ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1693 ผนึกคลายออก
ด้วยความเสียใจอย่างที่สุดและไม่ทันรอให้จื่อโยวได้ลงมือ ก็ต้องการที่จะจบชีวิตของตนเองลงโดยตรง จากนั้นจึงได้ระเบิดตนเอง!
ถึงแม้ว่าเขาจะต้องตาย แต่ก็อยากที่จะลากศัตรูอีกคนหนึ่งให้ตายตามกันไปด้วย!
แต่ทว่าจื่อโยวไม่ได้ปล่อยให้เขาได้สมความปรารถนา พลังในการระเบิดตนเองเพียงเล็กน้อยเท่านี้ไม่อาจทำให้จื่อโยวได้รับบาดเจ็บอะไรได้
ตูม!
ยอดฝีมือที่แข็งแกร่งที่สุดของตระกูลไป๋ระเบิดตนเองด้วยความเศร้าโศกเสียใจ ส่วนคนอื่นก็ถูกสังหารไปจนหมดสิ้น
เดิมทีแล้วโม่หลิ่วขวงคิดว่าคนที่พึ่งพาอาศัยได้มากที่สุด ก็คือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างท่านนักเล่นคาถาอาคมผู้นั้น แต่เขากลับถูกโต้กลับตั้งแต่แรกอย่างน่าประหลาด
ในเวลานี้เขาเกือบจะกลายเป็นคนพิการคนหนึ่งไปแล้ว และมันก็ไม่น่าเชื่อไปอย่างสิ้นเชิง
พรวด!
โม่หลิ่วขวงที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสก็กระอักเลือดออกมาเช่นกัน
เขามองไปทางช่างกวานซูเยว่พลางกล่าวว่า “ซูเยว่ ช่วยข้าด้วย! หากข้าตายไป เจ้าก็จะต้องตายไปพร้อมกันกับข้าด้วย!”
ร่างของช่างกวานซูเยว่สว่างวาบขึ้น จากนั้นก็ไปปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าของเขา
“ไม่เป็นเช่นนั้นหรอก! ถ้าไม่ใช่เพราะสิ่งนี้ เจ้าคิดว่าเจ้าจะสามารถมีชีวิตอยู่จนถึงทุกวันนี้ได้หรือ”
“เพียะ!” นางตบโม่หลิ่วขวงจนล้มลงไปนอนบนพื้น
ช่างกวานซูเยว่กล่าวว่า “ราชาโม่ ท่านจื่อโยว แม่นางมู่ ข้าอยากที่จะยกเลิกผูกพันธสัญญาของข้ากับเขาก่อน เมื่อถึงเวลานั้นพวกท่านอยากจะฆ่าเขาก็ฆ่าได้เลย แล้วแต่พวกท่านต้องการ จะได้หรือไม่?”
ราชาโม่กล่าวว่า “ตกลง!”
“ไม่มีปัญหา!” มู่เฉียนซีตอบกลับ
หลังจากที่สงครามใหญ่สิ้นสุดลงแล้ว โม่ชิงอู่ที่ไม่ได้รับอันตรายใด ๆ ก็เดินเข้ามา
คิดไม่ถึงเลยว่าพ่อบุญธรรมนางจะตกมาอยู่ในสภาพเดียวกันกับนางได้
เมื่อโม่หลิ่วขวงเห็นว่าแม้จะอ้อนวอนผู้ผูกพันธสัญญาของตนเองไปก็ไม่มีประโยชน์แล้ว จึงมองไปที่ลูกสาวบุญธรรมของตนเอง
เขาร้องตะโกนออกมาว่า “ชิงอู่ ช่วยข้าด้วย ช่วยข้าที!”
โม่ชิงอู่กล่าวว่า “ท่านคิดว่าข้าอยากที่จะช่วยท่านก็สามารถช่วยได้เลยหรืออย่างไร? นี่เป็นเรื่องที่ท่านทำด้วยตนเอง ก็เป็นสิ่งที่สมควรจะต้องชดใช้แล้ว”
“เจ้ามันเป็นลูกชั่ว เสียแรงที่ข้าเลี้ยงเจ้ามาจนโต แต่เจ้ากลับทำกับข้าเช่นนี้! เจ้ามันอกตัญญู!”
ภายในใจของโม่ชิงอู่ก็เสียใจเป็นอย่างมากเช่นกัน หลังจากนั้นนางก็หันศีรษะแล้วเดินจากไป
“พ่อบุญธรรม นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ข้าจะเรียกท่านว่าพ่อบุญธรรมแล้ว ต่อไปนี้ท่านก็ทำตัวเองให้ดี ๆ ล่ะ”
หลังจากที่โม่ชิงอู่จากไปแล้ว ช่างกวานซูเยว่ก็เริ่มลงมือ
หญิงสาวผู้นี้ก็เป็นคนที่โหดเหี้ยมอำมหิตและปรับตัวตามสถานการณ์ได้ดีคนหนึ่ง และเมื่อถึงเวลาจะต้องตัดความสัมพันธ์ของพวกเขา ก็ไม่มีความลังเลใดเลย
อ๊าก!
มีเสียงกรีดร้องที่น่าเวทนาดังก้องออกมา ความเจ็บปวดของโม่หลิ่วขวงในเวลานี้ เจ็บปวดมากกว่าโม่ชิงอู่ในเวลานั้นเป็นร้อยเป็นพันเท่าเสียอีก
“ฆ่าข้า! ฆ่าข้าเสียเถอะ!”
ไม่เพียงแค่ความเกี่ยวข้องต่อการผูกพันธสัญญาจะสิ้นสุดลง พลังวิญญาณในร่างกายของเขาต่างก็เปลี่ยนเป็นว่างเปล่าด้วยเช่นกัน
แต่ในทางกลับกันกลิ่นอายของช่างกวานซูเยว่ก็เปลี่ยนเป็นแข็งแกร่งมากขึ้นไม่น้อยเลย!
“ผู้หญิงอย่างเจ้า! ไม่คิดเลยว่าผู้หญิงที่สมควรตายอย่างเจ้าจะโหดร้ายถึงเพียงนี้!” โม่หลิ่วขวงร้องออกมา
ช่างกวานซูเยว่กล่าวว่า “ราชาโม่ ท่านจื่อโยว แม่นางมู่ เรื่องของข้าจัดการเรียบร้อยแล้ว ข้าขอตัวก่อน เมื่อถึงเวลานั้นข้าจะส่งของขวัญแทนการขอโทษไปที่พระราชวังของราชาโม่ ถึงอย่างไรผู้ผูกพันธสัญญาของข้าก็เป็นผู้ที่กระทำความผิดอยู่ดี”
หลังจากนั้น นางก็ได้เดินจากไป โดยที่ไม่แม้แต่จะเหลือมฝฝองมายังโม่หลิ่วขวงเลย
ใจของโม่หลิ่วขวงดุจเถ้าที่ดับมอดไปแล้ว
มู่เฉียนซีได้เอาเสี่ยวโม่โม่ออกมา แม้ว่าจะฟื้นฟูด้วยตนเองมาแล้วครู่หนึ่งแต่เสี่ยวโม่โม่ก็ยังคงดูไม่ค่อยมีชีวิตชีวามากเท่าไรนัก
หลังจากที่ถูกลักพาตัวไป นางก็ต้องถ่ายเลือด แล้วยังต้องถูกร่ายคำสาปอีก เมื่อราชาโม่ได้เห็นมันก็รู้สึกปวดใจอย่างที่สุด
ปึก ปึก ปึก!
ราชาโม่ได้เตะไปบนร่างกายของโม่หลิ่วขวงอีกหลายที “ปล่อยให้เจ้ามารังแกหลานสาวของข้า ปล่อยให้เจ้ารังแก…”
มู่เฉียนซีกล่าวถามว่า “เสี่ยวโม่โม่ เจ้าต้องการให้ข้าแก้แค้นให้เจ้าอย่างไร?”
“ฆ่าข้าเถอะ! ฆ่าข้าเลย เจ้าตัวน้อย ข้าต้องขอโทษเจ้าด้วย ข้า…”
เสี่ยวโม่โม่ยังเด็กนัก และมันก็ไม่ควรที่จะเห็นการนองเลือดและเรื่องโหดร้ายเช่นนี้ โม่หลิ่วขวงคิดว่าหากอ้อนวอนเสี่ยวโม่โม่ก็คงจะมอบความสบายให้เขาได้
ผลสุดท้ายเสี่ยวโม่โม่ก็กล่าวว่า “นายท่านคิดว่าจะแก้แค้นอย่างไร ก็แก้แค้นเช่นนั้นเถิด”
มู่เฉียนซีพยักหน้าพลางกล่าวว่า “ตกลง!”
ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ!
เข็มยาจำนวนนับไม่ถ้วนถูกฝังลงไปที่จุดเลือดลมบนร่างกายของโม่หลิ่วขวง และโม่หลิ่วขวงก็ได้กลายเป็นคนพิการไปอย่างสมบูรณ์แล้ว
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ราชาโม่ พาเขากลับไปที่พระราชวังราชาโม่ก่อน ในพระราชวังน่าจะมีคุกใช่หรือไม่! ขังเอาไว้ก่อนเถอะ”
ราชาโม่กล่าวว่า “คนเช่นนี้ควรที่จะขุดรากถอนโค้นไปเสีย เนื่องจากคราวที่แล้วข้าไม่ได้ทำเช่นนี้ จึงได้มาทำให้หลานสาวที่น่ารักของข้าต้องได้รับความทุกข์ทรมานถึงเพียงนี้”
มู่เฉียนซีตอบกลับมาว่า “ราชาโม่โปรดวางใจเถิด เขาได้ถูกข้าวางยาพิษไปแล้ว! ในดินแดนหงส์แห่งนี้ แม้แต่เทพราชาก็อย่าได้คิดจะทำให้เขาลืมตาอ้าปากได้อีกเลย”
ราชาโม่ได้เห็นทักษะทางการแพทย์ของมู่เฉียนซีมาด้วยตนเอง เช่นนั้นเขาจึงเชื่อในคำพูดนี้ของมู่เฉียนซีเป็นอย่างมาก
เขาพยักหน้าพลางกล่าวว่า “ตกลง! ข้าจะทำตามคำพูดของเจ้า! สุดท้ายแล้วการที่จะฆ่าเจ้าสัตว์เดียรัจฉานนี้ไปง่าย ๆ มันก็ไม่สาสมสำหรับมันจริง ๆ”
โม่หลิ่วขวงในเวลานี้ไม่มีแม้แต่แรงที่จะฆ่าตัวตายเลยด้วยซ้ำ จึงทำได้เพียงแค่ถูกพาไปเท่านั้น
หลังจากที่กลับไปที่พระราชวังของราชาโม่แล้ว ก็ได้จับโม่หลิ่วขวงโยนลงไปไว้ที่คุกใต้ดินและปล่อยเขาไว้เพียงลำพัง
มู่เฉียนซีได้หลอมยาลูกกลอนและยาน้ำเพื่อฟื้นฟูพลังชีวิตให้กับเสี่ยวโม่โม่ และปล่อยให้มันได้พักผ่อน หลังจากนั้นก็ไปดูจิ่วเยี่ยผู้ที่เป็นคนไข้หมายเลขหนึ่งของนาง
ทันทีที่มู่เฉียนซีเริ่มถอดเสื้อผ้าออก และจิ่วเยี่ยก็ปล่อยให้นางถอดอย่างไม่สะทกสะท้าน สุดท้ายก็ถอดจนหมดสิ้น
มุมปากของจิ่วเยี่ยยกขึ้นเล็กน้อย “ที่จริงแล้วหากซีไม่รีบร้อนขนาดนี้แล้วละก็ ข้าก็สามารถลงมือเองได้เช่นกัน”
มู่เฉียนซีพิงไปบนหน้าอกของเขา จากนั้นก็ฟังเสียงหัวใจของเขาที่เต้นอยู่
เสียงหัวใจของทั้งสองคนประสานเข้าด้วยกัน จากนั้นจิ่วเยี่ยก็พลิกตัวมู่เฉียนซีลงมากดเอาไว้
“ซี ข้างล่างนี้ของข้าป่วยมากจริง ๆ และไม่ได้ป่วยเบา ๆ เสียด้วย ฉะนั้นข้าต้องการเจ้ามาก”
เพื่อไม่ทำให้มู่เฉียนซีต้องเป็นกังวล จิ่วเยี่ยจึงพยายามอย่างมากที่จะเบี่ยงเบนความสนใจของมู่เฉียนซี
เมื่อรอให้มู่เฉียนซีเคลื่อนไหวไม่ได้อย่างสมบูรณ์แล้ว ตอนนี้ภายในสมองไม่มีแรงพอที่จะคิดเรื่องอื่นอีก จากนั้นจิ่วเยี่ยก็งับไปที่ติ่งหูของมู่เฉียนซีพลางกล่าวว่า “ขัาจะไม่เป็นอะไร!”
“ข้าดูแล้วน่าจะมีบางอย่างผิดปกติ! อย่าปิดบังข้า ข้าไม่ถือสาที่จะทำให้เรื่องที่จื่อโยวพูดก่อนหน้าที่กลายเป็นเรื่องจริง”
จิ่วเยี่ยกล่าวว่า “เวลานั้น ข้ารู้สึกได้ถึงกลิ่นอายของคัมภีร์หมื่นคำสาป! เพียงแต่เป็นชั่วขณะหนึ่งเท่านั้น มันน่าจะเป็นเพราะผนึกของสุสานจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์เริ่มคลายออกแล้ว ดังนั้นถึงได้เกิดความเคลื่อนไหวดังกล่าวขึ้น”
“และยังมีความเป็นไปได้อีกอย่างหนึ่ง ก็คือเมื่อข้ามาปรากฏที่ดินแดงหงส์นี้ เป็นเหตุให้เกิดความโชคร้ายนี้ขึ้นมา!”
เขาจูบไปที่พวงแก้มของมู่เฉียนซี แล้วกล่าวว่า “ในที่สุดก็มีเบาะแสแล้ว ซีดีใจหรือไม่?”
“ดีใจบ้าอะไรล่ะ! ตอนนี้ข้าอยากที่จะให้สุ่ยจิงอิ๋งส่งท่านกลับไปที่แดนนรกเสียด้วยซ้ำ! ไม่ใช่สิ แดนนรกก็คงจะไม่พอหรอก ส่งท่านไปยังดินแดนทุรกันดารที่ไกลโพ้นที่ไหนสักแห่งเลยยิ่งดี”
มู่เฉียนซีกอดจิ่วเยี่ยไว้แน่นอย่างตื่นตระหนก การสนองตอบทั้งหมดของคัมภีร์หมื่นคำสาปมีความหมายว่าอย่างไร?
มันหมายความว่าจิ่วเยี่ยสามารถตกอยู่ในอันตรายได้ทุกเมื่อ!
“ที่นี่มีจื่อโยวอยู่ แล้วยังมีท่านเหมยผู้นั้นอีกคน ข้า…ข้าจะทำมันจริง ๆ!”
“สุ่ยจิงอิ๋ง!”
พูดว่าจะทำก็ทำ มู่เฉียนซีไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย
ผลลัพธ์ก็คือสุ่ยจิงอิ๋งกล่าวอย่างหมดหนทางว่า “ซีเอ้อร์ ขอโทษด้วย! ตอนนี้ข้าทำอะไรไม่ได้เลย”
“ข้าถูกคัมภีร์หมื่นคำสาปทำให้ติดอยู่ในดินแดนหงส์ ข้าไม่อยากไป ผู้พิทักษ์นิรันดร์ก็ทำไม่ได้เช่นกัน”
“เช่นนั้นต้องทำอย่างไรท่านถึงอยากออกไปล่ะ?”
“แน่นอนว่าต้องไปด้วยกันกับซีอยู่แล้ว!”
คนของดินแดนเทพมากมายอยู่ที่ดินแดนหงส์แห่งนี้ ทั้งยังมีคนของเผ่าคำสาป ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่วางใจที่จะปล่อยให้นางอยู่ที่นี่
ถึงแม้จะมีคนใกล้ชิดของเขาคอยปกป้องอยู่ก็ไม่ได้ มีเพียงตนเองเท่านั้นที่จะปกป้องคนที่ตนเองรักได้ดีที่สุด เช่นนั้นเขาถึงจะวางใจ “ซีวางใจเถิด ข้าไม่มีทางที่จะพ่ายแพ้อยู่ที่นี่อย่างแน่นอน”