ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1733 ผนึกแห่งก้นบึ้ง
ความสับสนบางอย่างปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของกุยชิว เขากล่าวว่า “ข้าก็ไม่รู้ว่าท่านผู้อาวุโสอยู่ที่ใดเช่นกัน แต่ทว่าข้ามีวิธีการที่จะทำให้เขาปรากฏตัวออกมาได้ ท่านหลิ่ว ท่านคอยดูข้าแล้วกัน”
“อื้ม! จะต้องจัดการกับสุ่ยอู๋ซินผู้นั้นให้ได้เสียก่อน เจ้าหมอนั่นได้รับการสนับสนุนจากคนของราชามังกรน้อยมากที่สุด ตราบใดที่เขามีความหมาย และเมื่อราชามังกรน้อยได้สูญเสียมือขวาไปแล้ว ก็คงไม่อาจประสบความสำเร็จได้อีก”
ที่เหวลึกของทะเลแห่งยมโลก มีไอเย็นยะเยือกแผ่ซ่านออกมา
มู่เฉียนซีและสุ่ยอู๋ซินเอ้อหลงอยู่ข้างในนั้น และแน่นอนว่าไม่อาจที่จะใช้สายตาหาได้อีกแล้ว หากหาเช่นนี้ต่อไป อย่าพูดว่าต้องหาสามถึงห้าปีเลย ถึงจะเป็นสามสิบปีพวกเขาก็หาไม่เจอหรอก
“สุ่ยอู๋ซิน คุ้มกันให้ข้าด้วย! ข้าจะลองใช้พลังจิตวิญญาณปกคลุมไปทั่วทะเลแห่งยมโลกดูเสียหน่อย”
“อะไรนะ? ทะเลแห่งยมโลกกว้างใหญ่ถึงเพียงนี้ หากท่านมู่ทำเช่นนี้ มันจะทำให้ท่านสิ้นเปลืองพลังเป็นอย่างมาก”
มู่เฉียนซีตอบกลับไปว่า “พลังจิตวิญญาณของข้าพัฒนาขึ้นมาไม่น้อย เจ้าวางใจเถิด! ข้าไม่มีปัญหาอะไรอย่างแน่นอน”
ในตอนที่เปิดคัมภีร์หมื่นคำสาปเล่มที่สาม หลังจากที่ได้ประชันและหลอมรวมเข้าด้วยกัน พลังจิตวิญญาณของนางก็ได้เลื่อนขั้นขึ้นอีกครั้งหนึ่งแล้ว
การที่จะหาคนที่นี่ น่าจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรเลย
ในเวลานี้ กุยชิวและท่านหลิ่วผู้นั้นก็ได้มาถึงด้านบนของทะเลแห่งยมโลกแล้ว
กุยชิวจ้องมองไปยังผิวทะเลที่เงียบสงบ “ท่านหลิ่ว ของสิ่งนั้นต้องใช้เวลาเท่าไรถึงจะสามารถปรากฏออกมาได้อย่างนั้นหรือขอรับ”
“ใกล้แล้ว! โชคชะตาของพี่ชายผู้นั้นของเจ้าช่างกล้าแข็งเกินไป ไม่เช่นนั้นของสิ่งนั้นก็คงจะปรากฏตัวออกมานานแล้ว”
กุยชิวกล่าวว่า “อื้ม!”
ทั่วทั้งทะเลแห่งยมโลก มู่เฉียนซีค้นพบเต่ามังกรเพียงตัวเดียวเท่านั้น
ภายในเหวลึกของทะเลแห่งยมโลกแห่งนี้ เรียกว่าก้นบึ้งยมโลก
สุ่ยอู๋ซินชะงักไปครู่หนึ่ง “ท่านผู้อาวุโสเพียงแค่แยกตัวออกมาพักฟื้น เหตุใดถึงต้องไปถึงก้นบึ้งยมโลกกัน”
ก้นบึ้งยมโลกเป็นสถานที่ที่อันตรายเป็นอย่างมาก ทั้งยังได้ข่าวมาว่ามีสัตว์ร้ายของยมโลกตัวหนึ่งที่ถูกกังขังเอาไว้
สุ่ยอู๋ซินเริ่มไม่วางใจ เขากล่าวว่า “ท่านมู่ ท่านขึ้นไปก่อนเถิด ข้าจะลองไปหาผู้อาวุโสที่ก้นบึ้งยมโลกดูสักรอบหนึ่ง”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ไปด้วยกันเถอะ! ไหน ๆ ข้าก็มาถึงที่นี่แล้ว”
นางเคยตรวจสอบข้อมูลของแดนมังกรมาก่อน นางรู้ดีว่าก้นบึ้งยมโลกมีของที่อันตรายมากอย่างหนึ่งถูกขังเอาไว้
“แต่ทว่าด้านล่างนี้ มีสัตว์ร้ายที่มีความแข็งแกร่งเทียบเท่ามังกรปีศาจของเกาะราชามังกรเชียวนะ”
“เจ้าสิ่งนั้นถูกผนึกเอาไว้แล้ว และถึงแม้ว่ามันจะหลุดออกมาได้จริง ๆ แม้พวกเราจะเอาชนะมันไม่ได้ แต่ก็ยังสามารถที่จะหนีออกมาได้! เช่นนั้นพวกเราก็ไปกันเถอะ!”
สุ่ยอู๋ซินหมดหนทางที่จะโน้มน้าวมู่เฉียนซีแล้วจริง ๆ ดังนั้นทั้งสองจึงได้มุ่งหน้าไปยังก้นบึ้งยมโลกด้วยกัน
“ฮือ ฮือ ฮืออ!” ในก้นเหวที่มืดมิดจนราวกับไร้ก้นบึ้งแห่งนั้น มีลมแรงพัดกระหน่ำมานับไม่ถ้วน เกาะป้องกันธรรมดา ๆ นั้นไม่เพียงพอที่จะสามารถสกัดกั้นมันไว้ได้
“ท่านมู่ ระวังด้วย!” พลังวิญญาณธาตุวารีของสุ่ยอู๋ซินหมุ่นวนขึ้นมาและได้ห่อหุ้มมู่เฉียนซีเอาไว้ เพื่อที่จะไม่ให้อันตรายใดก็ตามเข้ามาใกล้มู่เฉียนซีได้
สวบ สวบ สวบ!
เพิ่งจะเข้ามาในก้นเหว แต่กลับถูกล้อมไปด้วยร่างสีดำมากมายนับไม่ถ้วยเสียแล้ว
มันคือปลา! ฝูงปลาที่ทั้งตัวของมันมีรูปร่างคล้ายกระบี่แห่กันพุ่งเข้ามาทางพวกเขา
ปัง ปัง ปัง!
เกาะป้องกันของสุ่ยอู๋ซินได้ขวางพวกมันเอาไว้ได้
เขากล่าวว่า “นี่คือปลายมโลก และมีเพียงพลังป้องการที่แปลกประหลาดของเผ่าเต่ามังกรเท่านั้นที่ไม่เกรงกลัวพวกมัน เช่นนั้นพวกเราจะต้องระวังกันสักหน่อย”
มู่เฉียนซีพยักหน้าพลางกล่าวว่า “อื้ม!”
การโจมตีครั้งแรกล้มเหลว ปลายมโลกจำนวนนับไม่ถ้วนจึงรวมตัวกันเป็นฝูงแล้วพุ่งเข้ามาโจมตีพวกเขาอีกครั้ง
หากเป็นเช่นนี้ต่อไป แน่นอนว่าไม่อาจทำได้เพียงแค่การป้องกันแล้ว
“ทักษะโยวจั๋ว!”
“ทักษะซิวหลัว!”
ตูม ตูม!
ทักษะทั้งสองของมู่เฉียนซีปะทะเข้ากับปลายมโลกเหล่านี้จนพวกมันลอยละลิ่วออกไป
แต่ทว่าเจ้าพวกนี้กลับยังไม่ยอมแพ้อยู่ดี!
เสี่ยวโม่โม่กล่าวว่า “นายท่าน ให้ข้าจัดการเถอะ!”
ปลายมโลกมีพลังแห่งความมืดมนบางอย่าง แต่ทว่ากลับมีความหวาดกลัวต่อเพลิงหงส์อมตะแห่งความมืดเล็กน้อย
ตูม!
เพลิงหงส์อมตะแห่งความมืดระเบิดออกมา และทำให้เจ้าพวกนั้นไม่กล้าที่จะเข้ามาใกล้อีกต่อไป
เสี่ยวโม่โม่กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “มาสิ! มาสิ! มีความสามารถน้อยนิดเท่านี้ ยังคิดที่จะมาก่อกวนนายท่านของข้า พวกเจ้าไสหัวไปให้หมดเลย!”
เสี่ยวโม่โม่แข็งแกร่งมากจนสามารถขับไล่ปลายมโลกเหล่านี้ไปได้ และการเดินทางของพวกเขาจากนี้ก็เป็นไปอย่างราบรื่น
มีถ้ำนับไม่ถ้วนอยู่โดยรอบบริเวณของก้นบึ้งยมโลก แต่ทว่ามู่เฉียนซีกลับสัมผัสถึงการมีอยู่ของเผ่าเต่ามังกรไม่ได้เลย เช่นนั้นอดีตหัวหน้าเต่ามังกรน่าจะอยู่ในส่วนที่ลึกที่สุด
แต่ทว่าเมื่อยิ่งลึกลงไปเรื่อย ๆ ก็ยิ่งเข้าใกล้ที่ผนึกสัตว์ร้ายของยมโลกมากขึ้นไปอีก สิ่งนี้ทำให้สุ่ยอู๋ซินต้องขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย
ทันใดนั้นมู่เฉียนซีก็หยุดลงอย่างกะทันหัน สุ่ยอู๋ซินกล่าวถามขึ้นมาว่า “ท่านมู่ เกิดอะไรขึ้นอย่างนั้นหรือ?”
“ตอนนี้นอกจากข้าจะรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายของเต่ามังกรแล้ว ข้ายังรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายของคำสาปด้วย”
“นี่มันคือกับดัก กุยชิวได้เข้าร่วมกับเผ่าเทพมานานแล้ว” สุ่ยอู๋ซินกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม
“พวกเราไปกันเถอะ!” เขาดึงมู่เฉียนซีเอาไว้ และเตรียมตัวที่จะออกไปโดยเร็ว
ในเมื่อมันคือกับดัก เช่นนั้นก็ไม่สามารถที่จะง่ายดายถึงเพียงนี้
“แต่ถ้าหากว่าที่ด้านล่างนั้น เป็นอดีตหัวหน้าเผ่าจริง ๆ ล่ะ! พวกเราไม่อาจที่จะกลับไปเช่นนี้ได้” มู่เฉียนซีกล่าว
“แต่ทว่าก็มีความเป็นไปได้มากว่าจะไม่ใช่!”
“ไปลองดูกันเถอะ! แล้วค่อยหนีก็ไม่เป็นไรหรอก สุ่ยอู๋ซินเจ้ายังไม่เชื่อในความสามารถของข้าอย่างนั้นหรือ?”
“ข้าเพียงแค่ไม่ต้องการให้ท่านมู่ต้องไปเสี่ยง”
สุดท้ายแล้วสุ่ยอู๋ซินก็ต้องรับฟังคำสั่งของมู่เฉียนซีอย่างไม่มีทางเลือก และในตอนที่เข้าไปใกล้ ก็ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือออกมาอย่างแผ่วเบา
ทั่วทั้งด้านล่างของก้นบึ้งยมโลกแห่งนี้ มีประตูบานใหญ่สีกากีบานหนึ่งได้ปิดทั้งก้นเหวนี้เอาไว้ และด้านบนก็ได้ถูกล้อมรอบด้วยโซ่ไปทั่วทั้งบริเวณ
นี่มันก็คือผนึก!
และบนผนึกอันหนึ่งนั้น ก็มีใครบางคนนอนอยู่ และทั่วทั้งร่างกายของเขาก็มีพลังของคำสาปห่อหุ้มเอาไว้ ไม่เพียงเท่านั้น บนร่างกายของเขายังมีเลือดไหลออกมาอย่างต่อเนื่องอีกด้วย
ตามที่เห็น เลือดได้ไหลออกมาจากภายในร่างกายของเขา และมันกำลังกัดกร่อนผนึกที่อยู่ด้านบนของประตูบานนั้นอย่างต่อเนื่อง
ในตอนนี้สุ่ยอู๋ซินก็ได้เห็นรูปร่างหน้าตาของชายที่น่าเวทนาผู้นั้นได้อย่างชัดเจนแล้ว พลันนั้นสีหน้าที่ตื่นตกใจก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา
“กุยฮุย!”
ไม่คาดคิดเลยว่านี่จะเป็นพี่ชายของกุยชิว หรือก็คือผู้ที่เป็นหัวหน้าเผ่าเต่ามังกรคนก่อนนั่นเอง
ในฐานะที่เป็นนักปรุงยาคนหนึ่ง มู่เฉียนซีคิดว่ากุยฮุยในตอนนี้สามารถที่จะรอดชีวิตได้ และแน่นอนว่านั่นเป็นเพราะโชคชะตาที่แข็งแกร่งของพวกเขาเผ่าเต่ามังกรด้วย
ด้านล่างนี้ไม่ใช่อดีตหัวหน้าเผ่าเต่ามังกรท่านนั้น แต่ก็คือหัวหน้าเผ่าคนก่อน
เมื่อกุยฮุยสัมผัสได้อย่างเลือนลางว่ามีคนมาที่นี่ ก็กล่าวขึ้นมาว่า “ช่วยข้าด้วย!”
“พาข้าออกไป ไม่อย่างนั้น…ไม่อย่างนั้นมันจะไม่ทันกาล…”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “สุ่ยอู๋ซิน ลงมือ! เร็วเข้า!”
นางรู้สึกว่า ตอนนี้ชีวิตของกุยฮุยกำลังแขวนอยู่บนเส้นด้าย และผนึกนี้ก็ใกล้ที่จะถูกทำลายเต็มทีแล้ว
“ขอรับ!”
ความเร็วของสุ่ยอู๋ซินนั้นรวดเร็วเป็นอย่างมาก เขาได้ยกเอากุยฮุยที่อยู่ในภาวะที่สลบไสลไปแล้วออกมาจากก้นบึ้งยมโลก
สถานการณ์ของกุยฮุยในเวลานี้ไม่ดีเท่าไรนัก มู่เฉียนซีจึงได้หยิบเอาเข็มยาออกมาและฝังให้อย่างเร่งด่วน
“ออกไปจากก้นบึ้งยมโลกแห่งนี้ และหาพื้นที่ที่เป็นดินสักแห่งก่อนเถอะ ข้าจะต้องรีบช่วยเขา!”
“ขอรับ!”
ไม่ยากเลยที่จะหาเกาะเล็ก ๆ สักสองสามเกาะในทะเลอันกว้างใหญ่แห่งนี้ ทันทีที่สุ่ยอู๋ซินวางกุยฮุยลง มู่เฉียนซีก็เริ่มทำการรักษาเขาอย่างเร่งด่วนทันที
ฝีมือการรักษาอย่างเร่งด่วนของมู่เฉียนซีนั้น ทำให้สุ่ยอู๋ซินมองอย่างชื่นชมเป็นอย่างมาก พร้อมกันนั้นมู่เฉียนซีก็ได้ถอนคำสาปให้กับเขาด้วย
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่น่าแปลกใจเลยที่เผ่าเต่ามังกรของพวกเขาจะมีอายุไขที่ยืนยาวถึงเพียงนี้ พวกเขามีโชคชะตาที่แข็งแกร่งมาก ไม่มีทางตายได้ง่าย ๆ หรอก”
สุ่ยอู๋ซินกล่าวอย่างเย็นชาว่า “กุยชิวช่างใจกล้าจริง ๆ เหตุใดเขาถึงกล้าถึงเพียงนี้?”
“รอให้ชายผู้นี้ฟื้นขึ้นมาก่อน เรื่องที่พวกเราควรรู้ก็คงจะได้รู้เอง! ชายผู้นี้มีพลังชีวิตเหลือเฟือมาก เขาน่าจะฟื้นขึ้นมาในอีกไม่นานนี้แล้ว”
หลังจากที่มู่เฉียนซีและสุ่ยอู๋ซินช่วยคนออกมาได้แล้ว สีหน้าของนักเล่นคาถาอาคมผู้นั้นก็เปลี่ยนไปอย่างมากทันที
“คำสาปของข้าสิ้นสุดลงแล้ว สัตว์ประหลาดยักษ์ยมโลกไม่มีทางออกมาได้แล้ว มีคนช่วยพากุยฮุยหนีไป”
“อะไรนะ? มีคนช่วยเขาไปแล้วอย่างนั้นหรือ?”
“พวกเขาจะต้องยังอยู่ภายในทะเลแห่งยมโลกแห่งนี้แน่นอน ตามหาพวกเขา! จำเป็นที่จะต้องหากุยฮุยให้เจอโดยเร็ว ผนึกนั้นใกล้ที่จะถูกทำลายเต็มทีแล้ว เราไม่อาจยอมแพ้กลางคันได้!” ท่านหลิ่วผู้นั้นกล่าวอย่างเคร่งขรึม