ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1722 ต้องฆ่าเท่านั้น
เผ่าหงส์อัสนี เป็นเผ่าที่มีพลังธาตุราชวงศ์แข็งแกร่งมากที่สุด
ถ้าหากเผ่าหงส์อัสนีจบสิ้นลงเมื่อไร เช่นนั้นเผ่าหงส์ของพวกเขา ก็คงจะต้องถึงวาระสุดท้ายด้วยเช่นกัน
“ปิงหมิง เจ้ามาสู้กับข้าซะ!”
เดิมทีแล้วหัวหน้าเผ่าหงส์อัสนีต้องการให้เหลยหมิงแอบหนีออกไปอย่างลับ ๆ รวมถึงเด็กรุ่นหลังได้หนีออกไปพร้อมกันด้วย
แม้ว่าจะต้องพ่ายแพ้ในสงคราม แต่ก็ยังสามารถรักษาสายเลือดของเผ่าหงส์อัสนีเอาไว้ได้
แต่ทว่า ในตอนที่เหลยหมิงกำลังจะแอบพาพวกเขาหลบหนีออกไปนั้น ก็ได้พบเจอเข้ากับปิงหมิง
เนื่องจากเป็นการผูกพันธสัญญาแบบเท่าเทียม การตายขององค์ชายแปดสำหรับปิงหมิงแล้วจึงไม่ได้รับอันตรายมากเท่าไรนัก และในทางกลับกันความสามารถของเขายังเพิ่มขึ้นอีกขั้นหนึ่งด้วย
ปิงหมิงกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า “เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า ยอมตายแต่โดยดี ก็พอแล้ว!”
เขาจงใจแผ่กระจายไอเย็นยะเยือกออกมาอย่างบ้าคลั่งถึงขีดสุด
ตูม โครมม!
เหลยหมิงได้ถูกปิงหมิงทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส และสงครามของเผ่าหงส์อัสนีก็ใกล้ที่จะต้านเอาไว้ไม่ไหวอีกต่อไปแล้วเช่นกัน
ตูม!
จื่อโยวได้ถูกยอดฝีมือของเผ่าเทพและเผ่าคำสาปหลายคนล้อมโจมดี และบนร่างกายของเขาก็มีบาดแผลอยู่มากมายนับไม่ถ้วน
“สัตว์ร้ายโบราณ เลือดของมันสามารถเอาไปสร้างคำสาปได้มากมาย จะต้องจับเป็นมาให้ได้”
“สิ่งที่ท่านหยากล่าวมาก็ถูก การสังหารเผ่ากิเลนจนสิ้นซากเมื่อครั้งที่แล้วทำให้พวกเราตระหนักถึงบทเรียนนี้ได้เป็นอย่างดี”
จื่อโยวกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า “ข้าว่าพวกเจ้าคงจะฝันกลางวันกันแล้วล่ะ ที่คิดว่าจะจัดการข้าได้!”
ปัง ปัง ปัง!
ท่านจวี๋ได้มัดท่านเหมยเอาไว้ เขาหัวเราะเยาะพลางกล่าวว่า “ท่านเหมย การทรยศเทพราชาในครั้งนี้ ท่านจะต้องเสียใจภายหลังอย่างแน่นอน! ฝ่าบาทจิ่วเยี่ย ก็เป็นได้เพียงแค่สุนัขจรจัดที่น่าสงสารตัวหนึ่งเท่านั้น มันมีอะไรให้พึ่งพาอาศัยได้กัน”
แววตาของท่านเหมยเย็นยะเยือกขึ้นมา “หุบปากของเจ้าไปซะ!”
ปัง ปัง ปัง!
การต่อสู้ในครั้งนี้ เผ่าเทพก็คงจะเป็นเช่นครั้งก่อน ที่กำลังจะได้รับชัยชนะอีกครั้ง
แต่ทว่าทันใดนั้น ทั่วทั้งท้องฟ้าก็พลันมืดมิดลง
มันไม่ใช่เมฆดำที่บดบังแสงอาทิตย์ แต่ทว่ามันเป็นพลังแห่งความมืด ที่กำลังปกคลุมไปทั่วทั้งท้องนภา
ทุกคนต่างพากันตื่นตระหนกจนหน้าถอดสี “นี่มันคือพลังแห่งความมืด! ดินแดนหงส์มีพลังแห่งความมืดที่เข้มข้นเช่นนี้อยู่ได้อย่างไรกัน”
“พลังแห่งความมืดนี้คล้ายกับพลังของท่านจิ่วเยี่ยเป็นอย่างมาก ไม่ถูก มันไม่ใช่…”
ฟิ้ว!
เงาดำบินผ่านไปวูบหนึ่ง
“ผู้ใดหาญกล้ามาล่วงล้ำเผ่าหงส์ของข้า มันจะต้องตายเท่านั้น!”
ทันใดนั้น เพลิงหงส์อมตะแห่งความมืดก็ตกลงมาจากท้องฟ้า และพุ่งตรงไปยังศัตรูและผู้ทรยศของเผ่าหงส์ทั้งหมดทันที
ในที่สุดพวกเขาก็เห็นได้อย่างชัดเจน ว่าหงส์สีดำทะมึนที่อยู่กลางอากาศตัวนั้น อย่างน้อยก็เป็นถึงระดับสัตว์เทพ
เมื่อมองดูแล้วก็คล้ายกับหงส์นิลเป็นอย่างมาก แต่ทว่ามีพลังที่น่าสะพรึงกลัวอะไรเช่นนี้ และคงจะไม่มีคนคิดว่านางเป็นหงส์นิลอย่างแน่นอน
หัวหน้าเผ่าหงส์อัสนีชะงักไปครู่หนึ่ง “เจ้าสิ่งนี้…คงจะไม่ใช่หงส์นิลแห่งความมืดที่ลึกลับนั่นหรอกนะ!”
“หงส์นิลแห่งความมืด มือสังหารผู้ยิ่งใหญ่ของเผ่าหงส์ และยังเป็นผู้แข็งแกร่งที่น่าสะพรึงกลัวมากที่สุดอีกด้วย”
มีผู้แข็งแกร่งมาช่วยเหลือเพิ่มอีกคนหนึ่ง พวกเขาก็มีความสุขเป็นอย่างมาก
แต่เมื่อราชาโม่มองไปที่เจ้าสิ่งนั้น ก็ต้องตกใจเป็นอย่างมากในทันที
ด้วยความสัมพันธ์ทางสายเลือดทำให้มันรู้สึกได้ว่า นั่นก็คือหลานสาวของเขา!
คิดไม่ถึงว่าหลานสาวของเขาจะกลายเป็นหงส์นิลแห่งความมืด ที่จริงแล้วนี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?
ตูม โครมม!
สุดท้ายเสี่ยวโม่โม่ก็ได้เข้าร่วมการต่อสู้
สัตว์เทพที่อยู่ในระดับเดียวกันไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมันเลย มันพุ่งตัวมาอยู่ข้างกายของราชาโม่ และต่อสู้ไปด้วยกันกับเขา
ในตอนที่ท่านหยากำลังจะใช้คำสาปโจมตีจื่อโยวจริง ๆ นั้น ทันใดนั้นก็มีร่างสีดำปรากฏตัวขึ้นอยู่เหนือร่างของจื่อโยวอย่างกะทันหัน
พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บ!
คำสาปได้ถูกโต้กลับมาทุกครั้ง!
ท่านหยาเช็ดเลือดที่อยู่ตรงมุมปากของเขา แล้วจ้องมองจิ่วเยี่ยที่ไม่ได้สวมหน้ากากพลางกล่าวด้วยเสียงที่สั่นเครือว่า “ฝ่าบาทจิ่วเยี่ย ท่าน…เป็นไปได้อย่างไรกัน?”
การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นของคัมภีร์หมื่นคำสาปและพลังคำสาปแห่งความมืดที่แข็งแกร่งที่สุด เป็นสิ่งที่ไม่มีผู้ใดสามารถทนรับมันไหวได้ แต่คาดไม่ถึงเลยว่าตอนนี้ฝ่าบาทจิ่วเยี่ยจะมายืนอยู่ที่นี่ได้โดยที่ไม่บุบสลายเลยแม้แต่น้อย
จื่อโยวกล่าวอย่างตื่นเต้น “เยี่ย ในที่สุดเจ้าก็มาได้เสียที”
จิ่วเยี่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า “ฆ่ามันซะ!”
“ได้เลย!”
เมื่อได้เห็นจิ่วเยี่ยปรากฏตัวออกมา พวกเขาก็เริ่มที่จะหวาดกลัวขึ้นแล้ว!
ท่านหยากล่าวว่า “ลงมือซะ! ไม่มีอะไรที่ต้องกลัว! สภาพของเขาในเวลานี้ ต้องใช้พลังส่วนใหญ่ไปกับการควบคุมคำสาปนั้น ฉะนั้นความแข็งแกร่งของเขาจึงไม่สูงมากเท่าไรนัก ไม่มีอะไรต้องให้หวาดกลัวถึงเพียงนั้น! ลงมือได้!”
จื่อโยวกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ถึงแม้เยี่ยจะไม่ใช่พลังอย่างเต็มที่ สำหรับเจ้าพวกสารเลวอย่างพวกเจ้า เท่านี้มันก็เพียงพอแล้ว”
“ยอมรับความตายเสียเถอะ!”
ตูม โครมมม!
จิ่วเยี่ยและจื่อโยวได้ร่วมกันโจมตียอดฝีมือหลายคนกลางอากาศอย่างดุเดือด และมู่เฉียนซีก็ได้เข้าไปอยู่ในการต่อสู้ของเผ่าหงส์อัสนีเรียบร้อยแล้ว
เทพราชาหลานอี้มองไปที่มู่เฉียนซีอย่างตื่นตะลึงพลางกล่าวว่า “เจ้า…ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะยังมีชีวิตอยู่?”
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่เพียงแต่ยังมีชีวิตอยู่เท่านั้น แต่ยังมาเอาชีวิตสุนัขของเจ้าได้อีกด้วย”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า! นี่มันเรื่องตลกอะไรกัน เจ้าคิดว่าเจ้าเพียงคนเดียว จะสามารถช่วยเหลือพวกเขาได้อย่างนั้นหรือ? ฝันอยู่หรือไร?”
เบื้องหลังของเทพราชาหลานอี้ ยังมีกองทหารขนาดใหญ่อยู่ด้วย
แต่ทว่าทางด้านของพวกเขา มีแต่กำลังคนที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งก็ชัดเจนมากอยู่แล้ว ว่าฝ่ายไหนมีความแข็งแกร่งมากที่สุด
”ราชาโม่กล่าวพลางถอนหายใจว่า “แม่นางเฉียนซี เจ้าไม่ควรกลับมาเลย หากอยากจะหนีไปตอนนี้ก็ไม่ทันการณ์เสียแล้ว เรื่องของพวกเราเผ่าหงส์ เจ้าไม่ควรที่จะต้องเข้ามาพัวพันด้วยเลย”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “อย่ากังวลเลย ถึงแม้ว่าตอนนี้พวกเขาจะหยิ่งผยองมากเพียงใด อีกเดี๋ยวพวกเขาจะต้องวิ่งหนีหางจุกตูดไปอย่างแน่นอน!”
มู่เฉียนซีกล่าวกับเทพราชาหลานอี้ว่า “ที่จริงแล้วเจ้าคิดว่าข้าจะไร้เดียงสา ถึงขนาดมาฆ่าตัวตายในสงครามนี้เพียงคนเดียวเช่นนั้นหรือ! ถึงข้าจัดการเจ้าไม่ได้ แต่หากเป็นพวกเขาล่ะ?”
มู่เฉียนซีโยนตราสัญลักษณ์สีแดงฉานออกมา แล้วเอ่ยปากว่า “เปิดออก!”
ของสิ่งนี้ คนของเผ่าหงส์ต่างก็รู้สึกคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างมาก สิ่งนี้มันคืออะไรกันแน่?
จากสถานการณ์ที่เร่งด่วนในตอนนี้ ทำให้พวกเขาคิดไม่ออกไปชั่วขณะหนึ่ง
แต่ในตอนที่กองกำลังขนาดใหญ่ของเทพหงส์จักรพรรดินับแสนนายปรากฏตัวออกมาอยู่ต่อหน้าของพวกเขา กลิ่นอายความแข็งแกร่งที่พร้อมจะกวาดล้างโลกของกองกำลังนี้แผ่กระจายออกมา มู่เฉียนซีไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมาก พวกเขาก็สามารถที่จะรับรู้ได้แล้ว
“นี่คือกองกำลังของเทพหงส์จักรพรรดิ!”
“กองกำลังเทพหงส์จักรพรรดิที่รบร้อยครั้งชนะถึงร้อยครั้ง”
“……”
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ก่อนที่ข้าจะออกมาจากสุสานจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ ท่านเทพหงส์จักรพรรดิได้มอบมันให้ข้า เพื่อต้องการที่จะช่วยเผ่าหงส์ ในการขับไล่เผ่าเทพ”
เมื่อพวกของหัวหน้าเผ่าหงส์น้ำแข็งและหงส์ม่วงได้เห็นกองกำลังที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ ภายในแววตาของพวกเขาก็เผยให้เห็นถึงความหวาดกลัวออกมา
ความหวาดกลัวเช่นนี้ เกิดจากการไม่มีความสามารถ
“ท่านเทพราชา!” หัวหน้าเผ่าหงส์น้ำแข็งร้องตะโกน
เทพราชาหลานอี้กล่าวว่า “กลัวอะไรกัน? เทพหงส์จักรพรรดิไม่รู้ว่าตายไปที่ปีแล้ว ทหารของเขาก็ได้ตายไปหมดแล้วเช่นกัน! นี่เป็นเพียงแค่ภาพหลอนเท่านั้นแหละ ไม่มีอะไรที่น่ากลัวเลยสักนิด!”
“คอยดูข้าทำลายภาพหลอนนี้ให้ดีเถอะ โจมตีเลย! ทำลายพวกมันให้หมดสิ้น พวกเขาจะได้มาเล่นตุกติกกับพวกเราไม่ได้อีก”
หลังจากนั้น กองกำลังของเทพหงส์จักรพรรดิก็เริ่มเคลื่อนไหว!
พวกเขาตายมาไม่รู้กี่ปีแล้ว แต่ทว่าพลังความแข็งแกร่งของพวกเขายังอยู่ และจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ก็ยังคงอยู่ด้วย
ด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ที่ท่วมท้นออกมากำลังแผ่ซ่านไปทั่วทั้งดินแดนหงส์ และจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้นี้ก็ทำให้จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของทางมู่เฉียนซีก็เพิ่มมากขึ้นด้วย
มีกองกำลังในตำนานของท่านเทพหงส์จักรพรรดิค่อยช่วยเหลือถึงเพียงนี้ พวกเขายังจำเป็นที่จะต้องกลัวอะไรอีกหรือ?
“พุ่งเข้าไป!”
“ฆ่ามัน!”
“เผ่าเทพไสหัวออกไปจากเผ่าหงส์ของพวกเรา ไสหัวออกไปซะ!”
เมื่อเผชิญหน้ากับจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของศัตรู คนที่มีความสามารถที่อ่อนแอต่างก็รู้สึกสั่นสะท้านไปทั้งตัว จนทำอะไรไม่ถูก!
พวกเขาตกลงสู่มหาสมุทรของจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ ถูกทำให้จมดิ่ง และถูกกลืนกินลงไป และไม่ว่าจะดิ้นรนมากมายเพียงใด แต่หลังจากที่กองกำลังนี้ปรากฏตัวออกมาแล้ว กองกำลังขนาดใหญ่ที่หยิ่งผยองของเผ่าเทพก็เริ่มล่าถอยไปกันไม่หยุด และล่าถอยไปอย่างต่อเนื่อง สุดท้ายแล้วเทพราชาหลานอี้ก็รู้สึกโมโหจนอยากจะกระอักเลือดออกมาเลยทีเดียว