าใดแล้ว
ทันใดนั้นเอง กระบี่มังกรเพลิงพิฆาตวิญญาณก็พุ่งตัดผ่านอากาศมา มู่เฉียนซีตะโกนด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เพลิงสังหารซิวหลัว!”
เปลวไฟสีแดงฉานพุ่งเข้ามาอย่างรุนแรง ประกายไฟสว่างวาบขึ้นและพุ่งขึ้นไปกลางอากาศ
ปัง!
ร่างของฉื้อลั่วอวี่ร่วงลงมาอย่างน่าสังเวช อาการบาดเจ็บที่บาดเจ็บอยู่แล้วนั้นยิ่งทวีคูณขึ้นอีก!
พื้นดินปรากฏรอยแยกอันน่าสะพรึงกลัวขึ้น ร่างของฉื้อลั่วอวี่ยังมีเปลวไฟแผดเผาอยู่เนือง ๆ นางรีบดับไฟอย่างรวดเร็ว
ร่างกายของนางถูกแผดเผาจนดำไหม้ มู่เฉียนซีรีบไล่ตามไป
“คุ้มกันลั่วอวี่ แล้วขวางนางเอาไว้!”
“เร็วเข้า!”
“ท่านพี่หญิงลั่วอวี่ เป็นอย่างไรบ้าง!”
คนของเผ่าหงส์เพลิงเหล่านั้นตื่นตระหนกขึ้นแล้ว ฉื้อฉินรีบพุ่งเข้าไปหา
“พวกเจ้าไสหัวออกไปให้หมด!”
ปัง ปัง ปัง!
เผชิญหน้ากับการขวางทางของทุกคนเช่นนี้ มู่เฉียนซีก็พุ่งออกไปด้วยความอุกอาจ
“ทักษะโยวจั๋ว!”
ทักษะวิญญาณนี้โจมตีไปที่ฉื้อฉินผู้ขวางทางจนร่างของฉื้อฉินกระเด็นลอยออกไปทันที
ส่วนมู่เฉียนซีในตอนนี้เหยียบร่างของฉื้อลั่วอวี่แล้ว
ในตอนนี้ฉื้อลั่วอวี่แทบอยากจะฉีกกระชากเนื้อหนังมังสาของมู่เฉียนซีออกใสเป็นชิ้น ๆ นางกล้าดีอย่างไร? กล้าดีอย่างไรถึงมาทำกับนางเช่นนี้ บัดซบยิ่งนัก!
บริเวณรอบ ๆ เงียบสงัดลง อัจฉริยะแห่งเผ่าหงส์เพลิงคนหนึ่งถูกมนุษย์ผู้หนึ่งเหยียบย่ำเช่นนี้ ช่างเป็นเรื่องอัปยศที่ไม่อาจลบล้างได้จริง ๆ
มู่เฉียนซีกล่าว “ฉื้อลั่วอวี่ ข้าไม่ได้รับสมบัติล้ำค่าใดของเผ่าหงส์ของพวกเจ้ามาจากชั้นเก้าของหอหลอมอัสนีเลย ไม่ว่าเจ้าจะเชื่อหรือไม่ แต่หากต่อไปเจ้ามายั่วยุข้าเช่นนี้อีก ข้าจะเอาชีวิตเจ้าแน่”
จิตสังหารอันเย็นยะเยือกวาบผ่านดวงตาของมู่เฉียนซี สิ่งนี้ทำให้ฉื้อลั่วอวี่รู้สึกหวาดกลัวจนตัวสั่น
ความหวาดกลัวเข้ามาแทนที่ความโกรธเกรี้ยว!
และในตอนนี้เอง น้ำเสียงอันโกรธเกรี้ยวเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น
“เจ้ามนุษย์ผู้นี้ช่างบังอาจเหิมเกริมยิ่งนัก นึกไม่ถึงเลยว่าจะกล้าทำร้ายบุตรสาวของช้า รนหาที่ตาย!”
“ท่านพ่อ!”
เมื่อได้ยินน้ำเสียงอันคุ้นเคยนี้ ดวงตาของฉื้อลั่วอวี่ก็เปล่งประกายขึ้น
ท่านพ่อของนางมาแล้ว มู่เฉียนซีผู้นี้ต้องตายแน่
พลังการกดขี่ข่มเหงของสัตว์เทพโจมตีเข้ามา โม่ชิงอู่และพวกรับรู้ได้ถึงพลังอันยิ่งใหญ่นี้แล้ว จึงจำต้องหยุดการต่อสู้ และกลายร่างเป็นร่างมนุษย์
หัวหน้าเผ่าหงส์เพลิงมาแล้ว พลังเช่นนี้ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาจะรับมือได้ นางจึงทำได้เพียงแค่ขอความช่วยเหลือจากพ่อบุญธรรมเท่านั้น
ในขณะที่โม่ชิงอู่ตัดสินใจจะทำเช่นนี้นั้น นึกไม่ถึงเลยว่ามู่เฉียนซีจะลงมือแล้ว
ปัง! นางเตะร่างของฉื้อลั่วอวี่จะกระเด็นลอยออกไป และเป้าหมายที่เตะนั้นก็คือทางที่หัวหน้าเผ่าหงส์เพลิงอยู่นั่นเอง
“ลั่วอวี่!”
เมื่อเห็นร่างของบุตรสาวตนเองกระเด็นลอยอยู่กลางอากาศ หัวหน้าเผ่าหงส์เพลิงจึงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟขึ้น เขากล่าว “ยังไม่รีบเข้าไปช่วยลั่วอวี่อีก!”
“รีบไปช่วยลั่วอวี่เร็วเข้า หากลั่วอวี่เป็นอะไรไปข้าไม่ปล่อยพวกเจ้าไว้แน่”
ปัง!
พวกเขารับร่างของฉื้อลั่วอวี่เอาไว้ได้ จึงทำให้นางไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัสไปมากกว่านี้
คนอื่น ๆ ตกอยู่ในความตกตะลึงพรึงเพริด มู่เฉียนซีผู้นี้ช่างกล้ายิ่งนัก!
หัวหน้าเผ่าหงส์เพลิงมาแล้ว นึกไม่ถึงเลยว่านางจะกล้าปฏิบัติต่อฉื้อลั่วอวี่เช่นนี้
ขวับ ขวับ ขวับ!
ร่างหลายร่างพุ่งไปปรากฏตัวด้านหน้ามู่เฉียนซี พลังความแข็งแกร่งของสัตว์เทพระดับสูงยากที่จะยับยั้งได้ พวกเขาต้องการให้มู่เฉียนซีผู้นี้ได้เห็นดี
หากนางยังไม่ได้เผชิญหน้ากับพลังอันแข็งแกร่งของจักรพรรดิเฟิงเหลยมาก่อน บางทีมู่เฉียนซีอาจจะรู้สึกว่าสัตว์เทพระดับสูงเก่งกาจมากก็ได้
ทว่า ตอนนี้ไม่ได้เป็นเช่นนั้น!
สีหน้าของมู่เฉียนซียังคงเป็นเฉกเช่นเดิมไม่เปลี่ยน นางกล่าว “ทำไมล่ะ เด็กทะเลาะกัน แต่คนแก่เข้ามายุ่งเกี่ยว เผ่าหงส์เพลิงช่างไร้ยางอายยิ่งนัก!”
หัวหน้าเผ่าหงส์เพลิงกล่าวด้วยความโกรธเกรี้ยวว่า “สาวน้อย นึกไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่าเจ้าจะกล้ากล่าววาจาเช่นนี้กับข้า เจ้ามันช่างบังอาจยิ่งนัก!”
“ข้าก็แค่กล่าวตามความจริง! พวกท่านอายุก็แก่ปูนนี้แล้ว หากมารังแกข้า ก็นับว่าไร้ยางอายเกินไปแล้ว”
สีหน้าของคนเผ่าหงส์เพลิงเหล่านี้พลันเปลี่ยนไปมาก แม้ว่าตอนนี้เผ่าหงส์จะไม่เหมือนเดิม แต่ความเย่อหยิ่งนั้นยังคงอยู่
รังแกเด็กคนหนึ่ง พวกเขาไม่ทำ
“ท่านพ่อ ท่านพ่อ นางขึ้นไปถึงชั้นเก้า นางต้องได้รับสมบัติล้ำค่าล้ำค่ามาแน่นอน ไม่ว่ายังไงก็ปล่อยนางไปไม่ได้เด็ดขาด”
หัวหน้าเผ่าหงส์เพลิงกล่าว “พวกข้าไม่รังแกมนุษย์อย่างเจ้าแน่ แต่หากเจ้าไม่ยอมเอาของสมบัติล้ำค่าของเผ่าหงส์ออกมา เช่นนั้นเจ้าก็ต้องไปกับข้าแล้ว”
“ก็ข้าบอกแล้วว่าข้าไม่ได้รับสมบัติล้ำค่าอันใดของเผ่าหงส์มา” มู่เฉียนซีกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ได้รับหรือไม่ ไม่ใช่สิ่งที่เจ้าจะบอกแล้วจะเป็นเช่นนั้นเสมอไป ในเมื่อเจ้าไม่ยอมรับ เช่นนั้นก็ต้องไปกับข้าสักหน่อยแล้ว” หัวหน้าเผ่าหงส์เพลิงกล่าวอย่างเด็ดขาด
“ช้าก่อน!” โม่ชิงอู่เดินออกไป
“หัวหน้าเผ่าหงส์เพลิง มู่เฉียนซีเป็นคนของเผ่าหงส์นิลของพวกข้า ต่อให้นางผ่านการทดสอบจากหอหลอมอัสนีและได้รับสมบัติล้ำค่าของเผ่าหงส์ไป แต่ของล้ำค่านั้นก็ไม่จำเป็นต้องให้เป็นหน้าที่พวกเจ้าจัดการกระมัง ข้าจะพานางกลับเผ่าหงส์นิล”
เผชิญหน้ากับหัวหน้าเผ่าผู้นี้ ในใจของโม่ชิงอู่กลัดกลุ้มมาก
หัวหน้าเผ่าหงส์เพลิงกล่าว “ข้าได้รับคำสั่งลับมาจากท่านราชาเทพ ให้บุตรสาวของข้าไปนำของล้ำค่าของเผ่าหงส์มา ดังนั้นเรื่องนี้เผ่าหงส์นิลของพวกเจ้าจะเข้ามายุ่งเกี่ยวไม่ได้”
“เหอะ ๆ ๆ! บุตรสาวของเจ้าไร้ความสามารถ แต่กลับใช้วิธีการแย่งชิงอย่างนั้นเหรอ เผ่าหงส์เพลิง ช่างสง่างามยิ่งนัก!”
“สาวน้อย ข้าจะไม่ต่อปากต่อคำกับเจ้าแล้ว เอาสมบัติล้ำค่านั้นออกมาเดี๋ยวนี้!”
หากทำเป็นหูทวนลมก็ยากจะหลีกเลี่ยงความวุ่นวายได้
เขากล่าว “ทุกคนรีบออกไปจากแคว้นหลอมอัสนี อย่าได้เข้ามาขวางทางข้าเป็นอันขาด!”
รังแกมนุษย์สาวน้อยคนหนึ่งมันเป็นเรื่องที่น่าเกลียด แต่หากไม่มีใครเห็น ก็ไม่เป็นไร!
เหล่าผู้คนที่ดูความครึกครื้นอยู่ในตอนนี้ ต่างก็ไม่กล้าดูดกันต่อแล้ว โม่ชิงอู่ก็ไม่กล้าอยู่ต่อแล้ว
นางกล่าว “มู่เฉียนซี เจ้าเชื่อฟังหัวหน้าเผ่าหงส์เพลิงก่อนเถอะ ข้าจะกลับไปหาพ่อบุญธรรมบอกให้พ่อบุญธรรมไปรับเจ้าที่เผ่าหงส์เพลิง”
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “ไม่จำเป็น! พวกเจ้ากลับไปก่อนเถอะ!”
ทุกคนล้วนแต่กลับไปกันแล้ว ตอนนี้เหลือเพียงแค่คนของเผ่าหงส์เพลิงและมู่เฉียนซีแล้ว ไม่มีใครช่วยมู่เฉียนซีได้แม้แต่คนเดียว ไม่ว่ามู่เฉียนซีจะมีความสามารถมากเพียงใดก็ยากที่จะหลบหนีไปได้