ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1671 สุสานเทพหงส์ศักดิ์สิทธิ์
จิ่วเยี่ยไม่อาจปล่อยโอกาสที่จะได้โลมเล้านี้ไปได้ รอหลังจากที่มู่เฉียนซีเหนื่อยจนถึงขีดสุดแล้ว เขาก็วางแผนไว้ว่าจะใช้โอกาสนี้ในการเป่าหูนาง
“ซี จื่อโยวส่งคนไปแล้ว เจ้าก็ไม่ต้องไปหรอก”
“อื้อ…ท่านจะพูดว่า…” มู่เฉียนซีกล่าวอย่างงุนงง
“ซีไม่ต้องไปที่สุสานเทพหงส์ศักดิ์สิทธิ์แล้ว”
“ข้าได้ยินไม่ชัดเลย ง่วงจัง…”
ทักษะการแสดงของมู่เฉียนซีนั้นไม่ได้เรื่องเอาเสียเลย สิ่งนี้ล้วนถูกราชาจิ่วเยี่ยมองได้อย่างทะลุปรุโปร่งหมดแล้ว
จิ่วเยี่ยยังคงจูบต่อไปอีก เพื่อให้บทเรียนแก่มู่เฉียนซี
หลังจากที่เขาจูบจนแทบจะขาดอากาศหายใจ มู่เฉียนซีก็กล่าวว่า “เจ้าหนูน้อยอย่างฉื้อเหยียนเซียว ท่านคิดว่าไว้ใจได้เช่นนั้นหรือ?”
จิ่วเยี่ยกล่าวว่า “ไม่ได้มีเพียงแค่ฉื้อเหยียนเซียวเท่านั้น!”
“นั่นก็แปลว่ามีคนของเผ่าหงส์ม่วงด้วย แต่ข้าก็อยากจะไปด้วยตนเองสักครั้ง!”
จิ่วเยี่ยขมวดคิ้วเล็กน้อย เขายังไม่อยากที่จะตอบตกลงเป็นอย่างมาก
“ก่อนหน้านี้ท่านรับปากแล้ว หากต้องการที่จะใช้ความงดงามนั้นมาทำให้ข้ายอมแพ้ ก็ฝันไปเถอะ! ข้าเคยถามสุ่ยจิงอิ๋งแล้ว นางบอกไม่มีปัญหา”
ในที่สุด จิ่วเยี่ยก็ไม่อาจขวางมู่เฉียนซีได้
วันต่อมามู่เฉียนซีได้ติดตามครูฝึกจื่อไปยังดินแดนที่อยู่จุดบนสุดของต้นอู๋ถง
ภายในมิตินี้ไม่เสถียรเป็นที่สุด ที่สำคัญมิติยังเปิดง่ายที่สุดอีกด้วย
โฉมหน้าของสายเลือดราชันย์ที่แข็งแกร่งมากที่สุดหลายพระองค์ปรากฏตัวขึ้น เมื่อเห็นว่าครูฝึกจื่อมาแล้ว ผู้อาวุโสของเผ่าหงส์ม่วงก็กล่าวว่า “เจ้ามาแล้ว!”
สายตาของเขากวาดมองไปที่มู่เฉียนซีและคนอื่น ๆ แต่ละคน “นี่คืออัจฉริยะที่ได้แนะนำมาจากเผ่าอื่น ดูเหมือนว่าเมื่อเทียบกับอัจฉริยะของเผ่าหงส์ม่วงของเรา ยังคงห่างไกลอยู่มาก! ลำบากเจ้าแล้วจริง ๆ!”
ครูฝึกจื่อกล่าวว่า “ไม่ลำบากเลย!”
พวกเขาได้มาถึงแล้ว แต่ทว่าอัจฉริยะของตระกูลหงส์ม่วงยังมาไม่ถึงเลยสักคน
ครูฝึกจื่อจึงกล่าวถามว่า “พวกเขาล่ะ?”
หัวหน้าเผ่าจื่อกล่าวว่า “พวกเขากำลังจัดเตรียมของบางอย่างอยู่ ใกล้จะมาถึงแล้วล่ะ”
“หัวหน้าเผ่า ตอนนี้ใกล้เวลาที่ดีที่สุดในการเปิดเส้นทางแล้ว รีบให้พวกเขามาเร็วเข้าเถิด”
“ตกลง!”
รัศมีพลังที่แข็งแกร่งหลายสิบคนกำลังเข้ามาใกล้ และหงส์สีม่วงหลายสิบตัวก็กำลังบินเข้ามาในอากาศ
มีเสียงร้องของหงส์ดังกระหึ่มขึ้น แต่ละคนต่างก็มีแรงกดดันที่แข็งแกร่งของสายเลือดราชันย์มาด้วย เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเหล่านี้ต้องการที่จะแสดงอำนาจกับคนอื่น
เผ่าหงส์ม่วงเป็นเผ่าที่แข็งแกร่งที่สุดในเผ่าราชันย์ทั้งเก้า แรงกดดันนี้ทำให้สีหน้าของคนอื่นเปลี่ยนไปไม่น้อยเลย
แต่ทว่าเสี่ยวโม่โม่และหลานเนี้ยนหลี่ค่อนข้างที่จะสงบ หงส์ม่วงบินวนเวียนอยู่กลางอากาศ หลังจากนั้นแต่ละคนก็เปลี่ยนร่างเป็นคนหนุ่มสาวที่หน้าตางดงาม
มีผู้ชายห้าคน และผู้หญิงอีกหนึ่งคน!
ทุกคนนั้นต่างก็มีความหยิ่งยโสเป็นอย่างยิ่ง อย่างไรเสียพวกเขาก็คือจุดสูงสุดของราชวงศ์
ผู้ชายหนึ่งในนั้นกล่าวว่า “นี่ก็คืออีกสิบคนที่จะไปด้วยกันกับพวกเราหรือ เหตุใดถึงดูท่าทางเหมือนว่าจะคอยถ่วงแข้งถ่วงขาเลย มีแค่พวกเราไปก็เพียงพอแล้ว!”
หัวหน้าเผ่าจื่อกล่าวว่า “พวกเจ้าอย่าพูดจาก่อกวนไปเรื่อย! มีคนมากขึ้น แน่นอนว่าก็จะปลอดภัยมากยิ่งขึ้นเล็กน้อย! และขีดจำกัดก็อยู่ที่สิบห้าคนด้วย ไม่อาจที่จะเสียเปล่าได้”
เขาเม้มริมฝีปากแล้วกล่าวว่า “พูดเช่นนั้นก็ถูก แต่ทว่าข้างในนั้นอันตรายเพียงใดไม่มีใครรู้ เมื่อถึงเวลานั้นพวกเจ้าก็อย่าขาอ่อนไปก่อนก็แล้วกัน!”
ชิงอ้าวเทียนกล่าวด้วยความโกรธว่า “จื่อเยว่ซาง เจ้าอย่าบ้าคลั่งเกินไปหน่อยเลย! เมื่อเข้าไปข้างในแล้ว ก็ไม่รู้ว่าที่จริงแล้วชัยชนะจะตกในมือผู้ใดกันแน่”
หญิงสาวคนนั้นกล่าวว่า “ช่างมันเถอะ ทุกคนต่างก็เป็นพี่น้องเผ่าหงส์เช่นเดียวกัน แน่นอนว่าจะต้องดูแลกันและกันให้มาก”
คนอื่นกล่าวว่า “จื่อเหยาช่างนิสัยดีจริง ๆ! ในเมื่อจื่อเหยากล่าวเช่นนี้ มีคนถ่วงแข้งถ่วงขาเพิ่มขึ้นมาหน่อยก็ไม่เป็นไรหรอก”
“เอาล่ะ! สายแล้ว อย่ามัวเสียเวลากันอยู่อีกเลย กำลังจะเปิดช่องทางแล้ว!”
“ขอรับ/เจ้าค่ะ!”
ผู้แข็งแกร่งของเผ่าหงส์และผู้แข็งแกร่งของเผ่าเทพหลายร้อยคน รวบรวมพละกำลังอย่างหาที่สุดไม่ได้ ฉีกช่องทางขนาดเล็กช่องทางหนึ่งให้ขาดออกจากกัน จนกลายเป็นช่องขนาดที่คนคนหนึ่งสามารถที่จะเข้าไปได้อย่างง่ายดาย
ต่อมา พลังวิญญาณหนึ่งก็พุ่งออกมา จนทำให้มิติของเส้นทางนั้นมีความเสถียรมากยิ่งขึ้น
“รีบเข้าไปเร็วเข้า! เร็ว!” ผู้เฒ่าคนหนึ่งที่ใบหน้าเต็มไปด้วยเหงื่อร้องตะโกนขึ้น
ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!
คนของเผ่าหงส์ม่วงเข้าไปอย่างรวดเร็ว จื่อเยว่ซางกวาดหางตาและมองพวกเขาอย่างยั่วยุพลางกล่าวว่า “พวกเจ้ายังไม่เร็วเข้าอีก ยิ่งช้าก็ยิ่งอยู่รั้งท้าย มิติไม่เสถียรเช่นนี้! เมื่อถึงเวลานั้นพวกเจ้ายังไม่เข้ามาอาจจะถูกพายุในมิติจัดการเอาก็ได้! นั่นก็เพียงพอที่จะทำให้พวกข้าหัวเราะเยาะไปได้เป็นร้อยปีแล้ว”
ชิงอ้าวเทียนกัดฟันกล่าวว่า “บัดซบเอ๊ย! เร็วเข้า! พวกเรารีบเข้าไปกันเถอะ”
ฉื้อเหยียนเซียวกล่าวว่า “แม่นางมู่ พวกเราก็รีบไปกันเถอะ”
ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!
เมื่อมาถึงข้างหลัง มิติก็ไม่เสถียรอย่างที่คาดการณ์ไว้
คนที่อยู่ภายในกลุ่มของพวกเขาถูกพายุของมิติทำให้ได้รับความยากลำบากเล็กน้อย
มู่เฉียนซีเข้าใจถึงพลังของมิติบ้างเล็กน้อย เช่นนั้นจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ เพียงไม่นานพวกเขาก็มาถึงยังโลกที่เงียบสงัดแห่งหนึ่ง
บริเวณโดยรอบนั้น เงียบสงบเป็นอย่างมาก!
แน่นอนว่า ความเงียบสงบนั้นได้ถูกทำลายด้วยเสียงหัวเราะที่บ้าคลั่งของใครคนหนึ่ง
“ฮ่า ๆ ๆ! ไม่คาดคิดเลยว่าจะทำให้ลำบากถึงเพียงนี้ ดูเหมือนว่าพวกเราจะมองเจ้าสูงเกินไปแล้ว” จื่อเยว่ซางหัวเราะออกมาอย่างโอ้อวดเป็นที่สุด
อีกคนหนึ่งกล่าวขึ้นมาว่า “เรื่องก่อนหน้านี้พูดกับพวกเจ้าเรียบร้อยแล้ว หลังจากที่เข้ามาแล้ว เราจะแบ่งกลุ่มกันเคลื่อนไหว!”
ชิงอ้าวเทียนกล่าวว่า “ข้าก็มีความคิดเช่นนี้เหมือนกัน แบ่งกลุ่ม! ข้าก็ไม่อยากที่จะเคลื่อนไหวไปพร้อมกับคนหลงระเริงอย่างพวกเจ้าเช่นกัน”
“พวกข้าคืออัจฉริยะของเผ่าหงส์ม่วง แน่นอนว่าหากหลงระเริงก็เป็นเพราะมีไพ่ตายที่สามารถหลงระเริงได้ เจ้าก็เป็นเพียงแค่เผ่าหงส์หยกที่มีพรสวรรค์ปานกลางคนหนึ่ง และก็มีเพียงแค่ความอิจฉาริษยาและเกลียดชังเท่านั้น!” จื่อเยว่ซางกล่าวออกมาอย่างไร้ความปรานี
“เจ้าว่าใครมีพรสวรรค์ปานกลางกัน!” นี่ยังไม่ทันที่จะเริ่มเคลื่อนไหวกันเลยสักนิด! ทั้งสองฝ่ายก็เริ่มมีสถานการณ์ตึงเครียดขึ้นมาเสียแล้ว
จื่อเหยากล่าวว่า “เผ่าของพวกเรามีห้าคน ในฐานะที่เป็นผู้นำรบแนวหน้า พวกเจ้าก็คอยคุ้มกันอยู่ข้างหลังเถอะ!”
“พวกเราไปกัน!”
คนของเผ่าหงส์ม่วง หันศีรษะแล้วตรงจากไป
ชิงอ้าวเทียนมองไปทางมู่เฉียนซีพลางกล่าวว่า “ผู้ใดต้องการที่จะไปกลุ่มเดียวกับข้า ก็ลุกขึ้นมา!”
หลังจากที่กล่าวคิดนี้ออกไป ก็มีคนลุกออกมาทั้งหมดหกคน
ชิงอ้าวเทียนกล่าวว่า “ดูเหมือนว่าพวกเจ้าทั้งสามคนคงจะแย่มาก พวกเขาต่างก็ต้องการที่จะไปกับข้า เช่นนั้นพวกเจ้าก็จัดการตนเองให้ดีเอาก็แล้วกัน!”
คนที่ได้รับเพื่อนร่วมกลุ่มถึงหกคนอย่างชิงอ้าวเทียน ก็ได้พาพวกเขาจากไปอย่างสง่าผ่าเผย
สุดท้ายแล้วก็เหลือเพียงมู่เฉียนซี หลานเนี้ยนหลี่และยังมีฉื้อเหยียนเซียวด้วย
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ในเมื่อกลุ่มของพวกเรามีแค่สามคน เช่นนั้นพวกเจ้าก็พูดความคิดของตนเองออกมาเถอะ!”
ฉื้อเหยียนเซียวลูบศีรษะของเขาพลางกล่าวว่า “ข้าจะไปมีความคิดอะไรได้! ติดตามแม่นางมู่ คอยปกป้องแม่นางมู่นั่นก็คือความคิดของข้า ถึงแม้ว่าบางทีแม่นางมู่อาจจะไม่ต้องการให้ข้าคอยปกป้อง แต่ข้าก็สามารถใช้กายเนื้อนี้เป็นเกาะกำบังให้ท่านยามวิกฤตได้!”
“แม่นางมู่ ท่านโปรดวางใจ! ร่างกายของข้านั้นแข็งแรงมาก!” พร้อมกันนั้นเจ้าหมอนี่ยังแสดงให้เห็นถึงกล้ามเนื้อของตนเองอีกด้วย
หลานเนี้ยนหลี่กล่าวว่า “ตอนที่ได้เข้าร่วมค่ายฝึกหงส์ศักดิ์สิทธิ์ ข้าได้อ่านหนังสือโบราณทุกประเภทที่เกี่ยวกับดินแดนของหงส์ศักดิ์สิทธิ์มาหมดแล้ว และมีความเข้าใจต่อที่นี่เป็นอย่างมาก หากว่าพวกท่านเชื่อข้าแล้วละก็ ข้าก็สามารถใช้ทุกสิ่งทุกอย่างที่ข้าได้รู้มาตามหาเส้นทางได้”
ฉื้อเหยียนเซียวกล่าวว่า “เกือบลืมไปแล้วว่า เผ่าหงส์ครามของพวกเจ้าถูกเรียกว่าเผ่าหงส์ที่มีความเฉลียวฉลาดมากที่สุด ทั้งยังมีหนังสือที่เก็บสะสมไว้ไม่น้อยเลยทีเดียว”
มู่เฉียนซีมองไปทางหลานเนี้ยนหลี่แล้วกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ในเมื่อท่านพูดเช่นนี้แล้ว ข้าก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องปฏิเสธแต่อย่างใด! เช่นนั้นก็ให้ท่านเป็นผู้นำทางก็แล้วกัน!”
“ขอบคุณมากที่พวกท่านเชื่อถือข้า เช่นนั้นก็ตามข้ามา!”
พวกเขาทั้งสามคนพุ่งออกไปด้านหน้าด้วยความเร็วที่สูงที่สุด
เพลิงหงส์อมตะ นางก็มีความสนใจมากเช่นกัน!
และในส่วนของคัมภีร์หมื่นคำสาป ไม่ว่าจะอยู่ที่นี่หรือไม่? นางก็จำเป็นที่จะต้องนำหน้าพวกเขาไปอีกหนึ่งก้าว เพื่อที่จะได้รับข้อมูลที่ถูกต้องที่สุด
หลังจากที่พวกเขาได้เร่งความเร็วมากขึ้นแล้ว ไม่คาดคิดเลยว่าจะได้มาพบคนของเผ่าหงส์หยกอีกครั้งอย่างคาดไม่ถึง
ชิงอ้าวเทียนกล่าวว่า “ฮ่า ๆ ๆ! หากพวกเจ้าขอร้องข้า ข้าก็สามารถพาพวกเจ้าไปด้วยกันได้! แต่กลับไม่คาดคิดเลยว่าพวกเจ้าจะแอบติดตามพวกเรามา”
.