ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1776 ลดลงแล้วลดลงอีก
“ทักษะต่ำเตี้ยเรี่ยดิน สำหรับข้าแล้วการโจมตีของผู้บำเพ็ญภูตขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตนั้นไร้ประโยชน์สิ้นดี! ถึงแม้อาวุธในมือของเจ้าจะเป็นของดีก็ตาม” ท่านผู้อาวุโสรองหวังกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา
เขามองออกว่าอย่างน้อย ๆ พัดวิหคเฟิงหลิงที่อยู่ในมือของมู่เฉียนซีนั้น ก็จะต้องเป็นมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ชั้นดีอย่างแน่นอน อีกทั้งยังสามารถแปรเปลี่ยนเป็นรูปแบบต่าง ๆ ได้อีกมากมาย ช่างเป็นของล้ำค่าที่ดีมากจริง ๆ
ไม่นานนักสิ่งของเหล่านี้ก็จะกลายเป็นของเขาแล้ว
ผู้คนที่รายล้อมอยู่ในบริเวณนั้น ต่างก็อดรู้สึกเห็นอกเห็นใจมู่เฉียนซีมิได้ แม่นางน้อยผู้นี้มีพรสวรรค์ที่เยี่ยมยอด สิ่งของล้ำค่าก็มีอยู่มากมาย ทักษะวิญญาณก็แกร่งกล้าเป็นอย่างยิ่ง
หากได้ออกไปภายนอกคงเฉิดฉายไม่เบา ทว่าน่าเสียดายที่หลงเข้ามาอยู่บนเกาะไม่หวนคืนเช่นนี้ ซ้ำร้ายยังไปยั่วโทสะท่านผู้อาวุโสอีก เห็นทีจุดจบของแม่นางน้อยผู้นี้คงต้องเลวร้ายเป็นแน่
มู่เฉียนซีสามารถหลบหลีกการโจมตีของท่านผู้อาวุโสรองหวังได้อย่างรวดเร็ว หรือไม่ก็สามารถต้านทานไว้ได้อย่างไม่สะทกสะท้าน
การโจมตีในแต่ละครั้งไม่ได้มีผลกระทบมากนัก สิ่งนี้ทำให้ท่านผู้อาวุโสรองหวังโกรธจนจะกระอักเลือด ทว่าเขาก็ยังไม่ยอมถอดใจ
เขายังคงไล่โจมตีมู่เฉียนซีอย่างบ้าคลั่ง ขณะที่กำลังไล่ล่า เขาก็พบว่าความเร็วของตนนั้นเริ่มผิดปกติ
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ นี่พลังของเขากำลังลดลงอย่างนั้นหรือ?
“พวกเจ้าดูสิ ท่านผู้อาวุโสรองหวังเป็นอะไรไปน่ะ?”
“ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับหนึ่ง ผู้บำเพ็ญภูตขั้นปราชญ์แห่งภูตระดับเก้า นี่พลังของเขากำลังลดลงอย่างนั้นหรือ?”
“ระดับแปดแล้ว…”
“ระดับเจ็ด…”
“หก…”
การลดระดับขั้นด้วยความเร็วสูงเช่นนี้ ทำให้ทุก ๆ คนต่างก็ตะลึงงันและงุนงงเป็นอย่างยิ่ง
ครั้นระดับขั้นของผู้อาวุโสรองหวังลดลงถึงขั้นผู้บำเพ็ญภูตขั้นปราชญ์แห่งภูตระดับหกนั้น มู่เฉียนซีก็ได้ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าเขาภายในชั่วพริบตา “พลังของท่านแกร่งกล้ามาก ข้าไม่อาจทำอะไรท่านได้ แต่ความเร็วของท่านก็ไม่มากพอที่จะทำอะไรข้าได้เช่นกัน แต่ในเมื่อพลังของท่านกลายเป็นเช่นนี้แล้ว อีกประเดี๋ยวก็จะไม่น่าเบื่อแล้ว!” มู่เฉียนซีกระตุกยิ้มมุมปากขึ้นเล็กน้อย ธาตุวายุในครานี้ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว
“พลังวายุกักขังวิญญาณ!!”
“พลังวายุทำลายวิญญาณ!”
“พลังวายุจันทราไร้คู่!”
ธาตุวายุกำลังแผดเสียงดั่งสนั่นไปทั่ว ทันทีที่พัดโบกสะบัด การโจมตีทั้งสามครั้งก็ระเบิดขึ้น ทำให้อีกฝ่ายไม่อาจตั้งรับได้ทันเลยทีเดียว
ปัง ปัง ปัง!
ผู้อาวุโสรองหวังที่ถูกโจมตีถึงสามคราติดกัน จากนั้นก็ลอยกระเด็นออกไปไกล แน่นอนว่าเขาต้องมีการป้องกันตัวอยู่แล้ว ทว่าก็ยังต้องตกมาอยู่ในสภาพเช่นนี้
เนื่องจากตอนนี้เขาไม่ใช่ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับสอง ทว่าเป็นผู้บำเพ็ญภูตขั้นปราชญ์แห่งภูตระดับหก ดังนั้นจึงยากนักที่จะต้านทานการโจมตีระยะประชิดของธาตุวายุได้
ทุกคนล้วนตกตะลึงจนเบิกตาโพลง นี่พวกเขากำลังดูอะไรอยู่กันแน่?
พวกเขาไม่ได้ตาฝาดไปใช่หรือไม่! แม่นางน้อยผู้นั้นโจมตีเสียจนผู้อาวุโสรองหวังกระเด็นลอยออกไปไกลแล้ว
ผู้อาวุโสรองหวังยังไม่ยอมถอดใจ และคิดจะต่อสู้ต่อไป
มู่เฉียนซีเองก็เข้าประชิดเขาด้วยความเร็วอันน่าตกใจ จากนั้นก็ใช้ธาตุวายุโจมตีเขาจากเหนือศีรษะอย่างไม่เกรงใจ
“อ้าาา!” เสียงร้องครวญครางอันแสนสังเวชดังขึ้น เมื่อถูกโจมตีติดต่อกันถึงสองครา ผู้อาวุโสรองหวังก็เจ็บหนักจนกระอักเลือดออกมาไม่หยุดหย่อน
ครานี้ผมเผ้าของเขายุ่งเหยิงกระเซอะกระเซิง ตามเนื้อตัวมีบาดแผลอยู่ไม่น้อย เมื่อมองไปแล้วก็ดูช่างน่าอนาถเป็นอย่างยิ่ง
มู่เฉียนซีกล่าว “อ่อนแอไปหน่อย หากรู้ว่าเป็นเช่นนี้ ข้าคงทำให้ท่านแข็งแกร่งขึ้นอีกสักหน่อย! ไม่อย่างนั้นท่านคงไม่ตกอยู่ในสภาพนี้หรอก”
ผู้อาวุโสรองหวังถลึงตาใส่มู่เฉียนซีแล้วกล่าวออกไปด้วยท่าทางโกรธแค้น “เจ้า เจ้า เจ้าใช้วิชามารใดถึงทำให้พลังของข้าลดลงถึงเพียงนี้ เจ้ามันน่ารังเกียจ…”
“ถึงแม้ตอนนี้ข้าจะเป็นผู้บำเพ็ญภูตขั้นปราชญ์แห่งภูตระกับหก แต่ก็อยู่ในระดับที่สูงกว่าเจ้าถึงหนึ่งขั้นใหญ่ ข้าไม่มีวันแพ้ ไม่มีทางแพ้เป็นอันขาด”
ผู้อาวุโสรองหวังพุ่งตัวออกไปด้วยความบ้าคลั่ง และตัดสินใจอย่างแน่วแน่ว่าจะสังหารมู่เฉียนซีโดยไม่สนใจว่าจะต้องแลกมาด้วยสิ่งใด
“ในใต้หล้านี้จะมีพลังวิเศษที่สามารถลดพลังของคู่ต่อสู้ได้จริง ๆ อย่างนั้นหรือ? มันจะน่าเหลือเชื่อเกินไปหรือไม่!”
“พวกเราไม่เห็นจะเคยได้ยินมาก่อนเลย! แต่เรื่องนี้มันก็ได้เกิดขึ้นตรงหน้าเราแล้ว”
“……”
มู่เฉียนซีปาเข็มยาใส่ผู้อาวุโสรองหวังไปหนึ่งเล่ม ไม่เพียงแต่ผู้คนที่รายล้อมอยู่รอบบริเวณเท่านั้นที่จะไม่ทันสังเกตุเห็น แม้กระทั่งผู้อาวุโสรองหวังเองก็เช่นกัน
ผู้อาวุโสรองหวังที่เป็นผู้บำเพ็ญภูตขั้นปราชญ์แห่งภูตระดับหก ไม่ว่าจะโจมตีอย่างบ้าคลั่งเช่นไร ก็เป็นได้เพียงกระสอบทรายให้มู่เฉียนซีเท่านั้น
“พลังวายุจันทราไร้คู่!”
คมกระบี่เฉือนผ่านเนื้อหนังของเขาไปอย่างรวดเร็ว โลหิตสีแดงสดซาดกระเซ็นไปกลางอากาศ ผู้อาวุโสรองหวังไม่กล้าทะยานลงสู่พื้นดิน เขาทำได้เพียงนอนลงบนซากปรักหักพังราวกับปลาตายตัวหนึ่งก็มิปาน
เขาในตอนนี้เหลือพลังชีวิตเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น และไม่อาจทำการต่อสู้ได้อีก
ทางฝั่งของมู่เฉียนซีได้จัดการปัญหาของตนเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนทางฝั่งของจูเชว่ก็ยังคงทำการต่อสู้ต่อไป
ยิ่งจูเชว่ต่อสู้ไปเรื่อย ๆ ก็ยิ่งมีความกล้าหาญมากขึ้น พลังวิญญาณที่เข้ามาสั่งสมในร่างกายก็เพิ่มพูนขึ้นทีละน้อย
มู่เฉียนซีกล่าว “จูเชว่กำลังจะบรรลุแล้ว”
เปรี้ยง!
ภายในชั่วพริบตา ท้องนภาก็ปรากฏสายฟ้าที่ฟาดลงมาสู่พื้นดิน สายฟ้านั้นได้ฟาดลงมารอบกายของจูเชว่
พลังของสายฟ้าลงทัณฑ์นั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง หากไม่ทันระวังก็อาจจะถูกสายฟ้าฟาดจนกลายเป็นเถ้าถ่านไปเลยก็ได้ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ท่านผู้อาวุโสใหญ่หวังไม่กล้าเข้าใกล้จูเชว่แต่อย่างใด
“สวรรค์! ผู้ชายชุดแดงนั่นใกล้จะบรรลุระดับขั้นเป็นผู้บำเพ็ญภูตขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์แล้ว?”
“ถึงแม้จะสวมหน้ากากอำพรางใบหน้าไว้ แต่ดูจากรูปร่างท่าทางแล้วเจ้านั่นคงจะมีอายุยี่สิบกว่า ๆ เป็นแน่ เพิ่งจะยี่สิบกว่าปีก็บรรลุเป็นผู้บำเพ็ญภูตขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์แล้ว ช่างไม่น่าเชื่อเลยจริง ๆ”
ครืน ครืน!
เมื่อสายฟ้าฟาดได้หายลับไปแล้ว จูเชว่ก็ได้บรรลุระดับขั้นได้อย่างราบรื่น
พลังของผู้บำเพ็ญภูตขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับหนึ่ง ประจวบกับพลังของดาบปีศาจแล้ว หากจะต้องรับมือกับผู้บำเพ็ญภูตขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับสองแล้ว จูเชว่ก็คิดว่าไม่มีปัญหา!
ดวงตาสีแดงเพลิงของจูเชว่เปรียบดั่งภูเขาไฟระเบิดก็มิปาน จากนั้นจูเชว่ก็ได้ขับเคลื่อนพลังโจมตีด้วยท่าทางน่าเกรงขาม
ครืน ครืน!
ท้องนภาส่องประกายเปลวเพลิงไปทั่วทุกสารทิศ หลังจากพลังโจมตีได้ระเบิดขึ้นแล้ว ท่านผู้อาวุโสใหญ่หวังก็ถูกธาตุอัคคีแผดเผาจนตกสู่พื้นในสภาพร่อแร่
“ซี ซี ข้าบรรลุระดับขั้นแล้ว!” จูเชว่กล่าวด้วยท่าทางดีใจเป็นอย่างยิ่ง
“ยินดีด้วยที่เจ้าบรรลุระดับขั้นเป็นบำเพ็ญภูตขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์” มู่เฉียนซีกล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“ตั้งแต่ข้าได้รับดาบปีศาจมาในช่วงแรก ข้าก็รู้สึกได้เลยว่าจะต้องบรรลุระดับขั้นแน่ ๆ คิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าจะบรรลุระดับขั้นเร็วแบบนี้! ไม่รู้ว่ามู่หลินหลางได้บรรลุระดับขั้นแล้วหรือยัง หากนางรู้ว่าข้าบรรลุระดับขั้นแล้ว เกรงว่าคงจะโกรธจนเสียสติเป็นแน่ ๆ! ฮ่า ฮ่า ฮ่า! ให้ข้าออกไปก่อนเถอะ ข้าจะป่าวประกาศเรื่องนี้ให้รู้กันไปทั่วเลย” จูเชว่กล่าวด้วยความกระหยิ่มใจเป็นอย่างยิ่ง
“ดูเหมือนดาบที่มู่หลินหลางใช้ไล่สังหารเจ้าจะยังไม่ใหญ่พอสินะ! คิดแค้นกันเช่นนี้คงจะไม่อยากมีชีวิตยืนยาวแล้วกระมัง!”
“ไม่ใช่ว่าข้าได้บอกไปแล้วหรือ? ข้าไม่อยากให้ใครมาเจอตัวข้า และไม่มีใครตามหาข้าเจอได้หรอก! ถึงแม้จะเป็นมู่หลินหลางก็ไม่ได้ ดังนั้นซีซีไม่ต้องเป็นห่วงหรอก!”
ครานี้ทุก ๆ คนต่างก็รู้สึกตื่นตระหนกอยู่ไม่น้อย ผู้อาวุโสทั้งสองของเกาะไม่หวนคืนของพวกเขากลับต้องมาพ่ายให้กับคนหนุ่มสาวสองคนนี้จริง ๆ หรือนี่
ขณะนั้นเองพลังงานจำนวนนับไม่ถ้วนก็เข้ามาประชิดใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ
ผู้ที่นำอยู่เบื้องหน้าเป็นผู้อาวุโสรูปร่างท่าทางสง่างามดุจดั่งเทพเซียนคนหนึ่ง ทุกๆคนก็พลันกล่าวขึ้นด้วยความตกตะลึง “ท่านผู้นำเกาะ! วันนี้ท่านผู้นำเกาะก็ออกมาด้วยจริง ๆ”
“ท่านผู้นำเกาะไม่ได้กลับออกมาจากการบำเพ็ญตนมานานมากแล้ว หนุ่มสาวสองคนนั้นก่อเรื่องวุ่นวายบนเกาะเช่นนี้ เป็นการรบกวนท่านผู้นำเกาะจริง ๆ”
“……”
ในขณะนั้นเองท่านผู้อาวุโสหวังก็ได้ก้าวออกไปเบื้องหน้าแล้วกล่าว “ท่านผู้นำเกาะ ช่วยด้วย! ท่านต้องคืนความเป็นธรรมให้พวกเรา! เจ้าเด็กสองคนนี้ไม่เห็นท่านอยู่ในสายตาเลยสักนิด ข้า…”
ท่านผู้นำเกาะกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาเป็นอย่างยิ่ง “หุบปาก!”
เขาทอดมองไปยังพวกของมู่เฉียนซี “พวกเจ้าทั้งสองคงเป็นผู้มาเยือนเกาะไม่หวนคืนคนใหม่สินะ นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? อธิบายมาให้หมด! ข้าย่อมให้ความเป็นธรรมเสมอ”
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “ท่านผู้นำเกาะ ข้ากำลังรอท่านกล่าวประโยคนี้อยู่พอดี”
“เมื่อมาถึงเกาะแล้วก็ต้องจ่ายเงินเพื่อแลกกับป้ายแสดงสถานะ สหายของข้าเป็นผู้บำเพ็ญภูตขั้นปราชญ์แห่งภูตระดับเก้า ต้องจ่ายหยกซวนหนึ่งแสนชิ้น ข้าที่เป็นเพียงผู้บำเพ็ญภูตขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับหก ต้องจ่ายหยกซวนหนึ่งล้านชิ้น ผู้ดูแลได้บอกข้าไว้เช่นนี้”