ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1889 เชือดไก่ให้ลิงดู
คนของตระกูลตานไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม หากทำอย่างโจ่งแจ้งไม่ได้ เช่นนั้นก็ต้องทำอย่างลับ ๆ ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องช่วยคุณหนูใหญ่มาให้ได้ จะให้เจ้าเด็กนั่นคอยจูงจมูกอีกต่อไปไม่ได้
พวกเขาไม่เชื่อว่าเจ้าเด็กนั่นจะสามารถทำสามสิ่งภายในเวลาเดียวกันได้
ฟึ่บ!
เสียงของบางสิ่งบางอย่างแล่นผ่านกลางอากาศมาด้วยความเร็วสูง ลูกธนูอาบยาพิษดอกหนึ่งได้พุ่งเข้าหาเบื้องหลังของมู่เฉียนซี
ทว่าลูกศรดอกนั้นกลับหยุดลงกลางอากาศ และถูกเปลวเพลิงสีดำแผดเผาไปเสียจนกลายเป็นเถ้าธุลี
หงส์สีดำนิลปรากฏขึ้นกลางเวหา เปลวเพลิงสีดำอันแข็งแกร่งนั้นนั้นได้โอบล้อมเป็นเกราะป้องกันมู่เฉียนซีไว้อย่างหนาแน่น
“ไสหัวออกไปให้หมด อย่าได้มารบกวนเจ้านายของข้า!” เสี่ยวโม่โม่กล่าว
“สัตว์เทพ!”
“เวรเอ้ย! เด็กน้อยนั่นได้ผูกพันธสัญญากับหงส์นิลที่เป็นสัตว์เทพไว้!”
มีหงส์ซึ่งเป็นสัตว์เทพคอยคุ้มกันมู่เฉียนซีไว้รอบทิศ ลูกศรของตระกูลตานไม่อาจทำร้ายมู่เฉียนซีได้แม้แต่นิดเดียว
ในขณะนี้มู่เฉียนซีได้หลอมยาออกมาเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทว่าสิ่งที่หลอมออกมานั้นไม่ใช่ลูกกลอน แต่เป็นยาที่มีความโปร่งใสขวดหนึ่ง
“นั่นไม่ใช่ยาลูกกลอน เจ้าเด็กน้อย เจ้าหลอกพวกเรา!” มีคนกล่าวขึ้น
มู่เฉียนซีกล่าวเย้ยหยัน “ความรู้ประสบการณ์ของพวกเจ้าออกจะคับแคบเกินไปสักหน่อยแล้ว ยาที่ขายดีพอ ๆ กับยาลูกกลอนของหอหมอปีศาจก็คือยาที่ทางหอหมอปีศาจของเราปรุงขึ้นเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นยาลูกกลอนหรือยาตัวนี้เพียงแค่สามารถรักษาหายได้ผลดีก็พอแล้วไม่ใช่หรือ?”
มู่เฉียนซีนำยาที่ปรุงออกมาได้หยดลงไปยังสมุนไพรวิญญาณที่สูญเสียวิญญาณเหล่านั้นไป ภายในชั่วพริบตาสมุนไพรวิญญาณเหล่านั้นก็มีหมอกเข้ามาปกคลุมมันไว้ และได้ส่องประกายพลังแห่งชีวิตขึ้นอีกครั้ง
มู่เฉียนซีกล่าว “ทุกท่านสามารถตรวจสอบดูได้ ดูสิว่าสมุนไพรวิญญาณนี้มีวิญญาณอยู่หรือยัง! ตอนนี้ทุก ๆ คนคงจะมั่นใจได้แล้วว่ามีคนคิดชั่วใส่ร้ายป้ายสีข้า ใส่ร้ายป้ายสีหอหมอปีศาจ!”
ผลปรากฏว่าเมื่อสมุนไพรวิญญาณเหล่านี้ดูดซับยาที่มู่เฉียนซีหยดลงไปแล้ว มันก็ฟื้นคืนวิญญาณกลับมาในทันที
“ที่คุณหนูใหญ่ตานกล่าวมาเป็นความจริงอย่างนั้นหรือ?”
“ตระกูลตานกล้าทำเรื่องแบบนี้ได้อย่างไร!”
“……”
เมื่อการกระทำอันต่ำช้าของตระกูลตานถูกเปิดเผยแล้ว ผู้นำตระกูลตานก็รู้สึกโกรธเป็นอย่างยิ่ง
“พูดจาเหลวไหลทั้งนั้น!”
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “หากตระกูลตานจะไม่ยอมรับ ข้าก็คงทำอะไรไม่ได้ แต่มีอยู่เรื่องหนึ่งที่พวกเจ้าจะลืมไม่ได้ ข้าได้จ่ายสมุนไพรวิญญาณไปแล้ว ดังนั้นดังนั้นจงเอาสมุนไพรวิญญาณที่ข้าประมูลได้มาให้ข้า”
“หรือจะบอกว่าตระกูลตานของพวกเจ้าจะกลืนคำพูดต่อหน้าทุก ๆ คน? หากเป็นเช่นนั้นต่อจากนี้หากจัดการประชุมแลกเปลี่ยนสมุนไพรวิญญาณขึ้น ก็คงจะไม่มีผู้ใดกล้ามาเข้าร่วมแล้ว ทุกคนว่าหรือไม่?”
มีคนจำนวนไม่น้อยที่เงียบขรึมไม่พูดไม่จา นั่นก็แสดงออกว่าพวกเขาเห็นด้วยไปโดยปริยาย
“เป็นไปไม่ได้!” ครั้นหวนนึกขึ้นว่าจะต้องนำสมุนไพรวิญญาณจำนวนมากให้กับพวกเขา ผู้นำตระกูลตานก็รู้สึกไม่ยินยอมขึ้นมาในทันที
“เป็นไปไม่ได้อย่างนั้นรึ?” มู่เฉียนซีหัวเราะแล้วกล่าว “ไม่ว่าผู้นำตระกูลตานจะตกลงหรือไม่ก็ตาม แต่ในวันนี้เจ้าก็จะต้องนำมาให้ข้า นี่เป็นปัญหาของความน่าเชื่อถือ อีกอย่างเจ้าลืมแล้วหรือว่าชีวิตลูกสาวของเจ้าอยู่ในกำมือข้า? หรือผู้นำตระกูลตานคิดว่าชีวิตลูกสาวไม่ควรค่ากับสมุนไพรวิญญาณเหล่านั้น” แววตาของมู่เฉียนซีมีประกายความโหดเหี้ยมวาบผ่าน ผู้นำตระกูลตานจึงสัมผัสได้ในทันทีว่านางจะต้องทำอย่างที่นางกล่าวมาเป็นแน่
กว่าผู้นำตระกูลตานจะเลี้ยงดูอบรมบ่มเพาะคุณหนูใหญ่ผู้นี้มาได้ ก็ไม่รู้ว่าต้องเสียแรงกายแรงใจและเงินทองไปเท่าไรต่อเท่าไร แล้วยิ่งนางก็เป็นบุตรสาวเพียงคนเดียวที่ผู้นำตระกูลตานรักมากที่สุดด้วยแล้ว ท้ายที่สุดผู้นำตระกูลตานจึงยอมจำนนแต่โดยดี
“ใครก็ได้เข้ามานี่สิ! ไปเอาสมุนไพรวิญญาณที่หอหมอปีศาจประมูลได้มา” ผู้นำตระกูลตานกล่าว
ไม่นานนักพวกเขาก็ได้นำสมุนไพรวิญญาณที่มู่เฉียนซีประมูลได้ออกมา
มู่เฉียนซีกล่าว “โม่ซวน ไปตรวจของสิ!”
“อืม!”
ครานี้ตระกูลตานไม่ได้เล่นตุกติกแต่อย่างใด สมุนไพรวิญญาณแต่ละชนิดล้วนเป็นสมุนไพรวิญญาณชั้นดีทั้งนั้น เมื่อสมุนไพรวิญญาณมาอยู่ในมือของนางแล้ว มู่เฉียนซีก็ไม่คิดจะเสียเวลากับพวกเขาที่นี่อีกต่อไป
มู่เฉียนซีกล่าว “ท่านผู้นำตระกูลตาน ท่านควรจะให้คนของท่านถอยออกไปดีหรือไม่ พวกข้าจะกลับหอหมอปีศาจ!”
“เจ้าต้องปล่อยตัวลูกสาวของข้าก่อน!” ท่านผู้นำตระกูลตานกล่าวด้วยความโกรธเป็นอย่างยิ่ง
“เมื่อพวกเราจากไปอย่างปลอดภัยแล้ว คุณหนูตานก็จะปลอดภัยอย่างแน่นอน!” มู่เฉียนซีไม่มีท่าทีจะยอมถอยแม้แต่น้อย
ผู้นำตระกูลตานทราบดีว่าหอหมอปีศาจยังไม่คิดจะฉีกหน้าพวกเขาในตอนนี้อย่างแน่นอน บุตรสาวของตนน่าจะปลอดภัย เขาจึงกล่าว “หลีกทางให้พวกเขา!”
เมื่อคนของตระกูลตานหลีกทางให้แล้ว ทว่าคนของสำนักหลางซิงกลับไม่คิดหลีกทางให้พวกของมู่เฉียนซี
พวกเขากล่าว “ท่านผู้นำตระกูลตาน นี่เป็นโอกาสอันดี! จะปล่อยผ่านไปไม่ได้”
“ก็เพียงแค่ลูกสาวคนเดียวเท่านั้น ท่านผู้นำตระกูลตานยังหนุ่ม คงจะยังมีกำลังอยู่ มีลูกใหม่อีกสักคนสิ บางทีครานี้อาจจะมีลูกชายก็ได้”
“ผู้หญิงคนนั้นช่างไร้ประโยชน์เสียจริง ๆ เป็นตัวถ่วงชัด ๆ จะไปสนใจอันใดมากมาย?”
คนของสำนักหลางซิงกล่าว สีหน้าของผู้นำตระกูลตานก็ยิ่งเคร่งขรึมขึ้นเรื่อย ๆ เขาคาดไม่ถึงแม้แต่น้อยว่าพวกเขาจะพุ่งจู่โจมใส่มู่เฉียนซีไปโดยไม่สนสิ่งใดทั้งสิ้น ถึงแม้คุณหนูใหญ่ตระกูลตานจะถูกสังหาร พวกเขาก็ไม่คิดสนใจแม้แต่น้อย!
คุณหนูใหญ่ตระกูลตานไม่ใช่บุตรสาวของพวกเขาสักหน่อย!
ผู้นำตระกูลตานรู้สึกโกรธเป็นอย่างยิ่ง “พวกเจ้า…”
คนของสำนักหลางซิงไม่สนว่าคุณหนูตานจะเป็นตายร้ายดีเช่นไร คุณหนูใหญ่ผู้นี้ตอนนี้ก็ไม่ได้มีประโยชน์อันใดอีก มู่เฉียนซีจึงได้ผลักนางออกไป
ปัง!
คนของสำนักหลางซิงก็ไม่มีความคิดจะเข้าไปรับตัวคุณหนูตานแต่อย่างใด คุณหนูตานล้มคะมำลงกับพื้น ราวกับว่ากระดูกของนางจะแตกร้าวไปทั้งร่างก็มิปาน
ร่างสีม่วงวาบออกไปอย่างรวดเร็ว มู่เฉียนซีสามารถหลบหลีกการโจมตีได้อย่างง่ายดาย เปลวเพลิงสีดำทมิฬของเสี่ยวโม่โม่ได้ระเบิดลงมาจากฟากฟ้า ราวกับน้ำตกสีดำอย่างไรอย่างนั้น
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “พวกเราออกไปจากที่นี่ก่อน!”
ที่แห่งนี้เป็นอาณาเขตของตระกูลตาน พวกเขาไม่มีกระจิตกระใจจะมาทำการต่อสู้ยืดเยื้อในสถานที่แห่งนี้
พวกเขาได้ออกจากสถานที่แห่งนี้ไปก่อน เมื่อหุ่นเชิดถูกตัดขาด ผู้นำตระกูลตานก็รีบเข้าไปดูบุตรสาวสุดที่รักที่ขณะนี้ไม่รู้เป็นตายร้ายดีอย่างไรด้วยความเป็นห่วง เขาไม่มีกระจิตกระใจจะไปไล่ตามพวกของมู่เฉียนซีอีก
คนของสำนักหลางซิงกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ตามมันไป อย่าให้พวกมันหนีไปได้!”
สุดท้ายแล้วพวกเขาก็ไม่อาจขวางพวกของมู่เฉียนซีได้ พวกของมู่เฉียนซีก็สามารถกลับไปถึงหอหมอปีศาจได้อย่างปลอดภัย
…
ณ หอหมอปีศาจ ร่างสีแดงก็ได้ลอยออกมา ครั้นคิดจะมอบอ้อมกอดอันอบอุ่นให้กับมู่เฉียนซี ผลปรากฎว่ามวลพลังสีดำก็ได้เข้ามาขัดขวางไว้ ทำให้ทั่วทั้งร่างหนาวเหน็บเป็นอย่างยิ่ง
จูเชว่ถลึงตาใส่ฉู่หลีที่ยืนทำสีหน้าเย็นชาอยู่ จากนั้นเขาจึงจะหันไปกล่าวกับมู่เฉียนซีด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “ซีซี ยินดีกับชัยชนะครั้งใหญ่ด้วย เป็นชัยชนะที่สวยงามที่สุด”
มู่เฉียนซีกล่าว “มีเรื่องมีราวไปยกใหญ่ หวังว่าตระกูลตานคงจะเจียมตัวบ้าง! หากพวกเขายังกล้าก่อเรื่องวุ่นวายต่อไป ข้าก็ไม่ถือสาหากจะต้องเชือดไก่ให้ลิงดู”
จูเชว่กล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “เชือดไก่ให้ลิงดู! หวังว่าพวกเขาจะให้โอกาสนี้กับพวกเรานะ”
เมื่อการประชุมแลกเปลี่ยนสมุนไพรวิญญาณในครั้งนี้เกิดความวุ่นวายครั้งใหญ่ขึ้น ก็มีสำนักจำนวนไม่น้อยที่ไม่ยินดีจะเข้าร่วมในการประชุมแลกเปลี่ยนสมุนไพรวิญญาณต่อไปอีก
พวกเขามองออกอย่างชัดเจน ตระกูลตานที่มีประวัติมานานนับพันปีย่อมเป็นตระกูลที่แข็งแกร่งอย่างแน่นอน ทว่าการที่พวกเขาคิดจะใส่ร้ายหอหมอปีศาจซึ่งเป็นผู้มากความสามารถหน้าใหม่ก็ไม่ใช่อะไรที่ดีอย่างแน่นอน
เมื่อมีนักปรุงยาอายุน้อยที่มากความสามารถ มีหุ่นเชิดที่แข็งแกร่ง อีกทั้งยังมีผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ที่มีพลังแข็งแกร่งจำนวนไม่น้อยเป็นพวก
มีผู้ใดบ้างที่สามารถรับมือได้ง่าย ๆ พวกเขาจึงเลือกที่จะนั่งบนภูเขามองดูพยัคฆ์สู้กันจะดีกว่า
มีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่ทยอยกันขอตัวลา มีเพียงคนที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับตระกูลตานเท่านั้นที่ยังอยู่
คนของสำนักหลางซิงก็ได้กลับมาแล้ว เกราะป้องกันของหอหมอปีศาจไม่ใช่เกราะป้องกันที่พวกเขาเหล่านี้จะสามารถทลายลงได้
“หอหมอปีศาจชักจะหยิ่งยโสเกินไปแล้ว! ให้พวกเราได้กลับไปรายงานท่านเจ้าสำนักก่อนเถอะ เรื่องในวันนี้จะไม่มีทางจบลงแบบนี้เป็นแน่ ดินแดนทางทิศใต้ไม่ใช่สถานที่ที่คนไม่ได้อยู่ในสำนักกองกำลังใด ๆ จะมาทำตัวต่ำช้าป่าเถื่อนได้!” ศิษย์ของสำนักหลางซิงกล่าวด้วยท่าทางโกรธแค้น
ในขณะนั้นเองก็มีใครบางคนกล่าวขึ้นด้วยท่าทางตื่นตระหนก “ท่านผู้นำตระกูล แย่แล้ว แย่แล้ว…”