ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1667 คำสาปสะท้อนกลับ
“ช่วยเหลืออย่างไร?”
“หากพวกเจ้าเชื่อฟัง จะต้องสามารถทำได้อย่างแน่นอน” เขาตอบกลับ
“ตกลง! ข้ารับปากพวกเจ้า”
“เช่นนั้นก็มากับข้าเถิด!” ร่างเงาสีดำนั้น ลอยออกไปแล้ว
การฝึกพิเศษและเก็บเกี่ยวสมุนไพรครั้งนี้ มู่เฉียนซีไม่พลาดเลยทั้งสองอย่าง
ทันใดนั้นก็มีเงาร่างที่คุ้นเคยปรากฏตัวขึ้นมา ทำให้มู่เฉียนซีผงะไปเล็กน้อย นั่นคือหลานเนี้ยนหลี่นี่เอง
ดูเหมือนว่าเขาจะกำลังหาอะไรบางอย่างอยู่? เนื่องจากขณะที่เห็นมู่เฉียนซีก็ชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นเขาก็กล่าวด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่นว่า “แม่นางมู่ ไม่คาดคิดเลยว่าจะเจอเพื่อนบ้านอย่างท่านที่นี่”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “มันเป็นเพียงเรื่องบังเอิญ”
หลานเนี้ยนหลี่กล่าวว่า “รอให้พวกเรากลับไปแล้วมาแลกเปลี่ยนความคิดการฝึกฝนพิเศษในครั้งนี้กันสักหน่อย ตอนนี้ข้ามีธุระเล็กน้อย ขอตัวก่อน…”
เฟี้ยว! เมื่อตอนที่หลานเนี้ยนหลี่กำลังเตรียมตัวที่จะจากไป ทันใดนั้นก็มีเงาหนึ่งลอยฝ่าเข้ามากลางอากาศ ตาข่ายขนาดใหญ่สีดำทะมึนได้จับเสี่ยวโม่โม่เอาไว้
วู้ว!
มีเสียงหนึ่งดังฝ่าออกมาจากอากาศ คนที่จับเสี่ยวโม่โม่ก็หนีไปไกลอีกครั้ง
“ให้ตายเถอะ!”
พลังจิตวิญญาณของมู่เฉียนซีแผ่กระจายออกไป เพื่อตามจับผู้ชายที่หายไปอย่างไร้ร่องรอย
เขาใช้กลอุบายแบบพิเศษในการล่องหน เพื่อเข้ามาใกล้นางและจับเสี่ยวโม่โม่ไป นางช่างชะล่าใจเกินไปแล้วจริง ๆ
ถึงความเร็วของอีกฝ่ายจะเร็วมาก แต่ทว่ามู่เฉียนซีก็ไล่ตามไปด้วยความเร็วสูงสุด
วิธีการล่องหนนั้นเกือบเข้าขั้นสมบูรณ์แบบ เพียงแต่เมื่อนางเปิดใช้พลังจิตวิญญาณอย่างเต็มที่ ก็ยังมีความสามารถเพียงพอที่จะติดตามไปได้
มู่เฉียนซีไล่ตามออกไปแล้ว และหลานเนี้ยนหลี่ก็ไล่ตามมาด้วย
เขากล่าวว่า “แม่นางมู่ ข้าจะตามไปช่วยเจ้าตัวน้อยนั้นกับท่าน”
วู้ วู้ วู้…
พวกเขาได้ไล่ตามไปยังถ้ำที่มืดมิดแห่งหนึ่ง และตรงระหว่างกลางนั้นก็มีลมพัดกระโชกแรงออกมา มู่เฉียนซีหยุดฝีเท้าลง แล้วหันกลับไปมองที่หลานเนี้ยนหลี่ที่ไล่ตามมาพร้อมกัน
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “คุณชายหลาน ข้างล่างนี้มีอันตราย ท่านอย่าเข้าไปเสี่ยงภัยเลยจะดีกว่า”
ก่อนหน้านี้นางยังไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองกลับมา แต่ทว่าตอนนี้กลับชัดเจนแล้ว ว่าชายที่จับเสี่ยวโม่โม่ไปเมื่อครู่นี้ บนร่างกายนั้นมีพลังแห่งคำสาปอยู่
ฝีมือของนักเล่นคาถาอาคมนั้นอันตรายมาก นางไม่อยากที่จะลากคนอื่นลงไปในน้ำด้วย
หลานเนี้ยนหลี่กล่าวว่า “แม่นางมู่ ข้าค่อนข้างที่จะชอบเจ้าตัวน้อยนั่น เช่นนั้นข้าจึงอยากที่จะไปช่วยมันด้วย! ท่านอย่าประเมินข้าต่ำไปนักเกินไปเลย”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “เช่นนั้นก็ระวังด้วย!”
พวกเข้าทั้งสองคนได้เข้ามาถึงกลางถ้ำแล้ว ในตอนนี้ก็จ้องมองไปยังคนที่จับเสี่ยวโม่โม่พลางกล่าวว่า “เป็นเจ้า!”
ชิงเสี้ยวเทียนกล่าวว่า “เจ้าตัวเล็กนี่! ประเดี๋ยวมู่เฉียนซีก็จะมาแล้ว เก็บเจ้านี่เอาไว้ก่อน แล้วจัดการไปพร้อมกับนาง”
“”กลอุบายของนักเล่นคาถาอาคมช่างเหนือเมฆจริง ๆ ต้องชื่นชมเลยทีเดียว!” ชิงอ้าวเทียนกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ไม่รู้ว่าข้าจะมีพรสวรรค์ที่จะได้ฝึกฝนคำสาปหรือไม่” ชิงอ้าวเทียนมีสีหน้าประจบสอพลอ
หากเขาสามารถฝึกฝนคำสาปได้ เกรงว่าแม้แต่อัจฉริยะของเผ่าหงส์ม่วง ก็คงจะเทียบเขาไม่ติดแน่
นักเล่นคาถาอาคมผู้นั้นกล่าวขึ้นมาอย่างรังเกียจว่า “เจ้าไม่มีพรสวรรค์นั้น”
“คนที่พวกเจ้าจะต้องรอ เดี๋ยวอีกไม่นานก็เข้ามาแล้ว! ที่นี่ถูกข้าคลุมด้วยคำสาปเอาไว้หมดแล้ว และหลังจากที่เข้ามาแล้วพวกเขาจะใช้พลังวิญญาณใดไม่ได้อีก พวกเจ้าก็จัดการได้ตามสบายเลย! นอกจากนี้ ยังมีคนอื่นเข้ามาพร้อมกันด้วย” ชายชุดคลุมดำมองไปที่ทางเข้าพลางกล่าวอย่างเย็นชา
ชิงเสี้ยวเทียนกล่าวขึ้นมาอย่างตื่นเต้น “ดีมากเลย ในที่สุดก็สามารถจัดการกับมู่เฉียนซีได้อย่างโหดเหี้ยมเสียที”
“ขอบคุณท่านนักเล่นคาถาอาคมมาก!” ชิงอ้าวเทียนกล่าว
“เรื่องที่เจ้าต้องการให้ข้าได้ทำ ข้าก็จัดการให้เรียบร้อยแล้ว พวกเจ้าสองสามคน รับปากกับข้าแล้วว่า ทุกคนจะให้เลือดแก่ข้าคนละถ้วย เจ้าตัวเล็กนั่นก็มีสายเลือดราชันย์ ก็ต้องมอบเลือดให้ข้าเช่นกัน”
“ไม่มีปัญหา ก็แค่เลือดเพียงถ้วยเดียวเท่านั้น”
ชายคนนั้นหยิบชามใบหนึ่งออกมา แต่ทว่ามันไม่ได้ใหญ่แบบธรรมดาเลย
พวกเขาต่างก็โตเต็มวัยแล้วเลือดเพียงถ้วยเดียวนั้นไม่ใช่ปัญหา แต่ทว่าเสี่ยวโม่โม่เกือบที่จะรับไม่ไหวแล้ว
ชายชุดดำหยิบถ้วยเลือดขนาดใหญ่สองสามใบไป จากนั้นก็เดินลึกเข้าไปข้างในถ้ำ
ชิงเสี้ยวเทียนกล่าวว่า “ที่จริงแล้วเขาอยากจะทำอะไรกันแน่?”
“ไม่ว่าเขาจะทำเรื่องอะไรก็ตาม? คนของพวกเผ่าคำสาปต่างก็เป็นพวกนอกรีต หลังจากที่จัดการกับมู่เฉียนซีได้แล้วพวกเราก็ต้องรีบออกไป แล้วอย่าไปติดต่อพัวพันอะไรกับเขาอีกเป็นอันขาด” ชิงอ้าวเทียนกล่าว
“อื้ม! ข้าจะเชื่อฟังพี่ใหญ่!”
มู่เฉียนซีและหลานเนี้ยนหลี่เดินเข้าไป เมื่อหน้าเห็นว่าสีหน้าของเสี่ยวโม่โม่ไม่สู้ดีนัก ก็พุ่งออกไปในทันที
“ชิงเสี้ยวเทียน ที่แท้ก็เป็นพวกเจ้า! พวกเจ้านี่มันช่างรนหาที่ตายเสียจริง!”
หลานเนี้ยนหลี่รู้สึกได้ถึงความแปลกประหลาดบางอย่าง จึงกล่าวว่า “แม่นางมู่ รอเดี๋ยว…”
ตูม!
ในตอนที่พวกเขากระโดดเข้าไป คำสาปของชุดคลุมดำผู้นั้นก็เริ่มต้นขึ้นแล้ว
เสี่ยวโม่โม่กล่าวว่า “นายท่าน นี่คือกับดัก! ท่านรีบออกไปเร็วเข้า”
คิดอยากที่จะออกไป แต่มันก็ไม่สามารถเป็นไปได้แล้ว
พลังวิญญาณทั่วทั้งร่างของมู่เฉียนซีและหลานเนี้ยนหลี่ไม่สามารถแสดงออกมาได้ และในตอนนี้ก็ได้ถูกพวกของชิงเสี้ยวเทียนล้อมเอาไว้แล้ว
แต่ถึงแม้ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับเรื่องทั้งหมดนี้ มู่เฉียนซีกลับไม่ได้ตื่นตกใจเลยแม้แต่น้อย แล้วเข้าไปอุ้มเสี่ยวโม่โม่เอาไว้
นางถอนหายใจอย่างโล่งอก เนื่องจากเสี่ยวโม่โม่เพียงแค่เสียเลือดมากเกินไปเท่านั้น และไม่ได้ถูกคำสาปแต่อย่างใด
“กลับไปที่ห้วงมิติ แทะถั่วหวานให้เยอะเสียหน่อย เดี๋ยวเรื่องที่นี่ข้าจัดการเอง”
เสี่ยวโม่โม่กล่าวว่า “เจ้าค่ะ! นายท่าน ท่านจะต้องระมัดระวังให้มาก ๆ นะเจ้าคะ! ที่นี่มีความเลวมากคนหนึ่งอยู่ ซึ่งมันเลวกว่าพวกเขาเสียอีก”
“อื้ม!” มู่เฉียนซีพยักหน้าเล็กน้อย
ที่นี่ จะต้องมีนักเล่นคาถาอาคมอย่างแน่นอน
เรื่องของพวกชิงเสี้ยวเทียนมีความสามารถอย่างไรบ้าง นางเข้าใจได้อย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง
หลานเนี้ยนหลี่กวาดสายตามองไปทางพวกเขาแล้วกล่าวว่า “พวกเรากำลังอยู่ในการฝึกฝนพิเศษ ไม่คาดคิดเลยว่าพวกเจ้าจะให้คนจากเผ่าคำสาปช่วยเหลือ พวกเจ้าได้ละเมิดกฎไปแล้ว”
ชิงเสี้ยวเทียนกล่าวว่า “ละเมิดกฎ แต่ในทางกลับกันก็ไม่มีผู้ใดรู้ไม่ใช่หรือ?”
“นายน้อยหลาน เจ้าไม่ควรที่จะมาด้วยกันกับมู่เฉียนซีเลย เช่นนั้นพวกเราก็ไม่มีทางเลือก ทำได้เพียงแค่จัดการเจ้าไปด้วยเท่านั้น ช่างน่าเสียดายเสียจริง!” ชิงอ้าวเทียนกล่าวอย่างเสียดาย
“ลงมือได้!”
ทันทีที่ชิงเสี้ยวเทียนออกคำสั่ง พวกเขาก็เริ่มต่อสู้
แม้จะไม่อาจใช้การไหลเวียนของพลังวิญญาณได้ แต่ทว่าความแข็งแกร่งทางกายภาพของมู่เฉียนซียังคงอยู่ และการโจมตีของพวกเราในตอนนี้ก็ไม่สามารถทำให้มู่เฉียนซีได้รับบาดเจ็บได้เลย
ชิงอ้าวเทียนกล่าวว่า “มู่เฉียนซีผู้นี้ยากที่จะจัดการได้ มารวมตัวกันจู่โจมมู่เฉียนซีเร็วเข้า”
บนร่างกายของหลานเนี้ยนหลี่เต็มไปด้วยรอยแผล ร่างสีม่วงสว่างวาบ และมู่เฉียนซีก็หลบหลีกการโจมตีของพวกเขาไปได้อย่างรวดเร็ว
ภายในแววตาของนางเปล่งประกาย พลังจิตวิญญาณปะทุออกมา และแทรกซึมเข้าไปทุกซอกทุกมุมในสถานที่แห่งนี้
ต่อไปก็ ดัดแปลง!
“สะท้อนกลับ!” นางพ่นคำออกมาประโยคหนึ่ง
ในชั่วพริบตาเดียว คนที่ไม่สามารถใช้พลังวิญญาณได้ กลับกลายเป็นพวกของชิงเสี้ยวเทียนแทน
พลังวิญญาณของหลานเนี้ยนหลี่ฟื้นคืนมาแล้ว แต่เขาก็จ้องมองไปที่มู่เฉียนซีด้วยความตื่นตกใจ
เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นกับคำสาป และการเปลี่ยนแปลงนี้ก็คือการล้มล้าง ซึ่งทั้งหมดนี้ต่างก็เป็นเพราะมู่เฉียนซี
พวกของชิงเสี้ยวเทียนก็มองไปที่มู่เฉียนซีราวกับเห็นผีอย่างไรอย่างนั้น “จะ…เจ้ารู้คำสาปด้วยหรือ!”
“ไม่คาดคิดว่าเจ้าจะเป็นนักเล่นคาถาอาคม”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “รสชาติของการคิดร้ายกับผู้อื่น เมื่อมันย้อนกลับมาหาตนเองแล้วเป็นอย่างไรบ้าง?”
พวกของชิงเสี้ยวเทียนกระอักเลือดออกมา นักเล่นคาถาอาคมคนนั้นไว้ใจไม่ได้เกินไปแล้ว! คำสาปของเขา นึกไม่ถึงว่าจะถูกมู่เฉียนซีจัดการได้ในชั่วพริบตาเช่นนี้
แต่พวกเขาใส่ความนักเล่นคาถาอาคมผู้นั้นไปแล้วจริง ๆ แม้ว่าเขาก็อยากที่จะไม่เชื่อว่าจะมีคนที่สามารถแก้ไขการร่ายคำสาปของเขาได้อย่างง่ายดาย ถึงแม้ว่าคำสาปที่เขาร่ายไว้จะไม่ค่อยดีนักก็ตาม
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “เสี่ยวโม่โม่ การฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บเป็นเช่นไรบ้าง?”
“ดีขึ้นมากแล้ว!”
“เอาล่ะ! ทุบพวกเขาซะ! พวกเขากล้าที่จะแตะต้องเจ้า เจ้าก็จัดการทุบตีพวกเขาให้ตายไปเลย”
เสี่ยวโม่โม่กล่าวด้วยความตื่นเต้น “เช่นนั้นก็ดีมากเลย!”
เสี่ยวโม่โม่พุ่งออกมา และใช้โม่เหยียนโจมตีไปที่พวกเขาอย่างไม่คิดชีวิต
พวกเขาในเวลานี้ไม่มีพลังวิญญาณเลยแม้แต่น้อย จึงทำได้เพียงแค่โดนทุบตีเท่านั้น
มู่เฉียนซีเดินไปอยู่ข้าง ๆ หลานเนี้ยนหลี่ จากนั้นก็หยิบขวดยาลูกกลอนขวดหนึ่งออกมาแล้วกล่าวว่า “รักษาอาการบาดเจ็บก่อนเถอะ!”
แต่ทว่าหลานเนี้ยนหลี่กลับไม่ได้รับมา และดวงตาสีฟ้าอ่อนคู่นั้นก็จ้องมองมาที่มู่เฉียนซี แล้วกล่าวอย่างราบเรียบว่า “ท่านเป็นคนของเผ่าคำสาปหรือ?”