ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1658 ต้องการให้ปล่อยคน
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ข้ารู้มาว่าท่านไม่ชอบที่จะปล่อยให้คนของท่านถูกผูกพันธสัญญากับมนุษย์ เช่นนั้นถึงแม้ว่าจะสงสัยว่าราชาโม่มีความเกี่ยวข้องกับเสี่ยวโม่โม่ แต่ก็ไม่ได้เริ่มให้นางไปนับญาติด้วย ในเรื่องนี้ข้าจะต้องขอโทษด้วยจริง ๆ”
“แต่ถึงแม้ว่าท่านจะเป็นญาติของเสี่ยวโม่โม่ ก็ไม่สามารถบีบบังคับให้เสี่ยวโม่โม่ทำเรื่องที่ไม่ชอบได้ และข้าก็หวังว่าท่านจะเคารพการตัดสินใจของเสี่ยวโม่โม่ หากว่าท่านเป็นเหมือนขวงจวิ้นอ๋องแล้วละก็ ข้าไม่มีวันยอมแพ้อย่างแน่นอน”
ราชาโม่เบิกตากว้าง แล้วกล่าวอย่างโกรธเคืองว่า “สาวน้อยคนนี้ คิดกับข้าเช่นนี้หรือ ข้ามีเหตุผลว่าทำไมถึงไม่ยินยอมให้พวกเขาผูกพันธสัญญากับมนุษย์ นั่นก็เป็นเพราะว่า พวกเขาไม่ได้ทำกับคนของข้าเหมือนอยู่ในระดับเดียวกันกับพวกเขา และมีบางคนที่ทำเกินไป ด้วยการปฏิบัติกับพวกเราราวกับเป็นอาวุธที่ใช้ในการต่อสู้ หรือแม้กระทั่งเป็นทาส”
“แต่ข้ารู้ว่าเจ้านั้นไม่เหมือนกัน เจ้าคุ้มครองรักษาเจ้าตัวน้อยนี้ด้วยความจริงใจจริง ๆ”
เสี่ยวโม่โม่กล่าวอย่างภาคภูมิใจว่า “นั่นเป็นเพราะว่า! นายท่านดีต่อข้ามากที่สุดแล้ว”
ราชาโม่กล่าวว่า “ข้าไม่อาจที่จะขัดขวางการผูกพันธสัญญาของเจ้ากับเสี่ยวโม่โม่ได้ ลูกสาวของข้าจากไปนานขนาดนี้แล้ว แต่เด็กคนนี้กลับเพิ่งจะเกิดมา ถึงแม้ว่าข้าจะมีอายุที่มากแล้ว แต่ก็ยังไม่แก่ สาวน้อย ข้าเชื่อว่าการที่เจ้าจะทำอะไรสักอย่าง เจ้าจะต้องพยายามเป็นมากอย่างแน่นอน ยกตัวอย่างเช่นฝีมือในการรักษาโรคของเจ้า”
“ฝีมือการรักษาโรคที่น่าเหลือเชื่อของเจ้านี้ ไม่เพียงแต่ช่วยเหลือข้าเท่านั้น แต่ยังช่วยเหลือหลานสาวของข้าอีกด้วย ข้ามีความซาบซึ้งใจต่อเจ้าเป็นอย่างยิ่ง แล้วจะให้เจ้ากับเสี่ยวโม่โม่ยกเลิกผูกพันธสัญญากันได้อย่างไร”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “เป็นเช่นนั้นก็ดี ดูท่าแล้วข้าจะเข้าใจท่านราชาโม่ผิดไป”
“แล้วยังมีอีกเรื่องหนึ่ง เคล็ดวิชาที่ข้าต้องการก็คือส่วนท้ายของเคล็ดวิชาโม่หยวนนิพพาน เนื่องจากว่า ที่ข้านั้นมีส่วนต้นอยู่ ท่านเป็นญาติของเสี่ยวโม่โม่ ก็สามารถเสนอความคิดเห็นได้ ท่านว่าเคล็ดวิชานี้เหมาะจะให้เสี่ยวโม่โม่ฝึกฝนหรือไม่?”
“ไม่คาดคิดเลยว่าเจ้าจะมีส่วนต้น เช่นนั้นก็ดีมากเลย เนื่องจากว่าไม่มีเคล็ดวิชาไหนที่จะเหมาะสมกับเผ่าหงส์นิลของพวกเราได้ยิ่งกว่านี้อีกแล้ว”
ราชาโม่ไม่รีรอที่จะหยิบเอาเคล็ดวิชานั้นออกมา แล้วกล่าวว่า “หากรู้แต่แรกว่าเจ้าต้องการเคล็ดวิชานี้ไปให้เสี่ยวโม่โม่ ยังจะคุยเรื่องการซื้อขายทำไมกัน?”
“ความจริงแล้วที่ช่วยท่าน ก็ไม่ได้เป็นเพราะว่าจะสอนท่าน แต่นั่นเป็นเพราะความต้องการของเสี่ยวโม่โม่” มู่เฉียนซีกล่าว
ความสัมพันธ์ระหว่างสายเลือดนั้นน่าอัศจรรย์มาก ซึ่งก็เหมือนกับตอนที่ได้เจอท่านลุงรองครั้งแรก นางก็ลงมือช่วยเหลือเขาเช่นเดียวกัน
ราชาโม่กล่าวอย่างมีความสุขว่า “เจ้าตัวน้อยเป็นเด็กดีจริง ๆ เลย”
หาหลานสาวเจอ ร่างกายก็แข็งแรงขึ้น สิ่งเหล่านี้ทำให้ราชาโม่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังจริง ๆ
หลังจากที่จัดการเรื่องมู่เฉียนซีและเสี่ยวโม่โม่เรียบร้อยแล้ว ราชาโม่ก็ได้ส่งคนที่ตนเองเชื่อใจไว้คอยปกป้องพวกเขา จากนั้นเขาจึงไปสะสางบัญชีกับขวงจวิ้นอ๋อง
มู่เฉียนซีไม่ได้เข้าไปแทรกแซงในเรื่องนี้ ราชาโม่ดำเนินไปอย่างรวดเร็วและเฉียบขาด ด้วยการให้สั่งให้ขังขวงจวิ้นอ๋องเอาไว้ก่อนแล้วค่อยมาคุยกัน
ร่างกายที่แข็งแรงขึ้นของราชาโม่เป็นสิ่งที่ขวงจวิ้นอ๋องคาดการณ์ไม่ถึง เช่นนั้นเขาจึงไม่สามารถที่จะต่อต้านใด ๆ ได้ไปชั่วขณะหนึ่ง
เมื่อจัดการขวงจวิ้นอ๋องเรียบร้อยแล้ว ราชาโม่ก็กลับมาหามู่เฉียนซีอีกครั้งหนึ่ง เพื่ออยากจะพูดคุยกับนางตามลำพัง
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ราชาโม่พูดมาตามตรงเถิด!”
“การที่ได้เจอกับหลานสาวตัวน้อยที่น่ารักเช่นนี้ทำให้ข้าดีใจมาก ทั้งปลื้มใจ แล้วก็ตื่นเต้น แต่ว่าข้าอยากที่จะขอให้เจ้าพาเสี่ยวโม่โม่ออกไปจากโลกของหงส์ด้วย การใช้ชีวิตอยู่ในโลกของหงส์อยู่ภายใต้การกดขี่ของเผ่าเทพนั้น มันไม่ใช่สถานที่ที่ดีเลยจริง ๆ ถึงแม้ว่าข้าจะอาลัยอาวรณ์เป็นอย่างมาก แต่ก็ต้องจำยอมปล่อยให้นางบินจากไป” ราชาโม่กล่าวด้วยเสียงทุ้มต่ำ
“ข้าอยากที่จะมาโลกของหงส์มาโดยตลอด และเป็นเสี่ยวโม่โม่ที่หาตำแหน่งของที่นี่จนเจอ ที่ข้ามาที่นี่ นั่นเป็นเพราะข้ามีเรื่องสำคัญที่จะต้องทำ แน่นอนว่าจึงจากไปไม่ได้! หลังจากที่ทำธุระเสร็จแล้ว และหากว่าเสี่ยวโม่โม่อยากจะไปด้วยกันกับข้า ข้าก็จะอยู่ด้วยกันกับนางเสมออย่างแน่นอน” มู่เฉียนซีตอบกลับ
“จะ…เจ้าพูดเรื่องอะไรกัน?” ตอนแรกที่ได้ยินประโยคนั้นของมู่เฉียนซี เขาไม่ได้รู้สึกว่าผิดปกติเลยแม้แต่น้อย
แต่เมื่อลองคิดทบทวนย้อนกลับไป เขาก็เพิ่งจะพบจุดของปัญหาทั้งหมด
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ข้าไม่ใช่คนของเผ่าเทพ”
“ไม่ใช่เผ่าเทพ! หากไม่ใช่เผ่าเทพ แล้วจะสามารถมาที่โลกของหงส์ได้อย่างไร?” ราชาโม่กล่าวอย่างยากที่จะเชื่อ
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “โชคดีที่เสี่ยวโม่โม่รับรู้ถึงตำแหน่งของโลกหงส์”
“ผนึกนั่น!”
“ใช้มือเคลื่อนไหวเล็กน้อยเท่านั้นแหละ” มู่เฉียนซีกล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“เช่นนั้นเจ้ามาที่โลกของหงส์ เพื่อต้องการสิ่งใดกันแน่?” ราชาโม่กล่าวถาม
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างไม่สะทกสะท้านว่า “พูดตามตรง สิ่งของที่เผ่าเทพมุ่งหวังที่จะได้มันมา มันก็คือของที่ข้าต้องการเช่นกัน”
ราชาโม่ยังคงรู้สึกตื่นตกใจเป็นอย่างมาก เกรงว่าแม้แต่เผ่าเทพก็คาดไม่ถึงเช่นกัน
“เจ้าเพียงคนเดียว ไม่อาจต่อสู้กับเผ่าเทพได้! แล้วก็ไม่อาจต่อสู้กับเผ่าคำสาปได้ด้วย”
“ข้ายังไม่ได้บอกว่ามีข้าเพียงคนเดียวเลย”
ราชาโม่นึกถึงชายแข็งแกร่งผู้นั้นที่เข้ามาในวังจักรพรรดิด้วยกันกับมู่เฉียนซีในคืนนั้น ก่อนที่จะรู้สึกตื่นตกใจขึ้นมาเล็กน้อย
“เผ่าหงส์ของพวกเรา เป็นผู้พิทักษ์คัมภีร์หมื่นคำสาปมาหลายชั่วอายุคนแล้ว เพื่อที่จะไม่ให้ใครนำมันไปใช้ทำอันตรายต่อคนทั่วไปได้ แต่ทว่าสิ่งที่เผ่าเทพกำลังทำอยู่ตอนนี้ คือการบีบบังคับพวกเราให้มาถึงจุดนี้ แต่พวกเราก็ผิดเองที่ไม่ได้แก้ไขให้มันถูกต้อง การที่เจ้าต้องการที่จะหาคัมภีร์หมื่นคำสาปนั้นไม่ใช่ปัญหา หากหาเจอก็เป็นความสามารถของเจ้า ขอเพียงแค่ไม่ทำอันตรายพวกเราเผ่าหงส์ก็เพียงพอแล้ว” ราชาโม่กล่าวด้วยความจริงจัง
“ข้ารู้ว่าราชาโม่จะไม่กล่าวโทษข้า” มู่เฉียนซีกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“หลานสาวที่รักของข้าผูกอยู่กับเจ้า หากข้ากล่าวโทษเจ้า ไม่ใช่ว่าจะเป็นการทำร้ายหลานสาวของข้าด้วยเช่นนั้นหรือ แต่คนของเผ่าเทพนั้นไม่ใช่คนที่มีเมตตานัก” ราชาโม่กล่าวด้วยความไม่สบอารมณ์
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ข้าคิดว่าราชาโม่เชื่อใจข้าเสียอีก”
“ข้าเชื่อเพราะข้าดูคนออก!”
“ราชาโม่…ท่านตาถึงจริง ๆ อย่างนั้นหรือ? เช่นนั้นขวงจวิ้นอ๋อง…”
“สาวน้อย เจ้าคงเกลียดข้าแล้วสินะ ตอนนั้นข้าไม่มีทางเลือก ข้าคิดว่าตัวข้าเองนั้นอาจจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน ความสามารถของเขาก็แกร่งเพียงพอ เช่นนั้นข้าถึง…”
“หลังจากนี้เรื่องการฝึกฝนของเสี่ยวโม่โม่ ข้าขอมอบให้ท่านราชาโม่ก็แล้วกัน”
“ข้ายินดีเป็นอย่างยิ่ง”
เมื่อพูดคุยกับราชาโม่อย่างชัดเจนดีแล้ว มู่เฉียนซีก็พักอาศัยอยู่ภายในเขตวังจักรพรรดิ
นางกับจิ่วเยี่ยต่างก็รอข่าวคราวของทั้งสองสถานที่นั้นอยู่
ขวงจวิ้นอ๋องถูกจับไป มู่เฉียนซีก็ไม่คาดคิดว่าจะมีคนมาช่วยเขา
หญิงสาวที่มีเสน่ห์และน่าหลงใหลผู้นั้น นางก็คือนายท่านของขวงจวิ้นอ๋อง
นางมาถึงวังจักรพรรดิหงส์นิลอย่างโอ้อวดมาก และมาสั่งให้ราชาโม่ปล่อยคนของนาง
“ผู้ผูกพันธสัญญาของข้า พวกเจ้ายังกล้าขังเขาเอาไว้ นี่คงไม่เห็นข้าอยู่ในสายตาเลยใช่หรือไม่!”
ราชาโม่กล่าวว่า “แม้ว่านายหญิงจะเป็นผู้ผูกพันธสัญญากับโม่หลิ่วขวง แต่ทว่าเขาทำความผิด ตามเหตุผลแล้วควรที่จะต้องได้รับโทษ”
“ผู้ผูกพันธสัญญาของข้า ไม่ใช่ผู้ที่ราชาของเผ่าหงส์นิลอย่างเจ้าจะสามารถลงโทษได้ ปล่อยเขาซะ!”
ช่างกวานซูเยว่ระเบิดแรงกดดันที่แข็งแกร่งออกมา เพื่อใช้อำนาจบีบบังคับ
เห็นได้ชัดว่าความสามารถของช่างกวานซูเยว่นั้นแข็งแกร่งกว่าราชาโม่ที่กำลังพักฟื้นจากอาการป่วย ภายใต้แรงกดดันนี้ ทำให้สีหน้าของราชาโม่บิดเบี้ยวไปเล็กน้อย
“อย่ามารังแกท่านตานะ!” เสี่ยวโม่โม่กล่าวอย่างโกรธเคือง
ถึงแม้ว่าจะเพิ่งฝึกฝนมาเพียงไม่กี่วันเท่านั้น แต่ทว่าด้วยเคล็ดวิชาที่แข็งแกร่ง บวกกับพรสวรรค์ที่น่าเหลือเชื่อ ทำให้เสี่ยวโม่โม่ในวันนี้มีความแข็งแกร่งเทียบเท่าสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสองแล้ว
ด้วยความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วนี้ ทำให้ราชาโม่นั้นภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง
ช่างกวานซูเยว่มองไปทางเสี่ยวโม่โม่แล้วกล่าวว่า “เจ้าก็คือเจ้าเด็กน้อยที่ขวงอยากได้คนนั้นน่ะหรือ เด็ก ๆ! ไปจับเจ้าตัวน้อยนั้นเอาไว้ เอาไปเป็นของขวัญให้กับขวงได้พอดีเลย”
เผ่าเทพเหล่านั้นหยิ่งยโสเป็นอย่างมาก อาศัยความแข็งแกร่งของตนเอง และอาศัยความเสื่อมโทรมของเผ่าหงส์มาใช้กำลังและกระทำความรุนแรงอย่างเผด็จการเช่นนี้ เหตุใดต้องมาดูถูกเผ่าหงส์ถึงเพียงนี้ด้วย
ในขณะที่พวกเขากำลังจะจับเสี่ยวโม่โม่ ทันใดนั้นก็มีเปลวเพลิงสีแดงก่ำพวยพุ่งออกมา
“เพลิงสังหารซิวหลัว!”
ครืน!
มู่เฉียนซีที่อยู่ในระดับผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตเท่านั้น แน่นอนว่าไม่อาจทำร้ายช่างกวานซูเยว่ที่อยู่ในระดับสูงกว่าอย่างผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นปราชญ์แห่งภูตได้
ช่างกวานซูเยว่กล่าวอย่างโกรธเคืองว่า “ไม่คาดคิดเลยว่าเจ้าจะกล้าลงมือกับข้า!”