ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1870 เป้าหมายคือข้า
นิรันดร์กล่าวว่า “หากสถานการณ์ของเป่ยกงจั๋วไม่สู้ดีก็คาดได้ว่ากู้ไป๋อีผู้นั้นต้องแข็งแกร่งมากเป็นแน่ หากเป่ยกงจั๋วมาละก็ เช่นนั้นก็สามารถลองเผชิญหน้ากับเขาได้พอดี แล้วลองดูว่ากู้ไป๋อีผู้นั้นจะทำเช่นไร?”
“หากเขาอยากที่จะตายจริง ๆ ก็ปล่อยให้ตายไป ศิษย์ที่รักจะได้ไม่ต้องนึกถึงมันอีก หากไม่ตายแล้วละก็ ศิษย์ที่รักก็ไม่ต้องกังวลใจเพราะเขาอีกแล้ว”
เขาสามารถสัมผัสได้ว่า หลังจากที่ศิษย์ที่รักได้ยินเรื่องเผ่าวิญญาณนั้นแล้ว แม้ในตอนนี้จะแสดงออกว่าไม่เป็นไร แต่ทว่ากลับยังคงเป็นห่วงกู้ไป๋อีมากอยู่ดี
ไอ้เด็กเวรจอมขวางหูขวางตานั่น!
“หากเป่ยกงจั๋วมาจริง ๆ แล้วละก็ คาดว่าก็คงจะวางตาข่ายดักไว้อย่างแน่นหนา! ครั้งเมื่อตอนอยู่ดินแดนทั้งสี่ทิศต่างก็ไล่ล่าข้าอย่างโหดเหี้ยมถึงเพียงนั้น เขาจะต้องไม่ยอมแพ้เป็นแน่”
ในจุดนี้ จำเป็นที่จะต้องเสี่ยงเป็นอย่างมาก
ทว่านางไม่มีเหตุผลที่จะไม่ไปเลยสักนิด
ถึงไม่ว่าจะเพื่อเสี่ยวไป๋ หรือว่าไม่ต้องการให้หม้อศักดิ์สิทธิ์ห้าธาตุไปตกอยู่ในเงื้อมมือของเป่ยกงจั๋วก็ตาม
นิรันดร์กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ยังมีข้าอยู่ทั้งคน! ข้าปกป้องศิษย์ที่รักได้อยู่แล้ว”
“ยังไม่พอ ข้าต้องไปขอยืมแรงผู้อื่นมาอีก”
ขนาดเป่ยกงจั๋วยังเตรียมตัวก่อนที่จะไป แล้วนางจะเตรียมตัวบ้างไม่ได้เลยเชียวหรือ?
ในเมื่อมู่เฉียนซีบอกว่าต้องการจะยืมกำลังคน แน่นอนว่าจะต้องไปยืมใช้กำลังคนของจูเชว่และไป๋เจ๋อ ด้วยชื่อเสียงของหอหมอปีศาจทำให้สามารถคัดเลือกเหล่ายอดฝีมือมาได้
แม้ว่าโม่ซวนจะหนีไปแล้ว แต่ทว่าหอหมอปีศาจแห่งดินแดนทางทิศใต้ก็ยังมีเรื่องบางอย่างที่ต้องจัดการอยู่ หากว่าสิ่งนี้ไม่ถูกจูเชว่จับเอาไว้ได้ คงต้องมีคนถูกเขาจับโยนจับแขวนเอาไว้เป็นแน่
มู่เฉียนซีมองไปทางไป๋เจ๋อแล้วกล่าวอย่างหยอกล้อว่า “ดูเหมือนว่าร่างกายของเจ้าจะค่อนข้างอ่อนแอ ต้องการให้ข้าสั่งยาเพิ่มให้เจ้าสักหน่อยหรือไม่?”
มุมปากของโม่ซวนกระตุกขึ้นมาเล็กน้อย แล้วกล่าวว่า “ไม่ต้องแล้วล่ะ”
“พวกเจ้ามีลูกน้องกันเท่าไร พวกผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงหรือจะเป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณ สามารถให้ข้ายืมคนไปใช้ได้เท่าไร?” มู่เฉียนซีกล่าวถาม
“ซีซี เจ้าจะเอาคนมากมายเช่นนั้นไปทำอะไรกัน?” จูเชว่กล่าวถาม
“ข้าอยากจะไปที่เขตสัตว์ร้าย!”
จูเชว่และโม่ซวนชะงักงันไปเล็กน้อย ไปเขตสัตว์ร้ายไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณระดับสูงไม่ใช่หรือ?
สุดท้ายแล้วเขตสัตว์ร้ายก็สามารถคาดคะเนได้ว่าจะมีเพียงแค่สัตว์เทพระดับสามเท่านั้น ซึ่งใช้เพียงผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงสุดก็เพียงพอแล้ว
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ถึงจะกลัวว่าพวกเจ้าจะตกใจ แต่ข้าจะบอกตามตรงว่า ครั้งนี้ข้าจะไปจัดการเป่ยกงจั๋ว”
และในเวลานั้น ก็มีคนส่งรายงานมาให้พอดี
“คุณชาย มีรายงานขอรับ!”
จูเชว่เหลือบมองพลางกล่าวว่า “รัชทายาทเป่ยกงแอบส่งคนตรงไปยังอาณาเขตของราชวงศ์ตงหวง และตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าไปที่ไหนอีก?”
เขามองไปทางมู่เฉียนซีพลางกล่าวว่า “ซีซี เจ้ามีความสามารถในการทำนายอนาคตอย่างนั้นหรือ? ทางข้ายังไม่ได้รับข้อมูลที่แม่นยำเลยด้วยซ้ำ จะ…เจ้ารู้ได้อย่างไร”
“ข้าก็มีลู่ทางพิเศษของข้า สามารถยืนยันได้หรือไม่ว่าเป่ยกงจั๋วจะพาคนไปด้วยเท่าไร?” มู่เฉียนซีกล่าวถาม
“ข้าจะให้คนไปสอบถามมาให้เดี๋ยวนี้ เพียงแต่สำหรับคนเช่นเขา คาดว่าจะสามารถสอบถามเรื่องจำนวนคนที่พาไปได้เพียงแค่ผิวเผินเท่านั้น”
“สามารถหาข้อมูลมาให้ได้บ้างก็พอแล้ว!”
“เช่นนั้นก็รอรับข่าวดีจากข้าก็แล้วกัน!” และจูเชว่ก็รีบไปมอบหมายงานอย่างรวดเร็วฉับไว
ต่อมาก็มาหารือเรื่องยืมกำลังคน โม่ซวนกล่าวว่า “ยอดฝีมือระดับผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณไม่ใช่สิ่งที่พวกเราจะหมุนเวียนมาใช้ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการยืมกำลังคนเลย แต่เป่ยกงจั๋วที่เป็นถึงคู่หมั้นของมู่หลินหลาง หากพวกเราต้องการที่จะจัดการกับเขาแล้วละก็ เช่นนั้นก็สามารถระดมกำลังคนได้สักส่วนหนึ่ง”
“เสี่ยวซวนซวนกล่าวถูกต้องแล้ว ศัตรูของเพื่อนก็คือศัตรูของพวกเราเช่นกัน” จูเชว่กล่าวด้วยรอยยิ้ม
โม่ซวนมองไปทางมู่เฉียนซีพลางกล่าวว่า “ทว่าด้วยเหตุผลนี้ก็ไม่มีทางที่จะโน้มน้าวใจได้ เป่ยกงจั๋วแท้จริงแล้วไปยังเขตสัตว์ร้ายเพื่ออะไรกัน? ซีเอ๋อร์เจ้ารู้หรือไม่?”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “เป็นเพราะหม้อจำลองของหม้อเทพนิรันดร์ หม้อศักดิ์สิทธิ์ห้าธาตุ!”
“เพียงแค่เหตุผลนี้ก็เพียงพอแล้ว มหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพเช่นนั้นอยู่ในดินแดนของราชวงศ์ตงหวง แน่นอนว่าจะให้ไปตกอยู่ในเงื้อมมือของราชวงศ์เป่ยกงไม่ได้ ข้าจะไปขอคำแนะนำทันที” โม่ซวนกล่าว
“ข้าก็จะไปเช่นกัน! ไม่คิดเลยว่าจะได้ร่วมมือกับเสี่ยวซวนซวนอีกครั้งเช่นนี้” จูเชว่กล่าวด้วยรอยยิ้ม
“โม่ซวน อีกอย่าง จงกระจายข่าวออกไปเพื่อเฟ้นหาเหล่ายอดฝีมือในนามของหอหมอปีศาจ ส่วนรางวัลก็คือยาขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับสูง หากมียอดฝีมือที่เป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงขึ้นไปเต็มใจที่จะไปด้วย พวกเขาก็จะสามารถปรับปรุงยาขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงอย่างไรก็ได้”
โม่ซวนพยักหน้าพลางกล่าวว่า “ตกลง!”
แรงสนับสนุนของนักปรุงยาไม่ว่าจะอยู่ที่ใดบนโลกนี้ก็ไม่อาจอ่อนแอลงได้เลย แต่มันก็ต้องดูว่ายอมที่จะลงทุนหรือไม่?
ด้วยเงื่อนไขเช่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นนักปรุงยาระดับศักดิ์สิทธิ์คนใดก็ไม่กล้าที่จะเสนอออกมา แต่ทว่าหมอปีศาจกลับกล้าทำ
จูเชว่และไป๋เจ๋อรีบไปดำเนินการอย่างรวดเร็วฉับไว แม้ว่ามู่เฉียนซีต้องการที่จะไปทันทีอย่างอดรนทนไม่ไหว แต่ก็จำเป็นที่จะต้องเตรียมทั้งหมดเอาไว้ให้พร้อมเสียก่อน
เนื่องจากว่านางนั้นไม่อยากที่จะกลายเป็นปลาที่ตกอยู่ในอวนของเป่ยกงจั๋วนั่นเอง
เมื่อจูเชว่ได้รับข้อมูลแล้ว เขาก็ต้องกล่าวขึ้นด้วยความตื่นตกใจว่า “เป่ยกงจั๋วนี่บ้าไปแล้วรึ เขาเอาลูกน้องเกือบทั้งหมดไปด้วย มีผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณไปถึงเก้าคน ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงสุดอีกยี่สิบคน แล้วยังมีผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงอีกร้อยกว่าคน และยังไม่รู้ว่าที่ซ่อนอยู่อีกเท่าไร”
“เขาเป็นคนที่ชอบเตรียมความพร้อมให้มากเข้าไว้ ซึ่งฉากเช่นนี้พบเจอได้ยากมาก เพียงเพื่อมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพเพียงชิ้นเดียว นี่มันจะไม่มากเกินไปหน่อยหรือ!”
มู่เฉียนซีมองไปทางจูเชว่และโม่ซวนพลางกล่าวว่า “ในเมื่อพวกเจ้าตั้งใจที่จะช่วยข้าจริง ๆ เช่นนั้นข้าก็จะไม่ปิดบังพวกเจ้า เป้าหมายของเป่ยกงจั๋วในครั้งนี้ไม่ได้มีเพียงหม้อศักดิ์สิทธิ์ห้าธาตุเท่านั้น แต่เป้าหมายสำคัญก็คือการมาจับตัวข้า และคิดที่จะจัดการข้าให้ได้ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม”
โม่ซวนขมวดคิ้วมุ่น แล้วกล่าวว่า “หากเป็นเช่นนั้นจริง ซีเอ๋อร์เจ้าไม่ควรที่จะไป! หม้อศักดิ์สิทธิ์ห้าธาตุไม่สำคัญเท่าชีวิตของเจ้าหรอกนะ”
มู่เฉียนซีส่ายหน้าพลางกล่าวว่า “ข้าไม่ต้องไปหรือ? ครั้งนี้ข้ามีเหตุผลจำเป็นที่จะต้องไป”
จูเชว่กล่าวว่า “เช่นนั้นข้าจะเป็นสุภาพบุรุษที่ยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อติดตามเจ้าเอง”
ไป๋เจ๋อกล่าวว่า “เช่นนั้นข้าก็จะไปด้วย! หากเกิดเรื่องขึ้นกับเจ้า ก็จะไม่มีคนคอยรักษาข้า เช่นนั้นข้าก็นับว่าอยู่บนเส้นทางแห่งความตายอยู่แล้ว”
“เป่ยกงจั๋วเป็นผู้ใดกัน? ครั้งนี้เขาลงมือทำด้วยตนเอง เขาจะต้องเตรียมความปลอดภัยเป็นอย่างดีอยู่แล้ว พวกเจ้าไม่จำเป็นต้องไปเสี่ยงด้วยกันกับข้าหรอก”
“ข้าไม่ได้ขัดขวางเจ้า เช่นนั้นเจ้าก็อย่ามาขัดขวางข้า ตกลงไหม?” โม่ซวนกล่าว
“ใช่แล้ว! ซีซีหากเจ้าไม่เชื่อฟังละก็ ข้าอาจจะทนไม่ไหวจนจับเจ้าหมัดเอาไว้ก็เป็นได้” จูเชว่กล่าว
ทางด้านของพวกเขา เชิญผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณมาเพียงแต่สามคนเท่านั้น ซึ่งมันก็ต่างกับทางด้านของเป่ยกงจั๋วเป็นอย่างมาก
แต่หากพวกเขาไปด้วยแล้วละก็ จะสามารถเอาผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณไปได้อีกสองคน เนื่องจากพ่อบุญธรรมจะต้องส่งคนสองคนออกไปคุ้มครองพวกเขา และคงจะสามารถช่วยลดช่องว่างลงได้บ้าง
จูเชว่รู้สึกรำคาญเล็กน้อย และมองไปยังพวกเขาที่นั่งฟังอยู่อย่างสงบ และกล่าวกับฉู่หลีที่ไม่พูดไม่จา “เฮ้! เหตุใดเจ้าถึงไม่พูดอะไรเลยสักคำเล่า ช่วยเกลี้ยกล่อมซีซีหน่อยได้หรือไม่!”
ฉู่หลีกล่าวว่า “หากต้องการที่จะไปแล้วละก็ ต้องทำให้ยาแปลงโฉมนั้นแข็งแกร่งมากขึ้นอีกหน่อย”
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ใช่แล้ว! บางทีก็ไม่ต้องเผชิญหน้ากับเป่ยกงจั๋วตั้งแต่แรกก็เป็นได้ สุดท้ายแล้วเขาจะสามารถจำข้าได้หรือไม่ก็ยังไม่รู้เลย”
แน่นอนว่า เป่ยกงจั๋วผู้นั้นไม่ใช่คนที่จะหลงกลได้โดยง่าย ฉะนั้นนางไม่อาจนิ่งนอนใจได้แม้ว่านางจะเปลี่ยนโฉมไปแล้วก็ตาม
นิรันดร์กล่าวว่า “ข้าจะปลอมตัวศิษย์ที่รักให้ไร้ช่องโหว่มากกว่าเดิมขึ้นอีก”
จูเชว่ชะงักงันไปครู่หนึ่ง เขากล่าวว่า “อะไรนะ? พวกเจ้ากำลังพูดอะไรกันอยู่น่ะ? ซีซีแปลงโฉมหรือ รูปร่างหน้าตาที่แท้จริงของซีซีไม่ได้เป็นเช่นนี้หรอกหรือ ฮืออออ ข้าถูกหลอกแล้วสินะ”
และท่าทางที่นิ่งสงบมากของโม่ซวนก็ยิ่งทำให้จูเชว่โกรธมากขึ้นไปอีก!
“เสี่ยวซวนซวน เจ้ารู้มานานแล้วเช่นนั้นหรือ?”
โม่ซวนพยักหน้าพลางกล่าวว่า “อื้ม!”
“ไม่ได้! ซีซี ให้ข้าดูหน่อยได้หรือไม่! ข้าอยากเห็นรูปร่างหน้าตาที่แท้จริงของเจ้า” จูเชว่กล่าวพลางเข้าไปเซ้าซี้กับมู่เฉียนซี
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ให้เจ้าเห็นข้า ข้ากลัวว่าจะทำเจ้าตกใจเสียเปล่า ๆ เจ้าลืมมันไปเสียเถอะ!”