ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1761 พลังวายุจันทราไร้คู่
“ศิษย์ที่รัก!” ดูเหมือนว่านิรันดร์จะติดนิสัยการเรียกด้วยชื่อนี้ไปเสียแล้ว
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “นิรันดร์ เจ้าพอได้แล้ว! ข้ายอมรับว่าครึ่งหนึ่งเจ้าถือเป็นอาจารย์ในด้านการปรุงยาของข้า แต่ว่าเจ้าหยุดเรียกข้าด้วยคำเลี่ยน ๆ เช่นนี้สักทีได้หรือไม่? เรียกชื่อของข้าตามปกติมันจะตายหรืออย่างไร!”
นิรันดร์กล่าวว่า “ข้าจะทำกับเจ้าเหมือนคนอื่นได้อย่างไรล่ะ! สำหรับคนที่ตนเองชอบมากที่สุด แน่นอนว่าจะต้องเรียกด้วยความรักใคร่มากเป็นพิเศษอยู่แล้ว”
“และตอนนี้ข้าค้นพบแล้วว่าคำว่าศิษย์ที่รักให้ความรู้สึกดีมากกว่าที่รักเสียอีก!” น้ำเสียงที่ล่อลวงนั้นกำลังยั่วเย้ามู่เฉียนซีอยู่ตลอดเวลา
แต่มู่เฉียนซีก็ได้ฝึกฝนจนกลายเป็นกำแพงเหล็กกล้าแล้ว ถึงจะเป็นเทคนิคของปีศาจจิงจอกอย่างนิรันดร์ สำหรับนางแล้วไม่ได้มีประโยชน์เลย
เหนือโครงกระดูกที่อยู่ด้านหน้า มีอาวุธศักดิ์สิทธิ์มากมายอย่างที่คาดคิดเอาไว้
ซิ่วจวนกล่าวว่า “หาเจอแล้ว ข้าไม่มีทางปล่อยพวกเจ้าต้องเสียเปรียบอยู่แล้ว อาวุธศักดิ์สิทธิ์นี้ใครหยิบไปก่อนและมันยอมรับคนผู้นั้นเป็นเจ้าของก่อน มันก็เป็นของคนคนนั้นไปเลย”
นี่ยังไม่เรียกว่าเสียเปรียบอีกหรือ พวกเขามีคนมากกว่า ทว่าทางพวกของมู่เฉียนซีมีเพียงแค่สองคนเท่านั้น นี่มันก็เสียเปรียบมากอยู่แล้ว
ในตอนที่พวกเขาพุ่งทะยานออกไป มู่เฉียนซีก็รู้สึกว่ามีบางสิ่งที่ตัวใหญ่พุ่งออกมาจากบริเวณโดยรอบจำนวนมากเช่นกัน!
ตูมม!
อย่างที่คาดไว้ พวกเขายังไม่ทันได้แตะต้องอาวุธศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้น ก็กลับถูกโจมตีเสียแล้ว
“คิก คิก คิก! ปลาตัวน้อยน่ารักเหล่านี้มาติดเบ็ดอีกแล้ว”
มีปีศาจร่างมนุษย์คนหนึ่งออกมายืน และส่งเสียงหัวเราะเย้ยหยันออกมา
“พวกมนุษย์เหล่านี้ช่างไร้เดียงสาเกินไปแล้ว ฮ่า ฮ่า ฮ่า! พวกเรามาเริ่มการนองเลือดกันดีกว่า”
หลังจากนั้น ก็มีเหล่าปีศาจจำนวนไม่น้อยปรากฏตัวขึ้นมา
สีหน้าของคนจากสำนักอวิ๋นซิ่วเหล่านั้นซีดเผือด “แย่แล้ว! พวกเราหลงกลเข้าให้แล้ว ไม่คาดคิดเลยว่าเจ้าปีศาจเหล่านี้จะรู้วิธีการวางกับดักด้วย ครั้งนี้พวกเราแย่แน่แล้ว”
นี่เป็นครั้งแรกที่มู่เฉียนซีได้เจอกับปีศาจที่สามารถเข้าใจคำพูดของคนได้เช่นกัน
ปีศาจหลายตัวเหล่านี้พุ่งเข้ามา และคนของสำนักอวิ๋นซิ่วก็เริ่มโจมตีกลับ
“พลังวายุท้าจันทรา!”
มู่เฉียนซีหมุนเวียนพลังธาตุวายุ ทั้งยังหลบหลีกการโจมตีของปีศาจเหล่านั้นได้อย่างงดงาม และหลังจากนั้นก็พุ่งทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า
ปัง ปัง ปัง!
ทว่าทางคนของสำนักอวิ๋นซิ่วเหล่านั้นกลับถูกปีศาจโจมตีอย่างน่าเวทนา เมื่อพวกเขาเห็นว่ามู่เฉียนซียังปลอดภัยไร้รอยแผล ทั้งแววตาของพวกนางก็เคร่งขรึมขึ้น
เป็นทักษะวิญญาณที่ยอดเยี่ยมเหลือเกิน อยู่เพียงขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตคนหนึ่งเท่านั้น แต่กลับมีความสามารถถึงเพียงนี้ หญิงสาวคนนี้มีอาจารย์ที่ปูทางมาได้ดีจริง ๆ!
“โจมตี ฆ่ามัน!” ซิ่วจวนกล่าว
ปีศาจมีจำนวนเยอะมากขึ้นเรื่อย ๆ และเหล่าผู้อาวุโสที่คอยคุ้มกันพวกเขาก็เริ่มต้านมันเอาไว้ไม่ไหวแล้ว
มู่เฉียนซีได้ใช้ประโยชน์จากความคล่องตัวที่มีมากเป็นพิเศษของนางในการเคลื่อนไหวไปรอบ ๆ และหาโอกาสในการโจมตีเข้าไปในบรรดาปีศาจเหล่านั้น ซึ่งนั่นก็ทำให้พวกเขาสบายตัวขึ้นไม่น้อยเลย
พรวด พรวด พรวด!
คนของสำนักอวิ๋นซิ่วล้วนได้รับบาดเจ็บ และกลิ่นคราวเลือดก็ทำให้ปีศาจเหล่านั้นฮึกเหิมมากขึ้นไปอีก
“เลือดสด ๆ ของมนุษย์ ไม่เลวเลย ไม่เลว! ข้าพึงพอใจมาก!”
“โจมตี! โจมตีมันซะ!”
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับความแข็งแกร่งของศัตรูที่โหดเหี้ยมเหล่านี้ สีหน้าของเหล่าลูกศิษย์แต่ละคนของสำนักอวิ๋นซิ่วต่างก็ขาวซีดราวกับกระดาษเลยทีเดียว
“คุณชาย ทะ…ท่านรีบลงมือเร็วเข้า! พวกเราใกล้ที่จะต้านมันเอาไว้ไม่ไหวแล้ว” ซิ่วจวนทำได้เพียงแค่ขอร้องให้นิรันดร์ช่วยเหลือ
นิรันดร์ที่สวมชุดสีขาวหมดจด มีอารมณ์ที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยน มันมีไว้สำหรับเจ้านายของเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น
และสำหรับคนอื่นนั้น เขามีให้เพียงแค่ความเฉยชา
“คิดว่าข้าเป็นผู้ใดกัน ข้าไม่เคยลงมือง่าย ๆ มาก่อน! มีเพียงแค่ตอนที่ศิษย์ที่รักของข้ามีอันตรายเท่านั้นข้าถึงจะยอมลงมือ เช่นนั้นพวกเจ้าก็ยืนหยัดมีชีวิตรอดกันเอาเองเสียเถอะ!”
เมื่อได้ยินคำพูดของนิรันดร์ พวกเขาแต่ละคนต่างก็โมโหจนแทบที่จะกระอักเลือดออกมาอยู่แล้ว
เขาจะเคลื่อนไหวก็ต่อเมื่อมู่เฉียนซีคนนั้นมีอันตรายเท่านั้น นี่เขาไม่ได้ให้ความสำคัญต่อชีวิตของพวกเขาเลยอย่างนั้นหรือ?
ภายในใจของพวกเค้าโกรธเคืองเป็นอย่างมาก และสีหน้าของซิ่วจวนก็มืดมนลง
ให้ตายเถอะ ไม่คิดเลยว่าเขาจะไม่ให้ความสำคัญต่อชีวิตของพวกเราเลย เช่นนั้นก็ทำให้ศิษย์ที่รักของเจ้าต้องตกอยู่ในอันตรายบ้างก็แล้วกัน!
คิดจริง ๆ หรือว่าความเร็วเพียงเท่านี้ จะสามารถอยู่อย่างไร้กังวลได้? ฝันไปเถอะ!
ปัง ปัง ปัง!
ซิ่วจวนที่กำลังต่อสู้กับปีศาจเหล่านี้ ให้เหล่าศิษย์น้องทั้งชายหญิงตรึงปีศาจเอาไว้ และหลังจากนั้นก็เข้าไปใกล้มู่เฉียนซี
นางคิดว่าตนเองสามารถโรยผงยาลงไปอย่างลับ ๆ ได้สำเร็จโดยที่มู่เฉียนซีไม่รู้ตัว แต่ทว่าอันที่จริงมู่เฉียนซีสังเกตเห็นได้ตั้งนานแล้ว
โฮกกก!
ผงยาที่ตกอยู่ข้างกายของมู่เฉียนซีนั้น ทำให้ปีศาจเหล่านี้รู้สึกคึกคักขึ้นมาอย่างสมบูรณ์ และพวกมันก็พุ่งตรงเข้าไปหามู่เฉียนซีอย่างต่อเนื่อง
ซิ่วจวนกล่าวว่า “สำเร็จแล้ว พวกเราถอย!”
ปีศาจเหล่านั้นไปล้อมรอบมู่เฉียนซีเอาไว้ และมันก็ได้ทำให้ความกดดันของพวกเขาน้อยลงไปไม่น้อยเลย
ตอนนี้พวกเขาห่วงเพียงแค่การหนีเอาชีวิตรอดเท่านั้น แม้กระทั่งอาวุธศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้นก็ไม่กล้าที่จะหยิบขึ้นมาเลยด้วยซ้ำ ตอนนี้คิดหนีเอาชีวิตรอดออกไปให้ก่อนค่อยว่ากัน
แต่ละคนวิ่งหนีเร็วยิ่งกว่ากระต่ายเสียอีก และมู่เฉียนซีก็สามารถระเบิดพลังธาตุวายุได้อย่างสมบูรณ์แบบ
“พลังวายุทำลายวิญญาณ!”
“พลังวายุกักขังวิญญาณ!”
ปัง ปัง ปัง!
ความเร็วของสายลมในอากาศกลายเป็นรวดเร็วมากถึงขีดสุด และได้ปกคลุมบรรดาปีศาจเหล่านี้เอาไว้
“โฮกกกก!” ปีศาจเหล่านี้ร้องคำรามออกมาเสียงดังกึกก้อง และพยายามที่จะพุ่งออกมาจากพายุลมที่หมุนวน เพื่อเข้าไปคว้ามู่เฉียนซีไว้
มู่เฉียนซีหลบหลีกอย่างรวดเร็ว และได้เริ่มต่อสู้กับปีศาจระดับสูงเหล่านี้
นางจ้องมองไปทางนิรันดร์ที่อยู่อีกด้านหนึ่ง “นิรันดร์ โชคชะตารักแย่ ๆ ของเจ้าสร้างปัญหามากเกินไปแล้ว!”
นิรันดร์กล่าวว่า “ศิษย์ที่รัก หญิงสาวผู้นั้นอัปลักษณ์ถึงเพียงนั้น ข้าไม่มีทางยอมรับว่านั่นเป็นโชคชะตารักแย่ ๆ ของข้าอย่างแน่นอน เจ้าอย่ามาโยนความคิดเช่นนี้ให้กับข้าเลย!”
ปัง!
การโจมตีของพวกมันไม่อาจทำให้พลังทางกายภาพที่แข็งแกร่งของมู่เฉียนซีได้รับบาดเจ็บสาหัสได้ แต่มันก็ทำให้รู้สึกอึดอัดเช่นกัน
“สมแล้วที่เป็นปีศาจระดับสูง ความแข็งแกร่งนี้ถือว่าไม่เลวเลย! ไม่ผิดเลยจริง ๆ!”
แสงสีม่วงสว่างวาบ เสียงการจู่โจมดังขึ้นนับไม่ถ้วนอยู่กลางอากาศ และคมมีดวายุก็เต้นเร่าอย่างบ้าคลั่ง
ปัง ปัง ปัง!
ปีศาจเหล่านี้ยิ่งต่อสู้ก็ยิ่งกล้าหาญมากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ แม้จะใช้พลังวิญญาณทั้งธาตุวารีและธาตุอัคคีทั้งหมดแล้วก็ตาม ก็ยังกำจัดพวกเขาให้สิ้นซากไปได้ไม่ง่ายเลย แล้วนับประสาอะไรกับพลังวิญญาณธาตุวายุที่ตนเองสามารถควบคุมได้อย่างกำจัดเช่นตอนนี้กันล่ะ
นี่เป็นการต่อสู้ที่ดุเดือด และภายในการต่อสู้ที่ดุเดือดนี้ ทำให้ความสามารถของมู่เฉียนซีนั้นทั้งแข็งแกร่งและมั่นคงมากยิ่งขึ้นแล้ว
นิรันดร์ลอยอยู่กลางอากาศ ชุดคลุมสีขาวพลิวไสวไปมาอยู่ในสายลมอย่างบ้าคลั่ง
เขากล่าวด้วยรอยยิ้ม “ศิษย์ที่รัก กระบวนท่าทั้งสองเจ้าใช้ได้อย่างสมบูรณ์แบบมากแล้ว เช่นนั้นอาจารย์เช่นข้าจะสอนเจ้าอีกกระบวนท่าหนึ่ง เจ้าจดจำความรู้สึกไว้ให้ดี ๆ ล่ะ!”
“พลังวายุจันทราไร้คู่!”
ทันใดนั้น สายลมมากมายรวมตัวจนแปรเปลี่ยนเป็นพระจันทร์กลมโตเต็มดวงและมันก็ปะทุออกมา จากนั้นก็วาดเป็นมุมโค้งไปในอากาศ แล้วพุ่งเข้าใส่ปีศาจเหล่านั้นอย่างคดเคี้ยวและสมบูรณ์เป็นอย่างยิ่ง!
ปัง ปัง ปัง!
ในตอนที่เหล่าปีศาจยังไม่ทันได้สติกลับคืนมา ทันใดนั้นก็ถูกกำจัดไปจนสิ้นซากมากกว่าครึ่งแล้ว
นิรันดร์กล่าวอย่างเสียใจว่า “ศิษย์ที่รัก ข้าขอโทษ เมื่อครู่นี้ข้าไม่ทันได้ออมมือเอาไว้ เลยฆ่ามันมากเกินไปเสียแล้ว! ในเมื่อมันเป็นเป็นเช่นนี้แล้วเจ้าก็คงจะลดแรงกดดันลงได้บ้าง”
“หากเจ้าต้องการที่จะขอโทษอย่างจริงใจ ก็เปลี่ยนชื่อเรียกข้าเสียที!” มู่เฉียนซีกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์
หลังจากนั้นร่างสีม่วงก็พุ่งออกไป และมู่เฉียนซีก็หวนนึกถึงกระบวนท่าก่อนหน้านี้ของนิรันดร์ จากนั้นก็ปรับพลังวิญญาณของธาตุวายุ แล้วโจมตี!
“พลังวายุจันทราไร้คู่!”
นางคือผู้ผูกพันธสัญญาของนิรันดร์ พันธสัญญาจิตวิญญาณ การเชื่อมต่อของจิตวิญญาณ และทักษะวิญญาณที่นิรันดร์ใช้ มู่เฉียนซีจึงสามารถที่จะเรียนรู้มันได้อย่างรวดเร็วแน่นอนอยู่แล้ว
ใบมีดของสายลมที่เป็นราวกับพระจันทร์ พุ่งออกไปหวังบั่นคอปีศาจตัวหนึ่ง!
“โฮกกกก!” ปีศาจตัวนั้นได้รับบาดเจ็บ และมันก็คำรามร้องออกมาอย่างเดือดดาล จากนั้นก็เข้าไปพัวพันกับคู่หูของมันอีกครั้ง
การเหยียบย่างไปบนสายลมที่บางเบา และการต่อสู้ที่หมายจะเอาชีวิตนี้ในสายตาของนิรันดร์กลับเป็นเหมือนกับฉากเริงระบำอย่างไรอย่างนั้น
เขายื่นมือออกไป แล้วสัมผัสได้ถึงการหมุนเวียนของสายลมในอากาศ
“สายลมของข้าช่างเหมาะสมกับศิษย์ที่รักเหลือเกิน ทักษะวิญญาณของธาตุวายุนั้นงดงามมากที่สุด ไม่เพียงแค่มันจะไว้ใช้ต่อสู้และสังหารศัตรูเท่านั้น ทั้งยังเป็นการแสดงที่สมบูรณ์แบบอีกด้วย!”