ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1713 อาจจะกินเจ้า
ตูม!
มีเสียงดังสนั่นขึ้นมา และทันใดนั้นพลังคำสาปอันน่าสะพรึงกลัวก็แผ่กระจายไปทั่วทุกหนทุกแห่ง
พลังคำสาปนี้ แม้แต่เทพราชาก็ยังรู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างยิ่ง และไม่แม้แต่จะกล้าเข้าไปใกล้
“ถอยก่อย! ทุกคนถอยออกไปให้หมด!”
พวกของหัวหน้าเผ่าหงส์อัสนีก็ล่าถอยเช่นกัน เนื่องจากพลังแห่งคำสาปแบบนี้ เป็นพลังที่พวกเขาก็ไม่เคยเห็นมาก่อนเช่นกัน
หากยึดติดอยู่เช่นนี้ ต้องไม่มีจุดจบที่ดีเป็นแน่
คนที่อยู่ภายในสถานที่แห่งนั้น มีเพียงคนของเผ่าคำสาปเหล่านี้เท่านั้นที่ไม่ได้ล่าถอยออกไป
ไม่เพียงแต่พวกเขาจะไม่ล่าถอย แต่ยังพุ่งเข้าไปอีกด้วย
“คัมภีร์หมื่นคำสาป ในที่สุดพวกเราก็หาคัมภีร์หมื่นคำสาปเจอแล้ว”
“พระเจ้าอวยพรให้เผ่าคำสาปของข้าแล้ว”
ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!
พวกเขาพุ่งออกไปอย่างตื่นเต้น ท่ามกลางการห่อหุ้มของพลังคำสาปแต่ละชั้นนั้น ในที่สุดคัมภีร์หมื่นคำสาปก็ได้เผยโฉมหน้าที่แท้จริงออกมาแล้ว
นั่นเป็นม้วนคัมภีร์ที่มีความโบราณเป็นอย่างมากเล่มหนึ่ง และม้วนคัมภีร์เล่มนี้ก็ได้พัดโหมฝนเลือดไปทั่วทุกหนทุกแห่ง
เหลยป้ากล่าวว่า “สุดท้ายแล้วก็ยังทำให้ของชิ้นนี้หลุดออกมาจนได้ เผ่าหงส์ของข้าไม่อาจปกป้องมันเอาไว้ได้”
คนของเผ่าคำสาปต้องการที่จะเข้าไปแย่งคัมภีร์หมื่นคำสาป แต่ทว่ามู่เฉียนซีกลับเคลื่อนไหวเร็วกว่าพวกเขาไปก้าวหนึ่ง
เทพราชากล่าว “นางเด็กสาวนั่นบ้าไปแล้ว นางไม่อยากจะมีชีวิตอยู่แล้วหรือไร”
“นางเด็กน้อย เจ้ารนหาที่ตายแล้ว!” ท่านหยากล่าวด้วยความโกรธ
ตูม!
ไม่ว่าพวกเขาจะต่อสู้หรือยื้อแย่งอย่างไร แต่ในที่สุดคัมภีร์หมื่นคำสาปนี้ก็ตกมาอยู่ในมือของหวงจิ่วเยี่ยแล้ว
ทันทีที่จิ่วเยี่ยสะบัดมือ เหล่าการโจมตีที่พุ่งเข้าหามู่เฉียนซีนั้น ก็ได้ถูกสกัดกั้นเอาไว้จนหมด
“แกร่ก ๆ ๆ! ในที่สุดข้าก็รอจนได้เจอเจ้าเสียที”
ภายในคัมภีร์หมื่นคำสาป มีเสียงที่แปลกประหลาดดังออกมาด้วย
“หุ่นเชิดที่แข็งแกร่งที่สุดของข้า”
น้ำเสียงที่เย็นยะเยือกของจิ่วเยี่ยดังขึ้นมา “เจ้ามีสิทธิ์นั้นเช่นนั้นหรือ?”
“มาจนถึงจุดนี้ แต่เจ้าก็ยังไม่คิดที่จะต่อต้าน เช่นนั้น…”
ทันใดนั้น บนร่างกายของจิ่วเยี่ยก็ได้ถูกปกคลุมไปด้วยอักขระคำสาปสีดำ
คนจากเผ่าคำสาปเหล่านั้นกล่าวขึ้นมาด้วยความตื่นตระหนกว่า “นี่…ที่จริงแล้วนี่คือคำสาปอะไรกันแน่ เหตุใดถึงซับซ้อน…เหตุใด…”
แกร่ก!
หน้ากากบนใบหน้าของหวงจิ่วเยี่ยได้แตกออกจากกันเนื่องจากพลังแห่งคำสาปที่ยิ่งใหญ่มหาศาลนี้
เมื่อใบหน้าที่สง่างามอย่างไร้เทียมทาน ทั้งยังงดงามอย่างไร้ที่ติปรากฏแก่สายตาของทุกคนที่อยู่เบื้องหน้านั้น ก็ได้ทำให้สีหน้าของเทพราชาเผยอาการงุนงงออกมา
“ฝ่าบาทจิ่วเยี่ย!”
“เหตุใดข้าถึงคาดคิดไม่ถึงเลย ว่าจะเป็นฝ่าบาทจิ่วเยี่ย พลังของคำสาปที่แข็งแกร่งมากถึงเพียงนี้…” ท่านหยาได้แต่บ่นพึมพำกับตนเอง
ดวงตาสีฟ้าเย็นยะเยือกคู่นั้น กลายเป็นน่าหวาดกลัวมากยิ่งขึ้นไปอีก
พลังของคำสาปท่วมท้นออกมา ในชั่วพริบตาที่จิ่วเยี่ยพุ่งตัวออกไป เขาได้โยนคัมภีร์หมื่นคำสาปเล่มนั้นลอยลอยละลิ่วออกไปราวกับพลังที่ใช้ควบคุมทั้งหมดนั้นได้หายไปจนหมดสิ้นแล้ว
“ถึงแม้ว่าเจ้าจะทิ้งข้าไป แต่ก็ไม่อาจที่จะหลุดพ้นไปได้! คำสาปในร่างกายของเจ้า ไม่มีผู้ใดสามารถรักษาสติให้คงอยู่เอาไว้ได้!”
ตูม!
“ฆ่าไปเถอะ! ฆ่าเสียให้เต็มที่เถอะ! การฆ่าเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่นี่ มันเป็นเพียงแค่การเรียกน้ำย่อยของพวกเราเท่านั้น”
อ๊ากกก!
ในตอนที่มันกำลังกล่าวอย่างมีความสุข จู่ ๆ กลับถูกคนบีบเอาไว้แน่นอยู่ในมือ
มู่เฉียนซีก้มมองไปที่มันแล้วกล่าวอย่างเย็นชาว่า “คัมภีร์หมื่นคำสาป เจ้าดูมีความสุขเหลือเกินนะ!”
“ถึงแม้ว่าเจ้าจะอ่อนแอไปหน่อย แต่ข้าก็สามารถรู้สึกได้ว่าหุ่นเชิดของข้าเอาใจใส่เจ้ามากเพียงใด และนอกจากนี้ข้ายังจะทำให้เจ้าได้เป็นหุ่นเชิดไปด้วยเช่นกัน”
หลังกล่าวจบ ในทันใดนั้น คัมภีร์หมื่นคำสาปก็ได้ระเบิดพลังคำสาปที่แข็งแกร่งออกมา และมันยังคิดที่จะเข้าไปในทะเลจิตวิญญาณของมู่เฉียนซีอีกด้วย
มันต้องการที่จะปนเปื้อน ต้องการที่จะกัดกร่อน ผลสุดท้ายก็ได้ค้นพบว่าสิ่งที่มันทำไปทั้งหมดนั้น ต่างก็เป็นเพียงเรื่องที่เปล่าประโยชน์เท่านั้น
ไร้ประโยชน์!
“เป็นวิญญาณลิขิตสวรรค์นี่!” คัมภีร์หมื่นคำสาปหัวเราะออกมา
“มิน่าเจ้าถึงได้กล้าหาญถึงเพียงนี้ เป็นเพราะเขาไม่มีทางทำอันใดเจ้าได้ แต่ทว่ากับหุ่นเชิดของข้ามันไม่เหมื่อนกัน” มันไม่ได้รู้สึกถึงวิกฤตเลยแม้แต่น้อย แม้จะอยู่ในเงื้อมมือของมู่เฉียนซีเช่นนี้ก็ตาม
ปัง ปัง ปัง!
ในเวลานี้ เทพราชาและพรรคพวกต่างก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส
ท่านหยากล่าวว่า “เทพราชา รีบไปเร็วเข้า! คำสาปของฝ่าบาทจิ่วเยี่ย ถึงพวกท่านจะไม่รู้ แต่ว่าพวกข้ารู้ถึงมันได้อย่างชัดเจน! มันเป็นคำสาปที่อันตรายและน่าหวาดกลัวที่สุดและยังโหดเหี้ยมมากที่สุดอีกด้วย หากว่าไม่อาจควบคุมได้ เช่นนั้นเขาก็จะเริ่มสังหารอย่างไม่สิ้นสุด”
“ความแข็งแกร่งของเขา ผู้ใดจะสามารถไปเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้กัน!”
“เช่นนั้นจะต้องยอมแพ้ต่อคัมภีร์หมื่นคำสาปอย่างนี้เช่นั้นหรือ?” โอกาสที่ดีที่จะได้สร้างความดีความชอบมาอยู่ตรงหน้าเขาเช่นนี้ กลับจำเป็นต้องยอมแพ้ไปเช่นนี้
“หากท่านคิดอยากที่จะตายอยู่ที่นี่แล้วละก็ ท่านก็สามารถไปต่อสู้กับฝ่าบาทจิ่วเยี่ยดูได้”
เทพราชาจ้องมองไปยังชายผู้ที่แข็งแกร่งอย่างไร้เทียมทานผู้นั้น ท่านจิ่วเยี่ยน่าสะพรึงกลัวถึงเพียงนี้ ก็คงจะมีเพียงเทพจักรพรรดิเพียงผู้เดียวเท่านั้นที่จะสามารถต่อกรกับเขาได้!
พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บ!
ยอดฝีมือทั้งเจ็ดที่เป็นลูกน้องของเทพราชา ได้สูญเสียไปมากกว่าครึ่งแล้ว
คนของเผ่าคำสาป ก็ได้ถูกบดขยี้จนตายไปไม่น้อยแล้วเช่นกัน
พลังที่ทรงอานุภาพอย่างหาที่สุดไม่ได้ ผู้ใดจะสามารถตีเสมอได้กัน!
พวกของหัวหน้าเผ่าก็ตื่นตกใจมากเช่นกัน นี่มันแข็งแกร่งมากเกินไปแล้ว!
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “หัวหน้าเผ่าหงส์อัสนี รีบถอนตัวออกไปเร็วเข้า! ฉวยโอกาสตอนนี้ยังทันอยู่ พวกท่านจำเป็นต้องรีบออกไป”
หลังจากนี้ มีความเป็นไปได้มากกว่าเขาจะสังหารโดยไม่เลือกหน้า
“แม่นางเฉียนซี เช่นนั้นแล้วเจ้าล่ะ?” ราชาโม่กล่าวด้วยความกังวลใจ
“ข้ามีวิธีการของข้า พวกท่านรีบถอนตัวไปเถอะ!”
ตอนนี้ที่จิ่วเยี่ยรับมืออยู่ก็คือพวกของเทพราชา เช่นนั้นคนอื่นสามารถถอนตัวไปได้อย่างง่ายดาย
ทันใดนั้นจื่อโยวและท่านเหมยก็มาปรากฏตัวอยู่ข้างหลังของมู่เฉียนซีในตอนนี้ และจื่อโยวก็กล่าวพร้อมรอยยิ้มว่า “คนงาม เจ้าไปกับข้าเถิด!”
มู่เฉียนซีเลิกคิ้วพลางกล่าวว่า “เป็นจิ่วเยี่ยที่สั่งเจ้ามาใช่หรือไม่?”
“ไม่ใช่ นี่เป็นสิ่งที่ข้าตัดสินใจด้วยตนเอง!”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “พวกท่านไปเถอะ! รีบไปเร็วเข้า คำสาปที่ควบคุมจิ่วเยี่ยนั้นแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว เมื่อถึงตอนนั้นอาจจะทำลายพวกท่านโดยที่ไม่เห็นแก่ความสัมพันธ์กับผู้ใดทั้งสิ้นก็เป็นได้”
ท่านเหมยกล่าวอย่างเย็นชา “ข้าไม่กลัว!”
“พวกเจ้าไม่กลัว แต่จิ่วเยี่ยก็ไม่ต้องการเช่นกัน ดังนั้นพวกท่านก็ออกไปเสียตั้งแต่ตอนนี้เถิด”
“แต่ว่า คนงามเจ้า…”
“หากว่าข้าต้องการที่จะหนี ข้าก็ยังมีหนทางอยู่ เจ้ารีบไปเถอะ!”
จื่อโยวหมดหนทาง และหลังจากนั้นก็รีบพาคนล่าถอยออกไปอย่างรวดเร็ว
พรวด!
ในครั้งนี้ ผู้ที่น่าเวทนาที่สุดก็คงจะต้องเป็นเทพราชาและพรรคพวกของเขาเสียแล้ว
สงครามทำลายล้างครั้งใหญ่ในสถานที่แห่งนี้ ทำให้ทั่วทั้งสุสานลอยฟ้าของเทพหงส์จักรพรรดิพังทลายลงไปมากกว่าครึ่ง
ความจริงแล้วพวกเขาคิดที่อยากจะหนี เพียงแต่มันไม่ง่ายดายเท่าไรนัก นั่นเป็นเพราะหวงจิ่วเยี่ยได้ไล่ล่าพวกเขาไป
ทันใดนั้น มู่เฉียนซีเอ่ยปากออกมาว่า “จิ่วเยี่ย มานี่!”
จิ่วเยี่ยหยุดที่จะไล่ล่าพวกเขา ซึ่งนั่นก็ทำให้พวกเขาถอนหายใจด้วยความโล่งอก
คัมภีร์หมื่นคำสาปไม่มั่นใจเอาเสียมาก ๆ “เห็ดชัดว่าเป็นหุ่นเชิดของข้า แต่เหตุใดชายผู้นี้ถึงได้เชื่อฟังเจ้าถึงเพียงนั้นกันล่ะ?”
หากเป็นก่อนหน้านี้ จิ่วเยี่ยมักจะเชื่อฟัง แต่ทว่าตอนนี้กลับไม่เชื่อฟังอีกแล้ว
แต่ทว่าน้ำเสียงของมู่เฉียนซีนั้น ได้ปลุกความหลงใหลของเขาได้รุนแรงมากกว่าการเข่นฆ่า
หลังจากนั้นภายในชั่วพริบตา จิ่วเยี่ยก็ได้มาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าของมู่เฉียนซี
คัมภีร์หมื่นคำสาปกล่าวอย่างมีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่น “จะ…เจ้าเรียกเขามาหา เขาอาจจะกินเจ้าก็ได้ และก็จะกินเจ้าจนไม่เหลือแม้แต่กระดูก...”
ปัง!
บางทีเจ้าสิ่งนี้ก็ดูจะโวกเวกมากไปหน่อยจริง ๆ ทันทีที่จิ่วเยี่ยสะบัดมือ คัมภีร์หมื่นคำสาปก็ได้ถูกโยนทิ้งลอยละลิ่วออกไปทันที
สิ่งของชิ้นนี้หนีไปไม่ได้ และก็ไม่อาจหนีไปได้ด้วย! เนื่องจากว่ามันไม่มีทางที่จะหาหุ่นเชิดที่ยอดเยี่ยมมากกว่าชายหนุ่มตรงหน้านี้ได้อีกแล้ว
พาเขามายังโลกนี้พร้อมกัน มันไม่เชื่อว่า จะไม่มีทางเป็นผู้พิชิตฟ้าดินแห่งนี้ได้
“อุ้บ!” หลังจากที่เขาโยนคัมภีร์หมื่นคำสาปทิ้งไปแล้ว จิ่วเยี่ยก็เริ่มที่จะกลืนกินนางลงไปโดยที่ไม่พูดไม่จาเลยสักคำ อาหารอันโอชะมาอยู่เบื้องหน้าเช่นนี้ มันทำให้เขาอยากที่จะใช้วิธีทำอาหารสักพันวิธีเลยทีเดียว