ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1691 เกิดขึ้นเองก็ดับสูญเอง
สาวน้อยผู้นี้ ไม่คาดคิดเลยว่านางจะกำลังใช้เลือดสดของเขาในการร่ายคำสาป
หนึ่งอัน สองอัน สามอัน…
ด้วยความสามารถและความเข้าใจของนาง นึกไม่ถึงเลยว่าจะรู้แม้กระทั่งว่าจะต้องร่ายคำสาปอย่างไรด้วยหรือ?
มันไม่ง่ายเลยที่จะรู้เรื่องนี้ได้ และสิ่งนี้ก็ทำให้เขาทรุดตัวลงไปแล้ว
“นะ…นี่เป็นคำสาปที่หายสาบสูญไปของเผ่าคำสาปของพวกเรานี่ เจ้ารู้ได้อย่างไร?”
“นี่มันเป็นไปไม่ได้! ที่จริงแล้วเจ้าเป็นผู้ใดกันแน่?”
มู่เฉียนซีโบกมือไปมาพลางกล่าวว่า “ไม่ว่าเจ้าจะอยากรู้มากเพียงใด ข้าก็ไม่บอกเจ้าหรอก!”
“ไป!”
พลังแห่งคำสาปจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งเข้าใส่ท่านว่าน จนทำให้เขารู้สึกราวกับว่ากำลังถูกรัดไปทั่วทั้งตัว กระดูกก็รู้สึกเจ็บปวดราวกับจะแหลกละเอียดอย่างไรอย่างนั้น
เส้นเลือดดำทั่วทั้งร่างของเขากำลังกระตุกอย่างรุนแรง เขาพุ่งชนลูกกรงอย่างบ้าคลั่ง แต่ทว่ามันกลับไร้ประโยชน์
มู่เฉียนซีจับมือของจิ่วเยี่ย นี่มันเป็นเพียงแค่คำสาปธรรมดาเท่านั้นเอง
แต่ทว่าตอนที่เห็นคำสาปของจิ่วเยี่ยเกิดการปะทุขึ้น เขาจะเจ็บปวดมากเพียงใดกัน?
“จิ่วเยี่ย พวกเราไปกันเถอะ!”
“อื้ม!”
“อู๋ตี้! ทำลายถ้ำแห่งนี้ให้สิ้นซากไปซะ!”
“ขอรับ!”
ไป๋ฉางหลบหนีออกมาได้ด้วยความยากลำบากเป็นอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตามทันทีที่เขาหนีออกมาได้ เขาก็ได้ชนเข้ากับโม่ชิงอู่เข้าพอดี
โม่ชิงอู่ขวางหน้าของเขาเอาไว้ ทันใดนั้นหน้าตาของไป๋ฉางก็เปลี่ยนไปดุร้ายขึ้นมาทันที
“นังบ้าเอ๊ย! นังบ้าอย่างเจ้าเป็นคนพามู่เฉียนซีมาสินะ ตอนแรกข้าไม่น่าเมตตาเจ้าเลย ข้าควรจะฆ่าเจ้าไปซะ”
โม่ชิงอู่กล่าวว่า “ไป๋ฉาง เจ้าอยู่ที่นี่ก่อนเถอะ! ข้าไม่อยากที่จะลงมือกับเจ้า”
“ข้าจะฆ่าเจ้า!”
ไป๋ฉางพุ่งตรงเข้าไปหาโม่ชิงอู่ ในเวลานี้เขากำลังเดือดดาล และไม่ตระหนักถึงข้อบกพร่องของตัวเองเลยแม้แต่น้อย
แม้ว่าจะไม่ได้รับบาดเจ็บ ไม่ได้โดนยาพิษ แต่ก็ไม่แน่ว่าเขาจะเป็นคู่ต่อสู้ของโม่ชิงอู่ได้ แล้วยิ่งไม่ต้องพูดถึงตอนนี้เลย
ตูม!
ในเมื่อไป๋ฉางไม่ฟังคำแนะนำ โม่ชิงอู่จึงทำได้เพียงแค่ลงมือเท่านั้นแล้ว
ในตอนที่ไป๋ฉางวิ่งหนีออกไป มู่เฉียนซีก็ได้เห็นสภาพที่น่าสังเวชของเขา และทุกอย่างมันก็เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ได้อย่างราบรื่นมาก
และนางก็ยังต้องการที่จะทำเรื่องที่มู่เฉียนซีมอบหมายให้สำเร็จ แน่นอนว่ามันคือการที่ไม่ปล่อยให้มีผู้ใดเล็ดลอดไปได้
“ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะกล้าลงมือกับข้า เจ้าเป็น….”
โม่ชิงอู่เข้าไปขัดขวางคำพูดของเขาโดยตรง “ไป๋ฉาง เจ้าลืมแล้วเช่นนั้นหรือ เจ้าได้ยกเลิกการผูกพันธสัญญากับข้าไปแล้ว และเจ้ากับข้าไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกันเลยแม้แต่น้อย!”
โม่ชิงอู่ถูกบีบบังคับให้ยกเลิกผูกพันธสัญญาและไม่นึกเลยว่านางจะทำเหมือนว่าไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ทั้งยังสามารถที่จะปะทะฝีมือกับเขาได้ด้วย และนี่ก็เป็นสิ่งที่ไป๋ฉางคิดไม่ถึงเลยจริง ๆ
ตูม!
ตัวของไป๋ฉางปลิวออกไป และเมื่อกระแทกลงไปบนพื้นฟันหน้าของเขาก็หลุดออกมา
จากนั้นโม่ชิงอู่ก็เข้าไปโจมตีติดต่อกันอีกครั้งในทันที และการโจมตีครั้งนี้ก็ไม่ได้เบาอีกด้วย
พรวด!
อาจจะกล่าวได้ว่าอาการบาดเจ็บของไป๋ฉางยิ่งบาดเจ็บมากขึ้นไปอีก และสีหน้าของเขาก็เริ่มซีดเผือด
“ชิงอู่ เจ้าปล่อยข้าไปเถอะนะ! มู่เฉียนซีโหดเหี้ยมอำมหิต นางจะต้องฆ่าข้าอย่างแน่นอน! ขอร้องล่ะ…”
เมื่อรับรู้ได้ว่าตนเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของโม่ชิงอู่ ไป๋ฉางทำได้เพียงแค่ขอร้องโม่ชิงอู่ให้ปล่อยเขาไปด้วยท่าทางเคารพนบนอบเท่านั้น
โม่ชิงอู่ไม่เคยเห็นท่าทางเช่นนี้ของเขามาก่อนเลย แต่ทว่าความเย็นยะเยือกบนใบหน้ากลับไม่ลดลงเลย
“เจ้าทำเรื่องเช่นนั้นออกมา ยังคิดที่จะให้ข้าปล่อยเจ้าไปอีกหรือ ไป๋ฉาง เจ้าคิดเพ้อเจ้อมากเกินไปแล้วหรือไม่” โม่ชิงอู่ลบความเย็นยะเยือกออกไปจากแววตา
“เขาจะต้องคิดเพ้อเจ้อมากเกินไปแล้วอย่างแน่นอน”
เสียงของมู่เฉียนซีดังขึ้น และทั่วทั้งร่างของไป๋ฉางก็สั่นสะท้านขึ้นมาทันที
มู่เฉียนซีมีชีวิตรอดออกมาแล้ว เช่นนั้นคนอื่น ๆ…คนอื่น ๆ คาดว่าคงจะถูกนางสังหารไปจนหมดสิ้นแล้ว เช่นนั้น…
“ชิงอู่ ชิงอู่ช่วยข้าด้วย!” เขาคว้าตัวของโม่ชิงอู่เอาไว้แล้วกล่าวขอความช่วยเหลือ
“ชิงอู่ ข้าขอร้องเจ้า! ข้าผิดไปแล้ว นั่นต่างก็เป็นเพราะพ่อบุญธรรมของเจ้าบีบบังคับข้า ข้าก็ถูกบีบบังคับด้วยเช่นกันนะ!”
“ขอเพียงให้เจ้าช่วยเหลือข้า ข้าจะเป็นผู้ผูกพันธสัญญาของเจ้าอย่างแน่นอน และจะไม่มีวันยกเลิกการผูกพันธสัญญาอีกต่อไปแล้ว”
โม่ชิงอู่กล่าวอย่างเย็นชาว่า “ไป๋ฉาง เจ้าคิดว่าข้าจะถูกเจ้าหลอกอีกครั้งอย่างนั้นหรือ ข้ายังสามารถเชื่อเจ้าได้อีกหรือ? มู่เฉียนซีเท่านั้นที่สามารถจัดการลงโทษเจ้าได้ เจ้ามาขอร้องข้าก็ไม่มีประโยชน์ เนื่องจากชีวิตของข้าก็เป็นของนางแล้วเช่นกัน”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ไป๋ฉาง ด้วยสารรูปเช่นนี้ของเจ้า เจ้าคิดว่าเจ้ามีดีตรงไหนถึงทำให้โม่ชิงอู่ชื่นชอบเจ้าได้กัน ทั้งยังปล่อยให้เจ้าเป็นผู้ผูกพันธสัญญากับนางด้วย เดิมทีแล้วข้าคิดว่าก่อนหน้านี้โม่ชิงอู่มองผิดไปเล็กน้อยเท่านั้น ไม่คิดเลยว่าจะชอบเจ้าจริง ๆ”
โม่ชิงอู่รู้สึกเขินอายเล็กน้อย ในตอนแรกพ่อบุญธรรมมองไป๋ฉางและคนที่ค่อยหนุนหลังเขาได้แง่ดีมาก และให้การสนับสนุนให้นางผูกพันธสัญญากับเขามาก สุดท้ายแล้วนางจึงได้ตกลง!
ไป๋ฉางตะโกนใส่ว่า “มู่เฉียนซี ต้องทำอย่างไรเจ้าถึงจะปล่อยข้าไป! เจ้าคงจะไม่ได้ต้องการกำจัดให้สิ้นซากเช่นนั้นหรอกใช่หรือไม่?”
มู่เฉียนซีเดินไปถึงข้างกายของเขาพลางกล่าวว่า “ดูที่ว่าเจ้าทุ่มเทร้องขอความเมตตาถึงเพียงนี้แล้ว ข้าไม่ฆ่าเจ้าแล้วดีหรือไม่?”
บนใบหน้าของไป๋ฉางฉายแววความปีติยินดีขึ้นมา แต่กลับเป็นผลให้มีเข็มยาที่แหลมคมฝังเข้าไปที่คอของเขา
“แน่นอนว่า เจ้าตายไม่ได้ เช่นนั้นแล้ว เจ้าก็จงอยู่รับรู้ถึงผลที่ว่า ตายดีกว่ามีชีวิตไปก็แล้วกัน”
พรวด!
“เจ้า…”
ไป๋ฉางจ้องมองไปที่หญิงสาวตรงหน้าด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง และผลสุดท้ายเขาก็รู้สึกว่าสายตาของตนเองนั้นเริ่มพร่ามัวมากขึ้นเรื่อย ๆ
นาง…นางผู้หญิงสารเลวผู้นี้ ไม่คาดคิดว่าจะวางยาพิษตาบอดให้เขา
ไม่เพียงแค่นั้น จากเดิมที่มีพลังวิญญาณเพียงน้อยนิด แต่ตอนนี้กลับไม่มีพลังวิญญาณเลยแม้แต่น้อย
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “เจ้าเกิดอยู่ที่นี่แล้วดับสูญไปเองเสียเถอะ! หวังว่าเจ้าจะโชคดีพบเจอคนอย่างโม่ชิงอู่มาช่วยเหลือเจ้าแล้วกัน”
โม่ชิงอู่ผงะไปเล็กน้อย ก่อนหน้านี้พวกเขาก็ปฏิบัติต่อนางแบบนี้เช่นกัน เพียงแต่ว่าตอนนี้มู่เฉียนซีกลับโหดเหี้ยมกว่ามาก
อยู่ท่ามกลางความมืดมิด ทั้งยังมีสัตว์ร้ายอยู่รายรอบ ไป๋ฉางจะมีชีวิตต่อไปได้อย่างไร
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “จำเป็นต้องรีบไปให้ถึงราชาโม่ ตอนนี้เจ้ายังสามารถบินได้อยู่หรือไม่?”
“บินได้! แต่ทว่าพวกเราไม่รู้ว่าราชาโม่อยู่ที่ใด?”
มู่เฉียนซีกลล่าว “ข้าได้ใส่ผงสะกดรอยตามลงบนตัวของราชาโม่แล้ว ไปตามการนำทางของมันก็พอ ไปกันเถอะ!”
“ตกลง!”
สถานที่ที่โม่หลิ่วขวงนัดเจอกับราชาโม่นั้นอยู่ค่อนข้างไกล เมื่อตอนที่พวกเขามาถึง ผลของการเผชิญหน้าของราชาโม่และขวงจวิ้นอ๋องก็ได้สิ้นสุดไปเรียบร้อยแล้ว
ในมือของโม่หลิ่วขวงมีสมบัติอันล้ำค่าของราชาโม่ และราชาโม่ต้องการเพียงแค่การประนีประนอมเท่านั้น
เขาสูดหายใจเข้าลึกพลางกล่าวว่า “เจ้าบอกว่าตราบใดที่ข้ามอบเลือดทั้งร่างกายให้เจ้า เจ้าก็จะปล่อยหลานสาวของข้า! เจ้ายังรักษาคำพูดอยู่หรือไม่?”
โม่หลิ่วขวงกล่าวว่า “แน่นอนอยู่แล้ว! ตราบใดที่เจ้ารับปากข้า ข้าก็จะมอบหลานสาวตัวน้อยให้กับเจ้า! สุดท้ายแล้วที่ข้าจับนางมาก็เพราะสนใจสายเลือดหงส์นิลบริสุทธิ์ในร่างกายของนางเท่านั้น แต่หากมีเลือดของเจ้า ราชาโม่ เลือดเพียงเล็กน้อยของมันนี้ก็ไม่เพียงพอหรอก”
“แน่นอน เจ้าก็สามารถพิจารณาดูได้ เพียงแต่ร่างกายของเด็กน้อยนั้นไม่ดีเท่าไร หากท่านพิจารณานานเกินไป คาดว่ามันคงจะต้องตายในไม่ช้านี้แล้วล่ะ”
มือของโม่หลิ่วขวงบีบลงไประหว่างคอของหงส์นิลตัวน้อย เมื่อราชาโม่เห็นดังนั้น เขาก็รู้สึกกระวนกระวายใจจนแทบจะคุกรุ่นไปหมดแล้ว
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ! โม่หลิ่วขวง เจ้าสารเลวอกตัญญู เจ้า…”
คำพูดเหล่านี้ โม่หลิ่วขวงไม่ได้สนใจเลย และเขาก็มองไปที่ราชาโม่อย่างชั่วร้ายพลางกล่าวว่า “ราชาโม่ เจ้าจะรับปากหรือว่าไม่รับปากกันแน่!”
ราชาโม่กำหมัดไว้แน่น แล้วกล่าวว่า “ข้ารับปาก!”
“สุดท้ายแล้วราชาโม่ก็รักหลานสาวมาก ข้ากล้าที่จะเคลื่อนไหวแล้ว! หลานสาวนี้ของท่าน ท่านก็รับมันด้วยตนเองดีหรือไม่!”
โม่หลิ่วขวงได้โยนสิ่งของที่ถูกปลอมตัวด้วยคำสาปตัวนั้นออกไปจากอ้อมแขน
เขารับปากแล้ว ไม่คิดเลยว่าโม่หลิ่วขวงจะไม่มีเล่ห์เหลี่ยมสกปรกและดูสบายใจเช่นนี้ ไม่กลัวว่าเขาจะเปลี่ยนไปหลังจากที่ได้เสี่ยวโม่โม่กลับคืนมาแล้วอย่างนั้นหรือ
นี่เป็นสิ่งที่ทำให้ราชาโม่แปลกใจเป็นอย่างมาก
เพียงแต่ว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เขาจะมาคิด เขาพุ่งตัวออกไป อยากที่จะไปกอดเสี่ยวโม่โม่เอาไว้ หากเขาไม่อาจรับเสี่ยวโม่โม่ไว้ได้ มันอาจจะทำให้เสี่ยวโม่โม่ตกลงมาจนได้รับบาดเจ็บได้