ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1746 มอบให้เป็นหน้าที่ข้า
หลังจากที่เกาะมังกรปีศาจระเบิดมันก็ตลบอบอวลไปด้วยพลังของคำสาป และท่ามกลางพลังคำสาปที่น่าสะพรึงกลัวนี้ ก็ได้มีมังกรปีศาจลายสีดำตัวหนึ่งพุ่งทะยานออกมา
ดวงตาทั้งคู่ของมังกรปีศาจตนนั้นไร้จิตวิญญาณ ราวกับเป็นเพียงแค่หุ่นเชิดตัวหนึ่งเท่านั้น
มันคือวิญญาณของมังกรปีศาจโบราณที่ได้ดูดซับแก่นเลือดของเผ่ามังกรปีศาจ และถูกปลุกขึ้นมาโดยพลังแห่งคำสาป ฉะนั้นพลังของมันจึงน่าหวาดกลัวเป็นอย่างมาก
เมื่อได้เห็นเจ้าตัวใหญ่ที่ทรงพลังถึงเพียงนี้ ท่านซือหยางก็ภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก และกล่าวออกมาว่า “ต่อไปนี้ เจ้าจงฟังคำสั่งของข้า ไล่ล่าไปให้ถึงเกาะราชามังกร ข้าจะดูว่าแดนมังกรแห่งนี้ ผู้ใดจะเป็นคู่ต่อสู้ของข้าได้”
ฉึก!
มีเสียงแหวกอากาศดังขึ้นมา และเข็มยาเล่มหนึ่งก็พุ่งเข้ามาจู่โจมท่านซือหยาง
ฟึ่บ! เข็มยาของมู่เฉียนซีถูกเขาขวางเอาไว้ได้
ท่านซือหยางมองไปทางพวกเขาแล้วกล่าวว่า “พวกเจ้านี่โชคดีจริง ๆ ไม่คิดเลยว่าจะยังไม่ตาย”
“จัดการพวกเขาทั้งสองคนซะ” ท่านซือหยางสั่งไปที่มังกรปีศาจตัวนั้น
“โฮกกกกก!” ทันใดนั้น กลิ่นอายปีศาจก็พุ่งทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า
จิ่วเยี่ยกล่าวว่า “มอบให้เป็นหน้าที่ข้าเอง!”
ทันใดนั้นร่างสีดำก็มาปรากฏตัวอยู่กลางอากาศเหนือมังกรปีศาจด้วยความเร็วราวกับสายฟ้า
ตูมมม!
การโจมตีของมังกรปีศาจ ดูเหมือนเป็นเผ่ามังกร แต่สิ่งที่สามารถสนับสนุนการต่อสู้ของมันกลับเป็นพลังแห่งคำสาป
แต่ทว่าพลังแห่งคำสาปนี้กลับอ้อมหลบจิ่วเยี่ยไป เรื่องนี้สำหรับท่านซือหยางแล้ว แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย
พลังแห่งคำสาปที่แข็งแกร่งได้กักขังมังกรปีศาจเอาไว้
“โฮกกก!” มังกรปีศาจดิ้นรนอย่างสิ้นหวัง ก่อนที่จะพยายามจนดิ้นหลุดออกมา
“โฮกกก!” หลังจากที่มันหลุดออกมาได้แล้ว มันก็พุ่งตรงเข้าไปหาจิ่วเยี่ยอย่างบ้าคลั่ง
แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนในที่นี้ประหลาดใจเป็นอย่างมากก็คือ ชายผู้ที่น่าสะพรึงกลัวผู้นี้ยังไม่ได้ใช้กำลังอย่างเต็มที่เลย
ขนาดยังไม่เต็มที่ยังรุนแรงมากถึงเพียงนี้ หากเต็มที่แล้วละก็ จะแข็งแกร่งถึงเพียงไหนกัน?
มังกรปีศาจตัวนี้จะเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้อย่างนั้นหรือ?
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับผู้ที่แข็งแกร่งอย่างจิ่วเยี่ย สำหรับผลงานชิ้นเอกที่สมบูรณ์แบบนี้ของตนเอง ท่านซือหยางกลับไม่มีความมั่นใจเลยสักนิด
ความชั่วร้ายส่องประกายอยู่ในดวงตาของเขา จากนั้นก็มองไปทางมู่เฉียนซี
“จัดการสาวน้อยผู้นี้ก่อน!”
พวกเขาต้องดูออกได้อย่างแน่นอนอยู่แล้วว่า ชายผู้ที่แข็งแกร่งและน่าสะพรึงกลัวถึงเพียงนั้นให้ความสนใจกับหญิงสาวคนนี้โดยเฉพาะ พวกเขาจึงจำเป็นต้องเตรียมพร้อมเอาไว้!
ถึงแม้ว่าว่ามีมังกรปีศาจอยู่ในมือแล้ว แต่การจับหญิงสาวคนนี้เอาไว้ก็ถือเป็นการป้องกันเอาไว้เช่นกัน
ในตอนที่สุนัขรับใช้ของท่านซือหยางเหล่านั้นกำลังจะเคลื่อนไหว พวกของอู๋ตี้ก็เริ่มเคลื่อนไหวเช่นกัน
“ท่านอู๋ตี้ผู้ไร้เทียมทาน หนึ่งเดียวในใต้หล้า! พวกเจ้าคิดว่าพวกเจ้าเป็นผู้ใดกัน ถึงได้คิดจะมาจับเจ้านายของข้า กลับไปฝึกอีกร้อยปีเถอะ!” อู๋ตี้กล่าวอย่างเย้ยหยัน
“เพลิงเผาสวรรค์!”
ขณะเดียวกันเปลวเพลิงที่รุนแรงของเสี่ยวหงก็พุ่งทะลวงออกมา เมื่อบรรลุความสามารถระดับสัตว์เทพได้ก็ถือว่าเคลื่อนไหวได้สะดวกมากขึ้นไม่น้อยเลยทีเดียว
ร่างเงาสีดำพุ่งทะยานไปในอากาศราวกับสายฟ้า เพลิงหงส์อมตะแห่งความมืดพุ่งเข้ากระแทกกับศัตรูราวกับฝนดาวตกอย่างไรอย่างนั้น
“คนที่ต้องการจะจัดการนายท่านทุกคนล้วนเป็นคนเลว และคนเลวทุกคนจะต้องหายไปซะ”
สัตว์พันธสัญญาของมู่เฉียนซีมีความแข็งแกร่งมากกว่าตัวเดียว และการโจมตีของมันก็ได้ปั่นป่วนการต่อสู้ของทั้งกลุ่มได้โดยตรง
แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขารู้สึกว่ามันเกินไปมากก็คือ การที่อยู่ดี ๆ มู่เฉียนซีหายไปอย่างไร้ร่องรอยอย่างคาดไม่ถึง
และนางก็ได้ไปปรากฏตัวอยู่เบื้องหลังของท่านซือหยางอย่างกะทันหัน จากนั้นก็มีเข็มยานับไม่ถ้วนพุ่งเข้าไปจู่โจมเขาอย่างไม่คิดจะเกรงใจเลยแม้แต่น้อย
ปึก ปึก ปึก! เข็มยาทั้งหมดของมู่เฉียนซีถูกเขาขวางเอาไว้
ท่านซือหยางโบกหลังมือออกไป เพื่อให้พุ่งเข้าไปปะทะกับมู่เฉียนซี
“โล่วิญญาณน้ำแข็ง!”
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีที่แข็งแกร่งของท่านซือหยาง ร่างของมู่เฉียนซีก็ถอยหลังออกไปอย่างรวดเร็ว
ท่านซือหยางมองไปที่น้ำแข็งอันบอบบางพลางกล่าวว่า “เกาะป้องกันนี้ อ่อนแอเสียเหลือเกิน”
แกรก! แกรก!
ใช่แล้ว การป้องกันของโล่วิญญาณน้ำแข็งเปาะบางจริง ๆ
แต่หลังจากที่มู่เฉียนซีจับการโจมตีของเขาได้ ก็ใช้การเคลื่อนไหวเพียงชั่วพริบตาไปปรากฏตัวอยู่เหนือหัวของท่านซือหยาง
กระบี่มังกรเพลิงพิฆาตวิญญาณกวัดแกว่งออกไป มู่เฉียนซีร้องตะโกนว่า “เก้าอัคคีพิฆาต!”
การโจมตีที่กะทันหันนี้ ทำให้ท่านซือหยางตกใจเป็นอย่างมาก
แม่สาวคนนี้ถูกเขาโจมตีไปแล้วแท้ ๆ ไม่คาดคิดเลยว่าจะยังมีแรงมาโจมตีเขาต่ออีก มังกรเพลิงทั้งเก้าพุ่งเข้ามาอย่างเดือดดาล และท่านซือหยางจึงรีบสะบัดเสื้อคลุม จากนั้นก็อัญเชิญอาวุธป้องกันศักดิ์สิทธิ์ออกมาชิ้นหนึ่ง
ปัง ปัง ปัง!
แน่นอนว่ามันได้ส่งผลกระทบต่ออาวุธป้องกันศักดิ์สิทธิ์ไม่น้อย สิ่งนี้ทำให้ท่านซือหยางตกใจเป็นอย่างมาก
สาวน้อยผู้นี้เพิ่งจะอยู่ขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับหกเท่านั้น หากความสามารถของนางไปถึงขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์แล้วละก็ การโจมตีเช่นนี้คงไม่สามารถจัดการได้อย่างง่ายดายโดยใช้แค่อาวุธป้องกันศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น
ท่านซือหยางมองไปที่มู่เฉียนซีอย่างเคร่งขรึม “แม่สาวน้อย ดูท่าข้าจะไม่ให้ความสำคัญกับเจ้าไม่ได้แล้ว”
และในครั้งนี้ ท่านซือหยางก็ไม่ได้ออมแรงเอาไว้เลย
ในฐานะนักเล่นคาถาอาคมคนหนึ่ง แน่นอนว่าสิ่งที่เขาเก่งกาจไม่ใช่การโจมตีทางทักษะวิญญาณ แต่เป็นคำสาป!
เขาทำเสียงฮึดฮัดอย่างเย็นชา “แม่สาวน้อย ข้าจะให้เจ้าได้รับรู้ถึงความทรมานเสียหน่อยก็แล้วกัน ต่อไปนี้ มันจะไม่ใช่สิ่งที่การป้องกันอันแข็งแกร่งของเจ้าจะสามารถสกัดกั้นไว้ได้อย่างสมบูรณ์แน่นอน”
“ไป!”
พลังคำสาปหลอมรวมจนกลายเป็นผนึก และพุ่งโจมตีใส่มู่เฉียนซี
ทันใดนั้น ท่านซือหยางก็สัมผัสได้ถึงแรงกดดันของพลังจิตวิญญาณอันน่าสะพรึงกลัวกำลังจู่โจมเข้ามา และมันก็มีความงุนงงปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของเขา
เป็นไปได้อย่างไร!
ความเชี่ยวชาญในพลังคำสาปของมู่เฉียนซีนั้น มีความคล่องแคล่วมากกว่าเขาเสียอีก
ริมฝีปากชมพูระเรื่อแยกออกจากกันเล็กน้อย จากนั้นพ่นคำพูดออกมาคำหนึ่ง
“ทำลาย!”
คำสาปที่น่าภาคภูมิใจของท่านซือหยางนั้น ถูกมู่เฉียนซีทำลายไปได้อย่างง่ายดาย
แรงกดดันของจิตวิญญาณอันน่าสะพรึงกลัวโหมกระหน่ำเข้ามา ท่านซือหยางเลือกที่จะหลีกเลี่ยงความแข็งแกร่งของศัตรู แม่สาวน้อยผู้นี้รับมือยากเกินไปแล้ว มันยากที่จะต่อกรได้!
เขาล่าถอยออกมาอย่างรวดเร็ว แต่มู่เฉียนซีกลับโจมตีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
นางรวมรวมพลังวิญญาณธาตุวารีทั่วทั้งร่างกาย พลังวิญญาณธาตุวารีหลอมรวมเข้าด้วยกันอย่างไม่มีที่สิ้นสุดราวกับคลื่นทะเลอย่างไรอย่างนั้น
“มังกรวารีจงบังเกิด!”
ลำแสงสีน้ำเงินปรากฏออกมากลางอากาศ พลังอันน่าสะพรึงกลัวทำให้เผ่ามังกรที่อยู่บริเวณโดยรอบต่างรู้สึกตื่นตกใจ
สุ่ยอู๋ซินก็มองเห็นร่างนั้นเช่นเดียวกัน แล้วเขาก็กล่าวอย่างตื่นเต้นว่า “ท่านมังกรวารี!”
“เป็นท่านเทพมังกร ท่านเทพมังกรออกมาแล้ว”
“……”
ทักษะวิญญาณนี้ มาพร้อมกับพลังอันแข็งแกร่งของมังกรวารี
สีหน้าของท่านซือหยางเปลี่ยนไปอย่างมาก มันช่างยากที่จะจินตนาการจริง ๆ ที่การโจมตีที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้จะเป็นฝีมือของขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตคนหนึ่งเท่านั้น
ปัง ปัง ปัง!
ท่านซือหยางนำเอาไพ่ตายต่าง ๆ ออกมา โดยที่ไม่ออมมือเลยแม้แต่น้อย
ไม่อย่างนั้นมันคงจะต้องจบลงด้วยการบาดเจ็บสาหัสอย่างแน่นอน ซึ่งนั่นก็ไม่ดีเอาเสียเลย
“อัญเชิญ!”
ตูมม โครมมม!
ท่านซือหยางอัญเชิญพลังคำสาปที่น่าสะพรึงกลัวออกมา คำสาปนั้นได้กลายเป็นมังกรดำตัวหนึ่งและเข้าไปพัวพันมังกรวารีเอาไว้
ตูม!
เสียงการปะทะที่น่าหวาดกลัวดังออกมา และพื้นที่ทั่วทั้งบริเวณต่างก็สั่นสะเทือน
ตูมมม โครมม!
การโจมตีทางด้านของจิ่วเยี่ย ก็เพิ่มความน่าหวาดกลัวมากขึ้นไปอีกเช่นกัน
พรวด! ในที่สุดท่านซือหยางก็ได้รับบาดเจ็บ
“แม่สาวน้อย ข้าดูถูกเจ้าเกินไปแล้ว! แต่ข้าก็ไม่เชื่อว่าทักษะวิญญาณที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ เจ้าจะยังสามารถใช้มันได้อีกครั้ง!”
แน่นอนว่าไม่ได้อยู่แล้ว เนื่องจากทักษะวิญญาณธาตุวารีนั้นได้เหลือน้อยมากแล้ว
มู่เฉียนซียึดกระบี่มังกรเพลิงพิฆาตวิญญาณเอาไว้แน่น “เจ้าคิดว่าข้าจะต้องกลัวเจ้าอย่างนั้นหรือ?”
ในเมื่อไม่สามารถใช้คำสาปได้ ท่านซือหยาจึงสามารถใช้ได้เพียงพลังวิญญาณในการต่อสู้กับมู่เฉียนซีเท่านั้น
การต่อสู้กับขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตคนหนึ่ง เพียงเท่านี้ก็มากเกินพอแล้ว
พลังธาตุอัคคีอันน่าสะพรึงกลัวพัดโหมกระหน่ำเข้ามา นางไม่ได้เป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังธาตุเดี่ยว ในเมื่อพลังธาตุวารีได้ถูกใช้ไปจนหมดสิ้นแล้ว นางก็นำธาตุอัคคีขึ้นมาต่อสู้แทน!
“เพลิงสังหารซิวหลัว!”
ปัง ปัง ปัง!
การโจมตีนั้นคว้าน้ำเหลว ดวงตาของท่านซือหยางฉายแววจิตสังหารที่เย็นยะเยือกออกมา
จำเป็นที่จะต้องกำจัดนางเด็กสาวผู้นี้ให้ได้
และการโจมตีของเขา ก็รุนแรงมากยิ่งขึ้น
“หากเจ้ายอมถูกจับแต่โดยดี ข้าจะทำให้เจ้าได้ตายอย่างสบายกว่านี้หน่อย”
“ฝันไปเถอะ!”
ตูม!
มู่เฉียนซีถูกโจมตีจนลอยละลิ่วออกไป ถึงแม้จะผ่านการฝึกฝนร่างกายจนมีพลังการป้องกันอันน่าทึ่งมาแล้ว แต่นางก็สามารถที่จะรู้สึกไม่ดีได้เช่นกัน