ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1757 นิรันดร์แทะโลม
เหลิ่งหนิงจือกล่าวว่า “มีสิ! แต่ว่าข้าไม่บอกเจ้าหรอก”
โม่ซวนไม่ได้คุ้นเคยกับเหลิ่งหนิงจือเหมือนกับมู่เฉียนซี ดังนั้นจึงต้องคาดเดาไม่ออกอยู่แล้ว
หลังจากที่ได้ข่าวคราวมาว่าสำนักเล่ออันได้หายสาปสูญไปอย่างสมบูรณ์ การเคลื่อนไหวขั้นต่อไปของมู่เฉียนซีก็คือการเข้าไปในแดนซวนเทียน
“ตอนนี้หอหมอปีศาจที่อาณาจักรหนานหลิงน่าจะเปิดแล้ว เราน่าจะต้องไปตะวันออกเฉียงใต้ของราชวงศ์ตงหวงดูเสียหน่อย และถือโอกาสนี้ไปหาประสบการณ์และสร้างชื่อเสียงด้วย”
นิ้วเรียววาดผ่านใบหน้าของตนเอง ใบหน้านี้มีความคล้ายคลึงกับมู่หลินหลางเป็นอย่างมาก ทางที่ดีในอาณาจักรหนานหลิงเล็ก ๆ แห่งนี้ไม่ใช้มันจะดีกว่า
“ที่รัก นี่มันไม่น่าเสียดายมากเกินไปหน่อยหรือ!” มีน้ำเสียงที่ดูงงงวยเสียงหนึ่งดังขึ้นมา
“นิรันดร์!”
“หวานใจของข้า ข้ามีเรื่องที่จะทำให้เจ้าประหลาดใจ เจ้าอย่าได้ตื่นเต้นเกินไปนักล่ะ!”
มู่เฉียนซีตกใจเล็กน้อย แล้วกล่าวว่า “เรื่องประหลาดใจอะไร?”
ลมกระโชกพัดผ่านมาอย่างรุนแรง และมีร่างสีขาวร่างหนึ่งปรากฏขึ้นมาเบื้องหน้าของมู่เฉียนซี
นั่นก็คือนิรันดร์!
รูปร่างของเขา เปลี่ยนเป็นชัดเจนมากยิ่งขึ้น และมู่เฉียนซีก็สามารถมองเห็นรูปหน้าหน้าตาได้อย่างชัดเจนมากขึ้นแล้ว
“เจ้าหลงใหลในความงดงามของข้าแล้วใช่หรือไม่ เจ้านายของข้า” ดวงตาที่งามหยดย้อยคู่นั้น จ้องมองมาที่มู่เฉียนซีด้วยความเสน่หา
ไม่ว่าจะเป็นหญิงสาวคนไหนก็ยากที่จะต้านทานสิ่งนี้ได้ และไม่อาจควบคุมตนเองให้ไม่เข้าไปติดอยู่ในกับดักที่อ่อนโยนนี้ได้เช่นกัน
ชุดสีขาวที่ดูแล้วเรียบง่าย แต่เมื่อนิรันดร์สวมใส่มันกลับให้ความรู้สึกที่ทั้งหรูหราและดูอ่อนโยน
ใบหน้างดงามไร้ที่ตินั้นเป็นเหมือนดั่งเทพบุตร และยังเหมือนกับปีศาจจิ้งจอกที่ถูกฝึกฝนมานับหมื่นปี
และเจ้าของรูปโฉมที่งดงาม เพียงพอจะทำให้ทั้งโลกและสวรรค์ต้องสับสนได้ ก็คือนิรันดร์นั่นเอง
ลำคอที่ขาวราวกับไข่มุกนั้นก้มต่ำลงเล็กน้อย จากนั้นก็จ้องมองไปที่มู่เฉียนซีแล้วกล่าวว่า “ที่รัก เจ้าพูดมาสิ! ว่าข้าดูดีและมีเสน่ห์มากกว่าหวงจิ่วเยี่ยผู้นั้น เจ้าใจเต้นใช่หรือไม่ หากใจเต้นละก็ ไม่ต้องการหวงจิ่วเยี่ยนั่นแล้วดีหรือไม่”
เขาอ้าแขนทั้งสองข้างออก เพื่อเตรียมพร้อมที่จะโอบกอดคนตรงหน้า
ไม่ว่าหญิงสาวคนใดก็ไม่อาจที่จะปฏิเสธอ้อมกอดที่ท่านนิรันดร์ผู้นี้มอบให้ได้ แต่ทว่ามู่เฉียนซีกลับหลบหนีออกไปในชั่วพริบตาเดียว
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “นิรันดร์ ยินดีกับเจ้าด้วย ฟื้นตัวได้ไม่เลวเลยทีเดียว”
“ที่รัก นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าโดนหญิงสาวปฏิเสธ เจ้าโจมตีข้ารุนแรงเกินไปแล้ว หรือว่าข้าดูมีเสน่ห์ไม่พออย่างนั้นหรือ?” ขนตาที่เหมือนกับปีกของผีเสื้อกระพือเล็กน้อย และนิรันดร์ก็แสดงสีหน้าปวดใจออกมา
“ข้าคิดว่า ตอนที่เจ้ากำลังปรุงยานั้นมีเสน่ห์มากกว่า เจ้าในตอนนี้ก็เหมือนผีเสื้อดอกไม้ตัวหนึ่งเท่านั้น!” มู่เฉียนซีเบ้ปาก
เขางดงาม และน่าหลงใหลมาก เพียงแต่ว่าตอนนี้นางมีแรงต้านทานที่แข็งแกร่งมากกว่าแล้ว ถึงแม้ว่าจะมีจิ้งจอกแก่หมื่นปีมาอยู่ตรงหน้านางก็ตาม
“ผีเสื้อดอกไม้! ที่รักพูดกับข้าเช่นนี้ มันช่างทำให้ข้ารู้สึกเป็นเกียรติมากเลยจริง ๆ”
ดวงตานั้นหยาดเยิ้มราวเส้นไหม นิรันดร์ไม่ยอมแพ้เลยจริง ๆ!
เขาพยายามที่จะล่อลวงมู่เฉียนซีทุกวิถีทาง เขาไม่เชื่อว่าทักษะของเขาจะไม่สามารถคว้าเอาเจ้านายที่รักของเขามาได้
มุมปากของมู่เฉียนซีกระตุกยกขึ้นมาอย่างรุนแรง “นิรันดร์ เจ้าอย่ามาส่งตาหวานเยิ้มมั่วซั่วเช่นนี้ หากยังส่งตาหวานต่อไป แล้วมันทำให้ข้ารำคาญใจแล้วละก็ ระวังของของเจ้ามันจะยกไม่ขึ้นอีก!”
นิรันดร์ยิ้มอย่างมีเสน่ห์พลางกล่าวว่า “ทักษะการปรุงยาของที่รักเยี่ยมยอดมาก แต่ทว่าเจ้าวางยาพิษข้าไม่ได้หรอก ไม่เช่นนั้นพวกเราจะมาลองดูก็ได้ แล้วเจ้าก็จะได้รู้ว่าทักษะของข้านั้นดีกว่าหวงจิ่วเยี่ยอย่างมากเพียงใด”
นิรันดร์โน้มตัวเข้ามาใกล้มู่เฉียนซีราวกับว่าร่างกายไม่มีกระดูกอย่างไรอย่างนั้น และมู่เฉียนซีก็ต้องหลบเลี่ยงไปอีกครั้ง
“รับประกันว่าเจ้าต้องพอใจ หากเจ้าไม่พอใจแล้วละก็ข้าก็จะไม่มารบกวนเจ้าอีกเลยดีหรือไม่?”
“ที่รัก…”
“เจ้านายที่รัก…”
“ยอดดวงใจของข้า!”
ความรู้สึกที่โดนจิ้งจอกเฒ่าตัวหนึ่งเข้ามาติดพันนั้น ทำให้มู่เฉียนซีแทบจะเป็นบ้าตายอยู่แล้ว
นิรันดร์ผู้ชายคนนี้สามารถฟื้นตัวเป็นร่างมนุษย์ทั่วไปที่มีลักษณะเช่นนี้มาปรากฏตัวต่อหน้านางได้ รู้อย่างนี้คงไม่ใช้เพลิงหงส์อมตะมาช่วยฟื้นตัวให้กับเขาตั้งแต่แรกแล้ว
แน่นอนว่ามู่เฉียนซีชื่นชมทักษะการก่อกวนของผู้ชายคนนี้เป็นอย่างมาก
และตอนนี้มู่เฉียนซีก็ทนไม่ไหวอีกแล้ว นางกล่าวว่า “นิรันดร์ เจ้าจะกลับไปที่มิติ หรือว่าจะยืนอยู่ตรงนี้ แล้วทำงานให้ข้า มิฉะนั้นข้าก็ไม่รังเกียจที่จะให้มังกรวารีออกมาคุยกับข้าแทนเจ้า”
มังกรวารีมีความสุขุมมากกว่า และแน่นอนว่านิรันดร์ดูเป็นผู้ชายที่มีความเหลาะแหละคนหนึ่งเท่านั้น
นิรันดร์กล่าวว่า “ที่รัก! อย่านะ! ข้าไม่ต้องการให้คนหัวโบราณผู้นั้นมารบกวนโลกของเราทั้งสองคน แล้วไหนจะยังต้องถูกสั่งสอนอีก”
“เช่นนั้นก็ทำตัวปกติกับข้าหน่อยสิ!”
“ท่าทางปกติของข้าก็เป็นเช่นนี้! ที่รัก เจ้าไม่ชอบอย่างนั้นหรือ?”
“เช่นนั้นเจ้าอยากที่จะกลับไปสินะ?” มู่เฉียนซีคิดอยากจะโยนชายผู้ที่ไม่จริงจังผู้นี้กลับเข้าไปในมิติพันธสัญญาเสียจริง ๆ
“ที่รัก แต่ว่าข้ามีข่าวที่ดีมากอย่างหนึ่งต้องการที่จะบอกเจ้า เจ้าอยากฟังหรือไม่?” และนิรันดร์ก็คลี่ยิ้มออกมาอย่างงดงามดั่งมวลผกา
“ข่าวดีอะไรกัน?”
“เจ้าจูบข้าทีหนึ่งก่อน แล้วข้าจะรีบบอกเจ้าทันที!”
ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ! มู่เฉียนซีโยนเข็มยาออกไป
“ให้เข็มยาของข้าเป็นผู้จูบเจ้าแทน ดีหรือไม่?” มู่เฉียนซีกล่าว
นิรันดร์หลบหลีกราวกับสายลม แววตาของเข้าจ้องมองไปที่ร่างกายของมู่เฉียนซี
“ที่รัก เจ้าไม่ได้ต้องการสิ่งนี้หรอกหรือ?”
“ข้ามีบัตรอยู่ใบหนึ่ง ท่านนิรันดร์หากขาดผู้หญิงขนาดนั้นแล้วละก็ เจ้าสามารถไปหาความสุขได้เลย แล้วให้มาคิดเงินที่ข้า ถึงอย่างไรข้าก็เป็นผู้ผูกพันธสัญญาของเจ้า สามารถเอาเงินให้เจ้าใช้ได้อยู่แล้ว”
“อย่าทำเช่นนี้เลย ข้าได้กลับตัวเป็นคนดีมาก่อนหน้านี้แล้ว และข้าแค่เพียงต้องการได้ใจของที่รักเท่านั้น!”
ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ! เข็มยายิ่งเพิ่มจำนวนมากขึ้น
พลังวิญญาณธาตุวารีไหลเวียน มู่เฉียนซีไม่ต้องการที่จะไปรบกวนการพักผ่อนของมังกรวารีเพียงเพราะนิรันดร์เลยจริง ๆ แต่ทว่าเจ้าผู้ชายคนนี้มันหน้าด้านหน้าทนเกินไปแล้ว
นิรันดร์รู้ดีอยู่แล้วว่าเมื่อไรที่ควรหยุด และเขาก็มาปรากฏตัวอยู่ข้างกายมู่เฉียนซีอย่างกะทันหัน จากนั้นก็ดึงมู่เฉียนซีเอาไว้ พลางกล่าวว่า “ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ที่ดีเท่าไรนัก พวกเราไปหาสถานที่ที่ไม่มีคนแล้วค่อย ๆ คุยกันดีกว่า”
นิรันดร์มีคุณลักษณะเป็นการควบคุมสายลม ถึงแม้ว่าจะไม่มีคุณลักษะมิติของสุ่ยจิงอิ๋งที่มีความเร็วในการไหลเวียนมิติเคลื่อนย้ายในพริบตาได้อย่างรวดเร็วก็ตาม แต่ทว่าหากในระยะเวลาที่สั้น ๆ เขาก็ยังพอใช้มันได้ และหลังจากนั้นพวกเขาก็ได้มาปรากฏตัวอยู่ที่บริเวณป่าเล็ก ๆ แถวนอกเมือง
“อื้ม! บริเวณโดยรอบนี้ไม่มีผู้ใดอยู่ ค่อนข้างเหมาะสมมากเลยทีเดียว” นิรันดร์พยักหน้ากล่าวอย่างพึงพอใจเป็นอย่างมาก
“นี่เจ้าต้องการที่จะพูดอะไรกันแน่?”
“แน่นอนว่าข้าอยากที่จะสารภาพกับที่รัก! ที่รัก ข้า หม้อเทพนิรันดร์แห่งหม้อวิญญาณนิรันดร์ยอมรับเจ้าแล้ว เจ้าเป็นหนึ่งเดียวของข้า ข้าคือ…”
คำบอกรักที่หวานซึ้งไม่สุดสิ้นนั้น นิรันดร์สามารถพูดออกมาได้อย่างง่ายดาย
มันยิ่งซาบซึ้งมาเท่าไรก็ยิ่งสะเทือนอารมณ์มากเท่านั้น และมันสามารถทำให้กระดูกของคนฟังกรอบไปหมด
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยสีหน้าที่เอือมระอาว่า “นิรันดร์ เจ้าอยากจะกลายเป็นคนใบ้หรือไม่? บอกข้าเกี่ยวกับธุระมาเสียดี ๆ ไม่อย่างนั้นเจ้าก็กลับไปหลับต่อเสียเถอะ!”
“ที่รักยิ่งเจ้าจู่โจมได้ยากถึงเพียงนี้ ข้าก็จะยิ่งหงุดหงิดและกล้าหาญมากขึ้นเรื่อย ๆ ให้โอกาสข้าสักครั้งเถอะ!” นิรันดร์กะพริบตาปริบ ๆ แล้วจ้องมองไปที่มู่เฉียนซี และยังมีแววตาที่แสดงความรู้สึกลึกซึ้งปนอยู่ด้วย
มู่เฉียนซีรู้สึกปวดหัวเป็นอย่างมาก “ข้าจะนับหนึ่งถึงสาม หากเจ้ายังไม่พูดธุระออกมาอีกละก็ ข้าจะเตะเจ้ากลับไปแน่!”
“เอาล่ะ! เอาล่ะ! ข้าไม่แกล้งเจ้านายที่สุดแสนจะน่ารักของข้าแล้ว เอามือของเจ้ามาวางไว้บนฝ่ามือของข้า!”
นิรันดร์เก็บเอารอยยิ้มที่ไม่จริงจังกลับไป แล้วยืนมือทั้งสองออกไป
เขากล่าวว่า “มีเรื่องที่ทำให้ประหลาดใจ!”
มู่เฉียนซีวางมือลงไป ทันใดนั้นธาตุวายุจากบริเวณโดยรอบก็ทะลักเข้าไปในเส้นเลือดของนางอย่างกะทันหัน ในฐานะที่เป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังธาตุสามธาตุของมิติ วารี และอัคคีคนหนึ่ง ในเวลานี้นางก็สามารถสัมผัสถึงพลังธาตุที่สี่ได้แล้ว ซึ่งนั่นก็คือพลังธาตุวายุ