ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1762 เจอคนรู้จัก
เสียงกรีดร้องโหยหวนอย่างน่าเวทนาดังกึกก้องออกมา และสุดท้ายปีศาจแต่ละตัวก็ล้มลงไป
ถึงแม้ต้องต่อสู้อย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน แต่ทว่าผลที่ได้ก็ทำใหมู่เฉียนซีพึงพอใจเป็นอย่างมาก
ปีศาจทุกตัวได้ถูกจัดการจนสิ้นซากไปแล้ว และมู่เฉียนซีก็ได้เก็บเอาอาวุธศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้นมาด้วย
แม้ตนเองจะไม่สามารถใช้ได้ แต่ทว่ามันก็สามารถเอามันไปขายทำเงินได้
กลิ่นของผงยานั้นยังคงหลงเหลืออยู่ในอากาศ มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ที่แท้ของเหล่านี้ก็สามารถกระตุ้นปีศาจได้นั่นเอง! ในเมื่อพวกเขาต้องสิ้นเปลืองของเหล่านี้ ข้าก็ต้องตอบแทนพวกเขากลับไปบ้างถึงจะถูก”
ด้วยเหตุนี้ มู่เฉียนซีจึงปรุงยาชนิดนั้นด้วยมือของตนเอง สำหรับนางแล้วไม่ได้มีความยากมากเท่าไรนัก ดังนั้นจึงสามารถปรุงยาให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นได้อย่างง่ายดาย
นิรันดร์กล่าวว่า “คนเหล่านั้นช่างแกว่งเท้าหาเสี้ยนกันเสียจริง ๆ เพื่อที่จะให้ตนเองได้หนีเอาชีวิตรอดไป ไม่คิดเลยว่าจะปล่อยเจ้าให้กลายเป็นเหยื่อล่อของปีศาจ ศิษย์ที่รักต้องการให้ข้าช่วยหาตำแหน่งของพวกเขาหรือไม่?”
“ด้วยพลังวิญญาณของข้า ก็เพียงพอที่จะหาพวกเขาเจอแล้วล่ะ”
มู่เฉียนซีเสียเวลาในการกำจัดปีศาจเหล่านั้นให้สิ้นซากไปไม่น้อย มันจึงทำให้พวกเขาหนีไปได้ค่อนข้างที่จะไกลมากแล้ว แต่ทว่ามันก็ยังคงอยู่ในขอบเขตของการค้นหาของมู่เฉียนซีอยู่ดี
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “หาเจอแล้ว!”
ด้วยการไหลเวียนของพลังธาตุวายุ ทำให้มู่เฉียนซีไล่ตามไปได้อย่างรวดเร็ว
“ศิษย์ที่รัก คนที่ก่อปัญหาก็คือข้า อยากให้อาจารย์คนนี้แก้แค้นให้เจ้าหรือไม่?”
นิรันดร์ก็เริ่มเคลื่อนไหวด้วยตนเองแล้วเช่นกัน เขาได้ปรุงยาผงชนิดหนึ่งออกมา ซึ่งคาดว่าจะมีประสิทธิภาพมากกว่ายาที่มู่เฉียนซีกลั่นออกมาเสียอีก
“เพียงแค่ตัวประกอบธรรมดาเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องให้เจ้ามาออกแรงหรอก! ขอเพียงแค่หลังจากนี้เจ้าเจียมตัวลงเสียบ้าง และอย่าไปหาเรื่องคนอื่นด้วยวิธีต่าง ๆ เพียงเท่านี้ข้าก็ขอบคุณฟ้าดินแล้ว”
“เฮ้อ! เสน่ห์ของข้านั้นสมบูรณ์แบบจนไม่อาจควบคุมได้ ศิษย์ที่รัก เจ้าโปรดอย่าได้รังเกียจข้าเลย!” นิรันดร์กล่าว
ในตอนที่กำลังไล่ตามพวกเขา ก็ต้องเจอกับการโจมตีของปีศาจมากมายไปตลอดทาง มู่เฉียนซีจึงได้ปรับพลังธาตุวายุแล้วเริ่มจัดการเก็บกวาด และสังหารปีศาจเหล่านั้น
ซิ่วจวนมองเห็นแขกที่ไม่ได้รับเชิญผู้นั้น และเมื่อมู่เฉียนซีมองเห็นพวกเขาก็กล่าวอย่างราบเรียบว่า “เจอพวกเจ้าอีกแล้ว!”
ซิ่วจวนตื่นตะลีงไปขณะหนึ่ง จากนั้นก็มีสีหน้าของความประหลาดใจปรากฏออกมา
“แม่นางมู่ ช่างเป็นเรื่องที่ดีจริง ๆ ที่เจ้าไม่เป็นอะไร แน่นอนว่าจะต้องเป็นอาจารย์ของเจ้าที่ช่วยไว้ใช่หรือไม่ อาจารย์ของเจ้าเก่งกาจถึงเพียงนี้ ไม่ว่าจะพบเจอกับอันตรายอะไรก็สามารถที่จะปกป้องเจ้าได้ ช่างน่าอิจฉาที่เจ้ามีอาจารย์ที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้จริง ๆ”
มู่เฉียนซีเอ่ยปากกล่าวว่า “ข้าถูกปีศาจล้อมโจมตี แต่ปีศาจเหล่านั้นกลับไม่โจมตีไปที่พวกเจ้า และปล่อยให้พวกเจ้าหนีไป แม่นางซิ่วจวนเจ้าพอจะรู้ว่าเป็นเพราะเหตุใดหรือไม่?”
ดวงตาของซิ่วจวนเป็นประกาย หลังจากนั้นจึงกล่าวว่า “คือ…ปีศาจบนเกาะวิญญาณปีศาจนั้นเต็มไปด้วยความแปลกประหลาด พวกข้าก็ไม่รู้ว่าที่จริงแล้วพวกมันกำลังคิดอะไรอยู่เช่นกัน? บางทีพวกข้าก็อาจจะแค่โชคดีมากเท่านั้น!”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ข้าไม่อยากที่จะต้องมาเสียเวลากับพวกเจ้ามากเกินไปนัก พวกเจ้ามอบของสิ่งใดให้กับข้า ตอนนี้ข้าก็จะคืนมันให้กับพวกเจ้าเช่นกัน”
ถุงยาขนาดเล็กได้ถูกมู่เฉียนซีโยนขึ้นไปบนท้องฟ้า และสายลมอ่อน ๆ ก็ฉีกถุงยานั้นให้กระจายออกมา เมื่อพวกเขาได้กลิ่นที่คุ้นเคยลอยฟุ้งอยู่ในอากาศ สีหน้าก็ได้เปลี่ยนไปทันที
“แม่นางมู่ นี่เจ้ากำลังทำอะไรกันแน่? เจ้านี่มันเหี้ยมโหดเกินไปแล้ว! เจ้าคิดจะให้พวกข้าตายหรืออย่างไร?”
“ข้าก็เพียงแค่หนามยอกเอาหนามบ่งเท่านั้นเอง เช่นนั้นก็ขอให้พวกเจ้าเพลิดเพลินไปกับของขวัญชิ้นใหญ่นี้ก็แล้วกัน!” มู่เฉียนซีกล่าวพลางหัวเราะอย่างแผ่วเบา
“ชั่วร้ายนัก!”
“ผู้อาวุโสกทุกท่าน แน่นอนว่าคงไม่อาจปล่อยให้นางหนีไปได้! ในเมื่อนางกล้าทำเช่นนี้กับพวกเรา หากต้องตายก็คงจะต้องตายไปด้วยกันแล้วล่ะ!” ซิ่วจวนกล่าวอย่างดุร้าย
ร่างเงาหลายร่างพุ่งทะยานออกไป แล้วขวางมู่เฉียนซีเอาไว้
“แม่นางน้อย ก่อเรื่องแล้วคิดจะหนีไปหรือ ทำเช่นนี้มันไม่ถูกต้องเลย”
“หยุดอยู่ที่นี่เดี๋ยวนี้!”
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเย็นชาว่า “หลีกทางให้ข้าซะ อย่ามาขวางทาง!”
“พลังวายุจันทราไร้คู่!”
มู่เฉียนซีพุ่งทะยานออกไปด้วยท่าทางที่เย่อหยิ่ง และไม่คาดคิดว่าผู้อาวุโสเหล่านั้นกลับไม่ได้ไปขวางนางเอาไว้
ความเร็วของมู่เฉียนซีนั้นรวดเร็วเป็นอย่างมาก เพียงไม่นานก็หนีไปไกลแล้ว
ตูมม!
ในเวลานี้ มีปีศาจจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งเข้ามา
พวกเขาทำให้เพียงแค่ยอมแพ้ในการไล่ล่ามู่เฉียนซี และกลับไปปกป้องลูกศิษย์ของพวกเขาก่อน
“ผู้บำเพ็ญภูตพลังธาตุวารีเร่งมือเร็วเขา พวกเจ้าล้างกลิ่นยาผงเหล่านี้ออกไปเสีย และมันก็จะไม่สร้างปัญหาอีกต่อไป”
“ขอรับ!”
ธาตุวารีได้ชำระล้างร่างกายของพวกเขา และสภาพของพวกเขาแต่ละคนในตอนนี้ก็เหมือนลูกสุนัขตกน้ำอย่างไรอย่างนั้น
แต่ทว่าการโจมตีของปีศาจเหล่านั้นก็ยังคงไม่น้อยลงเลย และพวกเขาต่างก็พากันตะลึงงันไปในทันที
“นี่มันเรื่องอะไรกัน? มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? ไม่ใช่ว่าล้างออกไปหมดแล้วอย่างนั้นหรือ?”
“หนีเร็ว!”
ผงยาที่มู่เฉียนซีเป็นคนกลั่นออกมานั้น มีการปรับปรุงประสิทธิภาพให้ดีมากขึ้น ถึงจะใช้น้ำชำระล้างก็ไม่มีทางที่จะล้างออกไปได้ และมันได้ทำให้ปัญหาที่พวกเขาต้องเผชิญหน้าต่อจากนี้ก็ไม่ลดน้อยลงเลย
หลังจากที่แก้แค้นแล้ว มู่เฉียนซีก็คิดจะไปฝึกฝน และเสาะหาสมบัติต่อไป
ตูมม!
เสียงของการต่อสู้ดังขึ้นมาจากด้านหน้า มันทำให้มู่เฉียนซีรู้สึกตกใจเล็กน้อย ดูเหมือนว่านางจะมองเห็นคนที่ดูคุ้นเคยผู้หนึ่ง
เพื่อยืนยันว่าสิ่งที่นางเห็นเป็นเรื่องจริงหรือไม่ มู่เฉียนซีจึงได้พุ่งทะยานเข้าไป
ข้างหน้านั้น มีคนสองคนที่เต็มไปด้วยบาดแผลและถูกปีศาจที่แข็งแกร่งกลุ่มหนึ่งปิดล้อมเอาไว้
“ข้าอยากจะบอกเจ้าว่าหยุดก่อนจะได้หรือไม่ มาจัดการปีศาจเหล่านี้ก่อนแล้วค่อยมาหาผู้ชนะกันอีกครั้งเถอะ”
คนที่กล่าวนั้นก็คือชายที่สวมชุดคลุมสีแดงฉานคนหนึ่ง ปีกที่กระพรืออยู่ของเขานั้นดูเหมือนกับเปลวเพลิงที่กำลังแผดเผาอยู่กลางอากาศอย่างไรอย่างนั้น
ส่วนปีกสีดำทะมึนที่กำลังกระพรืออยู่นั้น บนใบหน้าของเขาก็ถูกบดบังด้วยหน้ากากสีแดงเพลิงอันหนึ่ง บนหน้ากากนั้นถูกแกะสลักด้วยวิหคเพลิงตัวหนึ่งที่เหมือนกับมีชีวิตเป็นอย่างมาก หากพูดถึงหงส์ไฟแล้ว เขาก็คือจูเชว่นั่นเอง
“ข้าจะฆ่าเจ้าก่อน!” น้ำเสียงที่เย็นยะเยือกเสียงหนึ่งดังออกมา สายลมที่อยู่ในอากาศเต็มไปด้วยจิตสังหาร
ในเวลานี้มู่เฉียนซียังคงอยู่กับที่ แววตาของนางจับจ้องไปยังชายที่สวมชุดสีดำผู้หนึ่งนั้น
นิรันดร์จ้องมองไปที่ชายคนนั้นอย่างละเอียด “หมอนั่นก็เป็นจอมภูตพลังธาตุวายุเช่นกัน ท่าทางก็พอใช้ได้ แต่ยังห่างไกลกับข้ามากนัก! ศิษย์ที่รัก เจ้ามองเพียงแค่ข้าก็พอแล้ว จะไปมองเขาทำไมกัน?”
นอกจากพลังวิญญาณธาตุวายุที่ระเบิดออกแล้ว มันก็มาพร้อมกับโจมตีของเปลวเพลิงอีกด้วย
“ที่แท้ก็เป็นจอมภูตพลังธาตุวายุอัคคีนี่เอง แต่ทว่าสมองของเจ้านี่น่าจะมีปัญหา ปีศาจที่อยู่รายล้อมนั้นอันตรายเสียยิ่งกว่าชายชุดแดงผู้นั้นเสียอีก”
นิรันดร์กระพริบตามองไปทางมู่เฉียนซีพลางกล่าวว่า “ศิษย์ที่รัก เจ้ารู้จักเขาอย่างนั้นหรือ?”
ปัง ปัง ปัง!
การต่อสู้ที่เต็มไปด้วยความชุลมุน ไม่คาดคิดว่าภายในกลุ่มของปีศาจเหล่านั้นจะมีปีศาจที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าปรากฏตัวออกมา
มันปรากฏตัวออกมาจากอยู่ข้างหลังชายชุดดำคนนั้น และลอบโจมตีเขา!
ในตอนที่มันกำลังแอบลอบโจมตี ร่างสีดำนั้นก็ปรากฏตัวขึ้นอยู่เหนือร่างของปีศาจตัวนั้นอย่างกะทันหัน และจากนั้นเขาก็โจมตีปีศาจตนนั้นอย่างรุนแรง
ปัง!
ปีศาจตัวนั้นเหวี่ยงชายในร่างสีดำลอยละลิ่วออกไป และมันก็ล่าถอยออกไปด้วยเช่นกัน
“เงา!” นิรันดร์มองไปที่ร่างเงานั้นแล้วหัวเราะอย่างสนุกสนาน
ปัง ปัง ปัง
ความสามารถของทั้งสองคนนั้นใกล้เคียงกันอย่างมาก แต่ปีศาจเหล่านั้นต่างหากที่เป็นภัยคุกคามที่น่าหวาดกลัวที่สุด
ร่างเงานั้นสกัดกั้นปีศาจตนหนึ่งเอาไว้ แต่ทว่าต่อมาปีศาจตนนั้นก็กระโจนเข้ามาอย่างหมายที่จะเอาชีวิต และเกือบที่จะทะลุผ่านร่างของชายชุดดำนั้นไปแล้ว
ร่างสีม่วงสว่างวาบ มู่เฉียนซีใช้พลังวายุท้าจันทราพาร่างของตนลอยขึ้นไปกลางอากาศ!
พลังธาตุวายุที่อยู่บริเวณโดยรอบบ้าคลั่งขึ้นมาในทันที “พลังวายุจันทราไร้คู่!”
“โฮกกกก!” ทันใดนั้น ศีรษะของปีศาจตนนั้นก็ได้ถูกมู่เฉียนซีตัดจนขาดสะบั้น
ตึง!
พลังแห่งวายุได้กักขังคนผู้นั้นเอาไว้ เพื่อทำให้เขาที่บาดเจ็บสาหัสไม่อาจขยับตัวได้ดั่งใจ และหลังจากนั้นมู่เฉียนซีก็ลงมืออีกครั้ง
“พลังวายุทำลายวิญญาณ!”
ด้วยการใช้วิธีที่ป่าเถื่อน ทำให้เจ้าพวกนั้นถูกโจมตีจนล่าถอยออกไป แล้วมันก็ทำให้พวกเขาไม่กล้าที่จะเข้ามาใกล้มาอีก สุดท้ายแล้วมันก็เป็นผลให้ปีศาจทั้งหมดเหล่านั้นไปโอบล้อมชายชุดแดงคนนั้นเอาไว้แทน
เขากล่าวอย่างโกรธเคืองว่า “บัดซบเอ๊ย! เฟิงอวิ๋นซิว ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะยังมีผู้ช่วยอยู่ ครั้งนี้ถือว่าข้าล้มเหลวก็แล้วกัน!”