ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1681 ความข้างเดียว
คนเหล่านี้ไม่ใช่คนที่ขี้เหนียวเลย เนื่องจากของที่นำออกมานั้นต่างก็ไม่ธรรมดาทั้งนั้น
จื่อเหยาได้แต่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน เห็นได้ชัดว่าพวกเขาก็เข้าไปในสุสานเทพหงส์ศักดิ์สิทธิ์เช่นเดียวกัน แต่ตอนนี้เหตุใดผลประโยชน์ทั้งหมดถึงตกเป็นของมู่เฉียนซีแต่เพียงผู้เดียว
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ในเมื่อผู้ยิ่งใหญ่ทุกท่านใจกว้างถึงเพียงนี้ เช่นนั้นหนังสือม้วนนี้คงต้องขอมอบให้พวกท่านแล้ว!”
“แม่นางมู่…” ในขณะที่มู่เฉียนซีกำลังจะส่งมอบของสิ่งนี้ออกไป หลานเนี้ยนหลี่ก็ร้องตะโกนขึ้นมาอย่างกะทันหัน
มู่เฉียนซีส่งสายตาที่วางใจไปทางเขา หลังจากนั้นก็ส่งมอบสิ่งของนี้ให้กับพวกเขา
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “พวกเราไปได้แล้วใช่หรือไม่?!”
“ได้สิ!”
แน่นอนว่าพวกเขาต้องนำของล้ำค่าสิ่งนี้ไปศึกษาค้นคว้ากันแล้ว “ท่านจวี๋ ตามข้ามาเถิดขอรับ!”
หลังจากที่มู่เฉียนซีมอบของปลอมให้แก่พวกเขา นางก็ไม่ได้จากไปในทันที
อย่างไรที่นี่ก็เป็นอาณาเขตของเผ่าหงส์ ไม่ว่านางจะหลบซ่อนอยู่แห่งหนใดก็ไม่อาจซ่อนตัวได้อยู่แล้ว
หากหนีไปก็ยิ่งเหมือนรู้ว่าทำเรื่องไม่ดีเอาไว้ แล้วกลัวคนอื่นจะรู้เข้า ไม่สู้พักผ่อนอย่างสบายใจอยู่ที่แคว้นจื่อเฟิ้งเสียยังดีกว่า
ฉื้อเหยียนเซียวและหลานเนี้ยนหลี่อยู่ต่อเป็นเพื่อนมู่เฉียนซี และในคืนนั้นหลานเนี้ยนหลี่ก็มาหามู่เฉียนซี
หลานเนี้ยนหลี่เอ่ยปากกล่าวว่า “ด้วยนิสัยของแม่นางมู่ เป็นไปไม่ได้ที่จะมอบสมบัติไปให้พวกเขาอย่างง่ายดายเช่นนี้ ถึงแม้ว่าจะมีแรงกดดันจากหลายคนก็ตาม”
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “หลานเนี้ยนหลี่ เจ้าอย่าพูดจาอ้อมค้อมไปหน่อยเลย ความจริงแล้วอีกไม่นานพวกเขาก็จะค้นพบได้ ว่าของชิ้นนั้นไม่ใช่ของที่พวกเขาคิดเอาไว้เลย และข้าก็ไม่จำเป็นที่จะต้องปิดบัง”
“ไม่ใช่!” หลานเนี้ยนหลี่ผงะไป
“สายตาของแม่นางมู่นั้นดีมากจริง ๆ”
ท่าทางของหลานเนี้ยนหลี่นั้นดูผิดหวังอยู่เล็กน้อย เขาถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก อย่างไรก็ตามการที่จะเอาของสิ่งนั้นกลับมาไว้ในมือ ก็ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายดายเลย!
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “สำหรับท่านแล้วสมบัติของพวกท่านเผ่าหงส์ ท่านก็มีความสนใจมาก และก็อยากจะได้มาครอบครองมากเช่นกัน ใช่หรือไม่?”
“ใช่แล้ว! ข้าจำเป็นที่จะต้องได้มันมา” หลานเนี้ยนหลี่กล่าวตอบ
“ข้ารู้ได้อย่างชัดเจน ว่าเป้าหมายของเจ้ามีความเกี่ยวข้องกับผู้อื่น! เกรงว่าเจ้าก็คงจะรู้จักสิ่งที่เรียกว่าสมบัติของเผ่าหงส์ด้วย มันเป็นส่วนหนึ่งของคำสาปที่ชั่วร้ายที่ถูกปิดผนึกไว้ตั้งแต่สมัยโบราณ เจ้าต้องการที่จะได้มันมา เหตุผลนั้นเป็นเพราะอาคมใช่หรือไม่?”
“ถูกแม่นางมู่ดูออกเสียแล้ว ญาติสนิทของข้าได้ถูกเผ่าคำสาปร่างอาคมเอาไว้ นักเล่นอาคมผู้นั้นกล่าวว่า นอกเสียจากว่าเผ่าหงส์ครามของพวกเราจะสามารถช่วยพวกเขาหาคัมภีร์หมื่นคำสาปเล่มนั้นของเผ่าหงส์มาได้”
“นั่นเป็นการบีบบังคับให้เผ่าหงส์ครามของพวกเจ้าทำงานเพื่อพวกเขาสินะ!”
“เผ่าเทพและเผ่าคำสาปก็มีความแตกแยกกัน เพราะต่างก็ต้องการที่จะกลืนกิน เช่นนั้น…”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “หากเจ้าเชื่อข้าแล้วละก็ ข้าสามารถที่จะไปลองดูได้! ในเมื่อเป็นเช่นนี้พวกเจ้าก็จะสามารถหลุดพ้นจากการควบคุมจากคนของเผ่าคำสาปได้”
คำสาปแช่งบนร่างกายของจิ่วเยี่ยก็เป็นฝีมือของเผ่าคำสาป และนางก็ไม่อาจปล่อยให้เผ่าคำสาปมั่นใจจนเกินไปได้อีกแล้ว
“ตกลง! พวกเราจะออกเดินทางกันเมื่อไร? ข้าหวังว่ายิ่งเร็วก็จะยิ่งดี”
ถึงแม้ว่ามู่เฉียนซีจะเคยใช้อาคมเพียงแค่ครั้งเดียว หลานเนี้ยนหลี่ก็รู้ได้อย่างชัดแจ้งแล้วว่านางเก่งกาจเพียงใด
คัมภีร์หมื่นคำสาปที่เป็นความลับของเผ่าหงส์เล่มนั้นหายากเกินไปแล้ว เขาทำได้เพียงแค่หาทางออกอื่นเท่านั้น
“เช่นนั้น พรุ่งนี้เราออกเดินทางกันเถอะ!”
“ขอบคุณมาก!” ไม่ว่าจะประสบความสำเร็จหรือไม่ แต่ทว่าหลานเนี้ยนหลี่ก็รู้สึกซาบซึ้งใจกับมู่เฉียนซีอย่างที่สุด
เป็นผลให้วันรุ่งขึ้นมู่เฉียนซีจำจะต้องออกเดินทาง แต่ทว่าโรงเตี๊ยมที่นางพักแรมอยู่ได้ถูกปิดล้อมอย่างเบียดเสียดเยียดยัดไปเสียแล้ว
หัวหน้าเผ่าหงส์ม่วงกล่าวอย่างโกรธเคืองว่า “มู่เฉียนซี เจ้าช่างกล้าหาญมากเสียจริง ไม่คิดเลยว่าจะกล้าเอาของปลอมมาหลอกพวกข้า”
“ของปลอม! ท่านหัวหน้าเผ่า คำพูดนี้ของท่านพูดออกมาได้อย่างไร! ม้วนหนังสือนี้ เดิมก็หยิบมาจากจุดสูงสุดของบันไดเปลวเพลิงที่อยู่ในสุสานเทพหงส์ศักดิ์สิทธิ์นั่น พวกเขาก็อยู่ที่นั่นทั้งหมด สามารถเป็นพยานได้!”
จื่อเหยากล่าวว่า “บางทีเจ้าอาจจะทำของปลอมที่เหมือนกันราวกับแกะออกมาก็ได้? อย่างไรหัวหน้าเผ่าก็พูดออกมาแล้ว ว่านี่คือของปลอม”
ฉื้อเหยียนเซียวกล่าวว่า “เจ้าก็จะตลกเกินไปหน่อยแล้วนะ! ภายในเวลาสั้น ๆ เพียงแค่นั้น แม่นางมู่จะไปสามารถทำของปลอมที่เหมือนกันอย่างกับแกะออกมาได้อย่างไร”
หัวหน้าเผ่าหงส์ม่วงกล่าวว่า “แต่ว่า นี่คือของปลอม!”
มู่เฉียนซีมองไปทางพวกเขาแล้วกล่าวว่า “สมบัติที่อยู่บนจุดสูงสุดของบันไดเปลวเพลิงนั้น ข้าไม่ได้แอบสับเปลี่ยนอย่างแน่นอน หากทุกท่านบอกว่าเป็นของปลอม ข้าก็ไม่มีอะไรจะพูดเช่นกัน!”
พวกเขาก็รู้ว่ามู่เฉียนซีไม่ได้แอบสับเปลี่ยน และเกรงว่าสิ่งของที่นางได้รับมาจากบันไดเปลวเพลิงนั้นจะไม่ใช่ของที่พวกเขาต้องการเลย
เป็นพวกเขาที่คิดไปเองว่ามู่เฉียนซีได้มันมาไว้ในมือแล้ว
มู่เฉียนซีไม่ได้ผิด แต่เพื่อที่จะได้รับของปลอมชิ้นนี้มา พวกเขาต้องจ่ายไปมากมายจนแทบจะกระอักเลือดออกมาจริง ๆ
หัวหน้าเผ่าหงส์ม่วงกล่าวว่า “ข้าก็ไม่อยากที่จะกลั่นแกล้งเด็กสาวอย่างเจ้าหรอก หรือไม่ก็อย่างนี้…ม้วนหนังสือเล่มนี้ข้าคืนให้เจ้า และเจ้าก็คืนของรางวัลที่พวกข้ามอบให้มา แล้วพวกเราจะไม่ซักไซ้เรื่องนี้อีกต่อไป”
“ทันทีที่ข้าออกมา ก็เป็นพวกท่านที่บีบบังคับให้ข้ามอบสมบัติชิ้นนั้นให้ ข้าก็มอบให้ไปแล้ว และพวกท่านก็เอาของมาชดเชยให้ข้า! ตอนนี้มาบอกว่าพวกท่านเสียใจภายหลัง ก็จะเสียใจอย่างนั้นหรือ แต่นี่ไม่ได้มีท่าทางของความเป็นผู้อาวุโสกว่าเลยแม้แต่น้อย”
สิ่งของที่มาอยู่ในมือของนางแล้วคิดอยากที่จะให้นางคืนให้ ไม่มีทางเสียหรอก!
“สมบัติชิ้นนี้พวกท่านยืนกรานที่จะเอาไปให้ได้ ตอนนี้คิดอยากที่จะคืนมาให้ ข้าก็ไม่ต้องการเช่นกัน!”
“เจ้า…”
หัวหน้าเผ่าแต่ละเผ่าเริ่มลุกลี้ลุกลนอย่างโกรธเคือง ยัยเด็กนี่น่าโมโหเกินไปแล้ว
“ทำไมกัน? หรือว่าพวกท่านคิดอยากที่จะแย่งไปหรือ ก่อนหน้านี้ข้าก็ไม่ได้ขอร้องให้พวกท่านเอาสมบัตินั่นไปเสียหน่อย”
“เจ้าเด็กน้อยนี่ช่างพูดช่างเจรจาเกินไปแล้ว” หัวหน้าเผ่าหงส์ม่วงกล่าวพลางถอดถอนหายใจ
หากแย่งชิงกลับมาจริง ๆ พวกเขาคงจะต้องอับอายขายหน้าเป็นแน่!
“เป็นเพียงแค่ของเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้นแหละ ถือซะว่าพวกเรามอบให้กับเด็กรุ่นหลังไปก็แล้วกัน”
“ใช่แล้ว”
“……”
ครั้งนี้ พวกเขานั้นใช้ตะกร้าไม้ไผ่ตักน้ำไปอย่างเปล่าประโยชน์จริง ๆ
ส่งหนุ่มสาวเหล่านี้ไปแล้ว แต่ก็ยังคงไม่ได้เบาะแสของคัมภีร์หมื่นคำสาปเล่มนั้นมาเลยแม้แต่น้อย แถมยังต้องเสียของดีไปไม่น้อยอีกด้วย
“พวกเจ้าน่ะช่างมันเถอะ! ข้าไม่ได้มีความคิดที่จะปล่อยยัยเด็กสาวนี้ไปหรอก!” ชายหนุ่มที่สวมชุดคลุมสีเขียวคนหนึ่งเดินออกมา แล้วจ้องมองมู่เฉียนซีด้วยความโกรธแค้น
“หัวหน้าเผ่าชิง!” พวกเขาชะงักไปครู่หนึ่ง
“ยัยเด็กสาวนี้ ทำร้ายลูกชายข้าจนตาย วันนี้เจ้าจำเป็นที่จะต้องไปเผ่าหงส์หยกกับข้า” หัวหน้าเผ่าหงส์หยกกล่าวด้วยท่าทางข่มขู่
“หัวหน้าเผ่าชิง ท่านบอกว่าข้าทำร้ายลูกชายท่านจนตาย! ท่านเห็นมันมาด้วยตาของตนเองหรือไม่?”
“มีคนมาบอกข้าว่า คนผู้นั้นเป็นเจ้า! นางเห็นมันมากับตาของตนเอง”
ในเวลานี้ จื่อเยว่ซางก็ลุกยืนขึ้นพลางกล่าวว่า “ในตอนแรกที่เกิดการปะทะกันพวกเราก็อยู่ที่นั่นด้วย สุดท้ายแล้วแม่นางมู่ก็ไม่ได้คิดจะเอาชีวิตของพวกเขา พวกเราทั้งห้าคนของเผ่าหงส์ม่วงต่างก็เห็นกันหมด บางทีหลังจากที่พวกเขาอ่อนแอก็อาจจะถูกวิญญาณปีศาจทำร้ายจนตายก็ได้ หากท่านจะมาตำหนิแม่นางมู่ เช่นนั้นก็ไม่เป็นธรรมกับแม่นางมู่มากเกินไปแล้ว!”
“หากว่าข้าเป็นแม่นางมู่ แล้วรู้อย่างนี้แต่แรก ไม่สู้สังหารไปเสียจริง ๆ ไม่ดีกว่าหรือ”
หัวหน้าเผ่าหงส์หยกกล่าวว่า “หลังจากนั้นด้วยความแค้นเคืองที่อยู่ภายในใจของนาง จึงได้ไปลงมือกับลูกชายของข้าอีกครั้ง! จนลูกชายของข้าถูกสังหารอยู่ที่สุสานเทพหงส์ศักดิ์สิทธิ์”
หัวหน้าเผ่าหงส์หยกโกรธจนแทบที่จะกระอักเลือดออกมา ค่ายฝึกหงส์ศักดิ์สิทธิ์ในครั้งนี้ ทำให้เขาต้องสูญเสียลูกชายที่ยอดเยี่ยมทั้งสองคนไปจนหมดแล้ว
และทั้งหมดนี้ต่างก็เกี่ยวข้องกับเด็กสาวที่ชื่อมู่เฉียนซีคนนี้ ช่างน่าชิงชังเสียจริง!
“เรื่องนี้ไม่สามารถที่จะฟังความข้างเดียวได้!” หลานเนี้ยนหลี่กล่าว
“แน่นอนว่าไม่ใช่ฟังความจากทางข้าด้านเดียว รอให้ข้าพาเจ้ากลับไปที่เผ่าหงส์หยกเพื่อสอบสวน ตอนนั้นก็จะต้องรู้ผลอย่างแน่นอน!” หัวหน้าเผ่าหงส์หยกกล่าว
ไปที่เผ่าหงส์หยก เมื่อถึงตอนนั้นก็คงจะไม่อาจแก้ตัวได้แล้ว
หัวหน้าเผ่าหงส์หยกกล่าวอย่างเอาแต่ใจว่า “สาวน้อย หากไม่อยากได้รับบาดเจ็บแล้วละก็ เช่นนั้นก็ตามข้าไปอย่างว่านอนสอนง่ายเสียโดยดีเถอะ!”