ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1783 ปลุกระดมสำเร็จ
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ในเมื่อท่านผู้นำเกาะกล่าวเช่นนี้ มันคงจะเป็นปัญหาที่ค่อนข้างจะจริงจังไปเสียหน่อย ในเมื่อท่านอยากดู ข้าแค่ให้ท่านดูก็แล้วกัน”
และมู่เฉียนซีก็หยิบเอาสมุนไพรวิญญาณเหล่านั้นออกมาจริง ๆ มันล้วนถูกเก็บเกี่ยวมาจากทะเลทั้งนั้น และมันก็ยังไม่ใช่ทั้งหมดอีกด้วย แต่ดูเหมือนว่ามู่เฉียนซีจะหยิบเอาอันที่ล้ำค่าที่สุดออกมาจนหมดแล้ว
เมื่อเห็นสมุนไพรวิญญาณเหล่านี้ ดวงตาทั้งคู่ของท่านผู้นำเกาะก็เอาแต่จับจ้องอยู่ข้างหน้า
มีสมุนไพรวิญญาณบางอย่างที่เขาไม่รู้จัก แต่ทว่าสมุนไพรวิญญาณที่อยู่ในระดับล้ำค่าเหล่านั้นได้ทำให้หัวใจของเขาสั่นไหวจนแทบจะทนไม่ไหวแล้ว
สมุนไพรวิญญาณมากมายถึงเพียงนี้ ถึงแม้ว่าพวกไร้ประโยชน์เหล่านั้นจะออกไปเป็นร้อยครั้งก็คาดว่าคงจะหามาไม่ได้มากมายถึงขนาดนี้หรอก แต่ทว่าแม่สาวน้อยผู้นี้ออกไปเพียงครั้งเดียว แต่กลับได้รับมามากมายเลยทีเดียว
ท่านผู้นำเกาะกล่าวว่า “ผู้อาวุโสมู่ จงมอบสมุนไพรวิญญาณเหล่านี้มาให้ข้าซะ! แล้วยาลูกกลอนที่ข้ากลั่นออกมาเจ้าก็เลือกไปได้ตามใจชอบเลย”
“ข้าไม่ต้องการ เมื่อเทียบกับยาลูกกลอนของท่านผู้นำเกาะแล้ว ข้าชื่นชอบสมุนไพรวิญญาณเหล่านี้มากกว่า ดังนั้นข้าขอปฏิเสธข้อเรียกร้องของท่าน” มู่เฉียนซีกล่าว
“เจ้าลองพูดอีกครั้งซิ? ปฏิเสธข้า?” ผู้นำเกาะกล่าวพลางจ้องมองไปที่มู่เฉียนซีด้วยความโกรธ
“ใช่แล้ว ข้าปฏิเสธ! ข้าคิดว่าข้าก็มีสิทธิที่จะปฏิเสธไม่ใช่หรือ!”
“อยู่ในเขตแดนของข้า ไม่มีสิทธิที่จะปฏิเสธ! ของเหล่านี้เป็นของข้า ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นของข้า” ท่านผู้นำเกาะคำรามลั่น
“ไม่ใช่! สมุนไพรวิญญาณเป็นของข้า ไม่ได้เป็นของท่าน” มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเรียบเฉย และเก็บสมุนไพรวิญญาณเหล่านี้ของนางกลับเข้าไปในมิติอย่างรวดเร็ว
ที่นางหยิบเอาสมุนไพรวิญญาณเหล่านี้ออกมาไม่ได้เพื่อที่จะเอามามอบให้ท่านผู้นำเกาะผู้นี้ แต่เพียงเพื่อให้เขาได้จ้องตาเป็นมัน ด้วยความอิจฉาเท่านั้นเอง
สมุนไพรวิญญาณที่มากมายขนาดนั้นถูกมู่เฉียนซีเก็บกลับไปภายในพริบตาเดียว และท่านผู้นำเกาะก็ทุบโต๊ะด้วยความเดือดดาล “สามารถหาสมุนไพรวิญญาณได้มากมายถึงเพียงนี้ แต่กลับไม่ต้องการยาลูกกลอนของข้า หรือว่าที่จริงแล้วเจ้าก็เป็นนักปรุงยาเช่นนั้นหรือ!”
“แต่ว่า ถึงแม้เจ้าจะเป็นนักปรุงยา แต่สมุนไพรวิญญาณเหล่านี้ก็ต้องมอบให้ข้า ห้ามเอาไปครอบครองเป็นของส่วนตัว!”
พละพลังของผู้บำเพ็ญขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับสี่ได้ปะทุออกมา และท่านผู้นำเกาะก็ได้พุ่งไปจับมู่เฉียนซี
จูเชว่กล่าวว่า “ซีซี ระวัง!”
มู่เฉียนซีใช้การเคลื่อนย้ายภายในชั่วพริบตา เพื่อหลบหลีกการจู่โจมที่รุนแรงของท่านผู้นำเกาะ และเห็นได้ชัดว่าท่านผู้นำเกาะไม่มีทางที่จะปล่อยนางไปโดยง่ายเป็นแน่
“เจ้าคิดว่าเจ้าจะสามารถหลบซ่อนได้เช่นนั้นหรือ?”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ตอนนี้ข้าก็ไม่อยากที่จะหลบซ่อนอีกต่อไปแล้ว และไม่อยากที่จะก่อปัญหาด้วย แต่ทว่าเจ้ารนหาที่ตายด้วยตนเอง เช่นนั้นข้าก็จะทำให้เจ้าได้สมความปรารถนาก็แล้วกัน”
“อู๋ตี้ เสี่ยวหง เสี่ยวโม่โม่ จงออกมา!”
ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับสี่คนหนึ่งออกโรง และมู่เฉียนซีก็ได้เรียกพวกเขาทั้งสามตัวออกมาจัดการกับศัตรู
ครืนนน!
พวกเขาทั้งสามตัวตะโกนร้องออกมา และจากนั้นก็เข้าโจมตีท่านผู้นำเกาะอย่างบ้าคลั่ง
เป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับสี่ที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ! แต่การเผชิญหน้ากับสัตว์เทพทั้งสามตัวนี้ ก็ทำให้เขายากที่จะรับมือได้จริง ๆ
เมื่อเห็นพวกของอู๋ตี้และเสี่ยวหง ท่านผู้นำเกาะก็แทบไม่อยากจะเชื่อเลยทีเดียว
“สัตว์เทพ มีถึงสามตัว! ไม่คิดเลยว่าจะมีคนที่ทำพันธสัญญากับสัตว์เทพถึงสามตัวในเวลาเดียวกันเช่นนี้ได้?”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ท่านผู้นำเกาะไม่ใช่ว่าเดาออกอยู่แล้วหรอกหรือว่าข้าคือนักปรุงยา? นักปรุงยามีจิตใจที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก การผูกพันธสัญญากับสัตว์วิญญาณหลายตัวก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร หรือว่าท่านผู้นำเกาะท่านเป็นนักปรุงยาที่ไม่มีความสามารถนี้อย่างนั้นหรือ?”
ท่านผู้นำเกาะจ้องมองไปที่มู่เฉียนซี ในเวลานี้เขาทั้งอิจฉาและทั้งโกรธแค้น
“แม่สาวน้อย ดูเหมือนว่าเจ้าจะเป็นนักปรุงยาอัจฉริยะที่ได้รับการสั่งสอนมาจากอาจารย์ที่มีชื่อเสียงเป็นแน่! ดีมากจริง ๆ ไม่คิดเลยว่าคนเช่นนี้จะถูกพามาติดอยู่ที่เกาะไม่หวนคืน ช่างเป็นความช่วยเหลือจากสรวงสวรรค์โดยแท้จริง” ท่านผู้นำเกาะหัวเราะขึ้นมาอย่างกะทันหัน
ตูมมม!
เขาหลบหลีกการโจมตีของพวกอู๋ตี้ และพุ่งเข้ามาหามู่เฉียนซีอีกครั้ง
“แม่สาวน้อย ข้าจะให้โอกาสเจ้าอีกครั้งหนึ่ง! ขอเพียงแค่เจ้าช่วยข้าทำงานอย่างเชื่อฟัง และสอนทุกสิ่งที่เจ้าได้เรียนรู้มาแก่ข้า หลังจากนั้นก็เป็นผู้นำในการไปเก็บยามาให้ข้า เพื่อข้า…”
ท่านผู้นำเกาะผู้นี้เป็นคนโลภมากที่สุด ข้อเรียกร้องเพียงเล็กน้อยนี้ก็คือการคิดที่จะทำให้คนมาเป็นทาสรับใช้อย่างสมบูรณ์นั่นเอง
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเยาะเย้ยว่า “ท่านผู้นำเกาะ ท่านก็อายุมากแล้วยังจะฝันกลางวันเช่นนั้นอีก! มันน่าขันจะตายอยู่แล้วนะ!”
“ให้ข้าสอนทุกอย่างที่ข้าได้เรียนมาแก่ท่าน แต่ท่านจะเรียนรู้ได้อย่างนั้นหรือ? ท่านอย่ามองตนเองสูงจนเกินไปเลย คิดอยากจะให้ข้าทำงานเพื่อท่าน แล้วท่านถือว่าเป็นอะไรกัน…”
ท่าทางที่ดูถูกเช่นนั้นของมู่เฉียนซี ยิ่งทำให้ท่านผู้นำเกาะโกรธเคืองมากขึ้นไปอีก
“แม่สาวน้อย เจ้าคงจะพูดด้วยดี ๆ แล้วไม่ชอบ แต่ชอบให้บังคับใช่หรือไม่ เช่นนั้นข้าก็ทำได้เพียงแต่จับเจ้าไปขังเอาไว้ รอให้ถึงตอนที่ถูกทรมาน แล้วมาดูกันว่าเจ้าจะยังไม่เชื่อฟังข้าอยู่หรือไม่?” ท่านผู้นำเกาะกล่าวด้วยใบหน้าที่โหดเหี้ยม
“ท่านสามารถทำได้อย่างนั้นหรือ? เรื่องจับข้าน่ะ?” มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเยาะเย้ย
“ทันทีที่ผู้อาวุโสขั้นสอง ผู้อาวุโสขั้นสาม และยังมีผู้อาวุโสขั้นหนึ่งที่มีความแข็งแกร่งมากเคลื่อนไหว เจ้าคิดว่าสัตว์เทพทั้งสามตัวจะปกป้องเจ้าได้อย่างนั้นหรือ? ” ท่านผู้นำเกาะยิ้มอย่างชั่วร้าย
มู่เฉียนซียิ้มจาง ๆ พลางกล่าวว่า “อื้ม! พวกท่านมีคนมาก พวกท่านยอดเยี่ยมมาก! แต่ข้าก็ไม่กลัวหรอก!”
โจมตี!
“พลังวายุกักขังวิญญาณ!” มู่เฉียนซีร่วมมือกับพวกของเสี่ยวโม่โม่ในการโจมตี
จูเชว่ก็ถือดาบปีศาจของเขาขึ้นมาและต่อสู้กับผู้พิทักษ์บนเกาะเหล่านี้ เพียงไม่นานความช่วยเหลือของท่านผู้อาวุโสแต่ละท่านก็เข้ามาอย่างกึกก้อง และนักรบผู้บำเพ็ญภูตขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ราวร้อยคนนี้ก็ดูงดงามเป็นอย่างมากเช่นกัน
ท่านผู้นำเกาะกล่าวว่า “ลงมือได้ จับแม่สาวน้อยผู้นั้นไว้! ส่วนเจ้าเด็กนั่นฆ่าทิ้งไปซะ”
“ขอรับ ท่านผู้นำเกาะ!”
พวกเขาได้ตอบกลับมาอย่างพร้อมเพียงกัน แต่ทว่าเมื่อรอให้พวกเขาพุ่งตรงเข้าไปลงมือกลับมีบางอย่างที่ผิดปกติ
คนใกล้ชิดของเขาเหล่านั้นถูกคนของตนเองใช้ดาบแทงเข้าที่ข้างหลัง จนทำให้ต้องตายแบบตาไม่หลับ
พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บ!
แต่ละคนล้มลงไปติดต่อกัน ไม่คาดคิดเลยว่าผู้อาวุโสเหล่านั้นไม่ได้ถือดาบเข้าห้ำหั่นศัตรู แต่กลับห้ำหั่นพวกของตนเอง
ท่านผู้นำเกาะกล่าวอย่างโมโหว่า “พวกเจ้ารู้หรือไม่ว่าพวกเจ้ากำลังทำอะไรอยู่?”
“พวกเจ้านี่รนหาที่ตายจริง ๆ!”
“เจ้าคนสารเลว!”
ท่านผู้นำเกาะค้นพบว่า คนที่เข้าร่วมกับฝ่ายศัตรู ไม่คาดคิดเลยว่าจะมากกว่าฝ่ายที่สนับสนุนเขาเสียอีก
เห็นได้ชัดว่าทางฝ่ายเขามีจำนวนคนที่มากกว่า แต่กลับไม่คาดคิดเลยว่าในตอนนี้จะกลายเป็นข้อได้เปรียบของมู่เฉียนซีไปแล้ว
“เหตุใดพวกเจ้าถึงได้ทำเรื่องเช่นนี้?” ท่านผู้นำเกาะจ้องมองไปที่คนทรยศเหล่านั้นด้วยความโกรธ
“เหตุใดพวกข้าถึงได้ทำเรื่องเช่นนี้งั้นหรือ? ท่านผู้นำเกาะท่านควรที่จะถามตนเองมากกว่านะ!” ในเวลานี้ ผู้อาวุโสอวี๋ซึ่งเป็นพ่อบ้านและผู้มีความสามารถรองลงมาจากท่านผู้นำเกาะได้ลุกยืนขึ้น
“เป็นเจ้า ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะทรยศข้า! เสียแรงที่ข้าไว้ใจเจ้า!”
“ไว้ใจหรือ หลายปีมานี้ข้ากลายเป็นคนรับใช้มาโดยตลอด เช่นนี้ถือว่าไว้ใจหรือ? เมื่อตอนที่เจ้าอารมณ์ดีก็ตอบแทนด้วยยาลูกกลอนขยะที่เจ้ากลั่นออกมาได้ พออารมณ์เสียก็ทุบตีด่าทอข้า! พวกเราหลายคนทนเจ้ามานานมากแล้ว” ท่านผู้อาวุโสหยุกล่าวอย่างเย็นชา
“จะ…เจ้ากล้าได้อย่างไร?”
“มันไม่ถูกต้อง ถึงแม้ว่าจะเป็นเจ้า แต่ก็ไม่อาจมีผู้สมรู้ร่วมคิดมาจัดการเขามากมายถึงเพียงนี้ได้! หากว่าไม่มีข้าอยู่ แล้วผู้ใดจะเป็นคนให้ยาแก่พวกเจ้า”
ผลสุดท้าย เขาก็ได้แต่มองไปที่คนทรยศเหล่านั้น เมื่อพลังแห่งการต่อสู้ถูกใช้ไปหมดแล้วก็เริ่มกินยาลูกกลอนกัน ซึ่งยาลูกกลอนนั้นมีคุณภาพที่ดีเป็นอย่างมาก และแน่นอนว่านี่ไม่ใช่ยาที่เขาเป็นคนกลั่นออกมา
“ผู้ใดเป็นผู้มอบยาลูกกลอนนี้ให้กับพวกเจ้า?” ท่านผู้นำเกาะกล่าวอย่างโกรธเคือง
“ท่านผู้นำเกาะคาดเดาได้อย่างแม่นยำว่าข้าคือนักปรุงยา หรือว่าจะคาดเดาเรื่องเล็กน้อยชิ้นนี้ไม่ได้? หรือว่าจะถูกทำให้โกรธเสียจนโง่เขลาไปแล้ว ช่างน่าสงสารเสียจริง” มู่เฉียนซีกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“เจ้า…เป็นเจ้า…ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะเป็นผู้ปลุกระดมพวกเขา?”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ของเพียงแค่กำจัดคนของท่านผู้นำเกาะทั้งหมดนี้ให้สิ้นซากได้ ยาลูกกลอนเหล่านั้นพวกเจ้ากินกันได้ตามใจชอบเลย! มันมีเพียงพอแน่นอนอยู่แล้ว รีบจัดการให้รวดเร็วและเฉียบขาดที่สุด”
เมื่อได้ยินคำพูดของมู่เฉียนซี พวกเขาก็ตื่นเต้นเป็นที่สุด
ในตอนแรกที่อยากได้รางวัลเป็นยาลูกกลอนสักเม็ด จำเป็นที่จะต้องขึ้นอยู่กับอารมณ์ของเขาซึ่งต้องทำตัวราวกับขอทานอย่างไรอย่างนั้น ใครจะไปคิดว่าจะมีวันที่มีความสุขมากเช่นนี้ได้กัน
ด้วยเหตุนี้ทำให้ขวัญกำลังใจของพวกเขาแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น และคนที่ไม่ได้ตามไปด้วยและเลือกติดตามท่านผู้นำเกาะเริ่มที่จะเสียใจขึ้นมาแล้ว พวกเขาต่อสู้กับศัตรูอย่างยากลำบากเป็นเวลานาน ท่านผู้นำเกาะไม่แม้แต่จะมอบยาลูกกลอนให้พวกเขาได้ฟื้นฟูพลังวิญญาณเพื่อต่อสู้ต่อไปเลยสักเม็ดเดียว แล้วพวกเขาจะมีแรงสู้ต่อไปได้อย่างไรกัน?