ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1685 เงียบสงบ
หมอปีศาจคือผู้ใดกัน? ผู้คนของโลกหงส์แต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่เคยจะได้ยินว่ามีผู้วิเศษที่แข็งแกร่งมากเช่นนี้มาก่อนเลย
นี่ไม่ได้มีแต่คนที่ต้องการความช่วยเหลือของหมอปีศาจที่แอบพากันไปหาราชินีหลานอย่างลับ ๆ เท่านั้น แต่ยังมีคำถามที่เกี่ยวกับเรื่องนี้มากมายอีกด้วย และยังยอมที่จะควักเอาของที่ล้ำค่าที่สุดออกมา เพื่อขอร้องให้หมอปีศาจช่วยทำการรักษาให้อีกด้วย
เนื่องจากว่ามีภารกิจที่ต้องทำอยู่ที่แคว้นหวงหลาน มู่เฉียนซีจึงเตรียมตัวอยู่ที่แคว้นหวงหลานเป็นการชั่วคราว
อันที่จริงแล้วพลังวิญญาณของแคว้นหวงหลานมีความเข้มข้นสูงกว่าที่แคว้นหงส์นิล จึงเหมาะสมในการฝึกฝนของนางและเสี่ยวโม่โม่
มู่เฉียนซีกล่าวถามว่า “เสี่ยวโม่โม่ เจ้าอยากที่จะกลับไปแคว้นหงส์นิลหรือไม่?”
สุดท้ายแล้วราชาโม่ก็คงคิดถึงนางเป็นที่สุด นอกจากนี้เขาก็ได้ส่งคนมาหลายคนแล้ว
เสี่ยวโม่โม่กล่าวว่า “ข้าจะอยู่กับนายท่าน”
เพียงแต่จะให้เสี่ยวโม่โม่เอาแต่อดกลั้นไว้ก็ไม่ดี หลานเนี้ยนหลี่จึงได้ให้คำแนะนำที่ไม่เลวอย่างหนึ่งออกมา
เขากล่าวว่า “แม่นางมู่ เสี่ยวโม่โม่นั้นยังเด็กอยู่เลย ท่านสามารถให้มันไปเรียนรู้กับหงส์น้อยที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะได้”
มู่เฉียนซีครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง นั่นก็ถูกเหมือนกัน
ถึงแม้ว่าเสี่ยวโม่โม่จะมีพรสวรรค์ที่แข็งแกร่ง และเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ก็จะปล่อยให้มันไม่มีความสนุกสนานในวัยเด็กไม่ได้
ในส่วนของเจ้าพวกเสี่ยวหงและอู๋ตี้เหล่านั้นต่างก็เป็นระดับสัตว์ประหลาดเก่าแก่มาแต่ไหนแต่ไรแล้วนางจึงไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องเหล่านี้เลย แต่ทว่าเสี่ยวโม่โม่ยังอยู่ในวัยทารกเพียงเท่านั้น
มู่เฉียนซีกล่าวถามว่า “หลานเนี้ยนหลี่ เผ่าหงส์ของพวกเจ้ามีสถานศึกษาอะไรบ้างหรือ?”
หลานเนี้ยนหลี่กล่าวว่า “แคว้นหวงหลานของพวกเราก็มีอยู่มากมาย ข้าขอแนะนำแม่นางมู่สองสถานศึกษา! สถานที่แรกเป็นโรงเรียนสำหรับตระกูลสูงศักดิ์ของเผ่าหงส์คราม ภายในโรงเรียนแห่งนี้ต่างก็เป็นผู้ที่มีพรสวรรค์ระดับสูงของเผ่าหงส์คราม เป็นสถานศึกษาของผู้ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะของสายเลือดบริสุทธิ์เรียนกัน”
“และยังมีอีกสถานศึกษาหนึ่งคือโรงเรียนชิงอี้ สถานศึกษาแห่งนี้ได้รับเหล่าลูกหลานของวีรบุรุษที่พ่ายแพ้ที่ไม่มีที่พึ่ง และท่านพ่อของข้าก็เป็นเบื้องหลังหลักของสถานศึกษาของพวกเขา ทั้งข้าก็ยังรับหน้าที่เป็นครูของที่นี่ด้วย”
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ข้ารู้สึกว่าเจ้าหวังเป็นอย่างยิ่งให้ข้าเลือกตัวเลือกอย่างหลัง”
หลานเนี้ยนหลี่กล่าวว่า “ด้วยพรสวรรค์ของเสี่ยวโม่โม่ก็เพียงพอที่จะไปยังโรงเรียนของตระกูลสูงศักดิ์ได้แล้ว ทรัพยากรของโรงเรียนตระกูลสูงศักดิ์นั้นดีกว่ามาก แต่ทว่ามีกฎที่ค่อนข้างสูงกว่า หากอยู่ที่โรงเรียนชิงอี้ก็จะมีอิสระมากกว่าเล็กน้อย”
“ข้าก็มีความคิดเช่นนั้นเหมือนกัน! เช่นนั้นตัดสินใจเป็นอันนี้ก็แล้วกัน เรื่องขั้นตอนส่งเสี่ยวโม่โม่เข้าเรียน คงจะต้องรบกวนให้เจ้าช่วยทำให้แล้ว”
“นั่นไม่ใช่ปัญหาเลย”
เมื่อได้ยินว่าสามารถไปโรงเรียนได้ ทั้งยังได้ไปเล่นกับเด็กที่รุ่นราวคราวเดียวกัน เสี่ยวโม่โม่ก็ตื่นเต้นดีใจจนนอนไม่หลับ
ถึงแม้ว่าเสี่ยวโม่โม่จะมีประสบการณ์กับมู่เฉียนซีมามากมายตั้งแต่เกิด แต่สุดท้ายแล้วมันก็เป็นเพียงแค่เด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น
อย่างไรก็ตามกว่าจะตามหาสุสานจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์เจอก็ยังต้องใช้เวลา เช่นนั้นก็ให้เสี่ยวโม่โม่ได้ร่ำเรียนในสถานศึกษาก่อนจะดีกว่า
เช้าวันรุ่งขึ้น หลานเนี้ยนหลี่ก็ได้พามู่เฉียนซีไปยังโรงเรียนชิงอี้ และภายในนั้นหลานเนี้ยนหลี่ก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
“อาจารย์หลาน!”
“สวัสดีค่ะอาจารย์หลาน!”
“……”
มู่เฉียนซีได้พาเสี่ยวโม่โม่ไปเรียนในชั้นเริ่มแรกสุด เสี่ยวโม่โม่เป็นเด็กน่ารักและมีเหตุผล ทำให้เหล่าเพื่อน ๆ ต่างก็ยินดีต้อนรับต่อการมาของนาง
หลานเนี้ยนหลี่กล่าวว่า “ข้าก็ต้องไปสอนแล้วเช่นนั้น ช่วงนี้ข้าขาดบทเรียนไปไม่น้อยเลย! ข้าจะให้คนพาแม่นางมู่กลับไปส่ง”
มู่เฉียนซีตอบกลับว่า “ไม่ต้องหรอก ข้าจะเดินเล่นอยู่ที่โรงเรียนของเสี่ยวโม่โม่ด้วยตนเอง จากนั้นเดี๋ยวข้าจะกลับเอง”
“อื้ม!”
ทันทีที่หลานเนี้ยนหลี่จากไป มู่เฉียนซีก็กล่าวว่า “จิ่วเยี่ย ตอนนี้ว่างไม่มีอะไรทำ พวกเราไปเที่ยวเล่นกันเถอะ!”
จิ่วเยี่ยพยักหน้าเล็กน้อยพลางกล่าวว่า “อื้ม!”
โรงเรียนชิงอี้นั้นเรียบง่ายมาก แต่อย่างไรก็ตามวิวทิวทัศน์นั้นกลับไม่เลวเลย เด็กของที่นี่เนื่องจากต่างก็เป็นลูกหลานของวีรบุรุษที่สละชีพ ที่อยู่เผ่าหงส์ในตอนนี้ พวกเขาต่างก็ไม่มีคนหนุนหลังและไม่มีสถานะ จนต้องดิ้นร้นอย่างเต็มที่!
อีกด้านหนึ่งมีต้นไม้โบราณสูงตระหง่านจนเข้าไปในเมฆหมอก มู่เฉียนซีจึงกล่าวออกมาอย่างเกียจคร้านว่า “เดินจนเหนื่อยแล้ว! จิ่วเยี่ย พวกเราไปอาบแดดข้างบนกันดีกว่าไหม?”
“ข้าจะไปกับเจ้า!”
ใบไม้แกว่งไกวขณะสายลมพัดเอื่อย มีชายสวมชุดคลุมสีดำที่แข็งแกร่งและเย็นชานั่งอยู่บนต้นไม้ที่ใหญ่เสียจนหนึ่งถึงสามคนต่างก็ไม่สามารถโอบมิด
อ้อมแขนของเขาอุ้มสาวน้อยของตนเองไว้ นางเอนตัวพิงลงบนร่างของเขาแล้วหลับตาทั้งสองข้างลง ขนตาที่หนายาวราวกับปีกของผีเสื้อวาดโค้งเป็นเงาอยู่ใต้ดวงตา
แสงตะวันสาดส่องโลมไล้บนใบหน้าของพวกเขา มันงดงามราวกับภาพวาดสีน้ำมันที่สมบูรณ์แบบที่สุดที่รังสรรค์โดยปรมาจารย์ชั้นยอด
ช่างเงียบสงบ ทุกครั้งที่ได้เพลิดเพลินไปกับอ้อมกอดอันเงียบสงบนี้ ก็ราวกับได้ดื่มด่ำกับความรักอันลึกซึ้งเสียจนแยกออกจากกันไม่ได้ไปด้วย
“หลานเหยา เจ้ามาถอนวัชพืชที่นี่อีกแล้วเช่นนั้นหรือ ข้าบอกแล้วว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือการที่เจ้าต้องหมั่นฝึกฝนให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น”
“ข้าไม่ต้องการที่จะแข็งแกร่งขึ้น ข้าอยากกลายเป็นนักปรุงยา! นักปรุงยาสามารถทำเงินได้อย่างมากมาย เป็นเช่นนั้นทุกคนก็จะได้มีชีวิตที่ดีขึ้นได้”
“เจ้านี่มันเด็กโง่เสียจริง เดิมทีแล้วเผ่าหงส์ของพวกเราไม่มีศักยภาพที่จะกลายเป็นนักปรุงยาได้เลย! แม้แต่โรงเรียนของราชวงศ์ต่างก็ไม่ได้ตั้งหลักสูตรนักปรุงยาขึ้นมาด้วยซ้ำ หากเจ้าจะทำความเข้าใจด้วยตนเองมันจะเป็นการเสียเวลาเปล่า! พรสวรรค์ของเจ้าไม่ได้แย่ แต่เจ้าไม่อาจทำให้ท่านเจ้าบ้านต้องมาผิดหวังได้”
“ไม่ได้! ข้าจะต้องหาทางกลายเป็นนักปรุงยาให้ได้! สมุนไพรวิญญาณสามารถที่จะตรวจสอบจากในหนังสือได้ ข้ารวบรวมมันมาหมดแล้ว และจำได้ทั้งหมดแล้วด้วย” ดูท่าว่าจะเป็นเด็กที่ยังไม่โตเต็มวัยคนหนึ่ง ที่เหมือนจะดื้อดึงมานานหลายปีแล้วกล่าวขึ้น
ดวงตาของมู่เฉียนซีลืมขึ้น จิ่วเยี่ยกระซิบกล่าวว่า “ซีถูกรบกวนจนตื่นแล้วหรือ! เจ้าพักต่ออีกสักหน่อยเถิด”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ข้าไม่นอนแล้ว! ขอไปหาหลานเนี้ยนหลี่ก่อน”
“อื้ม!”
เงาสีดำสว่างวาบขึ้น จนทำให้เด็กน้อยที่อยู่ใต้ต้นไม้ผงะไปเล็กน้อย
“อาจารย์ชิง ข้า…เหมือนว่าข้าจะเห็นว่ามีคนเพิ่งบินผ่านไปใช่หรือไม่?”
“ไม่มีใครนี่! เจ้าต้องมองผิดไปแล้วแน่นอน!” อาจารย์ชิงรีบตอบกลับ
ตอนที่มู่เฉียนซีกำลังจะไปหาหลานเนี้ยนหลี่ก็เป็นเวลาที่หลานเนี้ยนหลี่เลิกเรียนพอดิบพอดี
หลานเนี้ยนหลี่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เขากล่าวว่า “แม่นางมู่ ท่านยังไม่ไปอย่างนั้นหรือ?”
มู่เฉียนซีกล่าวถามว่า “หลานเนี้ยนหลี่ โรงเรียนของเจ้ายังขาดอาจารย์สอนปรุงยาเช่นนั้นหรือ?”
“ปรุงยา!” หลานเนี้ยนหลี่ชะงักงัน
“เผ่าหงส์ของพวกเราไม่มีพรสวรรค์ในการปรุงยา แต่ละสถานศึกษาต่างก็ไม่ได้จัดตั้งหลักสูตรของนักปรุงยาขึ้นมา”
มู่เฉียนซีมองไปทางหลานเนี้ยนหลี่แล้วกล่าวว่า “หรือว่าเผ่าหงส์ของเจ้าไม่คิดจะมีนักปรุงยาเอาไว้บ้างอย่างนั้นหรือ? บางทีข้าอาจจะทำได้ก็ได้ ไม่เช่นนั้นให้ข้าลองดูหน่อยดีหรือไม่?”
“ข้าขอไปปรึกษากับท่านพ่อก่อน” หลานเนี้ยนหลี่กล่าว
หลังจากที่ท่านหยูได้ทราบข่าวนี้ก็ดีอกดีใจเป็นอย่างมาก “ด้วยความสามารถของแม่นางมู่ ไม่ใช่เรื่องแปลกหากจะสามารถทำเรื่องเช่นนี้ได้! ข้ายินยอมที่จะให้มีการสอนในโรงเรียนของพวกเรา พวกเราดีใจเป็นอย่างมาก!”
มู่เฉียนซีตอบกลับว่า “เพียงแต่ว่า บางทีข้าก็ไม่ได้มีเวลาว่างมากเท่าไรนะ”
“ไม่มีปัญหา!”
โรงเรียนชิงอี้ได้จัดตั้งชั้นเรียนปรุงยาขึ้นมา และมันก็ทำให้โรงเรียนมากมายที่ได้รู้ข่าวนี้ต่างพากันหัวเราะเยาะเสียยกใหญ่
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า! ไม่คาดคิดเลยว่าโรงเรียนขยะเช่นนี้จะจัดตั้งชั้นเรียนปรุงยาขึ้น! พวกเขามีเงินมากพอที่จะเชิญท่านนักปรุงยามาหรือ?”
“ถึงแม้ว่าจะเชิญมาได้ ด้วยพรสวรรค์ที่แสนธรรมดาของที่นั่นคิดอยากที่จะเรียนรู้วิชาปรุงยา ก็ช่างเป็นความเพ้อฝันของคนโง่เง่าอย่างสมบูรณ์จริง ๆ!”
มีคนมากมายที่มองสิ่งที่โรงเรียนชิงอี้ทำเป็นเรื่องตลก และในเวลานี้ภายในโรงเรียนก็ได้มีเด็กที่สมัครใจที่อยากจะเรียนรู้วิชาปรุงยาได้มาเริ่มเข้าเรียนแล้ว
จากนั้นก็มีมนุษย์เข้ามาคนหนึ่ง และยังดูเป็นมนุษย์ที่มีอายุน้อยยิ่งกว่าอาจารย์หลานเสียอีก
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ตอนนี้เริ่มเรียนได้!”
ตอนแรกที่อยู่ดินแดนใต้มู่เฉียนซีก็เคยมีประสบการณ์สอนมาแล้ว เมื่อตอนที่ได้มาสอนเด็กน้อยเหล่านี้ จึงง่ายดายเป็นอย่างมาก
ถึงแม้พวกเขาจะไม่เข้าใจ แต่ก็ไม่ได้เหม่อลอย และเด็กที่ชื่อว่าหลานเหยาผู้นั้นก็ตั้งใจฟังเป็นพิเศษ
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “นักเรียนหลานเหยา ต่อไปนี้เจ้าคือหัวหน้าห้อง! แล้วต้องจำไว้ว่าจะต้องคอยช่วยเหลือเพื่อน ๆ เรียนรู้และพัฒนาให้ก้าวหน้า สิ่งเหล่านี้คือหนังสือพื้นฐานที่เกี่ยวกับการปรุงยา ข้าทิ้งไว้ให้พวกเจ้า พวกเจ้าก็ค่อย ๆ อ่านค่อย ๆ ท่องจำเอา!”
“เจ้าคะ!” เมื่อกลับมาถึงพระราชวังหงส์คราม ราชินีหลานก็ได้บอกนางว่ามีข้อตกลงทางการค้าแรกเข้ามาแล้ว และอีกฝ่ายก็มีเบื้องหลังที่ยิ่งใหญ่มาก