ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1740 เผ่ามังกรแห่งความมืด
สุ่ยอู๋ซินกล่าวว่า “ขอรับ! พวกเราจะเข้าไปสกัดกั้นพวกเขาเอาไว้”
มู่เฉียนซีและคนอื่น ๆ ที่เหลือก็ได้เก็บซ่อนกลิ่นอายของพวกเขาเอาไว้ จากนั้นก็มุ่งหน้าเข้าไปใกล้คนเหล่านั้น
“เผ่ามังกรทองนี่ชักจะมากเกินไปแล้ว ไม่คิดเลยว่าจะกล้ามากักขังนายน้อยของพวกเรา!”
“พวกเราไปช่วยนายน้อยและคนอื่น ๆ ออกมาให้ได้ก่อน เมื่อถึงเวลาที่ยอดฝีมือของเผ่าเรามาแล้ว อีกทั้งยังมีเผ่ามังกรปีศาจกับเผ่าเทพที่ให้การสนับสนุนในการบุกโจมตีเกาะราชามังกรด้วย หลังจากนี้พวกเราเผ่ามังกรจะได้ไม่ต้องมาฟังเด็กน้อยที่ยังไม่โตผู้นี้คอยชี้นิ้วบงการอีก”
“เผ่ามังกรทองไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นผู้บัญชาการของเผ่ามังกรมานานแล้ว แต่พวกเขากลับยังจะมีหน้าไปครอบครองตำแหน่งนี้เอาไว้อีก”
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง ก็มีอีกเสียงหนึ่งดังขึ้นมา
“ข้าคิดว่าพวกเจ้าไม่มีทางที่จะช่วยนายน้อยของพวกเจ้าได้หรอก ทุกคนยอมแพ้เสียเถอะ!”
เมื่อพวกเขาเห็นว่ามีหญิงสาวชุดม่วงกำลังขวางหน้าอยู่ คิ้วของพวกเขาก็ขมวดขึ้นเล็กน้อย
“แม่สาวน้อย เจ้าเป็นผู้ใดกัน? เป็นคนของเผ่ามังกรทองเช่นนั้นหรือ?”
“ไม่ว่าแม่สาวน้อยผู้นี้จะเป็นใคร? แต่พวกเขารู้ความลับของพวกเราแล้ว เช่นนั้นจำเป็นที่จะต้องกำจัดทิ้งไปซะ ลงมือ!”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ตอนนี้ข้ามีทางเลือกให้พวกเจ้าสองทาง นั่นก็คือยอมแพ้ไปซะ หรือไม่ก็ถูกทุบตี”
คำพูดของมู่เฉียนซีนั้น ทำให้พวกเขารู้สึกโกรธเคืองเป็นอย่างมาก นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นคนหยิ่งผยองถึงเพียงนี้
“แม่เด็กสาวที่ตัวเล็กกระจิริดคนหนึ่งนี้ ไม่คาดคิดเลยว่าจะยโสโอหังถึงเพียงนี้! ข้ามีชีวิตมาหลายปี และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ข้าได้เห็นมัน”
“สั่งสอนนางให้รู้สำนึกเสียหน่อยแล้วกัน!”
ทันใดนั้น ก็มีพายุลมโหมกระหน่ำก่อตัวขึ้นมาโดยรอบ
และเป็นมู่เฉียนซีที่ได้ลงมือตัดกำลังโจมตีก่อน “เพลิงสังหารซิวหลัว!”
“เก้าอัคคีพิฆาต!”
ธาตุอัคคีจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งไปทางพวกเขาอย่างบ้าคลั่ง และสีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไปอย่างมาก
“แม่สาวน้อยผู้นี้เป็นมังกรอัคคี! เหตุใดถึงได้มีพลังธาตุอัคคีที่แข็งแกร่งถึงเพียงนี้กัน”
ทันทีที่คำพูดของพวกเขาจบลง ก็ตามมาด้วยการโจมตีของพลังธาตุวารี
“มังกรน้ำแข็งท้าสวรรค์!”
ตูมมม โครมม!
“มังกรวารี!”
ใบหน้าของพวกเขาเผยให้เห็นถึงความตื่นตกใจ “นี่มันจะเป็นไปได้อย่างไร มังกรตัวหนึ่งจะสามารถครอบครองพลังธาตุที่เป็นพรสวรรค์ถึงสองชนิดได้อย่างไร นี่มันไม่ใช่เรื่องปกติแล้ว!”
สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนี้ทำให้พวกเขาตื่นตะลึงมากยิ่งกว่านั้นเสียอีก
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “อู๋ตี้ เสี่ยวหง เสี่ยวโม่โม่ ออกมาโจมตีของศัตรูซะ”
ครืนนนนน!
สัตว์เทพทั้งสามตัวถูกเรียกออกมา และมันก็ทำให้พวกเขาตกใจยิ่งกว่าเก่า!
“มนุษย์ หญิงสาวผู้นี้คือมนุษย์! บ้าเอ๊ย”
“หรือว่า นี่จะเป็นมู่เฉียนซีคนนั้น!”
“……”
“ไม่ว่าจะใช่หรือไม่ ก็ต้องฆ่าอยู่ดีนั่นละ!”
ในตอนที่พวกเขากำลังต่อสู้กับมู่เฉียนซี ร่างสีน้ำเงินร่างหนึ่งก็โผล่มาโจมตีพวกเขาจากทางด้านหลัง
“หัวหน้าเผ่ามังกรวารี สุ่ยอู๋ซิน!”
“บัดซบเอ๊ย! พวกเราต้องมาปะทะกับพวกเขาที่นี่เสียแล้ว”
“โจมตี!”
หากว่าต้องต่อสู้กับมู่เฉียนซีเพียงคนเดียว รวมถึงสัตว์พันธสัญญาของนางด้วยเพียงเท่านั้น การแสดงออกของพวกเขาก็คงจะไม่เคร่งเครียดถึงเพียงนี้
แต่เมื่อมีสุ่ยอู๋ซินเพิ่มมาด้วยอีกคนหนึ่งมันก็กลายเป็นไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ต้องรู้ว่าสุ่ยอู๋ซินที่อยู่ในฐานะหัวหน้าเผ่าของเผ่ามังกรวารีนั้นมีความสามารถที่ลึกเกินจะหยั่งถึงได้!
“จื่อเย้าไร้เทียมทาน!” เหล่าผู้อาวุโสของเผ่ามังกรม่วงโจมตีอย่างบ้าคลั่ง
ธาตุอัคคีไหลเวียน ส่วนธาตุวารีก็เริ่มโต้กลับเช่นกัน!
“เสาวารีจันทรา!”
ตูมม โครมมม!
ระยะห่างของเกาะราชามังกรยังคงห่างจากสถานที่นี้อีกระยะหนึ่ง มู่เฉียนซีและสุ่ยอู๋ซินได้เริ่มต่อสู้กับกลุ่มช่วยเหลือพิเศษขนาดเล็กของเผ่ามังกรม่วงกลุ่มนี้
พวกของอู๋ตี้กำลังตรึงศัตรูบางส่วนเอาไว้ และมีผู้อาวุโสคนหนึ่งเห็นว่ามู่เฉียนซีนั้นดูง่ายที่จะรังแกได้ ฉะนั้นเขาจึงพุ่งไปทางมู่เฉียนซีทันที
“หากว่าเจ้าคือมู่เฉียนซีจริง ๆ แล้วละก็ การจับเจ้าได้ก็ยังพอที่จะมีประโยชน์อยู่บ้าง!”
มีข่าวลือมาว่ามนุษย์ผู้นี้สำหรับราชามังกรน้อยตัวนั้น นางมีความพิเศษเป็นอย่างมาก นางเป็นเพียงแค่ขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับหกคนหนึ่งเท่านั้น นอกจากจะมีสัตว์พันธสัญญาทั้งสามตัวแล้ว ถึงเขาจะมองวนไปวนมาแค่ไหนก็มองไม่ออกว่านางมีอะไรที่พิเศษตรงไหนเลย
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเย็นชาว่า “เจ้าก็เป็นเพียงแค่สัตว์เทพระดับสองเท่านั้น คิดอยากที่จะจับข้า ฝันไปเถอะ!”
กระบี่มังกรเพลิงถูกกวาดออกไป และเปลวเพลิงที่น่าสะพรึงกลัวก็ได้ระเบิดออกมา
ผู้อาวุโสผู้นั้นกระโดดออกไปจากตรงนั้น และสกัดกั้นการโจมตีของมู่เฉียนซีเอาไว้ ก่อนเตรียมที่จะโต้กลับ!
ปัง!
มู่เฉียนซีไม่ได้หลบหลีก และพุ่งเข้าปะทะกับเขาโดยตรง
ในระหว่างการต่อสู้ ดูเหมือนว่ามู่เฉียนซีแทบที่จะไม่เปลืองพลังในการป้องกันเลยแม้แต่น้อย แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น มู่เฉียนซีก็ไม่ได้รับบาดเจ็บใด ๆ เลย
“ทักษะโยวจั๋ว!”
“ทักษะซิวหลัว!”
โครมมม!
เมื่อร่างทั้งสองแยกออกจากกัน เขาก็จ้องมองมู่เฉียนซีอย่างตกตะลึง
“จะ…เจ้าเป็นมนุษย์จริง ๆ อย่างนั้นหรือ?”
มีพลังในการป้องกันทางกายภาพสูงถึงเพียงนี้ นางแข็งแกร่งยิ่งกว่าสัตว์เทพระดับสองเสียอีก นี่มันบ้าเกินไปแล้ว!
สาวน้อยผู้นี้แปลกประหลาดเกินไป แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่อาจที่จะปล่อยนางไปได้ ดังนั้นเขาจึงพยายามที่จะพุ่งเข้าไปโจมตีใส่มู่เฉียนซีอย่างไม่ลดละ
และโดยที่ไม่ได้คาดไว้ มู่เฉียนซีไม่เพียงแต่จะมีการป้องกันทางกายภาพที่แข็งแกร่งยิ่งเท่านั้น แต่ยังมีความเร็วอย่างน่าประหลาดอีกด้วย!
“การเคลื่อนย้ายภายในชั่วพริบตา! เจ้าทำได้อย่างไรกัน?”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ถึงแม้ว่าข้าจะบอกเจ้าว่าทำอย่างไร เจ้าก็ไม่สามารถที่จะทำได้อยู่ดี”
มู่เฉียนซีกำลังติดพันอยู่กับชายผู้หนึ่งในนั้น แต่ทว่าคนอื่นนั้นกลับน่าเวทนานัก!
อู๋ตี้ เสี่ยวหง และเสี่ยวโม่โม่ล้วนแล้วแต่มีความพิเศษเป็นอย่างมาก เนื่องจากว่าสัตว์เทพระดับต่ำไม่มีทางที่จะต่อสู้กับพวกมันได้เลย และการที่ไปต่อสู้กับพวกมันก็มีแต่จะเสียบเปรียบเท่านั้น!
ส่วนคู่ต่อสู้ของสัตว์เทพที่อยู่ในระดับสูง ก็ได้ค่อย ๆ ถูกสุ่ยอู๋ซินจัดการไปทีละคน ความแข็งแกร่งของสุ่ยอู๋ซินนั้นทำให้พวกเขารู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างยิ่ง
คนที่ต้องจัดการมีน้อยลงเรื่อย ๆ และเสี่ยวโม่โม่ก็ไม่มีคู่ต่อสู้อีกแล้ว
นางเบ้ปากแล้วกล่าวว่า “ข้าไปช่วยนายท่านดีกว่า”
หลังจากที่เสี่ยวโม่โม่และมู่เฉียนซีร่วมมือกันต่อสู้ คนเหล่านั้นก็รู้สึกได้ถึงวิกฤตบางอย่าง
นางกำลังถ่วงเวลาอยู่ที่นี่!
ในตอนที่รู้ว่าพวกเขาไม่สามารถที่จะต่อต้านได้อีกแล้ว สัตว์เทพระดับสูงคนหนึ่งที่กำลังถูกสุ่ยอู๋ซินกดดันอยู่ก็ได้กล่าวขึ้นมาว่า “ถอย! รีบถอยเร็วเข้า! พวกเราไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขา”
พวกเขานี่ช่างโชคร้ายเหลือเกิน ดันมาเจอเข้ากับคนสองคนที่ยากจะต่อกรด้วยระหว่างทางเข้าเสียแล้ว!
เหตุใดพวกเขาถึงไม่รู้ข่าวเรื่องที่หัวหน้าเผ่ามังกรวารีสุ่ยอู๋ซินออกมาจากเกาะราชามังกรเลย นี่มันผิดแผนเกินไปแล้วจริง ๆ
ปัง ปัง ปัง!
“อย่าคิดที่จะหนีไปได้แม้แต่คนเดียว!”
อู๋ตี้ได้ขยายร่างให้ใหญ่โตเพื่อขวางทางของพวกเขาเอาไว้ คิดที่จะหนีเอาป่านนี้ ก็ไม่ทันการณ์เสียแล้ว
คนจากเผ่ามังกรม่วงเหล่านี้ยังคงดิ้นรนอยู่อย่างต่อเนื่อง แต่มันกลับไร้ประโยชน์ และพวกเขาแต่ละคนที่บาดเจ็บสาหัสก็ถูกจับตัวไป
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “สุ่ยอู๋ซิน พาพวกเขากลับไปยังเกาะราชามังกรแล้วค่อยสอบปากคำพวกเขา! ดูเหมือนว่าเผ่ามังกรเหล่านี้จะมีใจให้เผ่าเทพ เร็ว ๆ นี้น่าจะมีการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่เกิดขึ้นเป็นแน่”
สุ่ยอู๋ซินพยักหน้าพลางกล่าวว่า “ขอรับ! ท่านมู่”
มู่เฉียนซีกลับมาแล้ว และราชามังกรน้อยเฮยเย้าออกมาต้อนรับด้วยตนเอง
“ท่านมู่ ท่านกลับมาแล้ว ทุกอย่างราบรื่นดีหรือไม่!”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ยังถือได้ว่าราบรื่นดี!”
“เกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา? คนเหล่านี้เป็นคนของเผ่ามังกรม่วงนี่ พวกเขาล่วงเกินท่านหรือ?”
คนจากเผ่ามังกรม่วงที่ถูกจับกุมเหล่านี้ชะงักงันไปครู่หนึ่ง สาวน้อยคนนี้ก็คือมู่เฉียนซีในตำนานจริง ๆ ด้วยสินะ
เมื่ออยู่ต่อหน้านาง ราชามังกรน้อยนี้ไม่มีท่าทางของราชามังกรเลยสักนิด ปฏิบัติต่อมนุษย์คนหนึ่งถึงเพียงนี้ มันเป็นเรื่องที่น่าขายหน้าของเผ่ามังกรอย่างพวกเขาจริง ๆ
สุ่ยอู๋ซินกล่าวว่า “คนจากเผ่ามังกรม่วงเหล่านี้คิดหาทางที่จะมาช่วยเหลือเผ่ามังกรที่ถูกขังไว้ในคุกหลวงเหล่านั้น ข้ากับท่านมู่ไปบังเอิญเจอกับพวกเขาระหว่างทาง จึงได้จัดการเสีย”
เฮยเย้ากล่าวว่า “ลำบากท่านอู๋ซินกับท่านมู่แล้ว ทหาร! เอาพวกเขาโยนเข้าไปในคุกหลวงซะ”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “รอเดี๋ยว! พวกเขาเหล่านี้น่าจะรู้ข้อมูลที่น่าสนใจอะไรบางอย่าง เอาพวกเขาไปขังเอาไว้ก่อน เมื่อถึงเวลาข้าจะเข้าไปสอบปากคำด้วยตนเอง”
“ขอรับ! ทำตามที่ท่านมู่ต้องการซะ!” หลังจากที่นำคนเหล่านี้ไปแล้ว มู่เฉียนซีจึงกล่าวว่า “ตำแหน่งที่ตั้งของเผ่ามังกรแห่งความมืดอยู่ที่ใด? ต้องทำเช่นไรถึงจะสามารถหาพวกเขาพบ?”