ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1785 นางต้องการออกไป
ทว่ามู่เฉียนซีกลับกล่าว “นักปรุงยาชั้นต่ำอย่างท่านน่ะหรือจะแก้พิษของข้าได้ ไม่มีทาง ยอมแพ้เสียเถอะ!”
ผู้นำเกาะกล่าว “เจ้าข่มขู่ข้าให้มันน้อย ๆ หน่อย ข้าไม่เชื่อคำลวงจากเด็กเมื่อวานซืนอย่างเจ้าหรอก!”
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “เช่นนั้นก็ลองดู? ข้าจะให้เวลาท่านอีกสักหน่อยก็แล้วกัน”
ผู้นำเกาะรีบนำยาถอนพิษของเขามากินด้วยความรีบร้อน ท่าทางของเขาไม่ต่างอันใดจากคนป่วยหนักแล้วรีบกินยามั่วซั่วแม้แต่น้อย
หลังจากที่เขากินยาถอนพิษเข้าไป ทันใดนั้น “อั่ก!” ผู้นำเกาะก็กระอักเลือดสีดำกองใหญ่ออกมา สีหน้าของเขาซีดเผือดไปในทันที
“แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก!”
เขาสูดหายใจเข้าออกด้วยความยากลำบากเป็นอย่างยิ่ง ราวกับถูกกดลงในน้ำและไม่อาจตะเกียกตะกายขึ้นจากน้ำได้
เขาตะคอกออกไปด้วยน้ำเสียงแหบพร่า “ช่วยข้าด้วย! ช่วยข้าด้วย…ใครก็ได้มาช่วยข้าเร็วเข้า หากผู้ใดมาช่วยข้า ข้าจะให้ยาลูกกลอนกับคนผู้นั้น เจ้าจะได้ทุกอย่างตามที่ต้องการ!”
“อ้า อ้า อ้า!”
นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเห็นท่าน ผู้นำเกาะร้องขอความช่วยเหลือด้วยท่าทางน่าเวทนาเช่นนี้ ทว่าในยามนี้ก็ไม่มีผู้ใดยินดีที่จะส่งตัวเองไปตาย
คนหนึ่งก็เป็นนักปรุงยาที่มีฝีมือเก่งกาจเสียยิ่งกว่าท่านผู้นำเกาะ ส่วนอีกคนก็เป็นผู้มากความสามารถอายุน้อยที่มีพลังการต่อสู้ไร้เทียมทาน พวกเขาไม่อาจยั่วยุคนทั้งสองได้เลย!
“เหล่าอวี๋ เหล่าอวี๋…”
ครานี้ท่านผู้นำเกาะได้ไปขอความช่วยเหลือจากผู้อาวุโสอวี๋ “เห็นแก่มิตรภาพที่เรารู้จักกันมานาน ช่วยข้าด้วย…”
ผู้อาวุโสอวี๋กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ท่านผู้นำเกาะ คนที่ตอนนี้ท่านควรร้องขอไม่ใช่ข้า แต่เป็นท่านมู่ต่างหาก!”
“ท่านมู่ ให้ยาถอนพิษแก่ข้าเถอะนะ! ยาถอนพิษ ข้าต้องการยาถอนพิษ! เพียงแค่เจ้าให้ยาถอนพิษแก่ข้า ข้าจะให้เจ้าเป็นผู้นำเกาะไม่หวนคืน ข้าจะให้เจ้าทุกอย่าง”
ทว่ามู่เฉียนซีกลับกล่าวตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชาเป็นอย่างยิ่ง “ท่านคิดว่าสิ่งเหล่านี้ข้าต้องการให้ท่านเป็นคนมอบให้อย่างนั้นหรือ?”
สีหน้าของท่านผู้นำเกาะเปลี่ยนเป็นสีขาวแกมเทา เขารู้สึกทรมานเป็นอย่างยิ่ง “เจ้าวางยพิษใดข้ากันแน่? จะต้องเป็นยาพิษประหลาดแน่ ๆ ต้องเป็นเช่นนั้นแน่ ๆ มิฉะนั้นเหตุใดยาถอนพิษของข้าจึงไม่ได้ผล?”
“ท่าคิดมากเกินไปแล้ว ข้าเพียงแค่ปรุงยาขึ้นมาเล่น ๆ ก็เท่านั้น”
“เป็นไปไม่ได้!” ท่านผู้นำเกาะถลึงตาใส่มู่เฉียนซีด้วยท่าทางโกรธเกรี้ยว
มู่เฉียนซีกล่าว “เดิมทีท่านก็สามารถอยู่เป็นราชาที่เกาะไม่หวนคืนแห่งนี้ของท่านได้อย่างสบาย ๆ แต่ท่านกลับยั่วโทสะข้า ในฐานะที่เป็นนักปรุงยา ท่านไม่รู้หรือว่าการชิงยาลูกกลอนของนักปรุงยาไปเป็นเรื่องที่อันตรายมาก? และหากเป็นการขโมยยาลูกกลอนของข้าแล้ว นั่นก็ยิ่งเป็นเรื่องอันตรายเข้าไปใหญ่”
“อ้า อ้า อ้า!”
ผู้นำเกาะดิ้นทุรนทุรายด้วยความทรมาน มู่เฉียนซีสั่งให้พวกของอู๋ตี้กลับเข้าไปในมิติ คนผู้นี้ไม่สามารถแผงฤทธิ์เดชอันใดได้อีกแล้ว
ผู้อาวุโสอวี๋กล่าว “ท่านมู่ อย่างไรเสียข้าก็ได้ติดตามเขามาเนิ่นานแล้ว ให้ข้าส่งเขาเป็นครั้งสุดท้ายเป็นอย่างไร?”
“แล้วแต่เจ้า!”
“ขอบคุณท่านมู่มาก!” ผู้อาวุโสอวี๋ฟาดคมดาบลงไปด้วยความรวดเร็ว ภายในชั่วพริบตาศีรษะของผู้นำเกาะก็หล่นลงพื้นในทันที
ท่านผู้นำเกาะผู้นี้ถูกขนานนามว่ามีนิสัยโหดเหี้ยมที่ครองเกาะไม่หวนคืนมาเป็นเวลาหลายสิบปี บัดนี้ได้จบชีวิตลงแล้ว
ผู้อาวุโสอวี๋กล่าวกับมู่เฉียนซี “ท่านมู่ ตอนที่ท่านกำลังต่อสู้กับผู้นำเกาะอยู่นั้น พวกเราก็ได้ปรึกษากันแล้วว่าท่านเหมาะสมที่จะเป็นผู้นำเกาะมากที่สุด ไม่ทราบว่าท่านมู่คิดเห็นว่าอย่างไร?”
“ข้าไม่สนใจตำแหน่งผู้นำเกาะหรอก”
ผู้นำเกาะตกตะลึงไปในทันที จากนั้นเขาจึงจะเอ่ยถาม “แล้วท่านจูเชว่ล่ะ!”
“ผู้ใดอยากได้ตำแหน่งผู้นำเกาะกันเล่า! ตำแหน่งนั้นไม่ได้อยู่ในสายตาข้าเลยสักนิด พวกเจ้าใครอยากเป็นก็เป็นไปเถอะ! เรื่องนี้พวกเจ้ากลับไปปรึกษากันเอง อย่าได้ลากพวกเราเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย!”
ผู้อาวุโสอวี๋กล่าว “ต้องขออภัยด้วย! เป็นข้าที่มากความไปเอง”
มู่เฉียนซีไม่คิดครอบครองตำแหน่งผู้นำเกาะ ทว่านางก็ได้มอบหน้าที่ให้พวกเขาไปอย่างหนึ่ง นั่นก็คือให้พวกเขาออกไปหาสมุนไพรมาให้นาง
สถานที่แปลกประหลาดแห่งนี้มีสมุนไพรวิญญาณอยู่ไม่น้อย ก่อนจะจากไปก็จะต้องเก็บเกี่ยวสมุนไพรวิญญาณให้ได้มากสักหน่อย จึงจะถือว่าไม่ได้มาเสียเที่ยว
ยามที่มู่เฉียนซีมอบยาลูกกลอนให้กับพวกเขา ก็ใจกว้างกว่าท่านผู้นำเกาะเป็นเท่าทวี หากไม่ใช่เพราะต้องมีผู้อาวุโสคอยอยู่ประจำการบนเกาะ เกรงว่าทุก ๆ คนคงจะออกไปหาสมุนไพรวิญญาณกันทั้งเกาะแล้ว
จำนวนสมุนไพรวิญญาณที่เพิ่มขึ้น ทำให้มู่เฉียนซีรู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างยิ่ง เมื่อลองพิจารณาดูแล้ว ก็ถึงเวลาที่นางจะต้องออกเดินทางได้แล้ว
มู่เฉียนซีกล่าว “เตรียมห้องหลอมอาวุธให้ข้าสักห้องจะได้หรือไม่?”
ข้ารับใช้ผู้นั้นก็แสดงสีหน้าที่สับสนงุนงงออกมาในทันที ห้องหลอมอาวุธหรือ ท่านมู่กล่าวอะไรผิดไปหรือไม่ นางเป็นนักปรุงยาไม่ใช่หรอกหรือ?
“ห้องหลอมอาวุธ?” ขณะนั้นเองจูเชว่ก็ได้เดินเข้ามา
“ซีซีจะใช้ห้องหลอมอาวุธไปทำไมกัน?”
“แน่นอนว่าก็ต้องหลอมอาวุธน่ะสิ”
“ละ…หลอมอาวุธ…” จูเชว่จ้องมองมู่เฉียนซีด้วยความตกตะลึง
“ซีซี เจ้าอย่าทำให้ข้าตกใจเช่นนี้สิ!” ทักษะการปรุงยาขั้นเทพของนางก็เกินกว่าจินตนาการแล้ว นี่นางยังเป็นนักหลอมอาวุธอีกหรือ
มู่เฉียนซีโบกมือไปมาแล้วกล่าว “รีบไปเตรียมให้ข้าเถอะ!”
“ขอรับ!”
ข้ารับใช้ผู้นั้นรีบเดินจากไปอย่างรวดเร็ว ราวกับเขาได้รู้เรื่องที่สุดยอดเรื่องหนึ่งมาก็มิปาน
ไม่นานนักมู่เฉียนซีก็ได้เข้าไปในห้องหลอมอาวุธ จากนั้นนางก็เริ่มหลอมอาวุธในทันที นางไม่ได้หลอมอาวุธมานานแล้ว ทำให้ติดขัดอยู่เล็กน้อย มู่เฉียนซีจึงค่อย ๆ ทำการหลอมอาวุธไปทีละขั้นทีละตอนอย่างไม่รีบร้อน
ในที่สุดก็สำเร็จ นางได้หลอมเกราะอ่อนที่สามารถสวมแนบติดกับร่างกายออกมาได้หนึ่งชิ้น
ทว่าหากมองภายนอกแล้วมันก็อาจดูธรรมดาไปสักหน่อย
เมื่อจูเชว่พบว่ามู่เฉียนซีกลับออกมาจากห้องหลอมอาวุธแล้ว เขาจึงเดินเข้าไปหาด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแล้วกล่าว “ซีซี ข้าอยากเห็นอาวุธวิญญาณที่เจ้าหลอมออกมาจัง”
มู่เฉียนซีจึงนำเกราะที่นางหลอมออกมาแล้วกล่าว “ข้าให้เจ้า เจ้าสามารถใส่มันตอนนี้ได้เลย”
มุมปากของจูเชว่กระตุกขึ้นเล็กน้อย “เกราะอ่อนนี่มันวิเศษมากจริง ๆ แต่หากจะให้ข้าสวมใส่ มันก็ไม่ค่อยเหมาะกับความสง่าของข้าสักเท่าไหร่!”
“อ้อ! หากไม่ใส่ละก็ เจ้าก็ทิ้งมันไปก็แล้วกัน!” มู่เฉียนซีกล่าว
จูเชว่ที่กำลังถือเกราะไว้ในมือ ก็ได้มองดูมันอย่างละเอียด ในสายตาของเขาแล้ว เกราะชุดนี้ก็ดูขี้เหร่ไปสักหน่อยจริง ๆ ทว่ามันก็เป็นเกราะชั้นดีเลยทีเดียว!
ซีซีจอมวิปริตเป็นนักหลอมอาวุธจริง ๆ ด้วย!
ของแบบนี้เขาไม่กล้าทิ้งหรอก ถึงจะขี้เหร่มากเพียงใดเขาก็จะต้องสวมมัน
เมื่อหลอมเกราะอ่อนชุดนั้นเสร็จเรียบร้อยแล้ว มู่เฉียนซีก็ได้ขอให้ผู้อาวุโสอวี๋หรือผู้แทนผู้นำเกาะในตอนนี้เตรียมเรือให้นาง และบอกกับเขาว่านางจะออกไปหาวิธีออกจากเกาะไม่หวนคืน
ผู้อาวุโสอวี๋กล่าวด้วยความตกตะลึง “ท่านมู่ นี่ท่านยังไม่ได้ล้มเลิกที่จะออกจากเกาะอีกหรือ?”
“แน่นอน ข้าจะต้องออกไปให้ได้”
“ก่อนหน้านี้ก็มีคนพูดแบบนี้มานักต่อนักแล้ว แต่ก็ไม่มีใครออกไปได้เลยสักคน! ในทะเลนั้นอันตรายมาก ท่านมู่จะไม่พิจารณดูหน่อยหรือ?”
มู่เฉียนซีกล่าว “พวกท่านใช้สมุนไพรวิญญาณมาแลกกับยาลูกกลอน แบบนี้มันเพียงพอแล้วหรือ? ถึงแม้ข้าจะตายอยู่กลางทะเล แต่ข้าก็คงไม่ได้ส่งผลกระทบต่อพวกท่านมากนัก!”
“ท่านมู่ ข้าไม่ได้หมายความว่าเช่นนั้น…”
มู่เฉียนซีกล่าวตัดบทเขาในทันที “อย่าได้กล่าวให้มากความอีกเลย รีบไปเตรียมเรือให้ข้าเร็วเข้า!”
ผู้อาวุโสอวี๋ทราบถึงความสามารถของมู่เฉียนซีเป็นอย่างดี ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าที่จะไม่ทำตาม เขารีบไปเตรียมเรือที่ดีที่สุดบนเกาะไม่หวนคืนให้มู่เฉียนซีในทันที
เรือลำนี้มีให้พวกเขาสองคนใช้เท่านั้น มู่เฉียนซีได้ให้จูเชว่เป็นคนพายเรือ
เมื่อได้ล่องอยู่ในทะเลมาทั้งวัน มู่เฉียนซีก็ได้พบเจอเกาะแก่งเป็นบางครา นางจึงได้ลากนิรันดร์ที่เกียจคร้านราวกับคนไร้กระดูกออกไปเก็บสมุนไพรวิญญาณด้วยกัน
จูเชว่กล่าวด้วยความประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง “ซีซี เจ้าบอกว่าพวกเราจะออกจากเกาะนี้ แล้วเราจะออกไปยังไงล่ะ! เจ้ารีบบอกข้ามาเถอะ”
“รอก่อน!” มู่เฉียนซีกล่าวตอบไปเพียงคำเดียวเท่านั้น
“รอ! รออะไรอีกเล่า?” จูเชว่กล่าวด้วยสีหน้าสับสนเล็กน้อย
สามวันให้หลัง เวลาที่มู่เฉียนรั้งรอก็มาถึงแล้ว
จูเชว่กล่าว “ซีซี พายุฝนกำลังมาแล้ว หากเรือลำนี้แตกแล้วเราตกลงไปในทะเล ซีซีจะต้องช่วยข้านะ! ข้ายังหนุ่มทั้งยังรูปงาม ข้ายังไม่ได้ทำในสิ่งที่ข้าอยากทำเลย…”
โครม!
เสียงของบางสิ่งบางอย่างดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่ว เสียงนั้นดังกลบเสียงพูดของจูเชว่ไปในทันที
เมื่อสายฟ้าฟาดลงมา มันก็ยิ่งรุนแรงมากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ มังกรเงินแต่ละตัวที่หาะเหินลงมาจากฟากฟ้าก็มีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ทว่าในเวลาแบบนี้มู่เฉียนซีกลับกล่าวด้วยรอยยิ้มแทน “ในที่สุดก็ถึงเวลาเสียที”