ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1647 พบความรักอีกครั้ง
ฉื้อลั่วอวี่กล่าวอย่างดุร้ายว่า “ท่านพ่อ! ก่อนที่จะนำนางกลับไปยังเผ่าหงส์เพลิง ท่านจะต้องให้ข้าได้ชำระแค้นเสียก่อน ข้าจะไม่ยอมปล่อยให้นางมีชีวิตที่ดีแน่นอน”
“นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว กล้ามาทำให้ลูกสาวข้าบาดเจ็บ แน่นอนว่าจะต้องชดใช้อย่างสาสม!” หัวหน้าเผ่าหงส์เพลิงกล่าว
คนของเผ่าหงส์เพลิงพุ่งมาหามู่เฉียนซีและกระโจนเข้าใส่ด้วยท่าทางที่ดุดัน เดิมทีคิดว่าจะจัดการสาวน้อยคนหนึ่งอย่างมู่เฉียนซีนั้นเป็นเรื่องที่ง่ายดายอย่างสิ้นเชิง
ไม่คาดคิดเลยว่า เงาร่างสีม่วงนั้นจะหายวับไปจากสถานที่แห่งนี้เสียแล้ว
ฉื้อลั่วอวี่มองอย่างงุนงง “มีความเร็วที่รวดเร็วเช่นนี้ได้อย่างไรกัน?”
หากเมื่อไรที่มู่เฉียนซีประมือกับนาง ด้วยความเร็วที่รวดเร็วเช่นนี้ นางคงจะไม่มีแรงพอที่จะสู้กลับได้เลย
“สวยน้อยผู้นี้ไม่ธรรมดาเลย ไม่คาดคิดว่าบนตัวของนางจะมีมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพที่มีคุณสมบัติแห่งห้วงมิติอยู่ด้วย” มีแสงเปล่งประกายขึ้นมาในดวงตาของหัวหน้าเผ่าหงส์เพลิง
หลังจากนั้น หัวหน้าเผ่าหงส์เพลิงก็ออกคำสั่งว่า “มหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพที่มีคุณสมบัติแห่งห้วงมิตินี้ มีระยะห่างการเคลื่อนย้ายของมิติอย่างจำกัด ไปเฝ้าในแต่ละที่เอาไว้ ดูซิว่านางจะหลีกเลี่ยงไปได้อย่างไร?”
พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บ!
ผู้แข็งแกร่งของเผ่าหงส์เพลิงเหล่านี้ ได้ล้อมรอบเอาไว้ทั่วทุกทิศทุกทาง
ระยะห่างที่นางสามารถการเคลื่อนย้ายภายในชั่วพริบตาได้นั้นค่อนข้างสั้น ไม่ว่าจะหลบไปถึงที่ไหน ต่างก็สามารถถูกพวกเขาจับเอาไว้ได้
ปัง!
ถึงจะเผชิญหน้ากับสัตว์เทพระดับที่แข็งแกร่ง แต่ทว่ามู่เฉียนซีก็ยังคงต่อต้านอย่างหนัก!
“ทักษะโยวจั๋ว!”
ตูม! มีเสียงดังกึกก้องขึ้น ฝ่ายตรงข้ามถูกมู่เฉียนซีขับไล่ แต่ตัวของมู่เฉียนซีเองกลับไม่เป็นอะไรเลย
“นังสาวน้อยผู้นี้นี่!” สีหน้าของพวกเขาเปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้นมาทันที
“ความสามารถของสัตว์เทพที่อ่อนแอ ทำร้ายนางไม่ได้ กายเนื้อนั้นช่างแข็งแกร่ง พวกเจ้าทั้งหลายลงมือพร้อมข้า!”
หัวหน้าเผ่าหงส์เพลิงได้ระบุตัวผู้ชายที่มีความแข็งแกร่งมากที่สุดหลายคน และให้พวกเขาแต่ละคนระเบิดพลังที่แข็งแกร่งออกมา จากนั้นก็พุ่งไปทางมู่เฉียนซี
ผู้ใหญ่มารังแกเด็กยังไม่เท่าไร นี่ยังรุมโจมตีอีก
อู๋ตี้และเสี่ยวหงส์ทนดูต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว “นายท่าน ไม่ใช่ว่าเป็นเพียงแค่ขนนกสีแดงหรอกหรือ? พวกเรามาทำมันด้วยกันเถอะ!”
เมื่อเผชิญหน้ากับกลุ่มคู่ต่อสู้ของผู้แข็งแกร่งแห่งเผ่าหงส์เพลิง แน่นอนว่ามู่เฉียนซีต้องการให้สหายของนางออกปฏิบัติการอยู่แล้ว
และในเวลานี้เอง น้ำเสียงที่อบอุ่นของสุ่ยจิงอิ๋งก็ดังขึ้นมา “ซีเอ๋อร์ เจ้าถูกคนรังแก ข้าจะให้จิ่วเยี่ยมาทันที เจ้านายของพวกเราไม่ใช่คนที่พวกหงส์ที่มีสายเลือดไม่บริสุทธิ์เช่นนี้จะสามารถรังแกได้”
มู่เฉียนซียังไม่ทันที่จะได้ออกคำสั่ง สุ่ยจิงอิ๋งก็ได้เชิญคนผู้นั้นมาเองโดยตรง
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “สุ่ยจิงอิ๋งเจ้าทำได้ดีมาก! พวกเจ้าคิดจริง ๆ หรือว่าข้าเป็นคนอื่นมารังแกได้ง่าย ๆ เมื่ออยู่ตามลำพังเช่นนี้? รนหาที่ตายเสียจริง!”
ราชาจิ่วเยี่ยที่หายไปจากคุกโลหิต ทำให้จื่อโยวตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
เขาเริ่มออกคำสั่งว่า “ในที่สุดแม่สาวน้อยก็มีข่าวคราวแล้ว ยอดเยี่ยมมาก! ทุกคนไปเตรียมตัวให้พร้อม แล้วรีบไปยังโลกของหงส์! ครั้งนี้ไม่ได้มีเพียงการต่อสู้ที่ดุเดือดกับเผ่าหงส์เท่านั้น แต่ยังต้องต่อสู้กับคนเหล่านั้นด้วย”
“ขอรับ ท่านจื่อโยว!”
ตูม! มีกลุ่มก้อนสีแดงพุ่งเข้ามา แต่ผลก็คือ มันถูกทำให้กลายเป็นความว่างเปล่าโดยพลังอำนาจแห่งความมืด
อยู่ดี ๆ ก็มีผู้ชายสวมชุดสีดำคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้น และรูปร่างสูงระหงนั้นก็มาพร้อมกับแรงกดดันที่ทำให้คนหายใจลำบาก
พลังที่แผ่กระจายออกมานั้น เป็นพลังแห่งความมืดที่แข็งแกร่งมากที่สุด
ไม่ใช่…
เป็นเพียงแค่พลังแห่งความมืด เป็นไปไม่ได้ที่จะแข็งแกร่งมากเช่นนั้น รูม่านตาของหัวหน้าเผ่าหงส์เพลิงหดเกร็งขึ้นมาในทันที จากนั้นก็ส่งสัญญาณมือให้พวกเขาได้รู้ว่าเงาร่างนั้นเป็นคนอันตราย
และลำแสงสีดำ ได้ขวางสายตาของพวกเขาเอาไว้
ภายในลำแสงนี้ จิ่วเยี่ยก็ได้ขังมู่เฉียนซีเอาไว้อย่างแน่นหนา แล้วจ้องมองมาที่นางด้วยดวงตาสีฟ้าอันเย็นยะเยือกคู่นั้น ดูราวกับว่าต้องการจะหลอมรวมไปกับจิตวิญญาณของนางอย่างไรอย่างนั้น
แล้วน้ำเสียงที่แหบพร่าก็ดังขึ้นมา “ข้า หาเจ้าเจอแล้ว ซี!”
ดวงตาสีฟ้าเย็นยะเยือกคู่นั้นฉายประกายลำแสงแห่งความอันตรายออกมา ถึงแม้ว่าเขาจะเดือดเป็นฟืนเป็นไฟ แต่ก็ยังคงสงบเงียบอยู่
แต่ทว่ามู่เฉียนซีนั้นเข้าใจเป็นอย่างดี ว่าภายใต้ความสงบเงียบนั้นได้ซ่อนพายุที่นางไม่อาจรับมือได้อยู่ด้วย
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ข้ารอเจ้าอยู่ จิ่วเยี่ย!”
หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าพูดความจริงในใจออกมาด้วยรอยยิ้ม ซึ่งนั้นก็ทำให้ลมหายใจที่เป็นอันตรายของจิ่วเยี่ยนั้นเปลี่ยนไปสงบลง
หลังจากนั้น มู่เฉียนซีก็เคลื่อนไหวอีกครั้ง
“จิ่วเยี่ย พวกเขารังแกข้า! แก้แค้นให้ข้าด้วย”
นางส่งต่อความเกลียดชัง ให้ผู้ชายเผ่าหงส์เพลิงเหล่านี้ต้องมาโชคร้ายแทนนางเสียแล้ว!
จิ่วเยี่ยอุ้มนางขึ้นมา แล้วกล่าวว่า “เช่นนั้นซีบอกมาหน่อย เหตุใดข้าจะต้องแก้แค้นให้เจ้าด้วย?”
มู่เฉียนซีคล้องคอของเขาเอาไว้ จากนั้นจึงโน้มเข้าไปใกล้หูของเขา “เช่นนั้นหากบอกว่า เจ้าก็คือข้า ทั้งตัวของเจ้าต่างก็เป็นของข้า ไม่แก้แค้นให้ข้า แล้วเจ้าคิดจะไปแก้แค้นให้ผู้ใดกัน?”
ความเร่าร้อนที่กำลังพ่นอยู่ข้างหูของหวงจิ่วเยี่ย ความโหยหาที่ยาวนานเช่นนี้ ไม่ใช่เพียงคำพูดที่แสนชาญฉลาดน่าฟังที่ซีพูดให้ฟังเพียงไม่กี่คำจะสามารถทำให้เขาสงบลงได้
ทันทีที่มืออันเรียวบางขยับ ก็ได้ควบคุมศีรษะของมู่เฉียนซีเอาไว้ จากนั้นริมฝีปากที่เย็นยะเยือกก็ปกคลุมลงมาโดยตรง
“อื้อ!”
เหมือนเช่นลมฝนที่โหมพัดอย่างบ้าคลั่ง กวาดคูเมืองของมู่เฉียนซีไปอย่างไรอย่างนั้น และเมื่อสูญเสียคูเมืองไป ก็ทำได้เพียงแต่ต้องปล่อยให้ท่านราชาจิ่วเยี่ยกระทำความผิดอย่างกำเริบเสิบสานต่อไปเท่านั้น
หัวหน้าเผ่าหงส์เพลิงและคนอื่น ๆ ต่างก็ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น ในเวลานี้พวกเขาต่างก็อกสั่นขวัญแขวน จนเหงื่อเย็นชุ่มอยู่เต็มหลัง
ฉื้อลั่วอวี่ก็ตะลึงงันไปเล็กน้อย นางไม่เคยเห็นชายที่มีพลังแข็งแกร่งมากเช่นนี้มาก่อน
“ท่านพ่อ นาง…”
“ไป! พวกเรารีบไปเร็วเข้า!” หัวหน้าเผ่าหงส์เพลิงกล่าว
ในฐานะที่เขาเป็นหัวหน้าของเผ่าหงส์เพลิง เคยเห็นผู้ยิ่งใหญ่อย่างเทพราชามาแล้ว แต่ทว่าพลังอำนาจของผู้ชายคนนี้ ไม่คาดคิดว่าจะน่าหวาดกลัวยิ่งกว่าท่านเทพราชาเสียอีก
คนที่แข็งแกร่งมากเช่นนี้ พวกเขาหาเรื่องด้วยไม่ได้ ทำได้เพียงแค่หลบเท่านั้น!
ในขณะที่พวกเขากำลังจะหนีไปนั้น ทันใดนั้นก็มีพลังปะทะเข้ามาที่พวกเขาอย่างจัง จนรู้สึกเย็นยะเยือกไปทั้งตัว
ปัง ปัง ปัง!
พวกเขาคุกเข่าลงบนพื้นทีละคน เมื่อเห็นลำแสงสีดำนั้นแล้ว บนใบหน้าก็เผยให้เห็นถึงความหวาดกลัวออกมา
แม้แต่การจะหลบหนี ก็ยังเป็นอะไรที่หวังเกินตัวไปมากนัก
“ท่านพ่อ…ข้ากลัว…” ฉื้อลั่วอวี่กล่าวอย่างสั่นเทา สีหน้าซีดเซียวเป็นอย่างยิ่ง
หัวหน้าเผ่าหงส์เพลิงกล่าวว่า “ลั่วอวี่ ไม่ต้องกลัว! ท่านผู้ยิ่งใหญ่ที่แข็งแกร่งมากเช่นนี้ จะต้องไม่ใช่คนที่ไร้เหตุผลอย่างแน่นอน”
พวกเขาไม่กล้าหนีไป ทำได้เพียงแค่คุกเข่าอยู่ตรงนั้น แล้วรอ!
มู่เฉียนซีรู้สึกว่าตนเองหายใจลำบากจากการถูกจิ่วเยี่ยจูบอย่างดุร้ายราวกับหมาป่า
หลังจากที่ริมฝีปากได้รับอิสระแล้ว จิ่วเยี่ยก็จ้องมองมาที่นางแล้วกล่าวว่า “ซีจะต้องพิสูจน์โดยใช้การกระทำที่แท้จริง ว่าข้าเป็นของเจ้า”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ตอนนี้พิสูจน์แล้ว เช่นนั้น…”
“เมื่อครู่ไม่นับ!”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “เจ้า…”
ราชาจิ่วเยี่ยไม่ยอมเสียเปรียบ และนี่ก็คือสัญญาณที่ให้นางได้เริ่มปฏิบัติ
มู่เฉียนซีได้เข้าไปใกล้แล้วกล่าวว่า “ข้าคิดถึงท่าน!”
และนางก็เริ่มจูบเขาก่อน ในตอนแรกราชาจิ่วเยี่ยไม่ได้ต่อต้าน และค่อย ๆ ลิ้มรสมันอย่างช้า ๆ
ถึงแม้ว่าจะไม่อยากให้จิ่วเยี่ยต้องมาเสี่ยงภัยที่เผ่าหงส์ แต่ทว่าในตอนนี้สถานการณ์ของเผ่าหงส์ ไม่สามารถอาศัยพลังของนางเพียงคนเดียว แล้วจะสามารถหาคัมภีร์หมื่นคำสาปเจอได้อย่างแน่นอน
พวกเขาจำเป็นที่จะต้องร่วมมือกัน เมื่อจิ่วเยี่ยมาแล้วก็ทำให้นางมั่นใจมากยิ่งขึ้น
ไม่ว่าจะมีความยากลำบากเพียงใด พวกเขาก็จะพยายามกันอย่างเต็มที่เพื่อหาคัมภีร์หมื่นคำสาปให้เจอ
ความรักและความอาลัยอาวรณ์ที่ยาวนานของเขาทั้งสองมาพบกันอีกครั้ง แต่ทว่าคนของเผ่าหงส์เพลิงกลับตกอยู่ในความอกสั่นขวัญแขวน
พวกเขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าเด็กสาวที่ไม่ทราบที่มาคนหนึ่งเบื้องหลังจะมีผู้ยิ่งใหญ่ที่แข็งแกร่งมากเช่นนี้คอยปกป้องอยู่ เป็นความผิดพลาดจริง ๆ!
ในที่สุดมู่เฉียนซีก็ทำให้ท่านผู้ยิ่งใหญ่อย่างจิ่วเยี่ยพึงพอใจได้แล้ว และอารมณ์ที่เป็นเหมือนเมฆดำก็เปลี่ยนเป็นสดใส ลำแสงสีดำนั้นก็กระจายออกไป ในเวลานี้พวกเขาเพิ่งจะได้เห็นชายในชุดดำผู้นั้นได้อย่างชัดเจน พลังอำนาจที่น่าหวาดกลัว แผ่กระจายความเย็นยะเยือกที่ไม่ได้เป็นของโลกนี้ ที่เพียงเหลือบมอง ก็สามารถทำให้คนหวาดกลัว แล้วยอมจำนนได้