ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1775 ดูถูกเหยียดหยามท่านผู้อาวุโส
จูเชว่ยิ้มพลางกล่าว “ยังต้องให้พูดอีกเหรอ? เรื่องจิ๊บจ๊อย”
นึกไม่ถึงเลยว่าสองคนนี้จะประเมินพวกเขาต่ำถึงเพียงนี้ และสิ่งนี้ทำให้ชายชราทั้งสองโกรธเกรี้ยวจนหน้าดำคล้ำเขียวขึ้นแล้ว
“ช่างอวดดียิ่ง พวกเจ้ายั่วโมโหพวกข้าจนถึงที่สุดแล้ว วันนี้ข้าจะให้บทเรียนแก่พวกเจ้าให้สาสม”
พลังวิญญาณขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์อันน่าเกรงขามดุจดั่งกระแสน้ำพุ่งใส่พวกเขา
ท่อนไม้ท่อนหนึ่งพุ่งหมายจะฟาดมาที่ใบหน้าของมู่เฉียนซี พลังอันน่าสะพรึงกลัวนั้นทำให้ทั่วทั้งหอสั่นสะเทือนขึ้น
ผู้อาวุโสหวังรู้ดีว่าท่านพี่ทั้งสองของเขาโกรธเกรี้ยวขึ้นมาจริง ๆ แล้ว
พลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับสองช่างแข็งแกร่งอย่างที่คิดเอาไว้ไม่มีผิด แต่มู่เฉียนซียังกล้าที่จะรับมือต่อสู้กับพวกเขา นั่นหมายความว่านางมีความมั่นใจอย่างแน่นอน
ตูมมม!
หอทำการที่สร้างขึ้นมาใหม่ด้วยวัสดุโดยเฉพาะของเกาะแห่งนี้พังทลายลง ทำให้ทุกคนบนเกาะไม่หวนคืนต่างตื่นตระหนกตกใจเป็นอย่างยิ่ง
“เกิดเรื่องอันใดขึ้น นึกไม่ถึงเลยว่าจะมีคนกล้ามาก่อเรื่องวุ่นวายที่นั่น ช่างไม่รักชีวิตตัวเองเอาซะเลย!”
“น่าจะมีคนใหม่เข้ามาบนเกาะเป็นแน่ ครั้งนี้คนใหม่น่าจะเก่งกาจมาก!”
“พวกเจ้าดูนั่นสิ พี่ใหญ่หวังและท่านผู้อาวุโสหวังอีกทั้งสองท่าน พวกเขาเป็นถึงผู้อาวุโสขั้นที่สองเชียวนะ นึกไม่ถึงเลยว่าแม้แต่พวกเขาก็ลงมือแล้วด้วย”
ตอนนี้ผู้อาวุโสหวังกล่าวด้วยความทอดถอนใจว่า “เฮ้อ! แม่หญิงคนงามเช่นเจ้าถูกโจมตีจนเสียโฉมแล้ว ช่างน่าเสียดายยิ่งนัก”
หลังจากที่ฝุ่นหนาคละคลุ้งกระจาย พวกเขาก็พบว่าร่างในชุดม่วงได้ปรากฏตัวขึ้นอยู่ด้านหลังผู้อาวุโสหวังอย่างรวดเร็วดุจดั่งภูตผีก็มิปาน
มู่เฉียนซีใช้การเคลื่อนไหวภายในชั่วพริบตา ความสามารถในการซ่อนตัวของนางนั้นแข็งแกร่งมาก ครั้งนี้แม้แต่ผู้อาวุโสที่มีพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับสองก็ไม่รับรู้ถึงกลิ่นอายของนางเลย
พัดวิหคเฟิงหลิงพลันเปลี่ยนเป็นกระบี่หยกอันแหลมคมเล่มหนึ่ง และพลังธาตุวายุบริเวณรอบ ๆ ทั้งหมดก็ได้รวมตัวขึ้น
“พลังวายุกักขังวิญญาณ!”
“นึกไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะยังไม่ตาย!” ผู้อาวุโสรองหวังรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง เผชิญหน้ากับการลอบโจมตีของมู่เฉียนซีเช่นนี้ เขาสกัดกั้นได้อย่างง่ายดาย
“มหาจักรพรรดิแห่งภูต แต่กลับเอาชีวิตรอดภายใต้การโจมตีของข้าได้ เจ้าเป็นคนแรก!”
ต้องรู้เอาไว้เลยว่าพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตเมื่อเทียบกับขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์แล้วนั้น พลังห่างชั้นกันถึงสองขั้นใหญ่ ๆ เลยทีเดียว!
“ข้าไม่ได้ตาฝาดไปกระมัง! หญิงสาวที่ต่อสู้กับท่านผู้อาวุโสรองหวังอยู่ผู้นั้น มีพลังเพียงขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับหก!”
“นึกไม่ถึงเลยว่ามหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับหกจะหลบหลีกกระบวนท่าของท่านผู้อาวุโสรองหวังได้ ข้าต้องตาฝาดไปเป็นแน่!”
“……”
น้อยนักที่เกาะไม่หวนคืนจะเกิดการต่อสู้เช่นนี้ขึ้น เมื่อเกิดการเคลื่อนไหวเช่นนี้ขึ้น คนจำนวนมากต่างพากันแห่มามุงดู
และแน่นอนว่าหนึ่งในนั้นก็คือท่านลุงจ้าว แม้ว่านางจะหลบหลีกการโจมตีไปได้ครั้งหนึ่ง แต่เขาก็อดที่จะหวาดเสียวแทนมู่เฉียนซีไม่ได้จริง ๆ
มู่เฉียนซีเลิกคิ้วพลางกล่าวเย้ยหยันว่า “เจ้านะเหรอ คิดจะฆ่าคนอย่างข้า ข้าว่าเจ้าไปฝึกฝนอีกสักร้อยปีก่อนเถอะ”
คำพูดที่มู่เฉียนซีลั่นออกไปนั้นเสียงดังมาก แม้แต่คนที่อยู่ไกล ๆ ก็ได้ยินคำพูดของนาง
สาวน้อยผู้นี้ช่างอวดดียิ่งนัก! มหาจักรพรรดิแห่งภูตที่กล้ากล่าววาจาเช่นนี้กับภูตศักดิ์สิทธิ์คาดว่าคงจะมีแค่นางเพียงผู้เดียว
การต่อสู้ทางด้านของจูเชว่เองก็ดุเดือดเช่นกัน เนื่องจากเขามีความแข็งแกร่งที่ยอดเยี่ยม เขาจึงฉวยโอกาสโจมตีอย่างดุเดือด
“สาวน้อย แล้วเจ้าจะต้องชดใช้อย่างน่าอนาถเพราะความอวดดีของเจ้า!”
มู่เฉียนซีดูถูกเหยียดหยามเขาถึงเพียงนี้ สิ่งนี้ทำให้ผู้อาวุโสรองหวังโกรธเป็นฟืนเป็นไฟขึ้น
ท่อนไม้สีดำยาวหมุนอย่างดุเดือดกลางอากาศ บวกกับพลังอันแข็งแกร่งของเขา และเป้าหมายก็คือศีรษะของมู่เฉียนซี
พลังอันน่าสะพรึงกลัวได้กักขังบริเวณรอบ ๆ เอาไว้ ทำให้มู่เฉียนซีไร้ทางหลบหนี
ทุกคนเห็นเช่นนี้ก็สามารถคาดการณ์สถานการณ์ได้แล้วว่าศีรษะของหญิงสาวผู้มีรูปร่างหน้าตางดงามผู้นั้นต้องเละเป็นโจ๊กอย่างแน่นอน นางต้องน่าสังเวชเป็นแน่!
ท่านลุงจ้าวหันหน้าละสายตาด้วยความเจ็บปวด ไม่กล้ามองแล้ว
คนผู้นี้สามารถกักขังการหลบหนีของมู่เฉียนซีได้ แต่ด้วยพลังความแข็งแกร่งของเขานั้น ไม่สามารถกักขังพลังแห่งมิติได้
มู่เฉียนซีใช้กระบวนท่าเคลื่อนไหวภายในชั่วพริบตาอย่างต่อเนื่อง หลบหนีออกจากเขตการโจมตีที่อันตรายได้
“พลังวายุท้าจันทรา!”
ทันใดนั้น พัดวิหคเฟิงหลิงนั้นได้แยกออกเป็นหลายส่วนนับไม่ถ้วน และเข้าโจมตีคู่ต่อสู้จากทั่วทุกทิศทาง
“หลบได้แล้ว นึกไม่ถึงเลยว่านางจะหลบได้! นี่มันอะไรกันนี่?”
เผชิญหน้ากับการโจมตีอันดุเดือดของผู้อาวุโสรองหวังเช่นนี้ นึกไม่ถึงเลยแม้แต่น้อยว่ามู่เฉียนซีจะหลบหลีกได้ สิ่งนี้ทำให้ทุกคนตกตะลึงพรึงเพริดเป็นอย่างยิ่ง
“สาวน้อยผู้นี้มีของล้ำค่าติดตัวเป็นแน่ ของล้ำค่าเกี่ยวกับมิติ นางถึงมีพลังในการเคลื่อนไหวชั่วพริบตาเช่นนี้ได้ ช่างเก่งกาจยิ่งนัก” มีคนกล่าวออกมา
ผู้อาวุโสรองหวังมองมู่เฉียนซีอย่างพิจารณา ก่อนจะกล่าวว่า “สาวน้อย นึกไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะมีทักษะถึงเพียงนี้”
“ข้าอยากจะรู้นักว่าอาวุธวิญญาณนี้ของเจ้าจะใช้ได้สักกี่ครั้ง”
ผู้อาวุโสรองหวังพยายามอย่างสุดกำลังเพื่อเอาชนะ เขาไม่เพียงแต่จะบีบสาวน้อยผู้นี้ให้ตายเท่านั้น แต่ยังปรารถนาจะเอาของล้ำค่าของนางมาเป็นของตนอีกด้วย
ทักษะร่างและความเร็วอันน่าประหลาดอย่างน่าทึ่งนั้นหลบหลีกการโจมตีของผู้อาวุโสรองหวังได้ ความเร็วของทั้งสองทำให้เขามองเห็นไม่ชัด
ช่างรวดเร็วยิ่งนัก!
ทันใดนั้นเองความเร็วของสองคนนั้นก็ช้าลง ผู้อาวุโสรองหวังจึงโจมตีไป
“ซวยแล้ว สาวน้อยผู้นั้นหลบไม่ได้แล้วเป็นแน่ คาดว่าครานี้ต้องตายจริง ๆ แล้ว”
“มิติการเคลื่อนไหวภายในชั่วพริบตานั้นคงจะใช้หมดแล้ว ครั้งนี้นางหลบไม่ได้เป็นแน่”
“……”
ตูมมม!
กระบวนท่านี้โจมตีกระแทกร่างของมู่เฉียนซี
แม้ว่าครั้งนี้ผู้อาวุโสรองหวังจะไม่ได้ใช้พลังทั้งหมด แต่สาวน้อยที่มีพลังเพียงแค่ขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับหกคนหนึ่งจะต้านทานไหวได้อย่างไร แม้จะไม่ตายแต่ก็ต้องอนาถเป็นแน่
ทว่า…
มู่เฉียนซีใช้การเคลื่อนไหวภายในชั่วพริบตาอีกครั้ง ในขณะที่คู่ต่อสู้กำลังเผลออยู่นั้น นางได้มอบของขวัญชิ้นหนึ่งให้แก่เขาแล้ว
การถูกทิ่มแทงเบา ๆ นั้นกลับไม่ได้ทำให้คนผู้นี้สนใจเลยแม้แต่น้อย เนื่องจากตอนนี้เขากำลังอยู่ในอารมณ์ความโกรธ
“เจ้า นึกไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะหลอกข้า”
“พลังวายุท้าจันทรา!”
ผู้อาวุโสรองหวังสกัดกั้นการโจมตีของมู่เฉียนซีได้อย่างง่ายดาย เสียงตัดผ่านอากาศดังขึ้น เส้นผมสีดำขลับของมู่เฉียนซีพัดสยายตามสายลม ร่างทั้งร่างถูกโจมตีจนกระเด็นลอยออกไป
ปังงง!
ครั้งนี้ เขาไม่มีทางเชื่อหรอกว่านางจะไม่เป็นอะไร
คนอื่น ๆ ต่างก็คิดว่ามู่เฉียนซีจะบาดเจ็บปางตายเช่นกัน แม้แต่จูเชว่เองก็ยังเป็นกังวลใจมาก
“ซีซี!”
ไม่นานนักมู่เฉียนซีก็ลุกขึ้นมาจากกองซากปรักหักพังนั้น “ตั้งใจรับมือกับคู่ต่อสู้เจ้าไปเถอะ ทางด้านข้าใกล้จะจบเกมลงแล้ว”
จูเชว่กล่าว “คนอุตส่าห์เป็นห่วง กำลังในการป้องกันตัวของเจ้ามันช่างน่ากลัวเกินไปแล้วจริง ๆ นี่เจ้าฝึกฝนเช่นไรกันแน่”
“หากเจ้าอยากลองดู วันไหนว่าง ๆ ข้าจะให้เจ้าลิ้มรสมันสักครั้งก็แล้วกัน”
ถูกฝึกความแข็งแกร่งของร่างกายด้วยสายฟ้า คาดว่าคงจะมีน้อยคนที่อยากจะลอง แม้ว่าผลลัพธ์ที่ได้มันจะดีมากก็ตาม
ผู้อาวุโสรองหวังโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ สาวน้อยผู้นี้ไม่เพียงแต่จะมีทักษะร่างที่รวดเร็วเท่านั้น แต่ร่างกายของนางยังแข็งแกร่งราวกับตัวประหลาดอีกด้วย
หลังจากที่เผชิญหน้ากับการโจมตีของเขาถึงสองครั้งติด นึกไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่านางยังมีเวลามากล่าววาจาหยอกล้อกับคู่หูของนางเช่นนี้ ไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อย
กลุ่มคนที่มุงดูอยู่เหล่านี้มีคนหนึ่งกล่าวขึ้นว่า “เมื่อครู่แม่นางผู้นั้นกล่าวว่าเกมนางกำลังจะจบลงแล้ว นางหมายความเช่นไร หรือนางคิดว่านางจะเป็นฝ่ายชนะอย่างนั้นเหรอ?”
“จะเป็นไปได้อย่างไร แม่นางผู้นี้พลังที่แข็งแกร่งก็จริง คนที่มีพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตคาดว่าคงเป็นคู่ต่อสู้ของนางไม่ได้ ต่อให้เป็นขั้นปราชญ์แห่งภูต ก็ต้องเป็นปราชญ์แห่งภูตระดับสูงที่เหมาะสมจะเป็นคู่ต่อสู้ของนาง แต่ตอนนี้คู่ต่อสู้ของนางคือภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับสอง นางไม่มีทางเอาชนะได้หรอก”
“แม่นางน้อยผู้นี้มั่นใจในตัวเองมากเกินไปแล้ว ท่านหัวหน้าเกาะเป็นคนที่ชื่นชอบผู้มีพรสวรรค์ หากนางอ่อนโยนกว่านี้สักหน่อย บางทีนางอาจจะรอดตายก็ได้”
“สาวน้อย ถึงเวลาตายของเจ้าแล้ว”
ร่างนับไม่ถ้วนพุ่งตัดผ่านอากาศไป ท่อนไม้สีดำยาวพลันเปลี่ยนเป็นเงานับไม่ถ้วนพุ่งเป็นเส้นโค้งโจมตีไปที่มู่เฉียนซี ทันใดนั้นร่างในชุดม่วงก็ได้อันตรธานหายไป “พลังวายุโบกสะบัด!” ชั่วพริบตาเดียวนั้นเอง ขนนกสีขาวนับไม่ถ้วนพุ่งตรงไปที่ผู้อาวุโสรองหวังอย่างมืดฟ้ามัวดิน