ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1706 รนหาที่ตายเอง
“เอ๊ะ!” เหลยหมิงมองไปที่มังกรเพลิงตัวน้อยอย่างตื่นตกใจ
“นะ…นี่คือวิญญาณกระบี่ของกระบี่เล่มนี้ ไม่คาดคิดเลยว่าวิญญาณกระบี่จะสามารถออกมาได้ด้วย ช่างน่าอัศจรรย์เกินไปแล้ว ”
“นี่มันอะไรกัน เจ้านี่ช่างไร้ประสบการณ์มากเกินไปแล้ว!” มังกรเพลิงมองไปทางเหลยหมิงอย่างดูถูก
มันกลับมาอยู่ข้างกายของมู่เฉียนซีแล้วกล่าวว่า “นายท่าน ที่นี่มีพลังธาตุอัคคีแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีพลังชั่วร้ายมากอีกด้วย ท่านจะต้องระวังให้มาก! ข้าจะปกป้องท่านแทนทุกคนเอง”
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “อื้ม! เจ้าตื่นขึ้นมา เท่านี้ข้าก็มั่นใจมากยิ่งขึ้นแล้ว”
เมื่อพวกเขาเดินไปข้างหน้า ก็ได้มีหมอกหนาปรากฏขึ้นมา
ในตอนที่หมอกหนาจางหายไป เบื้องหน้าของพวกเขาก็มีประตูปรากฏขึ้นมาสองบาน
“ภายในประตูบานแรกมีสมบัติมากมาย เมื่อพวกเจ้ารับสมบัติแล้ว ก็สามารถที่จะจากไปได้ นี่เป็นรางวัลที่พวกเจ้าได้สังหารและรวบรวมหัวใจของสัตว์ปีศาจอัคคีมาได้หนึ่งร้อยเม็ด”
“ประตูบานที่สอง เป็นประตูใหญ่ที่นำไปสู่ใจกลางของสุสานจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ และเมื่อเดินเข้าไปในประตูบานใหญ่นี้แล้ว พวกเจ้าอาจจะต้องต่อสู้แข่งขันกับเหล่าสัตว์ประหลาด และมีโอกาศที่จะต้องตายอย่างแน่นอน ทั้งยังจะต้องตายภายในชั่วอึดใจเท่านั้น พวกเจ้าแน่ใจแล้วใช่หรือไม่ว่าจะเข้าไปข้างใน?”
มู่เฉียนซีมองไปทางเหลยหมิงแล้วกล่าวว่า “เหลยหมิง ที่มันกล่าวนั้นคือความจริง! มันอันตรายมาก ข้ามีของที่เอาไว้คุ้มครองชีวิต เช่นนั้นไม่ว่าจะยังไงก็ตาม ข้าจะต้องไปทางนั้นอีกครั้ง แต่ทว่าเจ้า…”
เหลยหมิงกล่าวว่า “เฉียนซี เจ้าก็ดูถูกข้าเกินไปหน่อยแล้ว ข้าเป็นถึงนายน้อยของเผ่าหงส์อัศนี เจ้ามีของที่คุ้มครองชีวิตของเจ้าข้าเองก็มีเช่นกัน และท่านอาจารย์จอมเอาเปรียบของข้า ก็ได้ให้สมบัติข้ามาเช่นกัน”
“อย่างไรก็ตามพวกเราต่างก็ต่อสู้กันมาอย่างสุดชีวิตอยู่ในทะเลอัสนีทองมาแล้ว และครั้งนี้ก็เดินกันมาจนถึงจุดนี้ ข้าจะกลับไปได้อย่างไรกัน”
มู่เฉียนซีจ้องมองไปที่เหลยหมิงแล้วกล่าวว่า “ทางที่ดีเจ้าอย่าโกหกข้าดีกว่า ไม่เช่นนั้นหากเจ้าตายไปแล้ว ตราบใดที่วิญญาณของเจ้ายังคงอยู่ ข้าก็มีทางที่จะเก็บรักษาชีวิตเจ้าเอาไว้ได้”
“เฉียนซีเจ้านี่ช่างดีเหลือเกิน” เหลยหมิงกล่าวอย่างซาบซึ้งใจ
“หลังจากนั้นก็เอาวิญญาณของเจ้าเข้าไปใส่ไว้ในร่างของหมูตัวมันเยิ้มที่น่าเกลียดที่สุด เมื่อรอให้เจ้าอ้วนท้วนสมบูรณ์แล้วก็ถูกคนเชือดไปซะ”
เหงื่อเย็นของเหลยหมิงไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง เขากล่าวว่า “เฉียนซี เจ้านี่จะโหดเหี้ยมเกินไปแล้วนะ”
“เช่นนั้นข้าให้เจ้ามีชีวิตที่ดี ตายกลับมาแล้วยังคิดที่จะเป็นสัตว์เทพหงส์อีก เจ้ามองโลกในแง่ดีเกินไปแล้วล่ะ!”
“วางใจเถอะ! ข้าไม่มีทางเป็นอะไรไปอย่างแน่นอน”
หลังจากที่เดินเข้ามาในประตูบานที่สองมาแล้ว มู่เฉียนซีก็รู้สึกได้ถึงแรงกดดันที่แข็งแกร่ง
เหลยหมิงกล่าวว่า “นี่คือแรงกดดันของเทพจักรพรรดิ”
“ยังมีสิ่งใดที่ต้องการจะถามอีกหรือไม่?” เสียงหนึ่งนั้นดังขึ้นมา
“แล้วคนอื่นล่ะ? ตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ใดกันบ้าง?”
“คนที่แข็งแกร่งมากเหล่านั้น ในตอนนี้ใกล้จะไปถึงใจกลางของสุสานแล้ว หากเจ้าเพิ่มความเร็วมากขึ้นอีกหน่อยก็สามารถที่จะนำหน้าพวกเขาได้ แต่ทว่า…”
ยังไม่ทันที่มันจะได้กล่าวจบ มู่เฉียนซีก็ได้ยินเสียงที่น่ารำคาญของคนคนหนึ่ง
“มู่เฉียนซี เหลยหมิง ไม่คาดคิดเลยว่าพวกเจ้าจะมีความสามารถมาจนถึงตรงนี้ได้”
มู่เฉียนซีมองไปทางกลุ่มของพวกเขา และนางก็กล่าวอย่างหยอกล้อว่า “โลกนี้มันกลมเสียจริง ๆ เลย!”
ปิงหมิงกวาดสายตาไปทางมู่เฉียนซีแล้วกล่าวว่า “กลุ่มที่เข้ามาข้างในนี้ได้ มีเพียงแค่กลุ่มของพวกข้าก็เพียงพอแล้ว พวกเจ้าถอยไปเสียตั้งแต่ตอนนี้ ข้ายังจะพอสามารถไว้ชีวิตของพวกเจ้าได้ มิเช่นนั้น…”
“สุนัขที่ดีจะไม่ขวางทาง หลีกทางให้ข้าซะ ข้ามีเรื่องเร่งด่วนที่จะต้องไปทำ ไม่มีเวลาที่จะต้องมาเสียเปล่ากับพวกเจ้าหรอก”
นางต้องการที่จะค้นหามันโดยเร็ว และค้นพบคัมภีร์หมื่นคำสาปให้เร็วที่สุด เช่นนั้นจึงจะต้องเร่งมือให้ได้ก่อนหน้าเทพราชาและจิ่วเยี่ยด้วย
ปิงหมิงกล่าวว่า “ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะกล้าพูดเช่นนี้ออกมา ช่างรนหาที่ตายเสียจริง ๆ!”
ทันใดนั้น พลังน้ำแข็งก็เพิ่มขึ้นมาอย่างรวดเร็วดั่งใจนึก และปิงหมิงก็โจมตีใส่มู่เฉียนซี
“อู๋ตี้ เสี่ยวโม่โม่แล้วก็เหลยหมิง คนอื่นข้าต้องรบกวนฝากพวกเจ้าแล้ว”
“ตกลง!”
องค์ชายแปดต่อสู้กับเหลยหมิง ส่วนคนอื่นก็เข้าร่วมการต่อสู้ด้วยเช่นกัน
หลังจากที่ผ่านการถูกไล่ล่าครั้งที่แล้วมาได้ พวกเขาก็เหลือคนเพียงแค่สี่คนเท่านั้น
ไอน้ำแข็งของปิงหมิงยังคงโหมกระหน่ำเข้ามาราวกับพายุฝนอย่างไรอย่างนั้น
“มังกรเพลิง!”
มู่เฉียนซีกำกระบี่มังกรเพลิงพิฆาตวิญญาณเอาไว้แน่น และเปลวเพลิงของราชาก็ไม่ได้หวาดกลัวไอเย็นของหงส์น้ำแข็งตัวนี้เลยแม้แต่น้อย
“ทักษะมังกรเพลิงสมบูรณ์แบบ!” กระบี่เล่มหนึ่งถูกชักออกมา มังกรเพลิงตัวหนึ่งออกมาพร้อมกับเปลวเพลิงแห่งการทำลายล้าง และพุ่งกวาดไปยังฝ่ายตรงข้าม
ตูม!
มีเสียงดังสนั่นหวั่นไหวเกิดขึ้น น้ำแข็งและไฟเข้าปะทะกัน และน้ำแข็งนั้นก็ถูกโจมตีจนแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ แต่มู่เฉียนซีเองก็ต้องถอยร่นไปหลายสิบก้าวกว่าจะทำให้ร่างมั่นคงได้
มู่เฉียนซีเป็นเพียงผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตเท่านั้น นี่คือพลังของผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตอย่างนั้นหรือ? เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน!
ปิงหมิงจ้องมองไปที่กระบี่มังกรเพลิงพิฆาตวิญญาณที่อยู่ในมือของมู่เฉียนซี แล้วกล่าวอย่างดูถูกเหยียดหยามอย่างที่สุดว่า “พึ่งพาพลังของมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพอย่างนั้นหรือ? ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าจะสามารถสกัดพลังน้ำแข็งของข้าได้ เจ้าจะขวางไปได้ถึงเมื่อไหร่กัน”
น้ำแข็งได้เปลี่ยนกลายมาเป็นน้ำแข็งที่มีขอบที่แหลมคมทั่วทุกทิศทาง เล็กละเอียดราวกับสายฝนที่มีอย่างหนาแน่นอย่างไรอย่างนั้น และหลังจากนั้นมันก็พุ่งกวาดเข้าไปทางมู่เฉียนซี
“บัวแดงพิฆาต!”
“บัวแดงพิฆาต!”
“……”
เปลวเพลิงสีแดงฉานโปรยปรายลงมาจากท้องฟ้า มันผลิบานอยู่กลางอากาศ ขอบน้ำแข็งเหล่านั้นได้ถูกสกัดกั้นเอาไว้ไม่ให้ร่วงหล่นลงมา
ในชั่วพริบตานั้น มู่เฉียนซีก็มาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าปิงหมิง
“ทักษะโยวจั๋ว!”
ผนึกแห่งการทำลายล้างบีบคั้นเข้ามา ทำให้ปิงหมิงต้องขยายการป้องกันออกมา
ปัง ปัง ปัง!
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีที่อยู่ตรงหน้า สีหน้าของปิงหมิงยิ่งแผ่ความเย็นยะเยือกเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
“เจ้าก็มีเพียงเท่านี้ อย่าได้ภูมิใจมากไปนักเลย!”
ในเวลานี้ปิงหมิงก็ได้แปลงเป็นร่างเดิมแล้ว!
หงส์สีเงินผู้หยิ่งผยองตัวหนึ่ง พุ่งทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วยพลังอันน่าสะพรึงกลัว และตรีศูลน้ำแข็งนั้นก็ขยายใหญ่ขึ้น
เหลยหมิงตื่นตกใจ “ชายผู้นี้เดิมทีแล้วไม่เคยแสดงพลังที่แท้จริงมาก่อนเลย”
เมื่อตอนที่เผชิญหน้ากับสัตว์ปีศาจอัสนีเหล่านั้น เขาไม่ได้คิดที่จะโจมตีพวกมันมาตั้งแต่แรกแล้ว คนเหล่านั้นที่บาดเจ็บล้มตาย เขาเพียงไม่อยากจะสนใจเท่านั้น
แต่ทว่าในตอนนี้ มู่เฉียนซีได้ยั่วยุเขาที่ครอบครองตรีศูลน้ำแข็งอยู่ในมือครั้งแล้วครั้งเล่า จนทำให้เขาไม่อาจที่จะทนต่อไปได้อีกแล้ว
เขาจ้องมองไปทางมู่เฉียนซี ภายในแววตาเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่เหยียดหยาม
“ทะเลน้ำแข็งที่บ้าคลั่ง เกล็ดเหมันต์สวรรค์!”
หงส์น้ำแข็งบินขึ้นไป และพลังนี้ก็ส่งผลกระทบต่อตรีศูลน้ำแข็งเล่มนั้น
สิ่งที่มู่เฉียนซีต้องเผชิญหน้าตอนนี้ คือทักษะทางจิตวิญญาณที่ดูเหมือนจะเป็นพลังทำลายล้างที่ทรงพลังที่สุดของทะเลน้ำแข็งที่ยิ่งใหญ่ที่สุด และอันตรายจนทำให้ผู้คนต้องใจสั่น
สีหน้าของมู่เฉียนซีเปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้นมาทันที มังกรเพลิงกล่าวว่า “ข้างนอกสุกใสข้างในเป็นโพรงเท่านั้นล่ะ นายท่าน พวกเราไม่ต้องกลัวมันหรอก!”
“พลังของข้าเลื่อนขั้นไปแล้ว ข้ามีทักษะวิญญาณใหม่ พวกเรามาลองกันเถอะ!
พันธสัญญาระหว่างมู่เฉียนซีกับมังกรเพลิงนั้น เข้ากันได้อย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ซึ่งมันมีความสมบูรณ์แบบมาก
ทักษะวิญญาณหนึ่ง หลังจากที่เชื่อมต่อวิญญาณแล้ว นางจะตระหนักรู้ได้เร็วขึ้นเป็นอย่างมาก
มู่เฉียนซีเหวี่ยงกระบี่ออกไป ที่เห็นเพียงแค่ดาบเดียว แต่ความจริงแล้วกลับมีถึงเก้าดาบเลยทีเดียว
“เก้าอัคคีพิฆาต!”
มังกรเพลิงทั้งเก้าตัวเข้าพัวพันการโจมตีของปิงหมิง และปิงหมิงก็ต้องขบฟันแน่น แล้วโจมตีต่อไป
“ปีกโรยภูผายะเยือก!”
ขนปีกของหงส์น้ำแข็งเคลื่อนไหว และนั่นก็มีจิตสังหารอยู่มากมายนับไม่ถ้วน
ครืนน!
พลังที่บ้าคลั่งทำได้เพียงแค่ทำให้คนอื่นต้องล่าถอยออกไปไกล ความแข็งแกร่งของน้ำแข็งได้ผสานรวมเข้ากับพลังทำลายล้างของเปลวเพลิง จากนั้นก็เป็นฉากการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมที่สุด
ปัง ปัง ปัง!
ทั้งสองเข้าปะทะกัน และต่างก็บาดเจ็บด้วยกันทั้งคู่!
ด้วยการป้องกันทางกายภาพของมู่เฉียนซีในตอนนี้ ปิงหมิงผู้ที่เพิ่งจะเลื่อนขั้นมาเป็นสัตว์เทพได้ไม่นานยังไม่อาจทำให้นางบาดเจ็บได้
แต่บนใบหน้าของปิงหมิงกลับได้รับบาดเจ็บ และกลายเป็นใบหน้าที่น่าเกลียดน่ากลัวมากเลยทีเดียว!
เขากำหมัดแน่น แล้วมองไปที่ตรีศูลน้ำแข็ง
แววตาที่เย็นยะเยือกของเขาจ้องมองไปที่มู่เฉียนซี จากนั้นก็พ่นคำออกมาว่า “เจ้ามันสมควรตาย!”
“เป็นเจ้าที่รนหาที่ตายด้วยตนเอง!” น้ำเสียงของมู่เฉียนซีเย็นยะเยือกขึ้น ทันทีที่กระบี่มังกรเพลิงพิฆาตวิญญาณเคลื่อนไหว ธาตุอัคคีก็ระเบิดออกมา ด้วยความสิ้นหวังปิงหมิงคิดว่ามู่เฉียนซีจะใช้แผนการที่เหนือความคาดหมาย แต่ผลสุดท้ายก็คือ…