ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1655 ลูกสาวแท้ ๆ
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “เช่นนั้นท่านก็เอาคำที่ข้าเพิ่งกล่าวไปเมื่อครู่ คิดเสียว่าเป็นการถ่อมตัวก็แล้วกัน!”
“นอนลงเถิด!”
เมื่อมู่เฉียนซีได้เริ่มลงมืออย่างจริงจังแล้ว และการควบคุมที่สมบูรณ์เช่นนั้น ก็ทำให้ราชาโม่รู้แล้วว่าเมื่อครู่สาวน้อยคนนี้ได้กล่าวถ่อมตัวจริง
ๆ
หากนี่คือความรู้ครึ่ง ๆ กลาง ๆ คาดว่าคนของเผ่าคำสาปเหล่านั้นก็คงไม่อยากที่จะมีชีวิตอยู่แล้ว
คำสาปบนร่างกายของราชาโม่ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นของเด็กเล่นเท่านั้น เมื่อเทียบกับคำสาปของจิ่วเยี่ยนั้น ยังห่างไกลกันเป็นพันเป็นหมื่นลี้ และเมื่อเทียบกับคำสาปบนร่างของท่านลุงรองและท่านย่าแล้ว นั่นก็ยังอ่อนแออยู่มากเช่นกัน
คำสาปถูกถอนไปได้อย่างราบรื่น มู่เฉียนซีหยิบยาลูกกลอนออกมาขวดหนึ่ง “กินยาให้ตรงเวลา!”
หลังจากที่ร่ายคำสาปขจัดไปแล้ว ราชาโม่ก็รู้สึกว่าพลังชีวิตในร่างกายของตนเองนั้นเพิ่มขึ้นมาไม่น้อย บางทีเขาอาจจะสามารถมีชีวิตได้ยาวนานกว่านี้อีกหน่อยก็ได้
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “หลังจากนี้สามวัน จะต้องเห็นผลอย่างแน่นอน! เช่นนั้นในสามวันนี้ท่านก็เตรียมเคล็ดวิชาไว้ให้เรียบร้อย เมื่อถึงเวลานั้นข้าจะมาเอามันไป ไม่มีปัญหาใช่หรือไม่!”
ราชาโม่กล่าวว่า “เจ้าไม่กลัวข้ากลับคำเช่นนั้นหรือ?”
แววตาของมู่เฉียนซีมืดมิดลงทันทีแล้วกล่าวว่า “ราชาโม่ ถึงแม้ว่าพวกท่านจะเป็นสัตว์เทพ และก็ชัดเจนอยู่แล้ว ไม่ว่าอย่างไรก็ตามอย่าได้ผิดใจกับนักปรุงยาเป็นอันขาด ข้าสามารถรักษาท่านให้หายได้ แน่นอนว่าข้าก็สามารถทำให้ท่านตาย หรือทำให้ท่านกลับไปเป็นสภาพเดิมได้เช่นกัน!”
ราชาโม่กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “สาวน้อยผู้นี้มีความกล้าหาญเสียจริง! น่าเสียดายที่ไม่ใช่เด็กของเผ่าหงส์นิลของข้า ข้อเรียกร้องของเจ้า ข้ารับปากเจ้าแล้วกัน”
“เช่นนั้น ข้าขอกลับไปนอนก่อน ท่านผู้เฒ่าก็รีบพักผ่อนเสียเถิด!”
ราชาโม่ได้พามู่เฉียนซีออกไปส่ง และจิ่วเยี่ยจึงมาพามู่เฉียนซีออกไป
ด้วยความรวดเร็วของจิ่วเยี่ย แม้แต่ราชาโม่ก็ยังเห็นเงาของเขาได้ไม่ชัดเจนเลย
รูม่านตาของราชาโม่หดตัวลงอย่างกะทันหัน คนผู้นี้…จะแข็งแกร่งเกินไปแล้ว!
ถึงแม้ว่าเขาจะฟื้นคืนมาถึงระดับสูงสุดแล้ว แต่ก็เกรงว่าจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของชายที่สวมชุดดำผู้นั้น ไม่แปลกใจเลยที่ครั้งนี้แม่สาวน้อยจะสามารถเข้ามาในห้องหนังสือของเขาได้อย่างเงียบเชียบเช่นนี้
ดึกดื่นเที่ยงคืนจิ่วเยี่ยส่งคนเข้าไปในพระราชวัง ถึงแม้จะไปได้แค่ไม่นาน แต่ก็จะขาดรางวัลไม่ได้
“อื้อ…” เขาต้องการรางวัลอย่างเอาแต่ใจ เขาเกือบจะอดใจไม่ไหวจนอยากที่จะกลืนกินมู่เฉียนซีเข้าไปทั้งตัวอยู่แล้ว
ดูท่าแล้วหากจะใช้ฝ่าบาทจิ่วเยี่ยเป็นรถขนส่ง ราคาที่ต้องจ่ายนั้นนับว่าไม่น้อยเลยจริง ๆ! มู่เฉียนซีได้แต่พึมพำอยู่ในใจ
มู่เฉียนซีและจิ่วเยี่ยก็ได้ใช้ชีวิตประจำวันไปอย่างเอ้อระเหยไปด้วย และรอข่าวคราวจากทางจื่อโยวส่งมาไปด้วย แต่ทว่าทางด้านขวงจวิ้นอ๋องนั้นอดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว
หากวันนี้เขาไม่จับหงส์น้อยเลือดบริสุทธิ์นั้นไว้ให้อยู่หมัด เขาก็ยากที่จะรู้สึกปลอดภัยได้ในอนาคต
พอส่งคนไปเชิญมู่เฉียนซีมา แต่มู่เฉียนซีก็บอกว่าไม่ค่อยสบายเท่าไรนัก จึงไม่ไป!
ขวงจวิ้นอ๋องไม่มีทางเลือก จึงได้พาโม่ชิงอู่และไป๋ฉางไปเยี่ยมคนป่วยอย่างมู่เฉียนซีด้วยตนเอง
และเมื่อขวงจวิ้นอ๋องมาถึง เจ้าเมืองโม่เชวี่ยก็กล่าวอย่างกระตือรือร้นว่า “ท่านขวงจวิ้นอ๋อง เชิญด้านใน เชิญเข้ามาด้านในขอรับ!”
“มู่เฉียนซีล่ะ?” ขวงจวิ้นอ๋องกล่าวถาม
เจ้าเมืองโม่เชวี่ยกล่าวว่า “เดี๋ยวก็มาแล้วขอรับ”
เพียงไม่นานเท่าไรนักมู่เฉียนซีก็มาถึง นางกล่าวอย่างเรียบเฉยว่า “ท่านขวงจวิ้นอ๋อง ท่านมาหาข้าเพราะมีเรื่องสำคัญอะไรหรือไม่?”
ขวงจวิ้นอ๋องกล่าวว่า “เคล็ดวิชาที่เจ้าประมูลมาสองพันล้านม้วนนั้นมีเพียงแค่ครึ่งเดียว ส่วนอีกครึ่งหนึ่งนั้นอยู่ในมือของราชาโม่ ซึ่งนั่นก็เป็นเคล็ดวิชาที่เป็นสมบัติสูงสุดของเผ่าหงส์นิลของพวกเรา ดังนั้นราชาโม่ไม่อาจส่งมอบมาให้อย่างง่ายดายแน่”
“เพียงแต่ว่า หากเสี่ยวโม่โม่กลายมาเป็นลูกสาวของข้า เช่นนั้นราชาโม่จะต้องมอบให้อย่างแน่นอน”
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเย็นชา “ที่แท้ก็อยู่ที่ราชาโม่นี่เอง”
เช่นนั้นก็ง่ายมาก! ไปคุยกับราชาโม่ก็ได้แล้ว เคล็ดวิชาที่ผุพังเช่นนี้ ราชาโม่ก็คงจะไม่ตระหนี่ถึงขนาดนั้นหรอก
“แม้ว่าข้าจะไม่ใช่ราชาของเผ่าหงส์นิล แต่ก็เป็นถึงเผ่าหงส์ที่พูดคำไหนคำนั้น ที่จริงแล้วเพราะเหตุใด ถึงทำให้แม่นางมู่ไม่ยินยอมให้เสี่ยวโม่โม่มาเป็นลูกสาวของข้า เสี่ยวโม่โม่ได้เป็นลูกสาวของข้า ก็จะมีสถานะที่สูงมากเมื่ออยู่ในเผ่าหงส์นิล เจ้าควรที่จะคิดเพื่อนาง”
มู่เฉียนซีพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “ท่านขวงจวิ้นอ๋องกล่าวได้ถูกต้องแล้ว ควรจะต้องคิดเพื่อเสี่ยวโม่โม่”
ในที่สุดก็กล่าวจนหวั่นไหวได้แล้ว ขวงจวิ้นอ๋องกล่าวว่า “เจ้าลองดูชิงอู่ มีทรัพยากรในการฝึกฝนมาตั้งแต่เด็ก ข้าพยายามอย่างเต็มที่เพื่อที่จะเติมเต็มให้นาง! หากเสี่ยวโม่โม่มาเป็นลูกสาวของข้า ข้าจะยิ่งปฏิบัติต่อนางเป็นอย่างดีแน่นอน”
โม่ชิงอู่ก็ช่วยพ่อบุญธรรมของนางกล่าวว่า “มู่เฉียนซี ข้าก็จะดูแลน้องสาวให้ดีเช่นกัน”
“ข้าตอบตกลงไปแล้วเช่นนั้นหรือ? ในเรื่องนี้ ยังคงต้องถามเสี่ยวโม่โม่ด้วยจะดีกว่า”
มู่เฉียนซีให้เสี่ยวโม่โม่ออกมาจากห้วงมิติ และเสี่ยวโม่โม่ก็รีบกล่าวทันทีว่า “ข้าไม่ตอบรับ ข้าต้องการเพียงนายท่าน!”
ขวงจวิ้นอ๋องกล่าวว่า “เสี่ยวโม่โม่ ถึงเจ้าจะเป็นลูกสาวของข้า แต่พันธสัญญาของเจ้ากับแม่นางมู่ก็ยังคงอยู่”
“แต่ว่า…ข้าไม่ต้องการ ข้าไม่ต้องการ ข้าต้องการเพียงแค่นายท่านเท่านั้น!” เสี่ยวโม่โม่กล่าวอย่างเอาแต่ใจ
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ท่านก็เห็นแล้ว ว่าเสี่ยวโม่โม่ไม่ชอบ และข้าก็ไม่อาจบังคับนางได้”
“คำพูดของเด็กน้อยจะคิดเป็นจริงเป็นจังได้อย่างไร แม่นางมู่จะต้องเกลี้ยกล่อมนางให้ดี เช่นนั้นนางก็จะฟังคำพูดของเจ้า”
สิ่งแรกที่สัตว์เทพหงส์เห็นเมื่อลืมตาดูโลกจะถือว่าเป็นสิ่งที่ใกล้ชิดมากที่สุด ดังนั้นขอเพียงแค่มู่เฉียนซีเกลี้ยกล่อมเสี่ยวโม่โม่ เช่นนั้นก็จะกลายเป็นเรื่องที่ง่ายดายมากแล้ว
“แต่ว่า ข้าไม่อยากเกลี้ยกล่อมนาง”
การที่มู่เฉียนซีมีความดื้อรั้นเช่นนี้ สุดท้ายก็ทำให้ขวงจวิ้นอ๋องโกรธอย่างสมบูรณ์แล้ว
ขวงจวิ้นอ๋องลุกยืนขึ้นแล้วกล่าวว่า “มู่เฉียนซี เจ้าไม่ยินยอมให้ความร่วมมือจริง ๆ ใช่หรือไม่? เช่นนั้นข้าก็ขอพูดไว้เลยแล้วกัน”
“อะไรหรือ?” มู่เฉียนซีกล่าวถาม
“เดิมที เรื่องนี้ก็ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ ข้าไม่อยากให้เรื่องไร้สาระมาทำร้ายเสี่ยวโม่โม่ แต่หากว่าเจ้ายืนยันที่จะไม่ยินยอม เช่นนั้นข้าคงต้องพูดตามตรงแล้ว ข้าสงสัยว่าเสี่ยวโม่โม่จะเป็นลูกสาวที่หายไปเมื่อหลายปีก่อนของข้า เช่นนั้นแล้ว นางจะต้องกลับมาอยู่ข้างกายข้า” ขวงจวิ้นอ๋องกล่าวอย่างดึงดัน
“ลูกสาวที่หายสาบสูญไปหลายปี ท่านสามารถพิสูจน์ได้หรือไม่? ขวงจวิ้นอ๋อง ให้คนเป็นลูกสาวมั่วซั่วนั้นไม่ดีหรอก ถึงแม้ว่าบนร่างกายของท่านจะมีสายเลือดราชันย์อยู่ แต่ทว่าก็ไม่ได้บริสุทธิ์เท่ากับเสี่ยวโม่โม่ของข้า”
“จะใช่หรือไม่! ไปตรวจสอบที่ตำหนักเทพหงส์นิลก็รู้ได้แล้ว เป็นเช่นไร? หากว่าเสี่ยวโม่โม่เป็นลูกสาวของข้า เช่นนั้นข้าจะให้นางอยู่ข้างกายของข้า ถึงแม้ว่าเจ้าจะเป็นเจ้านายของนางก็ไม่อาจขัดขวางได้”
เสี่ยวโม่โม่ที่ใกล้จะร้องไห้เต็มทีแล้วกล่าวขึ้นมาว่า “นายท่าน มันไม่ใช่…เขาไม่ใช่! เขาเป็นคนเลว”
มู่เฉียนซีกล่าวปลอบโยน “เสี่ยวโม่โม่ อย่ากลัวไปเลย!”
“เป็นอย่างไร? ไม่กล้าอย่างนั้นหรือ?” ขวงจวิ้นอ๋องกล่าวอย่างเย็นชา
เมื่อดูจากสถานการณ์ของขวงจวิ้นอ๋อง หากนางไม่ตอบตกลงแล้วละก็ คาดว่าคงต้องถูกบังคับอย่างแน่นอน
ถึงแม้ว่านางจะไม่กลัว แต่นางก็ไม่อยากที่จะเปิดเผยเรื่องของจิ่วเยี่ยก่อนเวลาอันควร
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “มีเรื่องอะไรที่ไม่กล้ากันล่ะ? ท่านไม่ได้สนิทกับเสี่ยวโม่โม่เลยแม้แต่นิดเดียว ข้าเกรงว่าท่านจะเข้าใจผิดแล้วล่ะ! ตรวจสอบก็ตรวจสอบสิ ไปตอนนี้เลย เป็นอย่างไร?”
“ข้าก็หมายความเช่นนั้นเหมือนกัน ไปตอนนี้เลย! ข้าก็รออีกไม่ไหวแล้ว ในเมื่อจำลูกสาวของตนเองได้แล้ว ลูกสาวของข้าจะได้ไม่ถูกมนุษย์หลอกลวง”
พวกเขาได้ออกเดินทางไปที่ตำหนักเทพหงส์นิล และมีข่าวหนึ่งได้ถูกแพร่กระจายออกไปแล้ว
สำหรับเรื่องนี้ คนของเมืองราชาหงส์นิลต่างก็พูดคุยกันไปทั่วทุกหนแห่ง
“พวกเจ้าได้ยินแล้วหรือยัง? หงส์น้อยที่มีสายเลือดราชันย์ที่ผูกสัญญากับมู่เฉียนซี ข้าได้ยินข่าวมาว่าเป็นลูกสาวที่หายสาบสูญไปของขวงจวิ้นอ๋อง”
“ไม่คาดคิดเลยว่าจะเป็นเช่นนี้ ข้าก็แปลกใจ ว่าเหตุใดเผ่าหงส์นิลของพวกเราอยู่ ๆ ถึงได้มีหงส์น้อยที่ครอบครองสายเลือดราชันย์ปรากฏตัวขึ้นมาได้”
ถึงแม้ว่าข้อวิพากษ์วิจารณ์ของมวลชนจะถูกขวงจวิ้นอ๋องเข้าครอบงำ แต่ก็ยังมีเสียงอื่น ๆ ที่แตกต่างออกไปอยู่ด้วย
“เรื่องนี้ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ พวกเจ้าไม่สามารถที่จะคุยเรื่อยเปื่อยได้นะ! ทั้งหมดนี้รอทางตำหนักเทพหงส์นิลตรวจสอบสายเลือดออกมาก่อนค่อยพูดเถอะ!”
“ข้ามองว่ามีความเป็นจริงแปดถึงเก้าในสิบส่วนเลยทีเดียว แต่ทว่ามีเพียงขวงจวิ้นอ๋องเท่านั้นที่ไม่มีทางยอมแน่นอน!”