ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1774 ดาบปีศาจตัดแขน
สีหน้าของผู้ดูแลซีดเผือดลง พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า “ขะ ข้าให้เดี๋ยวนี้ เจ้าอย่าได้วู่วามเชียวนะ หากฆ่าข้าไป มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรกับเจ้าเลย”
“เร็วเข้า!”
ผู้ดูแลรีบหยิบเอาป้ายคำสั่งออกมายื่นให้มู่เฉียนซี และในตอนนี้เองชายชราชุดคลุมยาวสีอำพันผู้หนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้น
“นี่มันเกิดเรื่องอันใดขึ้น? นึกไม่ถึงเลยว่าจะมีคนกล้ามาก่อเรื่องวุ่นวายยังสถานที่ที่อยู่ในการดูแลของข้า!”
“ท่านผู้อาวุโสหวัง ช่วยด้วยขอรับ!”
มีคนช่วยชีวิตแล้ว และแน่นอนว่าผู้ดูแลผู้นี้ต้องเอ่ยปากร้องขอความช่วยเหลืออย่างสุดชีวิต
ผู้อาวุโสหวังมองรูปลักษณ์ของมู่เฉียนซีที่กำลังจับผู้ดูแลเป็นตัวประกันอยู่ พลันนั้นดวงตาของเขาก็เปล่งประกายขึ้น
“ที่แท้ก็มีคนใหม่เข้ามาบนเกาะไม่หวนคืนของพวกเรานี่เอง แถมยังเป็นแม่นางคนสวยอีกด้วย ไม่เลวเลย ไม่เลยเลย!”
สำหรับความเป็นความตายของผู้ดูแลผู้นั้นเขาไม่ได้สนใจเลยแม้แต่น้อย
ตายไปคนนึงก็ดี ยังมีคนอีกมากมายที่มีความสุข อย่างไรเสียคนผู้นี้ก็เป็นคนที่หลายคนอิจฉาริษยา
เขากระโจนตัวขึ้นกลางอากาศพุ่งจะไปจับตัวมู่เฉียนซี
มู่เฉียนซีเองก็รู้ดีว่าตัวประกันที่อยู่ในมือนั้นไม่ได้มีประโยชน์มากสักเท่าไร ในขณะที่ผู้อาวุโสหวังพุ่งเข้ามาหานางนั้น นางก็โยนตัวประกันในมือไปที่เขา
“ท่านผู้อาวุโสหวัง…” ผู้ดูแลตะโกนขึ้นเสียงดังลั่น
แต่สุดท้ายผู้อาวุโสหวังก็ไม่ได้รับตัวเขาเอาไว้แต่อย่างใด มิหนำซ้ำยังสบถด่าด้วยความโกรธเกรี้ยวอีกว่า “เจ้าสวะไร้ประโยชน์ ไสหัวไปให้พ้น!”
ผู้อาวุโสหวังง้างฝ่ามือตบผู้ดูแลผู้นี้อย่างรุนแรง หลังจากเสียง เปรี๊ยะ! ดังขึ้น เสียง ปัง! ก็ดังตามมา ร่างของผู้ดูแลกระเด็นลอยไปกองอยู่กับพื้น กระอักเลือดออกมาอย่างต่อเนื่อง ฝ่ามือนี้ของผู้อาวุโสหวังนั้นรุนแรงยิ่งนัก
ผู้อาวุโสหวังลงมือกับมู่เฉียนซีอีกครั้ง ทว่า กลับถูกจูเชว่ขวางเอาไว้เสียก่อน
ดวงตาของผู้อาวุโสหวังเผยความขุ่นเคืองออกมาอย่างเห็นได้ชัด “เจ้าหนุ่มน้อย สวมหน้ากากอำพรางใบหน้าด้วยเหตุใดกัน เอาหน้ากากออกให้ข้าดูหน่อยซิ บางทีข้าอาจจะเบามือให้เจ้าบ้างก็ได้”
จากประสบการณ์ที่ผ่านมา สายตาของเขาบอกเขาว่า ใบหน้าที่ซ่อนอยู่ภายใต้หน้ากากของเจ้าหนุ่มชุดแดงผู้นี้นั้นไม่เลวเลย
ทันใดนั้นดาบปีศาจปะทุเปลวไฟปีศาจออกมา จูเชว่กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เจ้าแก่ตายยาก เจ้ารนหาที่ตาย”
“เจ้าหนุ่ม คนที่รนหาที่ตายก็คือเจ้าต่างหากเล่า”
ตูมมม!
พลังของทั้งสองปะทะกัน และพวกเขาทั้งสองก็ถึงกับร่นตัวถอยหลังไปทั้งคู่
ในตอนนี้ผู้อาวุโสหวังรู้สึกตกใจเป็นอย่างยิ่ง “เจ้า! เห็น ๆ กันอยู่ว่ามีพลังเพียงแค่ขั้นปราชญ์แห่งภูตระดับเก้าเท่านั้น เหตุใดถึงได้แข็งแกร่งถึงเพียงนี้”
ผู้อาวุโสหวังมีพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับหนึ่ง แต่จูเชว่ไม่ได้รู้สึกกดดันมากในการรับมือกับเขา ด้วยพรสวรรค์และทักษะการต่อสู้อันยอดเยี่ยมของเขาแล้วการรับมือเจ้าเฒ่าผู้นี้ไม่ใช่เรื่องยาก อีกอย่างเขายังดาบาบปีศาจอยู่ในมือ เช่นนี้มันจึงเป็นเรื่องที่ง่ายดายสำหรับเขามาก
สายตาของผู้อาวุโสหวังจับจ้องไปที่ดาบปีศาจเล่มนั้น “ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้นี่เอง! เป็นเพราะดาบเล่มนี้สินะ!”
คนผู้นี้อายุยังน้อย แต่กลับจัดการได้ยากถึงเพียงนี้ ผู้อาวุโสหวังกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “พวกสวะไร้ประโยชน์ ยืนมองอยู่ทำไม จัดการรุมมันสิ!”
ท่านผู้อาวุโสมาแล้ว ผู้ที่มีพลังขั้นปราชญ์แห่งภูตระดับสูงที่มู่เฉียนซีกับจูเชว่เล่นงานไปก่อนหน้านี้เหล่านั้นก็ไม่รู้สึกเกรงกลัวแล้ว พวกเขาเตรียมพร้อมที่จะต่อสู้อีกครั้ง
จูเชว่กล่าว “ซีซี ข้าจัดการตาเฒ่าผู้นี้เอง ส่วนคนอื่นเจ้าจัดการก็แล้วกัน”
“ไม่มีปัญหา!”
พัดหยกขาวนั้นพุ่งตัดผ่านอากาศมุ่งเป้าไปที่พวกเขา ใบพัดนั้นพลันกลายเป็นพลัง ภายใต้การสนับสนุนของพลังธาตุวายุ มันจึงฆ่าคนเหล่านี้ได้
“สาวน้อย อย่าขวาง!” พวกเขาจ้องมองมู่เฉียนซีด้วยสายตาโหดร้าย
“ไสหัวไปให้พ้น!”
“พูดดี ๆ ไม่ชอบ ชอบให้ลงมือ เจ้ามันรนหาที่ตายชัด ๆ!”
พวกเขาเองก็โกรธเกรี้ยวขึ้นแล้วเช่นกัน แต่ละคนเผยกลิ่นอายสังหารออกมาอย่าไร้ความปรานี
ผู้อาวุโสหวังกล่าว “พวกสวะอย่างพวกเจ้าระวัง ๆ หน่อย หากทำแม่นางคนงามตาย ข้าจะเอาเรื่องพวกเจ้าทุกคน!”
พวกเขาล้วนแต่รู้ดีแก่ใจว่าผู้อาวุโสหวังชื่นชอบหญิงสาวผู้นี้เข้าแล้ว ทว่า พวกเขาลงมือไปแล้ว ไม่อาจยั้งมือกลับมาได้ ทำได้เพียงแค่หวังว่าหญิงสาวผู้นี้จะโชคดีไม่ตายไปเสียก่อน
แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาตกตะลึงจนตาค้างนั่นก็คือ การโจมตีของพวกเขานั้นไม่อาจทำให้มู่เฉียนซีได้รับบาดเจ็บได้เลยแม้แต่น้อย
การโจมตีของปราชญ์แห่งภูตไม่สามารถทำลายปราการป้องกันอันแข็งแกร่งของมู่เฉียนซีได้เลย
มู่เฉียนซีกล่าวเย้ยหยันว่า “การโจมตีอ่อนแอเช่นนี้คิดจะทำร้ายข้า พวกเจ้าคิดเพ้อฝันเกินไปแล้วจริง ๆ”
“พัดวายุโบกสะบัด!”
ใบพัดนี้ได้พลันเปลี่ยนเป็นขนนกสีขาวอันแหลมคมนับไม่ถ้วน และไล่สังหารพวกเขาไปภายใต้การสนับสนุนของพลังธาตุวายุ
ภายใต้ความเร็วอันน่าทึ่งเช่นนี้ แม้ว่าระดับพลังวิญญาณของพวกเขาจะเหนือกว่ามู่เฉียนซี แต่ก็ยังทำให้พวกเขาเลือดตกยางออกได้
สีหน้าของพวกเขาพลันเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ถูกมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับหกผู้หนึ่งทำร้ายจนเลือดตกยางออก ช่างน่าอับอายขายหน้ายิ่งนัก
“ลุย ต้องจับตัวหญิงสาวผู้นี้ให้จงได้”
กำลังในการป้องกันเหนือกว่าพวกเขาแล้วยังไม่พอ ความเร็วของนางยังเร็วกว่าพวกเขาอีกด้วย
การโจมตีในทุก ๆ ครั้งของพวกเขาไม่เป็นผล พวกเขาถูกมู่เฉียนซีขวางเอาไว้ จึงไม่สามารถเข้าไปสนับสนุนช่วยผู้อาวุโสหวังได้
ตอนนี้ผู้อาวุโสหวังกำลังเผชิญหน้ากับการโจมตีอันดุเดือดของจูเชว่ สีหน้าของเขายิ่งแย่ลงไปเรื่อย ๆ
“เจ้าหนุ่ม เอาแค่พอหอมปากหอมคอก็พอได้แล้ว เลิกยั่วโมโหข้าได้แล้ว” ผู้อาวุโสหวังกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ยั่วโมโหเจ้าแล้วเช่นไร? เจ้าคิดว่าข้ากลัวพวกเจ้าอย่างนั้นเหรอ!”
“ความบ้าคลั่งจะฆ่าชีวิตเจ้าเอง!” ผู้อาวุโสหวังกำหมัดแน่นต่อยไปด้วยพลังอันรุนแรง
“หมัดสะท้านสวรรค์!”
จูเชว่กำดาบปีศาจในมือแน่น และกล่าวเย้ยหยันว่า “ใช้ท่าไม้ตายแล้วเหรอ ก็ไม่ได้เก่งกาจสักเท่าไหร่นี่”
“บัวปีศาจจันทราทำลาย!”
ลำแสงดาบของดาบปีศาจกระแทกเข้ากับหมัดนี้อย่างรุนแรง ทำลายพลังการโจมตีของหมัดนี้และพุ่งไปที่ผู้อาวุโสหวัง
สีหน้าของผู้อาวุโสหวังพลันเปลี่ยนไปมากด้วยความตกใจ เขารีบหลบหลีกอย่างรวดเร็ว!
ฉึก! สุดท้ายเขาก็ช้าไปก้าวหนึ่ง เลือดสีแดงสดย้อมคมดาบปีศาจเล่มนั้น และแขนของผู้อาวุโสหวังก็ขาดสะบั้นลง
สีหน้าของผู้อาวุโสหวังซีดขาวราวกระดาษ เขากล่าวกับจูเชว่ว่า “บัดซบ! นึกไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะกล้าตัดแขนข้า ข้าไม่มีทางไว้ชีวิตเจ้าเด็ดขาด”
คนผู้นี้ลั่นวาจาโหดเหี้ยมออกมา แต่นึกไม่ถึงเลยว่าเขาจะหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว เห็นได้ชัดว่าเขารีบไปตามคนมาช่วย
จูเชว่ไม่ได้ไล่ตามเขาไป แต่กลับลงมือจัดการคนด้านหลัง
“ซีซี ข้ามาช่วยเจ้าแล้ว ขวางเดนมนุษย์พวกนี้เจ้าคงเหนื่อยแล้ว ต่อไปมอบให้เป็นหน้าที่ข้าก็แล้วกัน!”
คมดาบปีศาจเล่มนั้นที่ในตอนนี้ยังย้อมไปด้วยเลือดของผู้อาวุโสหวังอยู่ ขณะนี้มันกำลังจะพุ่งมาที่พวกเขาแล้ว สิ่งนี้ทำให้ปราชญ์แห่งภูตระดับสูงเหล่านี้ต่างหวาดผวาเป็นอย่างยิ่ง
แม้แต่ผู้อาวุโสหวังเองก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของชายหนุ่มผู้นี้ ถูกตัดแขนจนเผ่นหนีไปแล้ว แล้วพวกเขาจะสู้กับเจ้าหนุ่มผู้นี้ได้อย่างไรกันเล่า
ปัง ปัง ปัง!
คนเหล่านี้ก็นับว่ามีไหวพริบเช่นกัน แต่ละคนต่างคุกเข่าลงพลางกล่าวว่า “นายท่านได้โปรดไว้ชีวิตพวกเราด้วย! พวกเราก็แค่ทำตามคำสั่งที่ได้รับมอบหมาย ไม่ได้ตั้งใจจะล่วงเกินท่านทั้งสองเลยแม้แต่น้อย”
“เป็นอย่างที่เจ้าพูดจริง ๆ เหรอ?”
ลำแสงดาบสีเลือดนั้นตัดผ่านหน้าพวกเขาไป แสงเย็นวาบผ่านดวงตาของจูเชว่
“จริงขอรับ! พวกเราไม่ได้โกหกแม้แต่น้อย”
“ผู้อาวุโสหวังต้องไปตามกำลังคนมาช่วยแน่นอน! เขาเป็นเพียงแค่ภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับหนึ่ง แต่ผู้อาวุโสขั้นสองทั้งสองคนเป็นถึงภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับสองและภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับสาม หากพวกเขาทั้งสองมา พวกท่านทั้งสองต้องซวยเป็นแน่ รีบหนีไปเร็วเข้าเถิด!”
“ใช่ ๆ! ผู้อาวุโสหวังผู้นั้นไม่สนว่าจะเป็นหญิงหรือชาย เขากระทำตัวต่ำทรามยิ่งนัก พวกท่านทั้งสองรีบหนีไปจากเกาะไม่หวนคืนนี้เร็วเข้าเถอะ อย่าได้ตกอยู่ใน…”
พวกเขาไม่ทันกล่าวจบ น้ำเสียงอันโกรธเกรี้ยวเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น
“เจ้าพวกสารเลว พวกเจ้ากล้าคิดทรยศหักหลังข้าอย่างนั้นเหรอ รนหาที่ตาย!”
ผู้อาวุโสหวังมาแล้ว เลือดจากการที่ถูกตัดแขนนั้นถูกยับยั้งลงแล้ว
และผู้ที่มากับเขานั้นก็คือชายชราผมขาวสองท่าน ทั้งสองแผ่ซ่านพลังความแข็งแกร่งขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับสองออกมา
ผู้อาวุโสหวังกล่าวด้วยความลำพองใจว่า “ทางที่ดีพวกเจ้าทั้งสองเลิกต่อต้านได้แล้ว โดยเฉพาะแม่นาง หากเจ้าบาดเจ็บขึ้นมาแล้วละก็ ข้าต้องปวดใจเป็นแน่! อย่างไรเสียหากท่านพี่ทั้งสองของข้าลงมือเข้าแล้ว ไม่มีทางยั้งมือไว้ไมตรีเป็นแน่”
ศัตรูมาเพิ่มอีกสองคน ทว่า สีหน้าของมู่เฉียนซีกับจูเชว่ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง มู่เฉียนซีกล่าว “เจ้าคนหนึ่ง ข้าคนหนึ่ง เจ้ามีความมั่นใจหรือไม่?”