ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1690 ย้ายกำลังไปช่วยเหลือ
มู่เฉียนซีให้ความสนใจกับการเคลื่อนไหวของทางนี้อยู่ตลอดเวลา เมื่อเห็นพวกเขามู่เฉียนซีก็ถอยออกมาแล้วกล่าวว่า “อู๋ตี้ เจ้านำหน้าออกไปก่อน”
“ขอรับ!”
“โม่ชิงอู่ เจ้ารออยู่ข้างนอกนี่ หากว่ามีคนหนีออกมา แล้วเจ้าสามารถสู้ได้เจ้าก็จงสู้ซะ! หากสู้ไม่ไหว ก็ให้รออยู่ที่นี่ก่อน” มู่เฉียนซีมองไปทางโม่ชิงอู่และกล่าว
โม่ชิงอู่เองก็รู้ว่าคนที่อยู่ข้างในนั้นนอกเสียจากไป๋ฉางแล้ว คาดว่าคงจะไม่มีใครที่นางสามารถสู้ได้อีกแล้ว หากนางไปด้วยก็จะเพิ่มความวุ่นวายมากขึ้นเสียเปล่า ๆ
หลังจากที่โม่หลิ่วขวงออกไปแล้ว นักเล่นคาถาอาคมผู้นั้นก็ได้เริ่มวาดอักขระคำสาปต่าง ๆ ภายในถ้ำแห่งนี้
ไป๋ฉางมองดูการร่ายคำสาปเหล่านี้อย่างอยากรู้อยากเห็นเป็นอย่างมาก จากนั้นก็กล่าวอย่างเลื่อมใสเป็นที่สุดว่า “คำสาปนี้ยอดเยี่ยมมากจริง ๆ มันช่างกว้างและลึกซึ้งมาก ข้าน้อยขอนับถือ!”
ในเวลานี้ มีแสงสีขาวสว่างวาบพุ่งออกมา
พรึ่บ!
แสงสีเลือดสาดกระเซ็น ทันใดนั้นบนมือของนักเล่นคาถาอาคมก็มีเลือดสดไหลทะลักออกมา จากนั้นก็มีบาดแผลที่ปรากฏลึกจนเห็นกระดูก
เขากล่าวอย่างโกรธเคืองว่า “ใครกัน?”
พวกเขามองไม่เห็นคนเลย แต่กลับเห็นเพียงแค่แมวสีขาวดุจหิมะตัวหนึ่งเท่านั้น
“สัตว์ร้าย! ไม่คาดคิดว่ามีสัตว์ร้ายกล้าบุกเข้ามาในนี้ได้?”
“ฆ่ามันซะ!”
ตูม โครม!
พวกเขาเริ่มเคลื่อนไหวเพื่อสังหาร และอู๋ตี้ก็ได้เปลี่ยนร่างจนกลายเป็นอู๋ตี้ร่างยักษ์ที่พร้อมรบ
ตึง!
ทั้งร่างของมันเกือบจะทำให้หน้าผาที่อยู่ภายในถ้ำแห่งนี้ต้องเปิดออกเสียแล้ว
ตูม โครม!
เศษหินนานาชนิดร่วงหล่นลงมาจากรอบบริเวณ ซึ่งมันทำให้ทำพวกเขายุ่งยากไม่น้อยเลย
เมื่อตอนที่ความสนใจของพวกเขาถูกอู๋ตี้ดึงดูดไปจนหมด มู่เฉียนซีก็ใช้การเคลื่อนย้ายภายในชั่วพริบตาพุ่งออกไป
“นายท่าน!”
เสี่ยวโม่โม่ที่กำลังแสร้งทำท่าทางเวียนหัวอยู่ก็ลืมตาทั้งสองข้างขึ้นมาทันที
กรงนี้มันไม่ได้เป็นเพียงแค่กรงธรรมดาเท่านั้น แต่ทว่าโดยรอบถูกปกคลุมไปด้วยคำสาป จำเป็นที่จะต้องคลายคำสาปถึงจะสามารถช่วยเหลือเสี่ยวโม่โม่ออกมาได้
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “เสี่ยวโม่โม่ เอาเลือดของเจ้ามาให้ข้าหยดหนึ่ง!”
“เจ้าค่ะ!”
เลือดของเสี่ยวโม่โม่หยดหนึ่งลอยอยู่กลางอากาศ จากนั้นก็ถูกมู่เฉียนซีนำมาร่ายคำสาป และหลังจากนั้นไม่นานคำสาปที่อยู่บริเวณโดยรอบก็ถูกปลดออกไปในทันที
“ผู้ใดกัน?”
คำสาปที่ตนเองร่ายไว้ถูกปลดออกไป ท่านว่านจึงรู้สึกถึงมันได้อย่างชัดเจนในทันที
เขาได้เห็นตอนที่มู่เฉียนซีกำลังเปิดกรงอยู่พอดิบพอดี เขาจึงกล่าวออกมาอย่างตื่นตะลึงว่า “เป็นไปได้อย่างไรกัน?”
มู่เฉียนซีอุ้มเสี่ยวโม่โม่ขึ้นมาพลางกล่าวว่า “เสี่ยวโม่โม่ เจ้ากลับไปพักผ่อนอยู่ที่มิติพันธสัญญาก่อน เรื่องต่อจากนี้ไปมอบให้เป็นหน้าที่ของข้าเอง”
“จับนางไว้!”
“มู่เฉียนซี!” ในเวลานี้ไป๋ฉางก็สังเกตเห็นถึงการปรากฏตัวขึ้นมาอย่างกะทันหันของมู่เฉียนซีแล้ว
“ไม่คิดว่าเจ้าจะกล้ามาช่วยเหลือเจ้าตัวน้อยนั่น ข้าว่าเจ้านี่ช่างรนหาที่ตายเสียจริงเลย”
ครืน!
อู๋ตี้ได้ปิดกั้นทางเข้าออกของถ้ำไว้อย่างสมบูรณ์แล้ว ส่วนท่านว่านผู้นั้นก็พุ่งตรงไปทางมู่เฉียนซี จากนั้นก็ได้ร่ายคำสาปใส่มู่เฉียนซี
“แม่สาวน้อย ที่จริงแล้วเจ้าแก้คำสาปของข้าได้อย่างไรกัน?”
ตูม!
ร่างสีดำสว่างวาบขึ้นมาทันที จากนั้นเขาก็มาขวางหน้าของมู่เฉียนซีเอาไว้
คำสาปของท่านว่านและคำสาปของจิ่วเยี่ยเข้าปะทะกัน ซึ่งมันก็เหมือนการปะทะกันของศัตรูตามธรรมชาติอย่างไรอย่างนั้น
จากนั้นมันก็หดตัวกลับไปในทันที และมันก็ได้ทำให้คำสาปที่ร่ายออกมานั้นย้อนกลับ แน่นอนว่าท่านว่านผู้นี้จะต้องเจ็บปวดทรมานอยู่แล้ว
พรวด!
เขาได้รับความเจ็บปวดจากการโต้กลับที่รุนแรง จนทำให้เขากระอักเลือดออกมา
“ท่านว่าน!”
คนอื่นกระโจนเข้ามาทางมู่เฉียนซีและหวงจิ่วเยี่ย แต่ทว่าทันทีที่จิ่วเยี่ยโบกมือ พวกเขาเหล่านั้นก็ถูกคุมขังเอาไว้
เนื่องจากจิ่วเยี่ยถูกมู่เฉียนซีเตือนเอาไว้ เขาจึงไม่กล้าที่จะใช้พลังมากจนเกินไปนัก
หลังจากนั้นไป๋ฉางก็พุ่งเข้ามา “มู่เฉียนซี วันนี้เจ้าจะต้องถูกกำจัดไปอย่างสิ้นซากแน่นอน”
ปัง!
ร่างของมู่เฉียนซีโยกหลบ เพื่อหลีกการโจมตีของไป๋ฉาง
“ความเร็วของเจ้าช้าเกินไปแล้ว เช่นนี้ เจ้ายังคิดที่จะต่อสู้กับข้าอีกอย่างนั้นหรือ!”
“ทักษะโยวจั๋ว!”
ทันทีที่มู่เฉียนซียกมือขึ้นทักษะก็พุ่งเข้าไปกระแทกโครมเข้าที่ไป๋ฉาง จนทำให้ร่างของไป๋ฉางถูกกระแทกอย่างแรงและลอยละลิ่วออกไป จากนั้นก็ชนเข้ากับกำแพงหินที่อยู่บริเวณโดยรอบ
คนที่ถูกทิ้งไว้ที่นี่มีพลังที่อ่อนแอมากที่สุด ทว่านอกจากไป๋ฉางแล้วคนอื่นต่างก็เป็นผู้บำเพ็ญระดับภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์กันทั้งนั้น และนี่ไม่ใช่สิ่งที่มู่เฉียนซีจะสามารถจัดการเพียงคนเดียวได้อยู่ดี
ทันใดนั้นพวกเขารู้สึกถึงความผิดปกติทั่วทั้งร่างกาย อีกทั้งทางออกยังถูกปิดกั้น ดูเหมือนว่าความสามารถของพวกเขาจะเปลี่ยนเป็นอ่อนแอมากยิ่งขึ้นไปอีก และทั่วทั้งร่างกายก็เริ่มไม่มีเรี่ยวแรงขึ้นมาแล้ว!
“บัดซบเอ๊ย! เจ้าเล่ห์นัก มันมีพิษ!”
“พวกเราโดนยาพิษแล้ว!”
“……”
ผู้ที่อยู่ที่นี่ต่างก็มีประสบการณ์ทางด้านชีวิตมาอย่างโชกโชน และแน่นอนต้องรู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นอยู่แล้ว
พวกเขาจ้องเขม็งไปทางมู่เฉียนซีแล้วกล่าวว่า “เจ้า…คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้ากล้าวางยาพวกข้า?”
“ไม่วางยาพิษ? หรือว่าจะปล่อยให้พวกเจ้ามาจัดการข้างั้นหรือ ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะกล้ามาแตะต้องสัตว์พันธสัญญาของข้า วางยาพิษอย่างเบากับพวกเจ้า ก็ถือว่าสบายมากแล้วสำหรับพวกเจ้าแล้ว”
กระบี่มังกรเพลิงพิฆาตวิญญาณถูกกวาดออกไป และมู่เฉียนซีก็กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เพลิงสังหารซิวหลัว!”
“พวกเจ้ารีบไปเปิดปากถ้ำ ส่วนพวกข้าจะจับหญิงสาวคนนี้เอาไว้!”
“ขอรับ!”
ตูม โครมม!
มู่เฉียนซีหัวเราะออกมา “ข้าจะดูว่าพวกเจ้าจะเร็วกว่า หรือว่าพิษของข้าจะเร็วกว่ากันแน่”
ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ!
เข็มยาจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งออกมา และมันได้พุ่งตรงไปทำร้ายพวกเขาในทันที
อู๋ตี้เฝ้าทางเข้าออกถ้ำเอาไว้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าพวกเขาอยากจะออกไปก็จะสามารถพุ่งออกไปได้เลย
พรวด! พรวด! พรวด!
พิษราวกับไขกระดูก ถึงพวกเขาคิดที่จะรีดพิษออกก็ยังเป็นเรื่องที่เพ้อฝันเกินไป และจากนั้นพวกเขาก็กระอักเลือดสีดำออกมา
“ทักษะโยวจั๋ว!”
มู่เฉียนซีได้ฉวยโอกาสตอนที่พวกเขาโดนวางยา และนางก็ได้ตอบโต้กลับในทันที
ในเวลานี้กำลังอันเข้มแข็งเกรียงไกรของพวกเขาแต่ละคนนั้นเสื่อมทรุดจนเป็นม้าตีนปลายแล้ว และมู่เฉียนซีก็จัดการด้วยทักษะไปทีละคน
ตูม!
ในที่สุดก็โจมตีจนมีทางออก “ช่วยหาทางออกได้แล้ว!”
ถึงแม้ว่าในตอนนี้ พิษในร่างกายจะไม่สามารถคลายออกได้ แต่พวกเขาก็ขวางมู่เฉียนซีเอาไว้แล้วกล่าวว่า “นายน้อย ท่านรีบไปหาขวงจวิ้นอ๋อง! รีบไปแล้วเข้า!”
คนอื่นได้ตายตกอย่างน่าอนาถ พวกเขาที่โดนวางยาพิษในตอนนี้ไม่ใช่คู่ต่อสู้กับมู่เฉียนซีอยู่แล้ว จึงจำเป็นต้องยกกำลังเข้ามาช่วยเหลือถึงจะได้
ไป๋ฉางพุ่งตรงออกไปพร้อมกับบาดแผลทั่วทั้งร่างกาย เขาจำเป็นที่จะต้องไปหาขวงจวิ้นอ๋อง กลอุบายเล็กน้อยเหล่านี้ของมู่เฉียนซี ไม่มีทางสู้ยอดฝีมือที่อยู่ข้างกายของขวงจวิ้นอ๋องเหล่านั้นได้อย่างแน่นอน
“มังกรน้ำแข็งท้าสวรรค์!”
“บัวแดงพิฆาต!”
“ทักษะชิวหลัว!”
ถึงไป๋ฉางจะหนีไปได้แต่มู่เฉียนซีก็ไม่ร้อนใจแต่อย่างใด และเพียงแค่จัดการคนเหล่านี้เพื่อไม่ให้เหลือไว้แม้แต่คนเดียว
ปัง ปัง ปัง!
แต่ละคนค่อย ๆ ถูกมู่เฉียนซีจัดการ ถึงพวกเขาจะตายก็ไม่คาดคิดเลยว่าตนเองจะมาพ่ายแพ้ด้วยน้ำมือของผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นจักรพรรดิแห่งภูตเช่นนี้ได้
พรึ่บ…
นักเล่นคาถาอาคมที่สวมชุดดำคนนั้นปีนป่ายออกมาจากโขดหิน หลังจากที่โดนโต้กลับชีวิตของเขาก็หายไปเกือบครึ่งหนึ่ง จนตอนนี้เขาไม่มีเรี่ยวแรงที่จะต่อสู้อีกต่อไปแล้ว
เขากล่าวขึ้นมาอย่างตื่นตกใจว่า “ที่จริงพวกเจ้าเป็นผู้ใดกันแน่? พวกเจ้าไม่ใช่คนจากเผ่าคำสาปอย่างนั้นหรือ?”
ทั้งสองคนนี้แปลกเกินไปแล้ว คนหนึ่งสามารถปลดคำสาปที่เขากางเอาไว้ได้อย่างง่ายดาย ส่วนอีกคนหนึ่งก็ไม่จำเป็นที่จะต้องลงมือแต่อย่างใด ก็สามารถทำให้เขาต้องประสบกับการโต้กลับที่น่าหวาดกลัว ช่างไม่ใช่คนแล้วจริง ๆ
“คนที่กำลังจะต้องตาย ไม่มีคุณสมบัติที่จะรู้ตัวตนของพวกข้า! อย่างไรก็ตามเจ้ากล้าใช้คำสาปกับเสี่ยวโม่โม่ของข้า จะปล่อยให้เจ้าได้ตายเหมือนคนอื่น มันก็จะง่ายเกินไปสำหรับเจ้า!”
ฟึ่บ! เข็มยาเล่มหนึ่งฝังลงไปตรงหางตาของเขา และทันใดนั้นดวงตาทั้งสองข้างของเขาก็เจ็บปวดขึ้นมาอย่างรุนแรง!
มู่เฉียนซีจับเขาเอาไว้ จากนั้นก็โยนเขาเข้าไปภายในกรง
กรงที่เอาไว้ขังเสี่ยวโม่โม่เมื่อขังผู้ใหญ่เช่นเขา ก็เห็นได้ชัดว่ามันแคบลงไปมากในทันที
ทันทีที่วาดกระบี่ไป มู่เฉียนซีก็เริ่มดูดเลือดออกมา
ปริมาณของเลือดที่ดูดออกมานี้ สามารถทำให้เลือดของท่านว่านผู้นี้กลายเป็นหมึกดำได้อย่างสมบูรณ์
“อ๊ากกก!” เขากรีดร้องออกมาจนแทบจะขาดใจ และภายในก็รู้สึกถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ดี
ลางสังหรณ์นี้จะต้องเป็นเท็จอย่างแน่นอน นี่มันคือเรื่องที่ไม่สามารถเป็นไปได้ ผลก็คือมู่เฉียนซีได้ทำเรื่องที่เขายากจะเชื่อได้ขึ้นมาแล้ว