ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1649 ไม่ได้สะใจ
หากยอมรับโทษจากหนักจะเป็นเบา หากไม่ยอมรับโทษจะหนักกว่าเดิม หลักการนี้มู่เฉียนซีย่อมรู้ดีอยู่แก่ใจ
จิ่วเยี่ยกล่าวเสียงขรึมว่า “อืม! การตัดสินใจของซีถูกแล้ว ไม่ได้ทำให้ข้าไม่พอใจเลย”
“แต่ ข้ายังเป็นห่วง เป็นห่วงมาหลายวันแล้ว…” เขาดึงร่างมู่เฉียนซีมากอดไว้ในอ้อมอก
อันตราย!
มู่เฉียนซีทำได้เพียงแค่ขอโทษสุ่ยจิงอิ๋งที่ทำให้นางต้องรับความผิดก่อน
“สุ่ยจิงอิ๋งสูญเสียพลังไปมากแล้ว ฉะนั้น…”
“หากซีไม่เสี่ยงอันตราย พลังของสุ่ยจิงอิ๋งจะสูญเสียไปเช่นนั้นหรือไม่?” จิ่วเยี่ยกล่าวถาม
“ซีคิดออกหรือยังว่าจะขอโทษเช่นไร?”
ดวงตาสีฟ้าอันเย็นยะเยือกคู่นั้นมองมู่เฉียนซีอย่างลึกล้ำ สายตานี้ราวกับจะกลืนกินนางก็มิปาน
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยจะดีนักว่า “เจ้ายังจะมาถามข้าอีก เจ้าคิดเอาไว้แล้วไม่ใช่เหรอ!”
“อืม! เช่นนั้นซีก็คงไม่คัดค้าน” จิ่วเยี่ยกล่าวเสียงต่ำ
ปัง!
จิ่วเยี่ยขยับใบหน้าหน้าอันเย็นยะเยือกนั้นเข้ามาใกล้มู่เฉียนซี และ “อือ…”
การพัวพันอย่างยากที่จะแยกได้ทำให้มู่เฉียนซีรู้สึกได้ถึงความเป็นห่วงของเขาในช่วงเวลาที่ผ่านมา ชั่วขณะเดียวกันนางก็รู้สึกใจอ่อน ความรู้สึกผิดก่อให้เกิดผลลัพธ์บางอย่าง…
เช้าวันต่อมา มู่เฉียนซีรู้สึกเจ็บปวดไปทั่วทั้งตัวจนขยับเขยื้อนตัวไม่ได้
“หวงจิ่วเยี่ย เหอะ! หาเหตุผลมารังแกข้า สะใจเจ้าแล้วใช่หรือไม่!”
แม้จะไม่ค่อยมีเรี่ยวแรง แต่มู่เฉียนซีก็อ้าปากออกแรงกัดแขนของเขาอย่างแรง
“ซีตื่นแล้ว ข้าไม่ได้สะใจอย่างที่ซีว่า!”
“เจ้า…เจ้าอยู่ห่างจากข้าไกล ๆ หน่อย!” มู่เฉียนซีถลึงตาจ้องมองเขาพลางกล่าว จากนั้นก็ไม่อยากกล่าววาจากับเขาอีก
จิ่วเยี่ยก้มหน้าจูบหน้าผากมู่เฉียนซี ก่อนจะกล่าวว่า “เผ่าหงส์ค่อนข้างลึกลับซับซ้อน ข้าจะกลับไปอีกสักครั้ง สั่งให้จื่อโยวจัดการเรื่องบางให้เรียบร้อย ไม่นานข้าจะกลับมา ซีพักผ่อนก่อนเถอะ”
มู่เฉียนซีกล่าว “เผ่าเทพยับยั้งสถานที่แห่งนี้ได้อย่างลึกลับมาก คงจะไม่เป็นอันตรายต่อเจ้ากระมัง!”
จิ่วเยี่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “ก็แค่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็เท่านั้น!”
ทางด้านของจื่อโยวร้อนอกร้อนใจจนแทบจะเอาหัวชนกำแพงอยู่แล้ว “เยี่ยนี่ก็จริง ๆ เลย ไปตั้งนานแล้วยังไม่กลับอีก ได้เจอคนงามแล้วก็กลับมาได้สักทีสิ ยังจะเล่นผีผ้าห่มกันอยู่อีก กว่าจะกลับ เหตุทำถึงได้ทำตัวเช่นนี้นะ!”
“ได้เบาะแสของคัมภีร์หมื่นคำสาปมาแล้วไม่อาจชักช้าได้ พาคนงามมามันก็เหมือนกัน เหตุใดถึงได้อยู่ในมิตินั้นอีกล่ะ!”
“เจ้าพูดมากเกินไปแล้ว”
ลำแสงสีฟ้าอ่อนแสงหนึ่งสว่างวาบขึ้น น้ำเสียงที่เย็นยะเยือกอันคุ้นเคยเสียงหนึ่งดังขึ้น
จื่อโยวกล่าวด้วยความตื่นเต้นว่า “เยี่ย เจ้ากลับมาแล้ว!”
เมื่อเห็นรอยที่คอจิ่วเยี่ย เขาก็กล่าวด้วยความหยอกล้อว่า “เยี่ย ข้าไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเจ้าจะเป็นคนที่หิวโหยเช่นนี้”
“หุบปาก!”
จิ่วเยี่ยมองจื่อโยวด้วยสีหน้าเย็นชา
“ซีอยู่ที่เผ่าหงส์” จิ่วเยี่ยกล่าว
“นึกไม่ถึงเลยว่าคนงามจะอยู่ที่เผ่าหงส์ นี่ชะตาฟ้าลิขิตหรืออะไรกันแน่ ข้าบอกเจ้าแล้วว่านางอาจจะอยู่ที่นั่นแต่เจ้ากลับไม่เชื่อข้าเอง ไปเสียตั้งแต่ตอนนั้นก็ดี” จื่อโยวไม่อาจห้ามคำพูดของตัวเองได้เลย
“หากเจ้าไม่อยากทำก็ไสหัวไปซะ! ให้คนอื่นทำแทนก็สิ้นเรื่อง”
“เยี่ย! ไม่นะ! ข้าได้ยินมาว่าสาวของเผ่าสัตว์เทพมีมากมาย ข้าอยากไป”
“เช่นนั้นก็เร็ว ๆ หน่อย!”
องค์ชายจิ่วเยี่ยอยากจัดการเรื่องนี้ให้เสร็จเร็ว ๆ จะได้รีบกลับไปหาหญิงสาวผู้เป็นที่รักโดยไว จื่อโยวไม่อยากเสียเวลามากนักจึงรีบไปทันที
หลังจากที่จิ่วเยี่ยจากไป และในขณะที่มู่เฉียนซีกำลังพักผ่อนอยู่นั้น ก็ได้ยินว่ามีคนมาเยี่ยมเยือนนางมากมาย
อย่างไรเสียนางก็ขึ้นหอหลอมอัสนีถึงชั้นเก้า อนาคตของนางช่างยาวไกลยิ่งนัก
มู่เฉียนซีกล่าว “ข้าอยากพักผ่อน ไม่อยากพบเจอใครทั้งนั้น”
โม่เชวี่ยกล่าวถามว่า “หากเป็นคนที่ขวงจวิ้นอ๋องส่งมาล่ะ ก็ไม่ยอมให้พบอย่างนั้นเหรอ”
มู่เฉียนซีกล่าว “ไม่พบ!”
“ช้าก่อน ราชาโม่ไม่ได้ส่งคนมาเหรอ?”
ราชาแห่งเผ่าหงส์นิลผู้นั้นไม่เคยปรากฏตัวมาก่อนเลย
ตำราวิชาที่เหมาะสมกับเสี่ยวโม่โม่ ขวงจวิ้นอ๋องไม่มี เช่นนั้นราชาโม่อาจจะมีก็ได้
โม่เชวี่ยกล่าว “ฝ่าบาทเก็บตัวฝึกบำเพ็ญมาโดยตลอดเกรงว่าจะไม่เคยได้ยินเรื่องของเจ้า ดังนั้นจึงไม่ได้ส่งคนมา แต่ปรมาจารย์มู่วางใจได้ ทันทีที่ฝ่าบาทออกมาจากการฝึกบำเพ็ญเขาไม่มีทางเพิกเฉยต่อเจ้าแน่นอน
มู่เฉียนซีพยักหน้าพลางกล่าว “อืม ข้าเข้าใจแล้ว”
หลังจากที่ขวงจวิ้นอ๋องกับหัวหน้าเผ่าหงส์เพลิงได้พูดคุยกันเสร็จ และแน่ใจแล้วว่ามู่เฉียนซีไม่ได้รับของล้ำค่ามา แต่เขาก็ยังคงรู้สึกได้ถึงความผิดปกติอยู่
เดิมทีเขาอยากคุยกับมู่เฉียนซี รับเสี่ยวโม่โม่มาเป็นบุตรบุญธรรม แต่มู่เฉียนซีกลับบอกว่าอยากพักผ่อน ไม่ยอมพบหน้าเขา
“นี่นางอยากปฏิเสธอย่างนั้นเหรอ ต่อให้มีพรสวรรค์เพียงเล็กน้อย แต่อย่างไรเสียก็อยู่ในถิ่นของเผ่าหงส์นิล นางจะหยิ่งยโสเกินไปไม่ได้” ขวงจวิ้นอ๋องกัดฟันกรอดพลางกล่าว
ยามรัตติกาลนั้น จิ่วเยี่ยยังไม่กลับมา
มู่เฉียนซีกล่าว “การหาคัมภีร์หมื่นคำสาปภายใต้สายตาของเผ่าเทพเช่นนี้มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย คาดว่าคืนนี้จิ่วเยี่ยคงไม่กลับมา นอนก็นอนไม่หลับ เฮ้อ…”
“โม่เชวี่ย เจ้ามีแผนที่คร่าว ๆ ของวังจักรพรรดิหงส์นิลหรือไม่” มู่เฉียนซีกล่าว
“ท่านปรมาจารย์ จะเอาแผนที่ไปทำสิ่งใดหรือ?”
มู่เฉียนซีกล่าว “ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่เดินชมเล่น ๆ ยามค่ำคืนก็เท่านั้น”
ราชาโม่ไม่ปรากฏตัวออกมา และทำประโยชน์ให้ขวงจวิ้นอ๋องไม่มากพอ ขวงจวิ้นอ๋องคงจะไม่ไปหาราชาโม่เพียงเพราะอยากหาตำราที่เหมาะสมให้แก่เสี่ยวโม่โม่แน่ ดังนั้นนางจึงอยากไปสำรวจตรวจสอบที่วังจักรพรรดิดู
“ท่านปรมาจารย์ ท่านบ้าไปแล้ว วังจักรพรรดิมีการคุ้มกันอย่างเข้มงวด หากท่านถูกจับได้ และได้รับบาดเจ็บมันจะแย่เอานะ” โม่เชวี่ยกล่าว
แม้ว่าหงส์ที่เป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ทั่วไปจะรับมือกับท่านปรมาจารย์มู่ไม่ได้ แต่สัตว์ระดับศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในวังนั้นมีไม่น้อยเลย
มู่เฉียนซีกล่าว “ข้ารู้ ข้าไม่เป็นอะไรหรอก
หากไม่มีการฝึกในหอหลอมอัสนีเก้าชั้น ร่างกายของนางก็คงจะทนได้ไม่ถึงขั้นนี้ และนางคงไม่อาจกล้าทำเช่นนี้
แต่ตอนนี้ทั้งตัวนางสามารถถอยได้อย่างสมบูรณ์ น่าจะสามารถทำได้
อย่างไรเสีย การแอบเข้าไปในวังจักรพรรดิยามดึกดื่นเช่นนี้จะโจมตีเข้าไปไม่ได้
มู่เฉียนซีทำเรื่องใดขึ้นล้วค่อนข้างบ้าคลั่ง ในใจของโม่เชวี่ยรับไม่ได้เล็กน้อย แต่เขาก็ไม่สามารถขวางได้
“เช่นนั้นปรมาจารย์มู่ระวังตัวด้วย!”
“แน่นอนอยู่แล้ว!”
ในยามรัตติกาล ร่างในชุดม่วงร่างหนึ่งวาบผ่านไปอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้า
“ใคร!”
ดูเหมือนว่าจะมีคนค้นพบมู่เฉียนซีแล้ว นางใช้ทักษะการเคลื่อนย้ายภายในชั่วพริบตาและปรากฏตัวอยู่ด้านหลังเขา เข็มยาเข็มหนึ่งปักตรงคอของเขา
แผนที่หนึ่งปรากฏขึ้นในหัวของนางอย่างชัดเจน สถานที่ที่เก็บตัวฝึกฝนไม่ปรากฏอย่างแน่ชัด ฉะนั้นก่อนอื่นต้องไปดูที่ห้องตำราของราชาโม่ก่อน ดูว่าพบอันใดบ้างหรือไม่?
ร่างในชุดสีม่วงพุ่งออกไป ต่อให้มีคนค้นพบมู่เฉียนซีแต่ก็ถูกมู่เฉียนซีจัดการไปอย่างรวดเร็ว
พลังจิตของมู่เฉียนซีแผ่ซ่านออกมา และนางค้นพบว่าห้องตำราของราชาโม่นั้นถูกเวรยามเฝ้าอย่างเข้มงวดมาก
นางคิดในใจว่า ราชาโม่กำลังเก็บตัวฝึกบำเพ็ญอยู่ ห้องตำรานี้ดูเหมือนว่าจะถูกเฝ้าอย่างเข้มงวดเกินไปหน่อยแล้ว
คนในที่ลับมีพลังที่แข็งแกร่งมาก นางเข้าไปจะต้องถูกค้นพบอย่างแน่นอน
มู่เฉียนซีกล่าว “เสี่ยวหง อู๋ตี้ ล่อคนกลุ่มนี้ให้ข้า ระวังตัวด้วย!”
เสี่ยวกับกับอู๋ตี้กล่าว “ขอรับ!”
ขวับ ขวับ ขวับ!
พวกมันทั้งสองพุ่งออกไป และไม่สามารถบดบังกลิ่นอายเอาไว้ได้
องครักษ์ที่คุ้มกันอยู่หน้าห้องตำรารับรู้ได้ถึงกลิ่นอายที่อันตราย เป็นกลิ่นอายของสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ แต่ไม่ใช่เป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าหงส์ของพวกเขาแน่นอน
“มีผู้ลอบสังหาร!”
“ผู้ลอบสังหารเป็นคนนอกเผ่า”
ขวับ ขวับ ขวับ!
ร่างหลายร่างพุ่งออกไป ท่ามกลางความโกลาหลนี้มู่เฉียนซีโคจรพลังแห่งมิติพุ่งออกไป