ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1648 คนของราชา
หัวหน้าเผ่าหงส์เพลิงถูกทำให้ตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อไปหมดแล้ว เขากล่าวว่า “ท่านผู้ยิ่งใหญ่ พวกเราเพียงแค่ทำตามคำสั่งของท่านเทพราชาผู้ยิ่งใหญ่เท่านั้น และเราก็ไม่ได้ทำร้ายแม่นางมู่อย่างแน่นอน ไม่ได้…”
“เทพราชา ผู้ใดกัน?” จิ่วเยี่ยกล่าวอย่างเย็นชา
“ท่านเทพราชาชางอี้!” หัวหน้าเผ่าหงส์เพลิงกล่าว
จิ่วเยี่ยกล่าวอย่างเรียบเฉยว่า “เขากลายเป็นเทพราชาแล้วหรือ”
เหงื่อเย็นของหัวหน้าเผ่าหงส์เพลิงแตกพลั่ก เมื่อได้ยินน้ำเสียงของท่านผู้นั้นแล้ว ดูเหมือนว่าจะรู้จักเทพราชาชางอี้ แต่ทว่าเขาไม่ได้เห็นเทพราชาชางอี้อยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อย
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ท่านหัวหน้าเผ่าหงส์เพลิง ข้าพูดไปอย่างชัดเจนแล้ว ว่าข้าไม่ได้นำสมบัติล้ำค่าล้ำค่าของเผ่าหงส์ออกมาจากหอหลอมอัสนี! จักรพรรดิเฟิงเหลยแข็งแกร่งเช่นนั้น ท่านคิดว่าด้วยความสามารถของข้า จะมีฝีมือพอที่จะเอาสมบัติล้ำค่ามาได้เช่นนั้นหรือ?”
หัวหน้าเผ่าหงส์เพลิงกล่าวขอโทษอย่างรีบร้อน “เป็นความผิดของข้าเอง! เป็นข้าที่หุนหันพลันแล่นเกินไป เข้าใจผิด! ข้าเข้าใจผิดไปแล้ว! ท่านผู้ยิ่งใหญ่โปรดให้ข้าได้ไถ่บาปด้วย”
จิ่วเยี่ยกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ซีไม่มีทางที่จะโกหกข้า พวกเจ้าใส่ร้ายซี เช่นนั้น…”
ตัวของพวกเขาหดเกร็งอย่างกะทันหัน พลังที่น่าสะพรึงกลัวคืบคลานเข้ามาอย่างเงียบงัน
“กรี๊ด!” ทันใดนั้นมีเสียงกรีดร้องดังขึ้นมา และผู้โชคร้ายก็คือฉื้อลั่วอวี่
ในเวลานี้ใบหน้าครึ่งหนึ่งของฉื้อลั่วอวี่เปลี่ยนเป็นกระดูกขาวแล้ว ต่อมาก็ถูกบีบให้เปลี่ยนกลายเป็นร่างที่แท้จริง และปีกข้างหนึ่งก็กลายเป็นกระดูกขาวเช่นกัน
และที่ทำให้นางเจ็บปวดยิ่งกว่านั้นก็คือ ตอนนี้นางไม่มีทางกลายร่างเป็นมนุษย์ได้แล้ว อีกทั้งปีกที่กลายเป็นเช่นนี้ ก็ไม่สามารถที่จะบินได้อีกด้วย!
“ท่านหัวหน้า ช่วยชีวิตข้าด้วย!”
ยอดฝีมือแห่งเผ่าหงส์เพลิงที่ปิดล้อมโจมตีมู่เฉียนซีก่อนหน้านี้ ก็ต้องประสบพบเจอกับการโจมตีที่น่าหวาดกลัวขึ้นเช่นกัน
“ท่านผู้ยิ่งใหญ่! โปรดไว้ชีวิตด้วย!”
“พวกเราไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ”
“ทะ…ท่านได้โปรดอย่าโกรธเคืองอีกเลย” หัวหน้าเผ่าหงส์เพลิงรีบร้อนขอความเมตตาให้กับพวกเขา
จิ่วเยี่ยกล่าวอย่างเมินเฉยว่า “หากว่าข้าโกรธขึ้นมาจริง ๆ เจ้าคิดว่าตอนนี้พวกเจ้าจะยังอยู่ตรงนี้ได้อยู่อีกอย่างนั้นหรือ?”
หัวหน้าเผ่าหงส์เพลิงเย็นยะเยือกไปถึงก้นบึ้งของหัวใจ หากท่านผู้ยิ่งใหญ่นี้โกรธขึ้นมาจริง ๆ พวกเขาก็คงจะตายไปนานแล้ว
“นี่คือคำเตือนของข้าสำหรับพวกเจ้า คนของราชา ไม่ว่าผู้ใดก็ไม่อาจรังแกได้!”
ดวงตาสีฟ้าเย็นยะเยือกชำเลืองมองไปที่หัวหน้าเผ่าหงส์เพลิง และหัวหน้าเผ่าหงส์เพลิงก็รู้สึกราวกับว่าตนเองนั้นได้ตกลงไปในถ้ำน้ำแข็งอย่างกะทันหัน
ความเย็นยะเยือกเช่นนี้ แม้แต่เปลวเพลิงของหงส์ ก็ไม่มีทางที่จะต้านทานความเย็นยะเยือกนี้ได้
เป็นคนที่น่าหวาดกลัวจริง ๆ!
หัวหน้าเผ่าหงส์เพลิงรีบร้อนกล่าวว่า “ข้ารู้แล้ว! ข้ารู้แล้ว เป็นความผิดของพวกเรา มันเป็นความผิดของพวกเราเอง!”
“โปรดให้โอกาสพวกเราได้แก้ตัวสักครั้ง พวกเราจะชดเชยให้อย่างดีแน่นอน”
เดิมทีแล้วพวกเขาแค่ต้องการสมบัติล้ำค่าของเผ่าหงส์เท่านั้น เพื่อจะได้ความดีความชอบอันยิ่งใหญ่ แต่กลับไม่คาดคิดเลยว่าจะไปล่วงเกินปีศาจที่น่าหวาดกลัวเช่นนี้ได้
จิ่วเยี่ยจ้องมองไปทางมู่เฉียนซี “ซีอยากจะให้ชดใช้อย่างไร!”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “อื้ม! ให้ข้าคิดก่อน”
ถึงอย่างไรเผ่าหงส์เพลิงก็เป็นหนึ่งในเผ่าสูงสุดไม่กี่เผ่าของเผ่าหงส์ หากต้องแก้ไขปัญหาทั้งหมดที่นี่จริง ๆ เกรงว่าคงจะดึงดูดความสนใจของผู้คนเป็นแน่
ถึงจะทำลายไม่ได้ แต่ก็ไม่อาจปล่อยพวกเขาไปได้ง่าย ๆ เช่นกัน
หัวหน้าเผ่าหงส์เพลิงและคนอื่น ๆ ต่างอกสั่นขวัญแขวนไปกันหมด และไม่รู้จริง ๆ ว่าอีกฝ่ายจะขออะไรบ้าง?
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “เผ่าหงส์เพลิงของพวกเจ้าน่าจะมีเงินใช่หรือไม่! จะยกโทษให้พวกเจ้าก็ได้ เช่นนั้นมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพบนตัวของพวกเจ้าเอย! สมุนไพรวิญญาณเอย! มอบมาเป็นค่าชดเชยความเสียหายทางจิตใจของข้า และเป็นค่าเสื่อมเสียเกียรติของข้าด้วย…”
พรวด! ฉื้อลั่วอวี่ผู้น่าเวทนามาแต่ตั้งแต่แรกกระอักเลือดออกมาและหมดสติไป
ผู้หญิงคนนี้รีดไถนางไม่เท่าไร ไม่คาดคิดเลยว่าจะรีดไถพ่อของนางด้วย
สิ่งนี้ มันพูดง่ายเสียจริง!
จะทิ้งอะไรไว้ที่นี่ต่างก็ไม่ใช่ปัญหาทั้งนั้น หัวหน้าเผ่าหงส์เพลิงกล่าวว่า “ดี! ดีเลย ได้อยู่แล้ว! นี่เป็นสิ่งที่สมควร สมควรแล้ว!”
หัวหน้าเผ่าหงส์เพลิงปล้นทุกสิ่งทุกอย่างที่เหล่ายอดฝีมือที่พามาด้วยเหล่านี้มีไว้ในครอบครองมาจนหมดสิ้น
สุดท้าย จิ่วเยี่ยก็กล่าวอย่างเย็นชาว่า “ข้ามาทำภารกิจที่โลกแห่งหงส์อย่างลับ ๆ หากข่าวของข้ารั่วไหลออกไปแม้แต่น้อยแล้วละก็ เผ่าหงส์ของพวกเจ้า…”
“ล่มสลายอย่างแน่นอน!”
เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้ชายคนนี้ เหมือนกับเผชิญหน้าเทพปีศาจซิวหลัวอย่างไรอย่างนั้น ทั้งยังเหมือนกับเทพเจ้าผู้สูงส่งเกินเอื้อมที่มองทุกสรรพสิ่งราวกับเป็นมดปลวก
คำพูดของเขา หัวหน้าเผ่าหงส์เพลิง ไม่กล้ามีข้อสงสัยใด ๆ เลยสักนิดเดียว
“ท่านผู้ยิ่งใหญ่โปรดวางใจ พวกเราจะไม่เปิดเผยแม้แต่ประโยคเดียวอย่างแน่นอน”
“ไม่อย่างแน่นอน!”
“พวกเราไม่กล้าอย่างแน่นอน!”
พวกเขาคลานอยู่บนพื้น และอยู่ต่ำจนแทบจะคลุกลงไปอยู่ในฝุ่นอยู่แล้ว
“แม้แต่จะคิด พวกเจ้าก็ต้องไม่กล้า” จิ่วเยี่ยกล่าวอย่างเย็นชา
เมื่อเผชิญหน้ากับคนของเผ่าหงส์เพลิงเขาทั้งเฉยเมยและโหดร้าย แต่สำหรับมู่เฉียนซี น้ำเสียงของจิ่วเยี่ยกลับอ่อนโยนไปไม่น้อยเลย
“ซี! เจ้าจะไปที่ใด?”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ไปที่เผ่าหงส์นิลกันก่อนเถอะ!”
เคล็ดวิชาที่รวบรวมมาจากคนของเผ่าหงส์เพลิงเหล่านั้น ก็ไม่มีที่เหมาะสมกับเสี่ยวโม่โม่เช่นกัน
จิ่วเยี่ยโอบกอดมู่เฉียนซีเอาไว้ แล้วหายไปต่อหน้าต่อตาพวกเขา
ปึก! หัวหน้าเผ่าหงส์เพลิงและคนอื่น ๆ ล้มลงไปบนพื้นด้วยใบหน้าที่ซีดเผือด
เกือบไปแล้ว เกือบจะถูกสังหารโดยผู้ชายที่แข็งแกร่งคนนั้นเสียแล้ว
“กลับเผ่า!” หัวหน้าเผ่าหงส์เพลิงกล่าว
“เช่นนั้นพวกเขา…”
ฉื้อลั่วอวี่ได้รับบาดเจ็บหนักที่สุด ส่วนคนอื่นก็ไม่ได้ต่างกันเท่าไรนัก
พลังที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ ที่จริงแล้วคืออะไรกันแน่? ช่วงชิงชีวิต ช่วงชิงเลือดเนื้อ และช่วงชิงทั้งหมดไป!
“พาไปให้หมด ให้พวกเขารักษาอย่างดี อย่าให้ผู้ใดพบเห็นได้”
“องค์หญิงน้อยก็เช่นกันใช่หรือไม่?”
“แน่นอน และอย่าปล่อยให้นางออกไปเจอผู้คนได้”
“ขอรับ!”
หลังจากที่พวกเขากลับไปยังเผ่าหงส์เพลิง มู่เฉียนซีก็มาถึงแคว้นหงส์นิลแล้วเช่นกัน
จิ่วเยี่ยไม่ได้ปรากฏตัวพร้อมกับมู่เฉียนซีอย่างหยิ่งผยอง หากถูกคนสังเกตเห็น มันจะไม่เป็นผลดีต่อการกระทำของพวกเขาเท่าไรนัก
ทันทีที่มู่เฉียนซีมาถึง โม่ชิงอู่และขวงจวิ้นอ๋องก็กำลังเตรียมคนไปยังแคว้นหลอมอัสนี แต่เมื่อเห็นมู่เฉียนซีปรากฏตัวขึ้นมาอย่างกะทันหัน ขวงจวิ้นอ๋องก็ไม่สบอารมณ์เท่าไรนัก
“ไม่คาดคิดว่าเจ้าจะกลับมาแล้ว หรือว่าเจ้าได้มอบสมบัติล้ำค่าของเผ่าหงส์ให้กับเผ่าหงส์เพลิงไปแล้ว”
เมื่อคิดว่าตนเองได้พลาดโอกาสในการสร้างผลงานที่ยิ่งใหญ่ ใบหน้าของขวงจวิ้นอ๋องก็บูดบึ้งในทันที
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ขวงจวิ้นอ๋องเหตุใดท่านถึงได้เชื่อคำพูดไร้สาระของฉื้อลั่วอวี่ด้วย! หากว่าได้รับสมบัติล้ำค่าของเผ่าหงส์มาได้อย่างง่ายดายเช่นนั้นจริง ๆ เหตุใดช่วงเวลาหลายปีมานี้บุตรแห่งสวรรค์ที่น่าภาคภูมิใจของเผ่าหงส์ จึงไม่มีผู้ใดเคยได้รับเลยสักคนเดียวกันล่ะ!”
“แต่ทว่า ข้าได้ยินมาว่าเจ้าบุกไปถึงชั้นเก้าของหอหลอมอัสนี!”
“หรือว่าแค่ถึงชั้นเก้าของหอหลอมอัสนี ก็สามารถได้รับสมบัติล้ำค่าได้อย่างแน่นอนหรือ! ไม่เสมอไปหรอก”
“เจ้าไม่ได้รับมาจริง ๆ อย่างนั้นหรือ?”
“แน่นอนสิ หากข้าได้รับมาจริง ตอนนี้คงไม่อาจกลับมายังแคว้นหงส์นิลได้อย่างปลอดภัยหรอก”
“ถึงแม้จะถือว่าเจ้าไม่มี ก็ไม่แน่ว่าเจ้าจะได้กลับมาอย่างปลอดภัยเช่นกัน”
“ดูจากที่ขวงจวิ้นอ๋องกล่าวแล้ว ท่าทางทรงอำนาจของหัวหน้าเผ่าหงส์เพลิงและคนอื่น ๆ นั้นคงดุร้ายไม่น้อย มันค่อนข้างสมเหตุสมผลมากทีเดียว” มู่เฉียนซีกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ขวงจวิ้นอ๋องยังคงสงสัยเป็นอย่างมาก แต่กลับไม่มีหลักฐาน
เขากล่าวว่า “ครั้งนี้เจ้าไปพบเจอประสบการณ์อันยากลำบากที่หอหลอมอัสนี ในเมื่อกลับมาได้อย่างปลอดภัยแล้ว พวกเราก็ไปพักผ่อนกันเถอะ!”
“ข้ามีความหมายเช่นนั้น ขอบคุณที่ขวงจวิ้นอ๋องเข้าใจ!” มู่เฉียนซีจากไปอย่างรวดเร็ว
ขวงจวิ้นอ๋องรีบไปยังเผ่าหงส์เพลิงเพื่อฟังข่าวคราวในทันที เหตุใดเผ่าหงส์เพลิงถึงได้ปล่อยมนุษย์คนหนึ่งอย่างง่ายดายเช่นนี้ มันผิดปกติเกินไปแล้วนะสิ!
…
“ปรมาจารย์มู่ ในที่สุดท่านก็กลับมาแล้ว ข้าเป็นห่วงท่านมากจริงๆ!”เมื่อโม่เชวี่ยเห็นการกลับมาของมู่เฉียนซี ก็ตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “มีเรื่องอะไรไว้ค่อยคุยกัน ข้าขอตัวไปพักผ่อนก่อน!”
“ตกลง! เช่นนั้นข้าไม่รบกวนท่านแล้ว”
ปัง!
หลังจากที่ปิดประตูไปแล้ว ภายในห้องก็มีคนเพิ่มมาคนหนึ่ง
มู่เฉียนซีไม่ได้มาเพื่อพักผ่อนก่อน แต่เพราะต้องการจะพูดคุยกับจิ่วเยี่ย มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ก่อนอื่นข้าขออธิบายประเด็นที่สำคัญมากสักหน่อยก่อน พลังของสุ่ยจิงอิ๋งหมดสิ้น เช่นนั้นข้าจึงไม่ได้ให้ท่านมาตั้งแต่แรก ถึงแม้ว่าข้าจะเคยมีความคิดเช่นนั้น แต่สุดท้ายแล้วข้าก็ตัดสินใจว่าข้าไม่อาจที่จะเสี่ยงภัยด้วยตนเอง แล้วทำให้เจ้าเป็นห่วงอยู่คนเดียวได้”