ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1885 เจ็บปวดทรมานใจ
พวกเขากล่าวด้วยความตกตะลึง “เด็กคนนี้เป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์!”
“ไม่เห็นมีอะไรต้องกลัว! พาตัวนางไป!”
“ขอรับ”
แม้จะมีฉู่หลีอยู่ด้วยแล้ว แต่พวกเขาก็ไม่ได้รู้สึกเกรงกลัวแต่อย่างใด
ครั้นพวกเขาได้พุ่งตัวเข้ามาประชิดมู่เฉียนซี ด้วยความเร็วที่เหนือกว่าของมู่เฉียนซี นางจึงสามารถหลบหลีกได้อย่างรวดเร็ว
มู่เฉียนซีนำพัดวิหคเฟิงหลิงออกมา ประกายแสงสีขาววาบผ่านไปอย่างรวดเร็ว มู่เฉียนซีกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“พลังวายุกักขังวิญญาณ!”
“พลังจันทราไร้คู่!”
ปัง ปัง ปัง!
เนื่องจากทราบดีว่าพลังของมู่เฉียนซีนั้นแข็งแกร่งมากเพียงใด พวกเขาจึงเตรียมการป้องกันไว้เป็นอย่างดี
ผลปรากฏว่าเมื่อต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีอันแข็งแกร่งของมู่เฉียนซีในครานี้ พวกเขาก็รู้สึกตกตะลึงเป็นอย่างยิ่ง
“อั้ก อั้ก อั้ก!”
“พลังวายุทำลายดาวกระจาย!”
มู่เฉียนซีและฉู่หลีได้ร่วมมือกัน หากมู่เฉียนซีสามารถรับมือได้นางก็จะเป็นฝ่ายจัดการเอง หากรับมือไม่ไหวฉู่หลีก็จะเป็นฝ่ายจัดการไว้เองทั้งหมด
ทั้ง ๆ ที่พวกเขาทั้งสิบกว่าคนก็ล้วนเป็นพวกฝีมือดีทั้งนั้น ผลปรากฏว่าเมื่อต้องเผชิญหน้ากับพวกเขาทั้งสองแล้ว มันก็ไม่ต่างอันใดจากฝันร้ายเลยสักนิด!
นี่มันตัวอะไรกันแน่!
ปัง ปัง ปัง!
พวกเขาต่างล้มฟุบลงไปกับพื้นทีละคน ไม่มีผู้ใดมีกำลังที่จะต่อสู้อีกต่อไป!
สิ่งเดียวที่ทำให้พวกเขายังโชคดีอยู่ได้ นั่นก็คือหนุ่มสาวคู่นี้น่าจะยังมีความหวาดกลัวอยู่บ้าง ดังนั้นจึงไม่คิดสังหารพวกเขาทิ้งแต่อย่างใด
มู่เฉียนซีชี้ไปยังคนที่อ่อนแอที่สุดในกลุ่ม “เจ้าก็แล้วกัน เจ้าจงกลับไปบอกผู้นำตระกูลตาน ว่าให้คุณหนูตานของพวกเจ้าเตรียมยาลูกกลอนมาให้มากพอ แล้วให้ข้าซื้อสมุนไพรวิญญาณจนกว่าจะพอใจ! ไม่อย่างนั้นละก็ ข้าคงทำได้เพียงชดเชยด้วยชีวิตของพวกเจ้าแทน”
พวกเขาจ้องมองมู่เฉียนซีด้วยท่าทางหวาดกลัว อีกฝ่ายไม่ได้เค้นถามแม้แต่คำเดียวว่าผู้ใดส่งพวกเขามา แล้วนางทราบได้อย่างว่าตระกูลตานเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้?
มู่เฉียนซีกล่าว “นี่มันเป็นอะไรที่เดายากอย่างนั้นหรือ? วันนี้ข้าได้ยั่วยุตระกูลตานเข้า นอกจากพวกเขาแล้วยังจะเป็นฝีมือของผู้ใดได้อีก? ไสหัวไปซะ!”
คนที่ถูกมู่เฉียนซีเลือกก็รีบตะเกียกตะกายลุกขึ้นในทันที ส่วนพวกที่เหลือก็ไม่อาจคาดเดาเส้นชะตาชีวิตของตนเองได้เลย พวกเขาจึงรู้สึกอึดอัดใจเป็นอย่างยิ่ง!
ทันใดนั้นร่างสีแดงก็ปรากฏขึ้น ผู้มาเยือนก็เป็นจูเชว่พอดี!
“ซีซี สนุกพอแล้วหรือยัง? ข้ามารับเจ้าแล้ว!”
“ไปกันเถอะ! ส่วนคนเหล่านี้ให้คนมาคุมตัวไว้ก่อน!”
“ได้!”
…
“อะไรนะ?” เมื่อคุณหนูตานได้ฟังคำที่คนผู้นั้นกล่าวมาแล้ว นางก็รู้สึกโกรธเป็นอย่างยิ่ง
ดังนั้นนางจึงส่งคนฝีมือดีอีกกลุ่มหนึ่งออกไป ทว่าพวกเขาก็หาตัวมู่เฉียนซีไม่เจอแล้ว และไม่รู้ด้วยว่านางหายไปที่ใด?
ความกดดันจากทุก ๆ คนไม่เพียงพอที่จะทำให้ตระกูลตานยอมแลกค่าตอบแทนที่สูงขนาดนั้นได้ หากจะกล่าวว่าคุณหนูใหญ่ของพวกเขาเกิดป่วยในวันรุ่งขึ้น ไม่ว่าจะไร้ยางอายหรือไม่ก็ย่อมหลีกเลี่ยงได้อยู่ดี
ทว่าการที่พวกเขาส่งผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์จำนวนหนึ่งไป นางก็ไม่เชื่อเป็นอันขาดว่าตระกูลตานจะไม่สนใจชีวิตของคนเหล่านี้
หากไม่สนใจจริง ๆ เกรงว่าพวกเขาคงทำให้ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ที่คอยอารักษ์ขาตระกูลตานผิดหวังเป็นอย่างยิ่ง!
เนื่องด้วยเหตุนี้เองคุณหนูตานจึงรีบมาตามเวลาที่นัดหมายอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังนำยาลูกกลอนจำนวนไม่น้อยมาอีกด้วย
เพียงแต่สายตาที่ทอดมองไปยังมู่เฉียนซีนั้นเปี่ยมล้นไปด้วยความโกรธแค้นเป็นอย่างยิ่ง นางเอ่ยถาม “เจ้ามันไร้ศีลธรรม!”
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “คุณหนูตานช่างเย้าเล่นเก่งจริง ๆ การที่กลางดึกกลางดื่น มีคนส่งคนมาลอบสังหารข้าไม่ไร้ศีลธรรม แต่กลับเป็นข้าที่ไร้ศีลธรรมแทน?”
“เจ้าจะปล่อยคนของข้าเมื่อไร!”
“เมื่อซื้อจนพอใจแล้วข้าก็จะย่อมปล่อย!”
มู่เฉียนซีไม่ได้ขาดแคลนยาลูกกลอนแต่อย่างใด เพียงแต่การที่ให้ผู้อื่นจ่ายยาลูกกลอนแทนนั้นจะดีกว่า แล้วนับประสาอะไรกับตระกูลตานที่ไม่เป็นมิตรกับหอหมอปีศาจมาโดยตลอด
ทุกครั้งที่ซื้อมู่เฉียนซีก็จะได้สมุนไพรวิญญาณกลับมาเป็นกอง คุณหนูตานรู้สึกเจ็บปวดราวกับถูกกรีดดวงใจ
มีสมุนไพรวิญญาณราคาสูงลิบลิ่วหลายชนิดที่แม้กระทั่งตัวนางเองก็ไม่อาจทำใจซื้อได้ ผลปรากฎว่ากลับถูกเจ้าเด็กบ้านี่กวาดเรียบจนไม่เหลือหลอภายในชั่วพริบตา
สามวันนี้สำหรับคุณหนูตานและตระกูลตานแล้ว นับว่าเป็นช่วงเวลาที่ทรมานที่สุด ในที่สุดความทุกข์ทรมานก็ได้ผ่านพ้นไป จูเชว่ได้ส่งคนเหล่านั้นกลับไปยังตระกูลตาน ทว่าความโกรธแค้นของผู้นำตระกูลตานก็ยังไม่ลดน้อยลงแม้แต่น้อย
การค้าขายสมุนไพรและยาลูกกลอนในช่วงสามวันได้สิ้นสุดลง การประชุมแลกเปลี่ยนในครานี้ได้เข้าสู่ช่วงถัดไป ช่วงถัดไปนั้นจะเป็นการประมูลสมุนไพรวิญญาณราคาแพง
แน่นอนว่าสมุนไพรวิญญาณเหล่านี้ย่อมมีราคาสูงกว่าสมุนไพรวิญญาณที่วางขายอยู่ริมทางไม่รู้กี่เท่า ทว่าการที่จะประมูลได้นั้นไม่ใช่การนำยาลูกกลอนมาใช้ แต่เป็นการนำสมุนไพรวิญญาณราคาสูงชนิดอื่นมาแลกเปลี่ยนแทน
อย่างไรเสียผู้คนส่วนใหญ่ ณ ที่แห่งนี้ก็เป็นนักปรุงยา ดังนั้นจึงไม่ขาดแคลนยาลูกกลอนอยู่แล้ว
และผู้ที่มีสิทธิ์เข้าร่วมการประมูลในครั้งนี้ก็ไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไปที่จะเข้าร่วมได้ มีเพียงสำนักกองกำลังระดับสี่ในดินแดนทางทิศใต้เท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ และแน่นอนว่าก็มีกรณียกเว้น นั่นก็คือหมอปีศาจเองก็ถูกเชิญให้เข้าร่วมการประมูลด้วยเช่นกัน
เพื่อเป็นการโอ้อวดศักดาตระกูลตานของพวกเขา แน่นอนว่าก็ต้องให้หอหมอปีศาจที่เป็นศัตรูมารับชมด้วย
ตั้งแต่หอหมอปีศาจปรากฏขึ้นด้วยความยิ่งใหญ่ ก็ไม่ได้มีการตัดสินระดับขึ้นแต่อย่างใด และดูเหมือนจะไม่มีความคิดนั้นด้วย
การประมูลสมุนไพรวิญญาณ ทุก ๆ คนล้วนอยู่รวมกันที่ห้องโถงใหญ่อันกว้างขวาง ภายในห้องโถงใหญ่ถูกจัดวางไว้ด้วยเก้าอี้อย่างสวยงาม ด้านบนยังประดับประดาไปด้วยผลไม้วิญญาณอีกด้วย
สำนักกองกำลังระดับสี่ที่ถูกรับเชิญต่างก็เดินทางมาถึงสถานที่ประมูลกันอย่างครบครัน ขาดไปเพียงสองตระกูลเท่านั้น
ไม่นานนักกลุ่มบุรุษรูปงามท่าทางน่าเกรงขามกลุ่มหนึ่งก็ได้เดินเข้ามา แล้วนั่งลงยังบริเวณที่นั่งที่จัดเตรียมไว้อยู่เบื้องหน้า
“ที่แท้ก็เป็นศิษย์ของสำนักหลางซิงนี่เอง คาดไม่ถึงว่าพวกเขาก็จะมาในวันนี้ด้วย”
“ตระกูลตานหน้าใหญ่ใจโตมาตลอดอยู่แล้ว การที่คนของสำนักหลางซิงจะมาก็ไม่แปลกหรอก”
“ศิษย์สำนักหลางซิงเหล่านี้ยังหนุ่มยังแน่นกันทุกคนจริง ๆ แต่พลังของพวกเขากลับแข็งแกร่งไม่ใช่เล่น ๆ เลย!”
“……”
คนของสำนักหลางซิงต่างก็มากันหมดแล้ว ทว่าก็ยังขาดไปอีกหนึ่งคน
“คนของหอหมอปีศาจยังไม่มาเลย!”
“ได้ยินมาว่าคุณชายโม่ซวนของหอหมอปีศาจเป็นคุณชายขี้โรค ร่างกายอ่อนแอขี้โรคแบบนั้น หากจะมาช้าสักหน่อยก็คงเป็นเรื่องปกติ!”
“ทั้ง ๆ ที่เปิดหอยาแท้ ๆ ลูกน้องที่เป็นนักปรุงยาก็มีจำนวนนับไม่ถ้วน ตัวเองก็เป็นนักปรุงยาแต่กลับช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ จริง ๆ แล้วข้าก็รู้สึกสงสัยในศักยภาพของหอหมอปีศาจอยู่เหมือนกัน”
เมื่อคนของหอหมอปีศาจมาร่วมการประมูลสาย ผู้คนจำนวนไม่น้อยก็พากันวิพากษ์วิจารณ์ถึงหอหมอปีศาจกันยกใหญ่
การประชุมแลกเปลี่ยนของตระกูลตานนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายดายอย่างแน่นอน การประมูลในครั้งนี้เป็นการเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของการประชุมแลกเปลี่ยนในครั้งนี้ เห็นทีตระกูลตานคงจะทำเรื่องชั่วร้ายอะไรอีกเป็นแน่
ดังนั้นพวกของมู่เฉียนซีเองก็ได้เตรียมตัวมาด้วยเช่นกัน ดังนั้นจึงได้มาสายไปสักเล็กน้อย!
ทว่าสุดท้ายแล้วพวกเขาก็ไม่ได้มาสายแต่อย่างใด ในช่วงเวลาสุดท้ายโม่ซวนและมู่เฉียนซีก็ได้มาถึงโถงการประมูลได้ทันเวลา
“นั่นมันคุณชายโม่ซวน สีหน้าดูไม่ดีเอาเสียเลย ดูป่วยเอามาก ๆ!”
ร่างกายของโม่ซวนจะต้องเป็นจุดที่ตระกูลตานนำมาโจมตีและด้อยค่าหอหมอปีศาจอย่างไม่ต้องสงสัย
“นั่นมันเด็กคนนั้นนี่ นักปรุงยาระดับศักดิ์สิทธิ์!” มีคนเห็นดรุณีน้อยสวมอาภรณ์สีม่วงที่อยู่ข้างกายโม่ซวนแล้ว
“ข้าเองก็เคยเจอนางเหมือนกัน! นั่นเป็นเจ้าเด็กจอมโหดที่คุณหนูใหญ่ตระกูลตานได้พาออกไปซื้อสมุนไพรวิญญาณด้วยนี่!
“นางยืนอยู่ข้างโม่ซวนจริง ๆ หรือจะบอกว่านักปรุงยามากความสามารถคนนี้ก็เป็นคนของหอหมอปีศาจด้วยเหมือนกัน”
ครั้นผู้นำตระกูลตานและคุณหนูใหญ่ตระกูลตานเห็นมู่เฉียนซี พวกเขาก็แทบจะทุ่มเก้าอี้ให้แหลกไปเสียตรงนั้น
“เป็นนางจริง ๆ ด้วย นางเป็นคนของหอหมอปีศาจ พวกเราถูกเล่นงานเข้าแล้ว!”
คุณหนูใหญ่ตระกูลตานกล่าว “นี่คงจะเป็นแผนที่นางวางมานานแล้วแน่ ๆ ชั่วช้าสิ้นดี!”
ผู้นำตระกูลตานกล่าว “ลูกสาวข้า ข้าจะแก้แค้นให้เจ้าอย่างแน่นอน รอดูหอหมอปีศาจของพวกเขาตกอยู่ในสภาพน่าอนาถได้เลย”
เมื่อพวกเขามาถึงแล้ว การประมูลก็ได้เริ่มต้นขึ้น
ผู้ดำเนินการประมูลได้ทำการอธิบายกฎเกณฑ์การประมูลในครั้งนี้ “การประมูลในครั้งนี้จะไม่เหมือนกับการประมูลธรรมดาทั่วไป ทุกครั้งที่มีการประมูลสมุนไพรวิญญาณชนิดหนึ่ง ผู้ทำการประมูลจะต้องนำสมุนไพรวิญญาณที่มีราคาแพงกว่าออกมาทำการประมูล และแน่นอนว่าผู้ที่เสนอสมุนไพรวิญญาณก็จะต้องนำสมุนไพรวิญญาณที่มีราคาสูงขึ้นออกมา”
“ผู้ดำเนินการประมูลจะไม่มีการแนะนำราคาของสมุนไพรวิญญาณที่นำออกมาทำการประมูล และจะไม่แนะนำราคาสมุนไพรวิญญาณที่ผู้นำออกมาเสนอด้วย ทุกอย่างล้วนขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของท่าน นี่เป็นการทดความเฉียบแหลมของสายตา การตัดสินใจและประสบการณ์ของนักปรุงยาคนหนึ่ง”
“เกรงว่าทุกท่านจะรู้จักนักปรุงยาทุกท่านที่อยู่บนแท่นเวทีนี้แล้ว หากการพิจารณาราคาผิดพลาดละก็ ผู้ทำการประมูลจะถูกอาจารย์เหล่านี้ปฏิเสธกลับไป” “ข้าขอทำการประกาศ การประมูลได้เริ่มขึ้น ณ บัดนี้!”