ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1705 ผู้งดงามออกโรง
และหลังจากที่พวกเขาได้หนีไปแล้ว มู่เฉียนซีและเหลยหมิงก็ไปยังสถานที่ต่อสู้
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “เหลยหมิง เจ้ายังยืนแข็งทื่ออยู่ทำไมกัน? ไปขุดหัวใจมาสิ”
“เอ๊ะ!” สีหน้าของเหลยหมิงดูประหลาดใจ
“พวกของปิงหมิงเกือบจะสิ้นเปลืองไปโดยเปล่าประโยชน์แล้ว ทั้งยังใช้มหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพทำลายเจ้าพวกนี้ แต่กลับไม่ขุดหัวใจออกมาอีก ช่างสิ้นเปลืองเสียจริง!”
ปิงหมิงค่อนข้างแปลกประหลาดใจ และอันที่จริงแล้วเฉียนซีก็ยังคิดเรื่องนี้อยู่ตลอดเวลา
“ตกลง!”
หลังจากที่ขุดเจ้าสิ่งเหล่านี้ออกมาจนหมดแล้ว พวกเขาก็รวบรวมหัวใจของสัตว์ปีศาจอัคคีได้มากถึงเจ็ดสิบกว่าเม็ด ซึ่งมันช่วยลดการทำงานของพวกเขาได้ภายในพริบตา
หลังจากที่เก็บรวบรวมเรียบร้อยแล้ว เหลยหมิงกล่าวถามว่า “เฉียนซี เช่นนี้แล้วพวกเราจะยอมแพ้เรื่องบุปผาหงส์เพลิงเก้าชั้นด้วยหรือไม่”
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “สิ่งของศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้ อยากจะให้ยอมแพ้หรือ จะเป็นไปได้อย่างไร ตามไป!”
“ตกลง!”
สัตว์ปีศาจอัคคีที่ไล่ล่าพวกของปิงหมิงนั้นเยอะมากขึ้นเรื่อย ๆ จนแทบเรียกได้ว่าคึกคักมากเกินไปเสียด้วยซ้ำ
คนภายในกลุ่มของพวกเขาจำนวนไม่น้อยถูกสัตว์ปีศาจอัคคีสังหารตรงจุดนั้น หรือถูกบีบให้จนตรอกแล้วส่งออกไป
องค์ชายแปดกล่าวว่า “ปิงหมิง เจ้าสัตว์ปีศาจอัคคีเหล่านี้บ้าคลั่งมากเกินไปแล้ว พวกมันจะต้องไม่ยอมปล่อยพวกเราไปเป็นแน่! ไม่อย่างนั้นพวกเราเอาดอกไม้นี้ส่งให้กับพวกมันไปเถอะ!”
ความคิดเห็นนี้ขององค์ชายแปดได้ถูกปิงหมิงคัดค้านขึ้นมาในทันที
“ไม่ได้!”
ตูม โครม!
ผลลัพธ์ก็คือพวกเขาตกอยู่ท่ามกลางวงล้อม ทั้งองค์ชายแปดก็เสียสละสมบัติของตนเองไปไม่น้อย แต่ก็ไม่อาจที่จะต่อสู้กับสัตว์ปีศาจอัคคีที่มีอยู่มากมายเช่นนี้ได้
พรวด พรวด พรวด!
พวกของปิงหมิงและองค์ชายแปดต่างก็พากันได้รับบาดเจ็บสาหัส จนสุดท้ายแล้วองค์ชายแปดก็รู้สึกโมโหขึ้นมา
“พอได้แล้ว! มันเป็นแค่ดอกไม้เพียงช่อเดียวเท่านั้น ด้วยสถานะของพวกเรา หากต้องการดอกไม้เช่นนี้มากมายเท่าไรก็ย่อมได้”
ตุบ!
องค์ชายแปดเอาบุปผาหงส์เพลิงเก้าชั้นโยนทิ้งออกไป และปิงหมิงก็ไม่พอใจเป็นอย่างมาก แต่ทว่าในเวลานี้เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสจนใบหน้าซีดเซียว จึงไม่มีเวลาที่จะไปสนใจได้มากเท่าไรนัก
พลาดสิ่งของที่ดีเช่นนี้ช่างเป็นเรื่องที่น่าเสียดายยิ่ง แต่ทว่าเป้าหมายสุดท้ายของพวกเขากลับไม่ใช่สมุนไพรวิญญาณต้นหนึ่งนี้!
“ไปเถอะ!”
ในตอนที่องค์ชายแปดคิดอยากที่จะโยนบุปผาหงส์เพลิงเก้าชั้นไป มู่เฉียนซีก็กำลังนั่งรอคอยโชคชะตาและคาดเดาสถานการณ์อยู่ตรงนั้น และในไม่ช้าบุปผาหงส์เพลิงเก้าชั้นก็จะมาตกอยู่ในมือของมู่เฉียนซีทั้งอย่างนั้น
“เรื่องที่รับมือยากเช่นนี้ เจ้าอยากจะได้จริง ๆ อย่างนั้นหรือ?” เหลยหมิงตกใจเป็นอย่างมาก
ต้องรู้ก่อนว่าแม้แต่พวกของปิงหมิงที่มีจำนวนคนสู้รบและพละกำลังต่างก็ถูกสัตว์ปีศาจอัคคีกลุ่มนี้โจมตีจนได้รับบาดเจ็บอย่างน่าเวทนาถึงเพียงนี้ แล้วนับประสาอะไรกับพวกเขาล่ะ?
หลังจากนั้น มู่เฉียนซีก็หยิบเอาสิ่งที่เป็นเหมือนกับบุปผาหงส์เพลิงเก้าชั้นอย่างกับแกะออกมาช่อหนึ่ง จากนั้นก็โยนออกไปไกล ๆ และนางก็โบกมือพลางกล่าวว่า “ไปกันเถอะ! เจ้าพวกนี้ไม่ไล่ตามพวกเรามาหรอก”
และร่างของทั้งสอง ก็หายไปจากสถานที่แห่งนั้นทันที
หลังจากนั้นก็เป็นไปตามที่มู่เฉียนซีได้กล่าวเอาไว้ สัตว์ปีศาจอัคคีเหล่านั้นไม่ได้ไล่ตามพวกเขามาจริง ๆ
“นะ…นั่นก็เป็นบุปผาหงส์เพลิงเก้าชั้นอย่างนั้นหรือ?” เหลยหมิงกล่าวถาม
“หากว่าข้ามีบุปผาหงส์เพลิงเก้าชั้น จะใช้งานได้ยุ่งยากถึงเพียงนั้นเลยอย่างนั้นหรือ?”
“สิ่งของชิ้นนั้นจะไปสามารถที่จะดึงดูดสัตว์ปีศาจอัคคีเหล่านั้นได้อย่างไร”
“กลิ่นอายมีความคล้ายคลึงมาก จะต้องสามารถดึงดูดได้อยู่แล้ว”
“เจ้าหาของสิ่งนั้นเจอได้อย่างไรกัน โชคของเจ้านั้นดีมากเกินไปแล้ว!”
“เมื่อครู่นี้เจ้าเพิ่งจะได้ดูการแสดงดี ๆ ไป หรือว่าเจ้าไม่รู้ว่าข้าคือนักปรุงยาเช่นนั้นหรือ?” มู่เฉียนซีกล่าว
เหลยหมิงจ้องมองไปที่มู่เฉียนซีด้วยแววตาที่ตกตะลึง “ไม่คิดว่าเวลาเพียงเท่านั้นเจ้าจะสามารถทำให้เสร็จได้แล้ว!”
“ดีที่ปิงหมิงได้ช่วยเหลือ ไม่เพียงแต่ได้รับของที่ดีเช่นนี้ แต่ภารกิจก็เกือบที่จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว เช่นนั้นไปล่ากันต่อเถอะ”
“อื้ม!”
มู่เฉียนซีและเหลยหมิงยังคงร่วมมือกันเก็บเกี่ยวหัวใจของสัตว์ปีศาจอัคคีต่อไปอย่างต่อเนื่อง และได้รับหัวใจของสัตว์ปีศาจอัคคีเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
เก้าสิบ…เก้าสิบเจ็ด เก้าสิบแปด เก้าสิบเก้า…
เหลยหมิงกล่าวอย่างตื่นเต้นว่า “เหลือเพียงเม็ดสุดท้ายเท่านั้น ขอเพียงแค่หาเม็ดสุดท้ายนี้ได้ พวกเราก็จะสามารถผ่านด่านนี้ไปได้แล้ว”
ในตอนที่เขากำลังดีใจอยู่นั้น เวลานี้เบื้องหน้าของพวกเขามีเจ้าตัวใหญ่อยู่ตัวหนึ่ง ซึ่งมันก็เป็นเจ้าตัวปัญหาตัวหนึ่งนั่นเอง
“ข้า…ถึงแม้ว่าข้าจะขาดอีกเพียงแค่เม็ดเดียว แต่ข้าก็ไม่อยากที่จะต่อสู้กับเจ้าหรอกนะ! หรือว่าพวกเราจะปรองดองกัน…” เหลยหมิงกล่าวอย่างกระอักกระอ่วน
ปรองดอง? สัตว์ปีศาจอัคคีที่สามารถทำได้แต่เรื่องต่อสู้นี้เดิมทีก็ไม่รู้ว่าการปรองดองกันคืออะไรอยู่แล้ว? มันรู้เพียงแค่การสังหารเท่านั้น
โฮกกก!
เสียงคำรามที่ดังราวกับเสียงฟ้าร้องดังสนั่นขึ้นมา
เหลยหมิงกล่าวว่า “ทำอย่างไรดี?”
“จะไปทำอะไรได้เสียอีกล่ะ หนีก่อนนะสิ เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมันหรอก”
“ตกลง!”
ตูมม โครมม!
ในตอนนี้ พวกเขาก็ได้ถูกมันไล่ล่าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เจ้าตัวนั้นไล่ล่ามาอย่างกระชั้นชิดมาก จนไม่อาจที่จะหลบหนีได้เลย
มู่เฉียนซีโบกมือและฟาดกระบี่มังกรเพลิงพิฆาตวิญญาณผ่านไป “บัวแดงพิฆาต!”
ตูม โครมม!
ดอกบัวเพลิงที่แดงฉาน ได้ห่อหุ้มสัตว์ปีศาจอัคคีตัวนี้ขึ้นมา
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ยังขาดเพียงอันสุดท้ายเท่านั้น พวกเราไม่สามารถถูกมันลากออกไปตายได้ และจะปล่อยให้ปิงหมิงนำหน้าไปไม่ได้ เช่นนั้นก็คงต้องสู้แล้ว”
เหลยหมิงกำหมัดแน่น พลางกล่าวว่า “ตกลง! สู้ก็สู้สิ ข้าไม่กลัวเจ้าสิ่งนี้อยู่แล้ว!”
ฟึ่บ!
ร่างของเหลยหมิงพุ่งออกไปราวกับสายฟ้าแลบ และสัตว์ปีศาจอัคคีก็พุ่งตัวออกมาเช่นกัน
“อู๋ตี้ เสี่ยวโม่โม่…”
“ต่อสู้อย่างสุดกำลังของพวกเจ้า”
“ขอรับ!”
มู่เฉียนซีกระโดดขึ้นไปกลางอากาศ จากนั้นก็ขยับแขน และทักษะทั้งคู่ก็ได้ระเบิดลงมาจากกลางอากาศ
“ทักษะโยวจั๋ว!”
“ทักษะซิวหลัว!”
ครืนน!
หลังจากที่โจมตีเข้าใส่เจ้าตัวนั้นอย่างต่อเนื่อง ไม่คิดเลยว่าจะระเบิดเอาหินหนืดที่ยากจะจัดการมากออกมาจนได้
หินหนืดกำลังโหมซัดสาดไล่หลังมา มู่เฉียนซีกล่าวว่า “เหลยหมิง รีบหลบออกมาเร็วเข้า!”
สัตว์ปีศาจอัคคีพุ่งเข้ามาหาพวกเขาอีกครั้งหนึ่ง และภายในไม่กี่อึดใจ พวกเขาก็ถูกโจมตีอย่างต่อเนื่อง จนได้รับบาดเจ็บสาหัส
เหลยหมิงกล่าวอย่างรีบร้อนว่า “ยืนหยัดต่อสู้ไปก็ไม่ใช่ทางออก! พวกเรารีบวิ่งหนีกันต่อไปเถอะ!”
“หนี ในสถานการณ์ตอนนี้ ถึงพวกเราจะหนีก็ไม่ได้ง่ายเช่นนั้นแล้ว”
“ผิวหนังของข้าหนายิ่งกว่าเจ้า ข้าจะขวางมันเอาไว้ เจ้ารีบหนีไปก่อนได้เลย!”
“เจ้าได้ฝากตัวเป็นศิษย์กับมหาจักรพรรดิเหลยแล้ว ไม่รู้หรือว่าการฝึกฝนของข้าได้ใช้เคล็ดลับการฝึกฝนร่างกายแบบไหน ผู้ใดปกป้องได้แข็งแกร่งมากกว่ากัน นั่นมันก็ชัดเจนมากอยู่แล้ว”
“ข้า…”
“ปิงหมิงมีมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพ หรือว่าข้าจะไม่มีเช่นนั้นหรือ? เจ้าก็ยังมียาลูกกลอนอยู่อีกหรือไม่ รีบรักษาอาการบาดเจ็บให้หายเถิด ที่เหลือเป็นหน้าที่ข้าเอง”
จากนั้นกระบี่มังกรเพลิงที่อยู่ภายในมือของมู่เฉียนซี ก็ได้ระเบิดเปลวเพลิงที่น่าสยดสยองเป็นที่สุดออกมา
มังกรเพลิงได้ตื่นขึ้นมาแล้ว
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า! ในที่สุดก็ถึงตาที่มังกรเพลิงผู้งดงามจะได้ออกโรงแล้ว”
การฟื้นฟูของเพลิงหงส์อมตะของพวกเขานั้นมีจำกัด แต่ในฐานะที่มังกรเพลิงนั้นเป็นตัวตรที่อ่อนแอมากที่สุดตัวหนึ่ง มันจึงได้ตื่นขึ้นมาเร็วกว่าผู้อื่นเป็นอย่างมาก
ถึงแม้ว่ามังกรเพลิงจะเพิ่งตื่นขึ้นมา แต่ทว่าพลังของกระบี่มังกรเพลิงพิฆาตวิญญาณก็ไม่อ่อนแอไปกว่าตรีศูลน้ำแข็งอย่างแน่นอน
ร่างสีม่วงสว่างวาบขึ้น นึกไม่ถึงว่ามู่เฉียนซีจะพุ่งเข้าไปปะทะกับเจ้าตัวนั้นตัวต่อตัวเช่นนี้ และนี่ก็ทำให้เหลยหมิงตื่นตกใจเป็นอย่างมาก
“ระวังด้วยนะ!”
ตูม!
มีเสียงดังสนั่นขึ้น เปลวเพลิงแห่งการทำลายล้างที่รุนแรงอย่างที่สุดระเบิดออกมา
ไม่เพียงแต่กดพลังธาตุอัคคีของสัตว์ปีศาจอัคคีนี้ไว้เท่านั้น ทั้งยังแผดเผากลิ่นอายมรณะของมันจนหมดสิ้นไปอีกด้วย
มู่เฉียนซีใช้ไปเพียงกระบวนท่าเดียว ซึ่งมันก็เป็นกระบวนท่าที่ง่ายดายมาก
“มังกรเพลิงพิฆาต!”
หลังจากนั้นมังกรเพลิงสีแดงฉานตัวหนึ่งก็พุ่งออกไป และพัวพันสัตว์ปีศาจอัคคีตัวนั้นไว้อย่างแน่นหนา
โฮกกก!
สัตว์ปีศาจอัคคีกรีดร้องออกมาอย่างบ้าคลั่ง และสุดท้ายก็ถูกแผดเผาจนเหลือเพียงแค่หัวใจเท่านั้น
มู่เฉียนซีได้หยิบผลึกสีแดงฉานเม็ดนั้นขึ้นมาพลางกล่าวว่า “เม็ดที่หนึ่งร้อย ครบแล้ว พวกเราไปกันเถอะ!”
“แข็งแกร่งเกินไปแล้ว มหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพชิ้นนั้นของปิงหมิงนับเป็นเรื่องเป็นราวไม่ได้เลย เมื่อมาเปรียบเทียบกับเจ้าแล้วยังห่างไกลกันอีกมาก”
มังกรเพลิงออกมาจากภายในกระบี่ แล้วกล่าวอย่างภาคภูมิใจว่า “นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว มันเป็นแค่เศษโลหะจะมาเทียบเคียงกับข้าได้อย่างไรกัน”