ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1689 นี่เรียกว่าไม่มีอะไรหรือ
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ไม่มีเวลาแล้ว และหากไปหาราชาโม่ก็อาจจะดึงดูดความสนใจของพวกเขามากเกินไปได้ จำเป็นที่จะต้องไปตอนนี้เลย”
“ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น เมื่อถึงเวลานั้นคนที่ตายไม่ใช่ข้า แต่เป็นพวกเขาต่างหาก” ความเย็นยะเยือกที่กระหายเลือดฉายวาบในดวงตาของมู่เฉียนซี
โม่ชิงอู่ชะงักไปครู่หนึ่ง นางยังรู้จักมู่เฉียนซีได้ไม่นานเท่าไรนัก แต่ทว่าทุกครั้งนางก็มักจะทำเรื่องที่ไม่สามารถทำได้อย่างสิ้นเชิงสำเร็จมาหลายครั้งหลายคราแล้ว
ถึงแม้ว่าครั้งนี้วิธีการของมู่เฉียนซีจะเสี่ยงภัยมากจริง ๆ ทั้งยังมุทะลุมากด้วย แต่โม่ชิงอู่ก็เชื่อว่านางไม่ใช่คนที่จะเอาชีวิตของตนเองมาล้อเล่นเป็นแน่
โม่ชิงอู่พยักหน้าแล้วกล่าวว่า “ตกลง!”
“เจ้ากินยาลูกกลอนเหล่านี้ไปก่อน และรีบฟื้นตัวให้ได้โดยเร็ว! หากจะต้องมีการปะทะกันขึ้นมาจริง ๆ เจ้าจะได้สามารถออกแรงได้อย่างเต็มที่!”
ถูกผู้ผูกพันธสัญญาของตนเองบีบบังคับให้ยกเลิกพันธสัญญา อาการบาดเจ็บภายในร่างกายของโม่ชิงอู่จึงมีอาการร้ายแรงกว่าอาการบาดเจ็บภายนอกมากนัก
โม่ชิงอู่กล่าวว่า “ขอบคุณมาก!”
นางไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า ในช่วงเวลาที่ตนเองหมดหนทางมากที่สุด มู่เฉียนซีที่ทำให้นางต้องได้รับความพ่ายแพ้มาหลายครั้งหลายคราจะมอบจุดยืนให้กับนางอย่างคาดไม่ถึงเช่นนี้ ทั้งยังให้ความช่วยเหลือนางอย่างไม่คาดคิด และยังช่วยไม่ให้นางต้องล้มลงไปอีกด้วย
โม่ชิงอู่ต้องการที่จะหาเสี่ยวโม่โม่ให้เจอโดยเร็วที่สุด แต่ทว่าดินแดนโกลาหลหลินยวนนั้นกว้างใหญ่มากเกินไป จนนึกไม่ถึงว่านางจะหาเส้นทางไม่เจอจริง ๆ
โม่ชิงอู่กล่าวว่า “ข้าถูกสัตว์ร้ายมากมายหลายชนิดไล่ฆ่าไปทั่ว ทำให้เส้นทางดูเหมือนว่าจะสับสนมากไปสักหน่อย”
“เจ้าไม่ต้องรีบมากเกินไปนัก ค่อย ๆ คิดเถอะ!”
“อื้ม!”
พวกเขาตามหามาถึงแคว้นโม่หลิน หลังจากที่ไปผิดทางมาหลายครั้ง ในที่สุดโม่ชิงอู่ก็หาเหวลึกแห่งหนึ่งจนพบ
ผลสุดท้าย มู่เฉียนซีก็สามารถรู้สึกถึงกลิ่นอายที่คุ้นเคยได้แล้ว
ยาลูกกลอนเม็ดหนึ่งยัดเข้าไปในปากของโม่ชิงอู่พลางกล่าวว่า “ระวังด้วย ปกปิดกลิ่นอายเอาไว้ อย่าให้พวกเขาค้นพบได้”
“อื้ม!”
เสี่ยวโม่โม่ ถูกขังอยู่ภายในเหวลึกอันมืดมิดแห่งนี้
ความสามารถของฝ่ายตรงข้ามไม่อ่อนแอเลย หากพุ่งตรงเข้าไปจะต้องถูกค้นพบเป็นแน่
มู่เฉียนซีล่าถอย แล้วแอบอยู่ในระยะห่างที่ปลอดภัย
“จิ่วเยี่ย หากท่านเข้าไปช่วยเหลือจะมีโอกาสมากน้อยเพียงใด?”
“รอข้าก่อน!” จิ่วเยี่ยกล่าวพลางมองไปทางมู่เฉียนซี
จิ่วเยี่ยที่ปรากฏตัวขึ้นมาอย่างกะทันหัน ทำให้โม่ชิงอู่ตกใจเป็นอย่างมาก
เมื่อตอนที่จิ่วเยี่ยออกไป และเมื่อต้องการที่จะเข้าไปใกล้เหวลึกนั้นมากขึ้น สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างกะทันหัน
ถึงมันจะเป็นเรื่องเพียงชั่วขณะหนึ่งเท่านั้น แต่ก็ไม่สามารถที่จะหลีกหนีพลังจิตวิญญาณที่เฉียบคมของมู่เฉียนซีได้
ร่างสีม่วงสว่างวาบพุ่งออกไป มู่เฉียนซีเกือบที่จะแทงจิ่วเยี่ยจนกลายเป็นเม่นอยู่แล้ว
“ซี!” จิ่วเยี่ยทำท่าทางไม่มีทางเลือก
“ไม่มีอะไร!”
นิ้วเรียวบางของมู่เฉียนซีลูบไล้ไปทั่วใบหน้าของเขา “นี่เรียกว่าไม่มีอะไรอย่างนั้นหรือ?”
พลังคำสาปปรากฏออกมาภายนอก หรือว่าการปิดผนึกก่อนหน้านี้ถึงขีดจำกัดแล้วอย่างนั้นหรือ?
มู่เฉียนซีชี้นิ้วไปที่เขาพลางกล่าวว่า “ท่านรอคำสั่งของข้าอยู่กับที่! ข้าจะคิดหาวิธีอื่น ได้ยินหรือไม่?”
“อื้ม!” จิ่วเยี่ยหายไปในทันที เขารู้ดีว่าเรื่องราวเมื่อครู่นี้มันดูท่าไม่ดีเป็นอย่างมาก ดูเหมือน…
ดวงตาสีฟ้าเย็นยะเยือกมืดมนลง รอให้ซีหาเจ้าเด็กน้อยให้เจอก่อนค่อยว่ากัน
หลังจากที่จิ่วเยี่ยออกไปแล้ว โม่ชิงอู่จึงกล้าเอ่ยปากออกมาว่า “แม่นางมู่ คนผู้นั้นคือคนรักของท่านหรือ? ความสัมพันธ์ของพวกท่านดีมากเลยทีเดียว” โม่ชิงอู่กล่าวด้วยรอยยิ้ม
“นั่นมันเป็นเรื่องธรรมชาติอยู่แล้ว!” มุมปากของมู่เฉียนซียกยิ้มขึ้น
ในตอนนี้จิ่วเยี่ยไม่เหมาะที่จะเคลื่อนไหว อู๋ตี้จึงได้เริ่มขันอาสา
“ให้ข้าเข้าไปสอดแนมแล้วหาเจ้าเด็กน้อยตัวนั้นเถอะ! ถึงแม้ว่าข้าจะยังไม่ได้เลื่อนขั้นเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ แต่เจ้าสวะกลุ่มนั้นก็ทำอะไรข้าไม่ได้อยู่ดี”
“เช่นนั้นเจ้าก็ระวังด้วย!” มู่เฉียนซีกล่าว
“ตกลง!” อู๋ตี้ได้กลายเป็นร่างสีขาวแล้วพุ่งลงไปที่เหวลึกนั่นทันทีทันใด
โม่ชิงอู่กล่าวว่า “นี่ก็เป็นสัตว์พันธสัญญาของแม่นางมู่เช่นกันหรือ?”
นางไม่ได้คิดมาก่อนเลยว่าแม่นางมู่จะมีสัตว์พันธสัญญาตัวที่สองด้วยเช่นนี้ ความแตกต่างระหว่างพวกเขา ไม่ได้น้อยลงเลยแม้แต่นิดเดียวจริง ๆ
อู๋ตี้พยายามปกปิดกลิ่นอายของตนเองอย่างระมัดระวังเป็นอย่างมาก และในที่สุดก็หาเสี่ยวโม่โม่ที่ถูกขังเอาไว้ในกรงเจอจนได้
เสี่ยวโม่โม่มีสภาพที่ค่อนข้างน่าเวทนา บนร่างกายมีรอยบาดแผลเต็มไปหมด มันร้องตะโกนออกมาไม่หยุด “ปล่อยข้านะ! ปล่อยข้า!”
โม่หลิ่วขวงกล่าวว่า “เจ้าตัวน้อย จะให้ข้าปล่อยเจ้า เจ้าอย่ามาฝันไปหน่อยเลย! สายเลือดหงส์บริสุทธิ์ที่อยู่ทั่วทั้งร่างกายของเจ้า รอให้ข้าได้เอามันมาใช้เพื่อตัวข้าเองเสียก่อนเถอะ!”
“นายท่านจะต้องมาช่วยเหลือข้าแน่นอน เจ้ารอก่อนเถอะ!”
“เจ้ายังรอสาวน้อยผู้นั้นมาช่วยอยู่อีกหรือ ขนาดราชาโม่ยังคิดที่จะช่วยเจ้าไม่ได้ ก็อย่าพูดถึงแม่สาวน้อยผู้นั้นเลย”
“นายท่านทำได้แน่!” ในส่วนนี้ เสี่ยวโม่โม่เชื่อมั่นเป็นอย่างมาก
สุดท้ายโม่หลิ่วขวงก็ไม่ได้คุยกับเจ้าตัวน้อยอีกต่อไป และก็ไปคุยกับนักเล่นคาถาอาคมที่สวมชุดสีดำทั้งสองคนแทน
เขากล่าวว่า “ไม่รู้ว่าราชาโม่ฟื้นฟูการบ่มเพราะของเขาได้อย่างไร? แต่ทว่าในฐานะที่เขาเป็นราชาของเผ่า ก็คงจะต้องมีไพ่ตายอะไรบางอย่างอยู่แล้ว ดังนั้นการที่จะจัดการเขาก็เป็นเรื่องที่ยุ่งยาก หากว่าทุกท่านสามารถใช้วิธีการที่ง่ายที่สุดในการจัดการเขาได้ เช่นนั้นคงจะดีเป็นอย่างยิ่ง”
“ข้ามีวิธีการอย่างหนึ่ง!”
คนที่คลุมชุดดำนั้นดูดเลือดออกมาจากเสี่ยวโม่โม่ถ้วยหนึ่ง ทั้งยังดึงขนตรงปีกออกมาอีกไม่น้อย
เสี่ยวโม่โม่ไม่ร้องออกมาสักแอะ มีเพียงแค่อู๋ตี้ที่รู้สึกเจ็บปวดใจแทนเท่านั้น
เจ้าตัวน้อยนี้ถูกนายท่านและพวกเขาเฝ้าพะเน้าพะนอมาตั้งแต่แรกเกิด ไม่นึกเลยว่าเจ้าสารเลวพวกนี้จะกล้ามารังแกนางถึงเพียงนี้ สมควรตายจริง ๆ!
เพียงไม่นาน คนผู้นั้นก็ได้นำสิ่งของเหล่านี้วางลงบนพื้น เป็นผลให้มีคำสาปหนึ่งถูกวาดออกมา และเพียงไม่นานก็มีเจ้าตัวน้อยที่เหมือนกับเสี่ยวโม่โม่อย่างกับแกะปรากฏตัวออกมา
แม้แต่กลิ่นอายก็ยังเหมือนกัน เกรงว่าแม้แต่ญาติพี่น้องที่ใกล้ชิดกันก็ยังยากที่จะแยกแยะออกได้
เพียงแต่กลิ่นอายของเจ้าตัวนี้อ่อนแอมาก ทั้งไม่สามารถลืมตาทั้งสองข้างได้ และก็ไม่สามารถพูดได้อีกด้วย
เสี่ยวโม่โม่กล่าวด้วยความโมโหว่า “เจ้าพวกคนเลว ไม่คาดคิดเลยว่าพวกเจ้าจะหลอกลวงท่านตาได้อย่างต่ำช้าไร้ยางอายเช่นนี้ ทำร้ายท่านตา…”
เสี่ยวโม่โม่กระพือปีกคิดอยากที่จะพุ่งออกไป แต่กลับถูกขวางไว้ด้วยกรงที่มีคำสาปที่แน่นหนา
พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บ!
เพลิงหงส์อมตะพุ่งออกมา และทำให้สถานที่ที่พวกเขาอยู่ตอนนี้ยุ่งเหยิงไปหมด
ตูม โครม!
เปลวไฟเหล่านี้ยากที่จะดับมันลงได้ โม่หลิ่วขวงกล่าวว่า “นี่มันไม่ใช่โม่เหยียน ดูท่าว่าเจ้าตัวน้อยนี่จะได้ของดีมาจากสุสานเทพหงส์ศักดิ์สิทธิ์ไม่น้อยเลยทีเดียว เพียงแต่ว่าอีกไม่นานสิ่งเหล่านี้ก็จะต้องตกเป็นของข้าแล้ว”
เสี่ยวโม่โม่กระวนกระวายใจเป็นอย่างมาก แต่ทว่าก็ไม่อาจทำอะไรคนเหล่านี้ได้
หลังจากที่พวกเขาปรึกษาหารือกันเรื่องแผนการลับแล้ว จากนั้นก็ได้ไปจัดเตรียมแผน และเมื่อถึงเวลากลางดึก ในที่สุดอู๋ตี้ก็หาโอกาสนำข่าวไปบอกกับเสี่ยวโม่โม่จนได้
เสี่ยวโม่โม่กล่าวอย่างตื่นเต้น “ข้ารู้ว่านายท่านจะต้องหาข้าเจออย่างแน่นอน เสี่ยวโม่โม่จะรอนายท่านมาช่วยอย่างเชื่อฟัง”
“เช่นนั้นข้าไปหานายท่านก่อน!”
มู่เฉียนซียังคงรออยู่ด้านนอก นางรอจนท้องฟ้าเริ่มมืดลงถึงได้เห็นอู๋ตี้กลับมา
นางจะวิ่งตะบึงไปและคิดว่าหากอู๋ตี้ยังไม่ออกมาแล้วละก็ นางคงจะเลือกวิธีการบุกฆ่าเข้าไปเลยเป็นแน่
อู๋ตี้กลับมารายงานข่าวคราว มู่เฉียนซีพยักหน้าพลางกล่าวว่า “ดูเหมือนว่าการนัดพบกันของโม่หลิ่วขวงและราชาโม่จะไม่นำเสี่ยวโม่โม่ไปด้วย เป็นเช่นนี้ก็พอดีเลย รอให้ทันทีที่พวกเขาจากไป พวกเราค่อยเข้าไปช่วยเหลือเสี่ยวโม่โม่”
“อื้ม! ข้าก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน”
สีหน้าของโม่ชิงอู่ขาวซีดขึ้นมาทันที พ่อบุญธรรมที่เคารพของตนเองไม่คิดเลยว่าจะโหดร้ายได้ถึงเพียงนี้
นางกัดริมฝีปากเอาไว้แน่น จากนั้นก็พูดอะไรไม่ออกอีกแล้ว สิ่งที่นางสามารถทำได้ในตอนนี้ก็คือช่วยมู่เฉียนซีไปช่วยเหลือเสี่ยวโม่โม่ออกมา
เช้าวันรุ่งขึ้น โม่หลิ่วขวงและพรรคพวกก็กลับมา
เขากล่าวว่า “ไป๋ฉาง ท่านว่าน และพวกเจ้าอีกสองสามคนเตรียมตัวอยู่ที่นี่ ข้าและคนอื่นจะไปพบกับราชาโม่”
พวกเขาเชื่อมั่นในตนเองว่าไม่มีผู้ใดจะสามารถหาที่นี่เจอได้ แน่นอนว่าเขาจะต้องพาคนที่แข็งแกร่งที่สุดไปจัดการราชาโม่อยู่แล้ว เขาจะต้องกำจัดราชาโม่ให้เร็วที่สุด เพื่อหลีกเลี่ยงภัยพิบัติที่อาจจะเกิดขึ้นได้