ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1712 ร่างจริงของจื่อโยว
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า! เจ้าลูกหมานี่ช่างเร้าอารมณ์ได้ดีจริง ๆ!” ในขณะที่เทพราชากำลังจะโจมตี ก็ได้มีเสียงที่หยอกล้อดังขึ้นมา
เป็นจื่อโยวนั่นเอง!
พวกเขาแสดงการต่อสู้อยู่ในกลุ่มอย่างชุลมุนมาโดยตลอด แต่ทว่าในเวลานี้ เมื่อเทพราชาต้องการที่จะลงมือกับมู่เฉียนซี เช่นนั้นพวกเขาก็ควรที่จะลงมือได้แล้ว
สุดท้ายแล้ว สำหรับเยี่ยในตอนนี้ผู้ใดก็ไม่สามารถโจมตีได้ และไม่อาจจะโจมตีได้อีกต่อไป!
“เจ้าเป็นผู้ใดกัน? ช่างกล้าดีเสียเหลือเกิน”
“ข้าจะเป็นผู้ใด ลูกหมาตัวหนึ่งเช่นเจ้ามีสิทธิ์ที่จะรู้เช่นนั้นหรือ?”
“เจ้าอยากตายหรือ?!”
ครืนนน!
หลังจากที่เทพราชาเปลี่ยนเป้าหมาย เผ่าหงส์ก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
“มู่เฉียนซีเป็นคนของท่านเหมย และคนผู้นี้ก็ดูเหมือนว่าจะเป็นคนที่ติดตามท่านเหมย ไม่คิดเลยว่าเขาจะตั้งตัวเป็นศัตรูกับท่านเทพราชา” เมื่อตอนที่ทั้งสองคนปะทะฝีมือกัน พวกเขาก็ได้กระซิบกระซาบพูดคุยกันขึ้นมา
เรื่องที่ลูกชายของตนเองตายไปต่อหน้า ทำให้ท่านเทพราชาโกรธเกรี้ยวมาก
“จัดการนางสาวน้อยผู้นั้นก่อน!”
“ขัดขวางพวกเขาเอาไว้!” ราชินีหลานกล่าว
ในเวลานี้ มู่เฉียนซีได้กลายเป็นจุดศูนย์กลางของสงครามไปเสียแล้ว
ลูกน้องที่เป็นยอดฝีมือทั้งเจ็ดของเทพราชาก็เข้าร่วมด้วยเช่นกัน และทันใดนั้นดอกท้อที่แดงราวกับเลือดก็ได้โปรยปรายลงมา
ท่านเหมยที่เป็นลูกน้องลำดับแรกของเทพราชา ไม่คิดเลยว่าจะลงมือกับพรรคพวกที่อยู่ในอำนาจของเขาเช่นนี้
ปัง ปัง ปัง!
นี่เป็นเรื่องที่ทำให้คนไม่ได้ตั้งตัวเลยจริง ๆ และแต่ละคนก็ถูกท่านเหมยวางแผนทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ
“เหมย! ไม่คาดคิดว่าเจ้าจะทรยศท่านเทพราชา”
“ตายซะเถอะ!”
“……”
เหมยกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ลงมือได้!”
และลูกน้องของเขา ก็เปลี่ยนฝ่ายกันไปอย่างกะทันหัน
“เหมย เจ้ากล้าได้อย่างไร? เหตุใดถึงกล้าทรยศข้า”
ท่านเหมยกล่าวอย่างเฉยชาว่า “ทรยศที่ไหนกัน ข้าไม่เคยที่จะยอมจำนนต่อเจ้ามาก่อนเลย เทพราชา เจ้าคิดว่าเจ้ามีสิทธิ์อะไรที่ทำให้ข้าผู้นี้ต้องเคารพเจ้าเป็นเจ้านายกัน”
น้ำเสียงที่ดูถูกและเฉยชาของท่านเหมยนี้ ยิ่งทำให้เทพราชาโกรธเคืองมากขึ้นไปอีก
“ดี! เจ้านี่ดีเสียจริง จัดการฆ่าเจ้าคนทรยศผู้นี้ซะ! ฆ่ามัน!”
การทรยศอย่างกะทันหันของท่านเหมย แน่นอนว่าจะต้องเป็นเรื่องที่ทำให้คนคิดไม่ถึงกันอยู่แล้ว
ทางด้านของเผ่าหงส์ก็มีความสับสนอยู่เล็กน้อยเช่นกัน กล่าวได้ว่าเรื่องที่เผ่าหงส์น้ำแข็งทรยศนั้นทำให้พวกเขารู้สึกโกรธมาก แต่ในตอนนี้การทรยศของท่านเหมย ก็ได้ทำให้พวกเขามีความสุขมากเช่นกัน!
นี่มันเป็นกรรมคืนสนองดี ๆ นี่เอง!
ราชาโม่และราชินีหลานพยายามที่จะปกป้องมู่เฉียนซีอย่างสุดกำลัง และการต่อสู้ที่ทำให้คนต้องตื่นตาตื่นใจก็ได้เริ่มต้นขึ้น
ภายใต้การบีบบังคับด้วยพลังอันบ้าคลั่งนี้ทำให้ร่างขององค์ชายแปด ไม่เหลือแม้แต่กระดูก
“ที่จริงแล้วเจ้าเป็นผู้ใดกันแน่? เป็นผู้ใดกันแน่?” เทพราชาจ้องเขม็งไปที่ใบหน้าอันจืดชืดของคนที่อยู่เบื้องหน้า
“หากพูดไปแล้วอาจจะทำให้เจ้าต้องตกใจตายก็เป็นได้ เช่นนั้นเจ้าก็เงียบเสียบ้างเถอะ หนวกหู!”
การทรยศของท่านเหมย ทำให้สถานการณ์ในครั้งนี้มั่นคงยิ่งขึ้น
ไม่คาดคิดเลยว่าเรื่องมันจะวุ่นวายเช่นนี้ พลันนั้นเหล่านักเล่นคาถาอาคมที่คิดอยากจะใช้เลือดสด ๆของเผ่าหงส์เป็นเครื่องสังเวยให้ได้โดยเร็วก็จะเป็นที่จะต้องล้มเลิกไปก่อนชั่วคราว เพื่อที่จะมาจัดการกับมู่เฉียนซีให้ได้เสียก่อน
ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!
ร่างสองสามร่างพุ่งเข้ามา และเตรียมที่จะโจมตีมู่เฉียนซี
แต่หลังจากนั้นก็มีเงาดำปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน และพวกเขาแต่ละคนต่างก็ต้องพบเจอกับการลอบโจมตีทุกรูปแบบ
พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บ!
พวกเขาจ้องมองไปยังคนใส่หน้ากากสวมชุดดำคนหนึ่งนั้น ทั่วทั้งร่างกายของเขาแผ่กระจายพลังอันน่าสะพรึงกลัวออกมา จนทำให้พวกเขาไม่กล้าที่จะลงมืออีกต่อไปแล้ว
“ที่จริงแล้วชายผู้นี้มีภูมิหลังเช่นไรกันแน่?”
ท่านหยาถอยหลังไปหลายก้าวตามสัญชาตญาณ และทำให้เขาได้เริ่มครุ่นคิด!
ด้วยพลังคำสาปที่แข็งแกร่งมากมายเช่นนี้ นักเล่นคาถาอาคมมีเพียงแค่ถูกเขาโจมตีกลับหมายเอาชีวิตเท่านั้น เหตุผลที่แท้จริงนั้นคืออะไร? เพราะอะไรกัน?
“ข้าทำสำเร็จแล้ว!”
บริเวณโดยรอบยุ่งเหยิง และการต่อสู้ก็ยังคงไม่สิ้นสุด!
มู่เฉียนซีได้หยิบภาชนะออกมาใบหนึ่ง จากนั้นก็เริ่มใส่เลือดลงไป และเลือดก็ถูกแบ่งออกเป็นสามส่วนอย่างรวดเร็ว
ส่วนแรกค่อนข้างมากเสียหน่อย และนั่นก็น่าจะเป็นสายเลือดที่ได้รับสืบทอดต่อมาจากตระกูลมู่
และยังคงมีอยู่อีกสองส่วนคาดว่าน่าจะเป็นของเผ่ากิเลนของท่านย่าแล้วยังมีของท่านแม่ด้วย
นางได้ลองใช้ทีละส่วน และส่วนที่หนึ่ง ก็ใช้การไม่ได้!
เช่นนั้นส่วนที่สอง!
ตูม!
และผลที่ได้นั้นก็น่าประหลาดใจเป็นอย่างมาก!
เพียงแค่หยดเดียว มีเพียงแค่หยดเดียวก็มีการตอบสนองที่มากถึงเพียงนี้แล้ว
คนของเผ่าหงส์เหล่านั้นก็สังเกตเห็นมันแล้วเช่นกัน “นะ…นั่นคือเลือดของเผ่ากิเลน”
“ที่จริงแล้วมู่เฉียนซีได้มันมาอย่างไรกันแน่? เลือดนั้นบริสุทธิ์มาก มันบริสุทธิ์เกินไปแล้ว”
ผู้แข็งแกร่งของเผ่าหงส์ที่อยู่ในสถานที่แห่งนี้ ต่างก็มีสายเลือดบริสุทธิ์ของเผ่าหงส์ถึงเก้าส่วนไว้ในครอบครอง แต่ทว่าก็ไม่บริสุทธิ์เท่าสิ่งที่อยู่ในมือของมู่เฉียนซีนั้นอย่างแน่นอน
หัวหน้าเผ่าหงส์อัสนีกล่าวว่า “แม่นางน้อย เจ้าอย่ากระตุ้นมันอีกเลย! ผนึกนี้ ไม่สามารถทำลายได้”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ต้องขออภัยด้วย ข้าจำเป็นที่จะต้องเปิดผนึกนี้”
เลือดทั้งหมดได้รินไหลลงไปจนหมดสิ้นแล้ว ท่านหยากล่าวว่า “คิดไม่ถึงเลย ว่าแม่สาวน้อยผู้นี้จะมีสายเลือดของเผ่ากิเลนอยู่ในครอบครองด้วย คิดไม่ถึงเลยจริง ๆ”
“เช่นนั้นเรื่องมันก็ง่ายขึ้นแล้ว”
ครืนน!
สัตว์ประหลาดขนาดใหญ่มหึมาสีน้ำเงินเข้มตัวหนึ่งปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน และพุ่งไปทางหวงจิ่วเยี่ย
สัตว์เทพที่แข็งแกร่งตัวนี้มีลำตัวเป็นกวางหนอก มีหางเป็นวัว อุ้งเท้าเหมือนหมาป่า และยังมีเกล็ดปลาอยู่ทั่วตัว ทั้งยังเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังที่งดงาม ซึ่งนี่ก็คือกิเลนนั่นเอง
เป้าหมายของกิเลนก็คือจิ่วเยี่ย เนื่องจากพลังของคำสาปที่อยู่ในร่างกายของจิ่วเยี่ย ทำให้มันโจมตีไปโดยสัญชาตญาณ
ตูม!
จิ่วเยี่ยรับการโจมตีของกิเลนตัวนั้นโดยตรง
“เยี่ย!” สำหรับสถานการณ์ของจิ่วเยี่ยในตอนนี้ ทำให้จื่อโยวเป็นกังวลอย่างมาก
แน่นอนว่าเทพราชาไม่มีทางหลีกให้อย่างเชื่อฟังอยู่แล้ว และพลังในร่างกายก็ได้ปะทุออกมาอย่างสมบูรณ์
“ทีนี้เจ้าก็ไปตายได้แล้ว!”
ลำแสงสีทองระเบิดออกมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด จากนั้นก็พัดโหมไปทั่วทั้งห้องโถงขนาดใหญ่ และในเวลาเดียวกันนั้นเองมันก็ได้กลืนกินจื่อโยวไปด้วย
ครืนนน!
พลังหนึ่งได้เกิดการปะทุขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง ท่ามกลางลำแสงสีทองนั้น ก็ได้มีสัตว์ที่มีขนาดใหญ่มหึมาปรากฏตัวขึ้น
มันมีเกล็ดสีม่วง และดวงตาที่ม่วงเข้มที่ทำให้คนต้องหวาดผวาเมื่อมองเห็นมัน อีกทั้งยังมีหัวอยู่เก้าหัว นี่…
ทุกคนต่างก็พากันจ้องมองไปที่งูเก้าเศียรอย่างตื่นตกใจ “งูเก้าเศียรบุพกาลโยวหมิง เป็นไปได้อย่างไรกัน?”
นี่ก็คือสัตว์ร้ายโบราณตัวหนึ่ง ที่มีความดุร้ายและแข็งแกร่งเป็นที่สุด และยังมีสีสันที่งดงาม ทั้งยังเป็นเจ้านายที่หัวแข็งดื้อรั้นและกระหายเลือดอีกด้วย
มู่เฉียนซีก็ค่อนข้างประหลาดใจเล็กน้อยเช่นกัน “ไม่คิดเลยว่านี่จะเป็นร่างที่แท้จริงของจื่อโยว ร่างจริงของเขาคือสัตว์อสูร”
“ข้าไม่มีเวลาจะมาเล่นกับพวกเจ้า ตายไปเสียเถอะ!”
“งูเก้าเศียรบุพกาลโยวหมิงแล้วจะทำไม? ข้าจะต้องกลัวเจ้าด้วยเช่นนั้นหรือ?”
ครืนน!
ถึงจื่อโยวจะหลายเป็นร่างเดิมแล้ว แต่ก็ไม่ได้มีปัญหาในการจัดการเทพราชาแต่อย่างใด
มู่เฉียนซีก็เป็นเหมือนกับเขา เป็นกังวลเกี่ยวกับจิ่วเยี่ยเสียมากกว่า
เสาหินผนึกกิเลนสมกับที่เป็นสถานที่ที่เก็บคัมภีร์หมื่นคำสาปอย่างที่คาดการณ์ไว้ เช่นนั้นพลังในการต่อสู้ของกิเลนตัวนี้จึงได้แข็งแกร่งมากกว่าเทพหงส์และเทพราชาเป็นอย่างมาก
ถึงแม้ว่าตอนนี้ จิ่วเยี่ยยังคงสามารถต่อสู้ได้อย่างมีฝีมือที่ยอดเยี่ยม! แต่ทว่า ด้วยร่างกายที่ต้องคำสาปของเขา มันจะต้องไม่ปลอดภัยแน่นอนอยู่แล้ว
นางสามารถรู้สึกได้ถึงพลังของคำสาปที่หมุนวนอยู่ภายในร่างกายของจิ่วเยี่ย ที่กำลังแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ
“เฉียนซี เจ้า…”
“เดี๋ยวหากเกิดมีอันตราย จำไว้ว่าจะต้องรีบหนีไปให้เร็วที่สุด รู้หรือไม่?”
ท่านเหมยได้สังหารคนไปถึงสองคนติดต่อกัน ซึ่งนั่นก็ทำให้พวกของท่านหลานโกรธเคืองมาก
“รนหาที่ตายนัก!”
พลังของจิ่วเยี่ยยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อย ๆ และมันก็ทำให้ทุกคนที่อยู่ในสถานที่แห่งนั้นต่างพากันรู้สึกอึดอัดขึ้นมาอย่างที่สุด
จื่อโยวกล่าวด้วยความตื่นตกใจ “เยี่ย!”
พลังแห่งความมืดที่น่าหวาดกลัวนั้น ได้พันธนาการกิเลนตัวนั้นเอาไว้
ไม่ว่ากิเลนจะดิ้นรนอย่างไร ต่างก็ไร้ประโยชน์ จนสุดท้ายแล้วก็กลายเป็นความว่างเปล่า
ผนึกกิเลนแตกออกแล้ว และนี่ก็เป็นต้นสุดท้าย คัมภีร์หมื่นคำสาปจะต้องอยู่ในนี้อย่างแน่นอน
ทุกคนต่างพากันกลั้นหายใจเอาไว้ และมู่เฉียนซีก็ไปพุ่งเข้าไปทางชายที่ไม่มีผู้ใดกล้าที่จะเข้าไปใกล้ผู้นั้นโดยที่ไม่พูดไม่จาเลยแม้แต่คำเดียว
“จิ่วเยี่ย!” ถึงผู้ชายคนนั้นจะออกไปแล้ว และความรู้สึกกังวลภายในใจก็ยังไม่อาจสงบลงได้