ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 500 วันโลกาวินาศ
นางกับหุบเขาหมอเทวดามีเรื่องขัดแย้งกันมานานแล้ว ตอนนี้นางยังไม่มีพลังความแข็งแกร่งเพียงพอ หากนางมีพลังที่แข็งแกร่งพอนางคงจะไปจัดการกับหุบเขาหมอเทวดาแล้ว
ทว่า ตอนนี้เค้นถามข้อมูลจากปากพวกเขาไปก่อน
รู้เขารู้เรา ถึงจะเอาชนะได้
ผู้นำที่สามของฝ่ายสู้รบเป็นคนกระดูกแข็งมาก เขากล่าวขึ้นว่า “ไม่ว่าเจ้าอยากรู้เรื่องใด ข้าจะไม่มีวันปริปากพูดออกมาเด็ดขาด อย่างมากก็แค่ตาย เจ้าคิดว่าคนอย่างข้ากลัวตายงั้นรึ ?”
“ไม่กลัวตาย แต่หากตายทั้งเป็นแล้วล่ะก็ ข้าไม่เชื่อหรอกว่าเจ้าจะไม่กลัว!”
มู่เฉียนซีหยิบเอาขวดยาขวดหนึ่งออกมา นางกล่าวว่า “ถึงแม้ว่าข้าจะไม่เข้าใจเรื่องค้นหาวิญญาณอะไรนั่น แต่ยาพิษเหล่านี้ก็จะทำให้เจ้าปริปากพูดความจริงออกมาได้”
“ยาพิษ!” ผู้นำที่สามฝ่ายสู้รบยิ้มเย้ยหยันพลางกล่าว
“หุบเขาหมอเทวดาของข้าเป็นถึงสำนักนิกายระดับสอง เชี่ยวชาญในการปรุงยา เจ้าคิดว่าข้าจะกลัวยาพิษจิ๊บจ๊อยนี้ของเจ้ารึ!”
พวกเขาเพิ่งจะมาถึงเซี่ยโจว และได้ฆ่าสำนักอวิ๋นเยียน ดังนั้นจึงไม่รู้ถึงชื่อเสียงอันลือเลื่องของหมอปีศาจ และพิษของหมอปีศาจว่าน่ามันสะพรึงกลัวเพียงใด
“ตอนนี้ไม่กลัว แต่อีกเดี๋ยวเจ้าก็ต้องกลัว!”
มู่เฉียนซีกำลังจะลงมือวางยาพิษพวกเขา แต่ทันใดนั้นเองบนท้องนภาก็เกิดความโกลาหลและพลันมืดสนิทไป แม้ในยามรัตติกาล ท้องนภาก็ยังไม่มืดสนิทถึงเพียงนี้!
นี่มัน สุริยคราส!
ตูม ตูม ตูม!
เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ภูเขาทั้งลูกสั่นสะเทือนราวกับผืนพสุธากำลังพิโรธก็มิปาน!
สุริยคราส พสุธาสั่นสะเทือนเลื่อนลั่น หรือว่าวันโลกาวินาศจะมาถึงแล้ว?
ผืนพสุธาสั่นสะเทือนเลื่อนลั่นไปทั่วธรณี มู่เฉียนซีเองยืนทรงตัวไม่อยู่ อีกทั้งยังไม่ทันได้ลงมือวางยาพิษคนของหุบเขาหมอเทวดาเลย
ในขณะที่นางกำลังจะล้มลง ทันใดนั้นกลิ่นอายที่เย็นยะเยือกก็เข้ามาใกล้นาง และได้ดึงร่างนางมากอดไว้ในอ้อมแขน!
ตูม ตูม ตูม!
ภูเขาทั้งลูกกำลังจะพังทลาย เบื้องหน้านั้นมืดสนิทมองไม่เห็นสิ่งใดเลย ทว่า จิ่วเยี่ยนั้นยืนได้อย่างคงที่พามู่เฉียนซีเดินไม่เซแม้แต่น้อย
มู่เฉียนซีกล่าวถาม “นี่มันเกิดอะไรขึ้น? วันโลกาวินาศเหรอ? ข้าเพิ่งจะมาอยู่ได้ไม่นานเองนะโลกาจะวินาศแล้วงั้นเหรอ? ”
“โลกาวินาศ!” จิ่วเยี่ยพ่นคำพูดออกมาสี่คำอย่างเชื่องช้า และค่อย ๆ คิดคาดคะเน จากนั้นเขาก็ตอบว่า “ไม่ใช่ โลกาไม่มีทางวินาศได้ง่ายเช่นนี้ มันต้องมีอะไรบางอย่างกำลังจะปรากฏขึ้น”
“อะไรบางอย่างที่เจ้าว่าคืออะไรเหรอ? ทำไมถึงได้เล่นใหญ่เช่นนี้! อาถิงกับนิรันดร์ล้วนเป็นมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพนิรันดร์ ตอนปรากฏขึ้นก็ไม่ได้เล่นใหญ่ถึงเพียงนี้!”
จิ่วเยี่ยกล่าว “หากข้าเดาไม่ผิด น่าจะเป็นหอฉงโหลวบนเมฆา!”
ดวงตาของมู่เฉียนซีเปล่งประกายขึ้นด้วยความตื่นเต้น “หอฉงโหลวบนเมฆา!”
ทันทีที่นางพูดจบ ความมืดมิดบนท้องนภาก็ได้อันตรธานหายไป และท้องนภาก็กลับมาสว่างขึ้น ภูเขาอวิ๋นเยียนได้กลายเป็นร่องน้ำนับพัน ทั่วทุกแห่งหนก็เต็มไปด้วยหน้าผาชันกว้างสิบกว่าเมตรปรากฏขึ้น
ตรงนี้ยังเป็นขนาดนี้ ไม่รู้ว่าบนยอดเขาจะเป็นเช่นไร และคนของหุบเขาหมอเทวดาเหล่านั้น ไม่รู้ว่าหนีไปหรือว่าตกเหวตายไปแล้ว
ตอนนี้มู่เฉียนซีไม่ได้สนใจพวกเขาแล้ว แต่สิ่งที่นางสนใจและเป็นห่วงมากนั่นก็คือท่านอาและพวก……
“จิ่วเยี่ย ข้าจะไปบนยอดเขา!”
ภูเขาแห่งนี้ถูกทำลายไปจนหมดสิ้น ท่านอาเดินเหินไม่สะดวก ไม่รู้ว่าตอนนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง!
“ได้!”
มีจิ่วเยี่ยเป็นพาหนะให้เช่นนี้ ถึงแม้ว่าจะเป็นหน้าผาสูงชัน แต่เขาก็สามารถเดินเหินได้อย่างสบายมาก ไม่นานนัก เขาก็พานางขึ้นมาถึงบนยอดเขา
สิ่งก่อสร้างที่วิจิตรงดงามตาของสำนักอวิ๋นเยียนได้พังทลายลงสิ้น ไม่เหลืออะไรเลย! ส่วนคนของสำนักครึ่งระดับที่มามุงดูก่อนหน้านี้ ก็ได้รับความเสียหายไม่น้อย มู่เฉียนซีใช้ความเร็วอย่างรวดเร็วที่สุดตามหามู่อวู่ซวงและพวก!
บนร่างของพวกเขามีรอยเปื้อนเลือดเป็นจุด ๆ ดุจดั่งดอกเหมยฮวา แต่ก็เป็นเพียงแค่รอยบาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนคนของหุบเขาหมอเทวดาเหล่านั้นก็ไม่เห็นแม้แต่คนเดียว
หลบหนีไปแล้ว หรือว่าโชคร้ายตายไปแล้ว?
มู่อวู่ซวงและพวกเห็นชายชุดคลุมดำนำตัวหญิงสาวชุดม่วงมากรู้สึกโล่งอกเป็นอย่างมาก ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว!
เมื่อเห็นมู่เฉียนซีปลอดภัยกลับมาเช่นนี้ก็รู้สึกดีใจมาก แต่เมื่อเห็นจิ่วเยี่ยกอดมู่เฉียนซีแน่นเช่นนี้ พวกเขาก็แทบอยากจะฆ่าเขา!
“ค่อก ค่อก ค่อก!” ในตอนนี้เอง จู่ ๆ มู่อวู่ซวงก็ไอค่อกแค่กขึ้น
สีหน้าของมู่เฉียนซีพลันเปลี่ยน รีบพรวดออกไปจากอ้อมกอดของจิ่วเยี่ย “ท่านอา ท่านอาเป็นอะไรไป!”
นางกลัวจริง ๆ กลัวว่าพิษโบราณนั้นจะกำเริบขึ้นก่อนที่นางจะปรุงยาแก้พิษได้ ดังนั้นนางจึงรีบตรวจดูร่างกายของมู่อวู่ซวง จากนั้นนางก็โล่งใจมากที่ท่านอาไม่ได้เป็นอะไร
แต่ถึงอย่างไรท่านอาก็ถูกคนของหุบเขาหมอเทวดาทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บไม่น้อยเลย นางจึงรีบเอายารักษาบาดแผลที่ดีที่สุดออกมา “ท่านอา รีบกินยารักษาก่อน!”
ดูเหมือนว่าเม็ดยาวิญญาณที่ติดตัวมานั้นจะไม่เพียงพอ มู่เฉียนซีจึงเอาเข็มยาออกมาหลายเข็มและฉีดให้กับมู่อวู่ซวง!
ในตอนนี้ดวงใจทั้งดวงของมู่เฉียนซีตกอยู่ที่มู่อวู่ซวง ทุกคนเห็นเช่นนี้ต่างก็กุมขมับ
เชียนอ้าวเซี่ยรู้สึกโศกเศร้าเสียใจเป็นอย่างมาก ฮือ ฮือ ฮือ! เมื่อเทียบกับมู่อวู่ซวงแล้ว เขาก็เป็นเพียงต้นหญ้าเล็ก ๆ ที่ไร้ค่าไม่เพียงพอให้คนมารักเลย
น่าหลานอวี้รู้สึกจนปัญญามาก นึกไม่ถึงเลยสักนิดว่านายท่านสามแห่งตระกูลมู่ผู้นี้จะเป็นคนใจดำเช่นนี้ เพียงแค่ทำแกล้งไอค่อกแค่กก็สามารถแย่งชิงซีเอ๋อร์กลับมาได้แล้ว
สายตาของจิ่วเยี่ยจ้องมองไปที่มู่เฉียนซีตลอดเวลา เมื่อเห็นว่ามู่เฉียนซีปฏิบัติต่อมู่อวู่ซวงอย่างดีและเป็นคนสำคัญมากกว่าสิ่งอื่นใด รวมถึงเขาด้วย เขาก็แทบจะอดไม่ได้ที่จะลงมือสังหารมู่อวู่ซวง
กลิ่นอายอันเย็นยะเยือกของจิ่วเยี่ยยิ่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ และความเย็นยะเยือกที่ว่านั้นหนาวเหน็บกว่าพลังความเย็นยะเยือกจากน้ำแข็งหิมะของเชียนอ้าวเซี่ยอย่างมิอาจเทียบได้ สามารถทำให้ผู้คนเย็นถึงขั้วส่วนลึกในจิตวิญญาณเลยก็ว่าได้!
มู่อวู่ซวงที่ถูกมู่เฉียนซีดูแลเอาใจใส่อย่างมิอาจเทียบกับสิ่งใดได้ ในตอนนี้สายตาของเขาจ้องมองไปที่จิ่วเยี่ย ดวงตาอันอ่อนโยนคู่นั้น ตอนนี้ได้เปล่งประกายเป็นสีม่วงเงินราวกับปีศาจก็มิปาน
ความเย็นชานั้นมองไปที่จิ่วเยี่ยด้วยความยั่วยุ
ดวงตาของจิ่วเยี่ยพลันเปลี่ยนไป ยิ่งน่าสะพรึงกลัวมากขึ้น หากเขาลงมือแล้วล่ะก็ สามารถทำให้มู่อวู่ซวงที่อยู่ตรงหน้ากลายเป็นโครงกระดูกขาวได้อย่างง่ายดาย
มู่เฉียนซีรู้สึกได้ว่าบรรยากาศดูอันตรายมากขึ้น หลังจากที่นางทำแผลให้กับมู่อวู่ซวงเสร็จ นางก็หันไปพูดกับจิ่วเยี่ยว่า “จิ่วเยี่ย เจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม!”
ไม่ใช่ว่าเขาควบคุมคำสาปนั้นไม่ได้ใช่ไหม! มู่เฉียนซีรู้สึกกลัดกลุ้มใจเล็กน้อย!
เมื่อก่อน นางไม่เคยกลัวคนไข้คนไหนมาก่อน ถึงแม้ว่าจะเป็นพิษโบราณของท่านอากำเริบ นางก็สามารถหาวิธีมายับยั้งได้
ทว่า สำหรับจิ่วเยี่ยแล้ว หากคำสาปของเขากำเริบขึ้น นางทำได้เพียงแค่ถูกเขากระทำเพื่อยับยั้งคำสาปเอาไว้เท่านั้น!
แค่จินตนาการ มู่เฉียนซีก็รู้สึกปวดเศียรเวียนเกล้ามาก!
ในที่สุด มู่เฉียนซีก็หันมาสนใจเขาแล้ว จิตสังหารที่แผ่ซ่านไปที่มู่อวู่ซวงนั้น จิ่วเยี่ยก็ดึงมันกลับมา
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้วิธีการเข้าหาคน ทว่า เขารู้ดี ว่าซีให้ความสำคัญกับมู่อวู่ซวงมากที่สุด หากเขาลงมือฆ่ามู่อวู่ซวง เช่นนั้นเขาก็จะกลายเป็นศัตรูกับซี
ใต้หล้านี้ เขายอมเป็นศัตรูกับทุกคน แต่เขาจะไม่ยอมเป็นศัตรูกับซีเด็ดขาด
ในตอนนี้เอง เชียนอ้าวเซี่ยกล่าวด้วยใจปรารถนาว่า “เสี่ยวซีเอ๋อร์ ข้าก็บาดเจ็บเหมือนกัน รีบมาป้อนยาให้ข้าเร็วเข้า มาฉีดยาให้ข้าด้วย เร็วสิ!”
ตอนนี้เชียนอ้าวเซี่ยอ่อนแอมาก อ่อนแอจนแทบจะทรงตัวไม่อยู่แล้ว!
มู่เฉียนซีจ้องมองเขาอย่างพิจารณา “เจ้าแสดงละครได้เยี่ยมมาก แต่เจ้าแสดงละครหลอกหมออย่างข้าไม่ได้หรอก ต่อให้เจ้าบาดเจ็บสาหัส แค่กินยาเข้าไป รอให้ยาออกฤทธิ์ เจ้าก็ไม่เป็นอะไรแล้ว!”
ดวงตาที่ลึกซึ้งนั้นของเชียนอ้าวเซี่ยถูกมู่เฉียนซีมองออกได้อย่างทะลุปรุโปร่ง น่าหลานอวี้เห็นเช่นนี้แล้วก็รู้สึกว่าตัวเองไม่มีความจำเป็นที่จะแกล้งเจ็บ เขากล่าวขึ้นอย่างอ่อนโยนว่า “ซีเอ๋อร์ ข้าไม่เป็นไร! เจ้าไม่ต้องกังวล!”
ใบหน้าของเชียนอ้าวเซี่ยแข็งทื่อ อวี้ช่างไร้ยางอายยิ่งนัก แกล้งทำตัวเป็นคนดีต่อหน้าเสี่ยวซีเอ๋อร์!
ทันใดนั้นเอง จู่ ๆ มู่เฉียนซีก็รู้สึกว่าบนท้องนภามืดขึ้นอีกครั้ง หรือว่าจะมีสุริยคราสขึ้นอีก!
.