ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1847 มีความสุขก็ดีแล้ว
สัตว์ประหลาดคร่าวิญญาณฝูงใหญ่พุ่งเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ดูเหมือนว่าพวกมันจะถูกผนึกสีดำนี้ดึงดูดให้เข้ามา”
“อื้ม!” ฉู่หลีพยักหน้าพลางกล่าว
“ผลึกนี้มีประโยชน์หรือไม่? หากไม่มีประโยชน์…”
ฉู่หลีกล่าวว่า “มี! มันสามารถฝึกฝนได้”
ความเร็วของสัตว์ประหลาดคร่าวิญญาณนั้นรวดเร็วเป็นอย่างมาก และพวกมันก็ได้เข้ามาล้อมพวกเขาทั้งสองเอาไว้แล้ว
มู่เฉียนซีขมวดคิ้วเล็กน้อย ถึงแม้ว่าศิษย์พี่จะมีความสามารถที่เก่งกาจมาก แต่ทว่าเมื่อต้องมาเผชิญกับหลายสิ่งหลายอย่างเช่นนี้ก็เป็นเรื่องที่ลำบากมากจริง ๆ
ในตอนที่มู่เฉียนซีกำลังคิดที่จะให้เสี่ยวโม่โม่ออกมาช่วยต่อสู้นั้น ไม่คาดคิดเลยว่านางจะค้นพบว่าฉู่หลีได้หยิบเอาผลึกสีดำชิ้นหนึ่งขึ้นมาแล้วเตรียมที่จะดูดซับพลังที่อยู่ภายในของมัน
“ศิษย์พี่!” มู่เฉียนซีรีบดึงแขนเขาเอาไว้อย่างรีบร้อน
ตอนแรกที่คนผู้นั้นดูดซับพลังที่น่าแปลกประหลาดนี้ หลังจากนั้นเขาก็กลายร่างเป็นสัตว์ประหลาดคร่าวิญญาณ ฉะนั้นนางจึงไม่อยากให้ศิษย์พี่ของนางกลายเป็นเช่นนั้นไปด้วย
ฉู่หลีมองไปทางมู่เฉียนซีแล้วกล่าวว่า “ศิษย์น้อง ข้าเคยลองมาแล้ว และข้าก็สามารถยืนยันได้ว่าข้าไม่เป็นอะไรอย่างแน่นอน!”
“แน่ใจแล้วหรือ? ศิษย์พี่ท่านอย่าพูดไปเรื่อย สัตว์ประหลาดคร่าวิญญาณเหล่านี้ถึงแม้ว่าจะรับมือยาก แต่พวกเราก็สามารถที่จะฝ่าวงล้อมออกไปได้ เมื่อถึงตอนนั้นพวกเราค่อยมาศึกษาเจ้าสิ่งนี้อีกครั้งดีหรือไม่? เอามาใช้ตอนนี้มันจะไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไรนัก”
“ไม่เป็นอะไร! เคล็ดวิชาของข้าค่อนข้างที่จะพิเศษ”
นิรันดร์ที่ยืนอยู่ข้างหลังของมู่เฉียนซีกล่าวว่า “สิ่งของที่ชั่วร้ายเช่นนี้ เจ้าแน่ใจหรือว่าเจ้าจะสามารถควบคุมมันได้! หากเจ้ากลายเป็นสัตว์ประหลาด แม้ว่าคนงามจะอิดออดไม่ยอมลงมือกับเจ้า แต่ข้าผู้นี้จะลงมือจัดการเจ้าแน่”
ฉู่หลีกล่าวว่า “ศิษย์น้องวางใจเถิด!”
ฉู่หลีดูดซับพลังวิญญาณที่อยู่ภายในผลึกสีดำเม็ดนั้นอย่างใจเย็นมากจริง ๆ หลังจากที่ดูดซับพลังวิญญาณนั้นเสร็จแล้ว สัตว์ประหลาดคร่าวิญญาณเหล่านั้นก็ไม่ได้ไล่ล่าพวกเขาอย่างบ้าคลั่งอีกต่อไป
และแน่นอนว่า ยังมีบางสิ่งที่ไล่ตามพวกเขามา และมู่เฉียนซีก็ได้โต้กลับไปอย่างรวดเร็ว
ตูมม! ฉู่หลีก็ลงมือโจมตีแล้วเช่นกัน
ฉู่หลีกล่าวว่า “นี่คือผลเพียงเล็กน้อยของผลึกนี้”
มู่เฉียนซีสามารถสัมผัสได้ว่ากลิ่นอายของเขาแตกต่างไปเล็กน้อย และดูเหมือนว่าศิษย์พี่จะแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อยอีกด้วย
มู่เฉียนซีได้ใช้พลังจิตวิญญาณในการตรวจสอบสภาพร่างกายของฉู่หลี และดูเหมือนว่า เขาจะไม่เป็นอะไรจริง ๆ!
อีกทั้งศิษย์พี่ยังเป็นคนที่ค่อนข้างเชื่อถือได้ มู่เฉียนซีจึงกล่าวขึ้นว่า “เช่นนั้นก็ฆ่าพวกมันให้เยอะขึ้นอีกหน่อย จะได้เอามาให้ศิษย์พี่ใช้! ศิษย์พี่มั่นใจว่า หากใช้เยอะขึ้นมันจะไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่?”
“ไม่เป็นไร!”
“เสี่ยวโม่โม่ ออกมา! พวกเราต้องทำการสังหารหมู่แล้วล่ะ!”
“เจ้าค่ะ ๆ ๆ! นายท่าน เสี่ยวโม่โม่มาแล้ว”
ในตอนที่เพลิงหงส์อมตะแห่งความมืดระเบิดออกมาอย่างบ้าคลั่ง การสังหารหมู่ก็ได้เริ่มขึ้นแล้ว
แม้ว่าจะหาหญ้าโลหิตมังกรไม่เจอ แต่สามารถหาสิ่งของบางอย่างที่ใช้ยกระดับความสามารถของศิษย์พี่ได้ก็ถือว่าไม่เลวเช่นกัน หลังจากนั้นมู่เฉียนซีและฉู่หลีก็พุ่งทะยานออกไป และเพียงไม่นานก็ต้องเข้าปะทะกับสัตว์ประหลาดคร่าวิญญาณเหล่านี้
“พลังวายุทำลาย ดาวกระจาย!”
“พลังวายุทำลาย ดับสูญ!”
“……”
ตูมมมม!
สัตว์ประหลาดที่เข้ามาแว้งกัดพวกเขาทั้งหมดได้ถูกจัดการแล้ว จากนั้นฉู่หลีก็ขุดผลึกสีดำเหล่านั้นขึ้นมาด้วยตนเอง โดยที่ไม่ได้ให้มู่เฉียนซีช่วยขุดเลย
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ศิษย์พี่ ท่านต้องการใช้ผลึกเหล่านี้เลยหรือไม่?”
“อื้ม!”
“เช่นนั้นพวกเราไปหาสถานที่ที่ปลอดภัยกว่านี้หน่อยเถอะ”
“……”
หลังจากที่หาสถานที่นั้นพบแล้ว ฉู่หลีก็ได้มอบผลึกสีดำเม็ดแรกที่เขาเคยดูดซับไปแล้วให้กับมู่เฉียนซี
เขากล่าว่า “ของสิ่งนี้ ศิษย์น้อยสามารถใช้มันได้!”
แม้ว่าจะรู้สึกว่าพลังวิญญาณภายในผลึกสีดำนี้จะไม่ได้น่ากลัวเหมือนก่อนหน้านี้อีกแล้ว แต่ทว่ามันก็ยังคงมีพลังอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว
มือที่เรียวยาวคู่หนึ่งได้หยิบเอาผลึกที่อยู่ในมือของมู่เฉียนซีไป หลังจากที่นิรันดร์กวาดตาดูผลึกนี้แล้วจึงกล่าวว่า “ความชั่วร้ายและพลังวิญญาณแห่งความมืดได้ถูกเจ้าหมอนั่นดูดซับไปจนหมดแล้ว! และตอนนี้ก็เหลือเพียงพลังวิญญาณที่บริสุทธิ์เท่านั้น ศิษย์ที่รักเจ้าสามารถเอาไปใช้ได้ อีกทั้งยังสามารถช่วยเร่งการยกระดับความแข็งแกร่งได้อีกด้วย”
“แต่ว่า…” นิรันดร์กวาดตามองไปที่ฉู่หลี และตอนนี้ฉู่หลีก็ได้ดูดซับพลังจากผลึกสีดำไปไม่น้อยแล้ว
“ดูดซับพลังด้านลบไปมากมายถึงเพียงนี้ แต่ไม่คิดเลยว่าเขาจะไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อย ศิษย์ที่รัก เจ้าหมอนี่ต้องเป็นคนที่ไม่ดีอย่างแน่นอน”
ทันใดนั้นฉู่หลีก็เหลือบมองไปที่นิรันดร์ด้วยดวงตาที่เย็นยะเยือก เขาไม่ค่อยพอใจที่เจ้าหมอนี่พูดถึงเขาไม่ดีต่อหน้าศิษย์น้องเช่นนี้
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “นิรันดร์ ข้าคิดมาตลอดว่าพลังที่แต่ละคนใช้นั้นไม่มีทางที่จะมากำหนดลักษณะนิสัยของคนคนหนึ่งได้ และข้าก็เชื่อในตัวศิษย์พี่ด้วย”
ฉู่หลีจ้องมองไปที่มู่เฉียนซี และเขาก็เกือบที่จะบดขยี้แกนวิญญาณสีดำที่อยู่ภายในมือของเขาจนแหลกละเอียดไปเสียแล้ว
แต่สำหรับคนที่ไม่เคยสนใจสิ่งใดเลยเช่นเขา กลับรู้สึกมีความสุขเล็กน้อยในเวลานี้
“ชิ! ข้าจะรอให้เจ้าหมอนี่เผยธาตุแท้ออกมา!” นิรันดร์กล่าวอย่างอารมณ์เสีย
เขาควรที่จะเชื่อความรู้สึกของศิษย์ที่รัก แต่เขาไม่สามารถควบคุมความเป็นปรปักษ์ต่อชายหนุ่มรูปงามทั้งหมดที่เข้าใกล้ศิษย์ที่รักของเขาได้
นอกจากหวงจิ่วเยี่ยแล้ว เจ้าหมอนี่ก็รับมือยากเช่นกัน!
หลังจากที่ฉู่หลีดูดซับพลังไปได้แล้วครึ่งหนึ่ง เขาก็ส่งมันให้กับมู่เฉียนซี ซึ่งพวกเขาทั้งสองนับว่าร่วมมือกันได้เป็นอย่างดี
มู่เฉียนซีตรวจชีพจรให้ฉู่หลีอย่างไม่วางใจ เพราะจะให้มีสุขภาพที่ไม่แข็งแรงไม่ได้
นิ้วเรียวอันนุ่มนวลจรดลงบนแขนของเขา และฉู่หลีก็รู้สึกว่าใบหูของเขาเริ่มที่จะร้อนผะผ่าวขึ้นมาอย่างกะทันหัน เขามองไปทางมู่เฉียนซีพลางกล่าวว่า “ศิษย์น้องนี่ดีจริง ๆ”
“ศิษย์น้องไม่ควรเป็นวิญญาณลิขิตสวรรค์เลย มันลำบากมากเกินไป” ฉู่หลีมองไปที่มู่เฉียนซีด้วยความงงงวย และจริงจังเป็นอย่างมาก
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างจนใจ “บางทีมันก็อาจจะลำบาก! แต่ว่าตอนนี้ท่านก็เปลี่ยนศิษย์น้องไม่ได้แล้วไม่ใช่หรือ? และความจริงแล้วข้าก็รู้สึกโชคดีมาก ที่ได้เจอกับพวกของอาถิง สุ่ยจิงอิ๋งและนิรันดร์”
ด้วยเหตุนี้ ทำให้ฉู่หลีคลี่ยิ้มออกมาด้วยความจนใจ “อื้ม! ศิษย์น้องมีความสุขก็ดีแล้ว”
หลังจากที่ทั้งสองคนร่วมมือกันจัดการผลึกสีดำทั้งหมดเหล่านั้นแล้ว มู่เฉียนซีก็รู้สึกว่าภายในร่างกายของตนเองนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังวิญญาณเช่นกัน และจิตวิญญาณในการต่อสู้ก็สูงมากด้วย
“ศิษย์พี่ เช่นนั้นพวกเรามาหาสมุนไพรวิญญาณและออกล่าไปด้วยกันเถอะ!”
“ได้สิ!”
หลังจากที่ไล่ล่าไปตลอดทั้งทาง เหยียนเหลียนเจียที่ซึ่งอยู่เพียงลำพังในเวลานี้ค่อนข้างที่จะน่าสมเพชเลยทีเดียว
ในฐานะที่เป็นนางปีศาจร้ายที่นำภัยพิบัติมาสู่แว่นแคว้นและพลเมืองคนหนึ่ง แน่นอนว่าคนผู้นี้ก็ทำให้ผู้อื่นต้องรู้สึกขุ่นเคืองใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะหญิงสาวทั้งหลาย
หญิงสาวเหล่านั้นแทบทนรอที่จะฉีกทึ้งและถลกใบหน้าอันเย้ายวนนั้นไม่ไหวอยู่แล้ว และในเวลานี้เหยียนก็พบเจอกับหญิงสาวกลุ่มนั้นเข้าพอดี
กลุ่มคนเหล่านี้ก็คือคนของหนึ่งในกองกำลังระดับสี่แห่งดินแดนทางทิศใต้ และภายในกลุ่มนั้นก็มีหญิงสาวเป็นจำนวนมาก และหญิงสาวที่งดงามที่สุดคนหนึ่งในนั้นก็จ้องมาที่นางด้วยสายตาที่อิจฉาริษยา
“เหยียนเหลียนเจีย นังคนสารเลว! ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะกล้ามายั่วยวนคู่หมั้นของข้า และทำให้เขาขอถอนหมั้นข้า…”
เหยียนเหลียนเจียกล่าวด้วยรอยยิ้มที่ทรงเสน่ห์ “ที่แท้ก็เป็นศิษย์พี่หญิงของสำนักหลิงหลงนี่เอง! เจ้าควบคุมผู้ชายของตนเองไม่ได้แล้วจะมาโทษข้าได้อย่างไร! เขาสิ้นสติไปหลังจากที่มองข้าเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้น ความสามารถในการต้านทานของตนเองอ่อนแอเกินไป แล้วจะมาโทษความงามของข้า พวกเจ้ามันจะงี่เง่าเกินไปแล้ว!”
“ความสามารถเท่านี้ แม้ว่าพวกเจ้าจะแต่งงานกันจริง ๆ หากเขาเจอคนที่สวยกว่าข้าหลังจากนี้ เขาก็ขอหย่าเจ้าอยู่ดี เจ้า…”
“มันไม่เป็นเช่นนั้นแน่นอน! หากฆ่าเจ้าไปแล้วทั่วทั้งดินแดนทางทิศใต้จะมีผู้ใดงดงามยิ่งกว่าข้าอีก พี่เซียวจะต้องเปลี่ยนใจกลับมาหาข้าอย่างแน่นอน!”
“โอ้! ผู้ใดเป็นคนบอกเจ้าเช่นนั้นกัน! ทั่วทั้งดินแดนทางทิศใต้มีสาวงามตั้งมากมาย เพียงแค่ภายในหอของข้าก็มีคนงดงามมากกว่าเจ้าอยู่ตั้งไม่รู้เท่าไรแล้ว…”
“เจ้ารนหาที่ตายรึ!”
อีกฝ่ายที่เป็นถึงกองกำลังระดับสี่ เห็นได้ชัดว่าต้องการที่จะมาแก้แค้น ไม่คาดคิดเลยว่าผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงจะมารังแกผู้อื่นในสนามรบเช่นนี้
จิตวิญญาณในการโจมตีของเหยียนอ่อนแอลงไปมาก ส่วนอีกฝ่ายนั้นเตรียมตัวมาอย่างเพียบพร้อม นอกจากนี้ยังเตรียมอาวุธวิญญาณเพื่อป้องกันการโจมตีทางวิญญาณเป็นพิเศษด้วย
พรวด!
มุมปากของเหยียนเต็มไปด้วยเลือด และสุดท้ายนางก็ถูกพวกเขาจับไป